Tiger and Bunny Gang
Group Blog
 
All blogs
 

เขาบอกว่าฟังเพลงคลาสสิคแล้วจะทำให้ฉลาดขึ้น

*

แม่ผมไปเข้าคอร์สวิธีการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งมา กลับมาก็ร้อนวิชาเอามาใช้กับผม แม่เรียกผมให้เข้ามาหา โดยมีมือข้างหนึ่งคือเจอร์ไฮด์ของโปรดผมไว้ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกับผมว่า “หมอบ” มืออีกข้าง ก็กดหลังผมให้ผมหมอบลงไป โอ้โห เรื่องอะไรผมจะยอมหมอบง่ายๆ ล่ะฮับ ผมไม่ได้เป็นหมาโง่นี่หนา ที่จะยอมทำตามคำสั่งใครง่ายๆ ผมไม่ยอมหมอบ แม่ก็ใช้วิธีปัดขาผม แล้วก็กดหลังผมจนผมรำคาญ ต้องหมอบลงด้วยกำลังภายในของแม่ เฮ้อ แม่นี่ เล่นอะไรก็ไม่รู้ แม่เห็นผมหมอบ ก็ทำท่าดีใจใหญ่ เอาขนมยัดปากผม แล้วก็พูดชมว่า “เก่งจังเลย ไทเกอร์ ฉลาดๆ สุด หมาพันธุ์อะไรเนี่ย ทั้งน่ารัก ทั้งฉลาด ….หมอบต้องนอนลงอย่างนี้นะคะ เก่งค่ะ” ผมนอนเคี้ยวขนมอย่างสบายอารมณ์ พอกินเสร็จผมลุกขึ้น แม่ก็ถือขนมอีกอันไว้ในมือ แล้วก็บอกผมว่า “ไทเกอร์ หมอบ” มืออีกข้างก็กดหลังผมให้หมอบเหมือนเดิมเลยครับ ทุกครั้งที่ผมหมอบลงแม่ก็จะให้ขนมผม 1 ชิ้น เป็นรางวัล ผมนอนกินขนม นึกหัวเราะแม่อยู่ในใจ 555 แม่ เสร็จผมแน่ ผมจะหลอกให้แม่สอนไปนานๆ ยิ่งนานเท่าไร ผมก็จะได้กินเจอร์ไฮด์นานๆ เท่านั้น 555 ผมวางแผนพร้อมกับนอนยิ้มหวานให้แม่อย่างมีความสุข......

3 วันผ่านไป ผมยังแกล้งทำหมอบเองไม่ได้ (ผมหลอกกินขนมมา 3 วันแล้วฮับ 555 สบายพุงเลย) วันนี้ตกค่ำ แม่เรียกผมให้เข้านอนอย่างเคย พอแม่บอกว่า “ไทเกอร์ ขึ้นนอน” ผมก็จะวิ่งสะบัดตูดขึ้นบันได ตรงเข้าห้องนอนผม เอ๊ย ห้องนอนแม่ อย่างไม่รีรอ ที่นี้พอเข้าห้องนอนปั๊ป วันนี้แม่มาแปลกฮับ แม่ผมจัดการเปิดเพลงคลาสสิค เริ่มต้นจาก Fantasie Impromtu ของ Chopin ต่อด้วย Humoresque ของ Dvorak แล้วกระแทกตามมาด้วยเพลง Sympony No.5 และ เพลงหวานซึ้ง Fur Elise ของ Beethoven และ Traumerei ของ Schumann ....

ผมมองหน้าแม่อย่างงงๆ สงสัย เห็นแม่ทำตาคลอๆ แล้วแม่ก็แผดเสียงใส่ผมว่า “ไอ้ลูกหมาบรื้อออ !!! ฟังเข้าไปซะ จะได้ฉลาดๆ แล้วก็หมอบให้ได้ซะทีนะ ฮือๆๆ หมาอะไรไม่รู้ สอนมันมาจนตังส์หมดกับเจอร์ไฮไปหลายร้อยแล้ว มันยังหมอบไม่ได้ซะที มานเป็นหมาพันธุ์อะไรฟะ ทั้งโง่ ทั้งดื้อ ทั้งอ้วน..ฮื่อๆๆๆ “




ปล. เพิ่มเติมนะฮับ เผื่อใครสงสัยทำไมแม่ผมทำยังงี้ คือ แม่ผมไปอ่านหนังสิอมาจากไหนไม่รู้บอกว่า เด็กๆ เนี่ยถ้าฟังเพลง classic จะช่วยให้สมองมีพัฒนาการดีขึ้น พูดง่ายๆคือฉลาดขึ้นน่ะแหล่ะฮับ ทฤษฎีนี้เขาเรียกว่า Mozart Effect ตามชื่อของอัจริยะทางดนตรี ผู้อาภัพชาวออสเตรียท่านหนึ่ง แม่ผมก็เลยใช้วิธีนี้เป็นที่พึ่งสุดท้าย ที่นี้ ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละเพลงที่แม่ให้ผมฟังน่ะ ท่วงทำนองเป็นยังไง ลองคลิกฟังเพลงได้เลยฮับ



เพลงแรก Fantasie Impromtu ของ ท่าน Chopin เพลงนี้ ผมฟังทีไร เป็นต้องหลับตาลงทุกทีเพื่อดื่มด่ำกับท่วงทำนองที่ ไหลต่อเนื่องหมือนกับสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เพลงนี้เป็นเพลงขั้นเทพของนักเปียนโนเลยฮับ ลองฟังเพลงนี้แล้วจินตนาการ ถึงนิ้วนักเปียนโนที่ต้องพรมลงบนคีย์เบียนโนทั้งหนักทั้งเบาอย่างไม่ขาดสาย ผมลองจินตนาการดูแล้ว อู๊ย ขนลุก ขนฟูทุกทีเลยฮับ ใครเล่นได้นี่ สุดยอดๆๆๆ





เพลงถัดมา Humoresque ของท่าน Dvorak เพลงนี้ผมคุ้นเพราะแม่ผมเล่นเปียนโนให้ผมฟังบ่อยๆ (แม่เล่นเป็นอยู่ไม่กี่เพลงหรอกฮับ ขอนินทาหน่อย) เพลงนี้ไพเราะมาก ไม่รู้เป็นไง ผมได้ยินทีไรอยากเป็นชิสุที่มีปีกงอก แล้วบินโฉบไปมา ตามจังหวะเพลง แต่แม่บอกผมอ้วนปานนี้ คงบินไปไหนไม่ไหวหรอก หนักก้น ที่ผมทำได้ตอนฟังเพลงก็คือออกไปเต้นรำแบบชิสุอยู่ตัวเดียวอย่างมีฟามสุข (วิ่งปราดไปปรูดมาน่ะแหล่ะฮับ บางทีก็งับเอาพี่ตุ๊กตาหมีมาเต้นด้วย)





เพลงต่อมา Symphony No.5 ของท่าน Beethoven อุแม่เจ้า !! เกิดมาผมไม่เคยได้ยินเพลงไหนที่ทรงพลังจนสามารถสะกดผู้ฟังได้ด้วยท่อนแรกของเพลงอย่างนี้เลยครับ เพลงนี้ขึ้นมาทีไร ผมต้องลุกขึ้นมาทำตาโต เงี่ยหูตั้งใจฟัง โอ๊ย เพลงนี้สามารถสะกดผมให้ใจเต้นระทึกตามท่วงทำนองอันทรงพลังที่กระหน่ำ บีบหัวใจดวงน้อยๆของผม ค่อยๆบีบลงไปเรื่อยๆ จนแทบขาดใจ แล้วก็ค่อยๆ ผ่อนให้หัวใจผมค่อยๆ เต้นระทึกขึ้นมาอีกอย่างช้า ๆ




เพลงช้าๆบ้างนะฮับ Fur Elise ของท่าน Beethoven ฮ้า .. ท่าน Beethoven แต่งเพลงนี้เหรอ !!!!! ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าคนแต่งเพลงน่ะ เป็นคนๆเดียวกับที่แต่งเพลง Symphony No.5 อันทรงพลังข้างบน !!!!! ก็เพลงนี้น่ะ ไม่ทรงอำนาจอย่างเพลงข้างบน แต่โอ๊ย ... มันช่างหวานจับจิตจับใจผมเหลือเกินฮับ ผมรับรองได้ว่าทุกๆท่านส่วนใหญ่ ต้องเคยคุ้นกับเพลงหวานซึ้ง เพลงนี้ มาแล้ว




เพลงสุดท้ายที่ผมเลือกมาให้ฟังนะฮับ Traumerei ของท่าน Schumann เพลงหวานซึ้งประทับจิตผมอีกเพลง ตัวโน๊ตแต่ละตัวไพเราะเพาะพริ้ง ช่างต่อเนื่องประหนึ่งสายน้ำอันเย็นฉ่ำที่ไหลเรื่อยไม่ขาดสาย เป็นเพลงสั้นๆ แต่ก็ช่างซึ้งใจจริงๆ ครับ ได้ยินแล้ว ผมนึกถึงหน้าหวานๆ ของน้องหมูหยอง พุดเดิ้ลน้อยข้างบ้านขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เดี๋ยวเย็นนี้ หนีออกจากบ้านไปหาน้องหมูหยองดีก่า




 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 24 พฤษภาคม 2550 10:50:47 น.
Counter : 424 Pageviews.  

Way Back into Love เพลงเพราะๆจากหนัง Music & Lyrics



Way Back into Love
Hugh Grant

I've been living with a shadow overhead
I've been sleeping with a cloud above my bed
I've been lonely for so long
Trapped in the past, I just can't seem to move on

I've been hiding all my hopes and dreams away
Just in case I ever need em again someday
I've been setting aside time
To clear a little space in the corners of my mind

All I want to do is find a way back into love
I can't make it through without a way back into love
Oh oh oh

I've been watching but the stars refuse to shine
I've been searching but I just don't see the signs
I know that it's out there
There's got to be something for my soul somewhere
I've been looking for someone to shed some light
Not somebody just to get me through the night

I could use some direction
And I'm open to your suggestions

All I want to do is find a way back into love
I can't make it through without a way back into love
And if I open my heart again
I guess I'm hoping you'll be there for me in the end
oh, oh, oh, oh, oh

There are moments when I don't know if it's real
Or if anybody feels the way I feel
I need inspiration
Not just another negotiation

All I want to do is find a way back into love
I can't make it through without a way back into love
And if I open my heart to you
I'm hoping you'll show me what to do
And if you help me to start again
You know that I'll be there for you in the end
oh, oh, oh, oh, oh




 

Create Date : 13 มีนาคม 2550    
Last Update : 13 มีนาคม 2550 9:49:42 น.
Counter : 288 Pageviews.  


Tiger and Bunny Gang
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tiger is a male Shih Tzu dog who is friend with two cute Lion Head bunnies.
My Time in Bangkok now-->
Google
Friends' blogs
[Add Tiger and Bunny Gang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.