We don't care Bear or Bull! ... ThaiDayTrade.com
Group Blog
 
All Blogs
 

SET 50 Index Options โดย คุณ เกศรา มัญชุศรี

พี่น้องตระกูลออปชั่น ได้เผยโฉมให้กับท่านผู้อ่านมาสองครั้งแล้ว วันนี้มาดูรายละเอียด ของ SET50 Index Options ที่ตลาดอนุพันธ์หรือ TFEX ได้ประกาศว่า จะเปิดซื้อขายวันที่ 29 ตุลาคม นี้กันเพิ่มเติมนะคะ

SET50 Index Options ที่กำลังจะซื้อขายนี้ นับเป็นสินค้าลำดับที่สองหลังจากที่ SET50 Index Futures ได้ซื้อขายกันในปีที่แล้ว โดยออปชั่นที่จะซื้อขายจะมีทั้ง "คอล ออปชั่น" (Call Options) และ "พุท ออปชั่น" (Put Options) โดยมีเงื่อนไขในแนวทางเดียวกับ ฟิวเจอร์ส คือ ใช้ดัชนี SET50 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นตัวอ้างอิง อายุของออปชั่นมี 4 ช่วงอายุ สิ้นสุดทุกไตรมาส วันหมดอายุเป็นวันเดียวกันกับฟิวเจอร์ส ช่วงเวลาซื้อขาย และช่วงราคาที่ใช้ซื้อขายของออปชั่นและฟิวเจอร์ส นั้นเหมือนกัน

ขนาดของออปชั่นมีขนาดเล็ก โดยมีมูลค่าสัญญาประมาณ 1/5 ของสัญญาฟิวเจอร์ส เนื่องจากตัวคูณของสัญญาออปชั่นคือ 200 ในขณะที่ตัวคูณของฟิวเจอร์ส คือ 1,000 ในส่วนที่เป็น คุณสมบัติโดยตรงของออปชั่น คือ ราคาใช้สิทธิ (Strike price) นั้น แต่ละอายุของออปชั่น จะมีราคาใช้สิทธิอย่างน้อย 11 ราคา แต่ละราคา จะเป็นค่าดัชนีห่างกัน 10 จุด โดยเป็น ATM (At the money) 1 ราคา OTM (Out of the money) และ ITM (In the money) อย่างละ 5 ราคา

ราคาใช้สิทธินี้ จะอ้างอิงจากดัชนี SET50 ในตลาดหลักทรัพย์ โดยในกรณีที่เป็น Call Options นั้น ราคาใช้สิทธิที่เป็นราคา ATM จะเป็นราคาที่ใกล้เคียง กับราคาปิดของดัชนี SET50 เมื่อวันทำการก่อนหน้า ราคา OTM เป็นราคาใช้สิทธิที่สูงขึ้นจาก ATM ไปอีก 5 ระดับ โดยแต่ละช่วงราคาห่างกัน 10 จุด ในทางกลับกัน ITM เป็นราคาดัชนีที่ลดลงจาก ATM ไปอีก 5 ระดับ โดยแต่ละช่วงราคา ห่างกัน 10 จุด (ดังตาราง)

SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 5

Dec-07 or Z07

SET 50 Call options สิ้นสุดอายุเดือน ธันวาคม

OTM S50Z07C600 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 600

OTM S50Z07C590 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 590

OTM S50Z07C580 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 580

OTM S50Z07C570 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 570

OTM S50Z07C560 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 560

ATM S50Z07C550 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 550

ITM S50Z07C540 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 540

ITM S50Z07C560 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 530

ITM S50Z07C520 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 520

ITM S50Z07C510 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 510

ITM S50Z07C500 SET50 call ที่ราคา ใช้สิทธิ 500

ชื่อย่อของออปชั่นมีความใกล้เคียงกับฟิวเจอร์ส โดยใช้ชื่อย่อของ ฟิวเจอร์ส คือ S50Z07 แล้วต่อเติมส่วนที่เป็นออปชั่น กับราคาใช้สิทธิต่อท้ายชื่อย่อข้างต้น โดย C แทน Call และ P แทน Put ตามด้วยราคาใช้สิทธิ

เช่น S50Z07C550 หมายถึง Call Option หรือสิทธิซื้อ ที่มีอายุสิ้นสุด เดือนธันวาคม 2550 ราคาใช้สิทธิ (strike price) ที่ดัชนี 550 จุด หรืออย่างเช่น S50Z07C560 เป็น call ออปชั่นสิ้นสุดระยะเวลาเดียวกัน แต่มีราคาใช้สิทธิสูงกว่า คือ 560 จุด

ดังเช่นที่กล่าวมาแล้วในฉบับก่อนหน้าว่า ออปชั่นนั้น ต้องมีรายละเอียดระบุว่า เป็น Call สิทธิเพื่อซื้อ หรือเป็น Put สิทธิเพื่อขาย อายุของสิทธินี้สิ้นสุดเมื่อใด ราคาใช้สิทธิเท่ากับเท่าไร เงื่อนไขที่ต่างกันถือว่าเป็นออปชั่นคนละตัวกัน ราคาซื้อขายในตลาดก็อาจแตกต่างกัน

Source: กรุงเทพธุรกิจ




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:58:27 น.
Counter : 1074 Pageviews.  

Trade Smart, Trade Index Futures ตอนที่ 2

ต่อจาก Trade Smart, Trade Index Futures ตอนที่ 1

นายเอ คนเดิมอีกแล้ว จากข่าวสาร แนวโน้มเศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง ทำให้ นายเอ คาดการณ์ว่า ตลาดมีแนวโน้มจะปรับตัวลง …..

ก่อนหน้าที่นายเอจะมารู้จัก Futures หากนายเอ ไม่มีหุ้นติดพอร์ต นายเอก็ได้แต่นั่งรอ รอ รอ รอจังหวะเวลา ที่แรงขายหุ้นสงบลง แล้วจะได้เข้าซื้อหุ้นสักที หรือในกรณีที่ มั่นใจแน่ๆ ว่าหุ้นจะลง นายเออาจจะทำการ short against port คือ ขายหุ้นที่ตนมีในทันที เพื่อไปรอซื้อคืน ในต้นทุนที่ต่ำกว่าเดิม …. ปัญหาคือ แล้วถ้ายัง งงๆ อยู่ล่ะครับ ว่ามันจะลงหรือจะทรง จะขายขาดทุน ก็เกรงว่ามันจะไม่ลง จะไม่ขาย ก็เกรงทุนจม และ หดหายไปเรื่อยๆ จะให้นายเอทำยังไง …

หลังจากนายเอทำความรู้จักกับ Futures เขารู้สึกว่า เขามีทางเลือกมากขึ้นเลยล่ะ

กรณีที่เขาไม่มีหุ้นอยู่เลย และคาดการณ์ว่า หุ้นทั้งตลาดกำลังจะถึงเทศกาล Summer Sale เขาจะรีบทำสัญญาหมั้นหมาย ไว้ก่อนในวันนี้ ว่าจะ “ขาย” หุ้นทั้ง 50 ตัว ในสัดส่วนที่ประกอบกัน เป็น SET50 Index ที่ระดับราคา ที่ตกลงในวันนี้ (“Short” in a SET50 Index Futures Contract) โดยใช้เงินลงทุน เพียงเท่าเงิน ที่ต้องวางเป็น หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา (Initial Margin) เพียงสัญญาละ 50,000 บาทเท่านั้น และทุกๆ 1 จุดที่ปรับลง จากระดับราคา ที่เขาทำสัญญาไว้ เขาจะได้กำไรจุดละ 1,000 บาท (Multiplier) ต่อ 1 สัญญาที่เขา “short”

กรณีที่เขามีหุ้นบลูชิพอยู่เต็มพอร์ต และไม่มั่นใจเต็มที่ ที่จะ short against port เขาอาจจะยอม จ่ายเบี้ยประกันภัย เพื่อรักษาเงินลงทุนของเขา ไม่ให้เน่าเสียอย่างหนัก หากมันปรับลงจริง ด้วยการ “short” SET50 Index Futures ….. ถ้า “short” แล้ว ตลาดปรับลงจริง นายเอก็ดีใจที่หุ้นลง เพราะเขาจะได้กำไรจุดละ 1,000 บาท (Multiplier) ต่อ 1 สัญญาที่เขา “short” ส่วนหุ้นบลูชิพ ที่มีอยู่ในพอร์ต นายเอสามารถรอได้ จนกว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นอีกรอบหนึ่ง ….. แต่ถ้า “short” แล้ว ตลาดพักแป๊ปเดียว แล้วปรับตัวขึ้น นายเอก็ดีใจอีกล่ะครับ เพราะหุ้นที่เขาถืออยู่ กำลังจะปรับขึ้นตาม ส่วน short position ที่มีอยู่ นายเอ สามารถบริหารความเสี่ยงได้ ด้วยการยึดหลัก Limit Loss, Let Profit Run ในเมื่อ short แล้ว ไม่ลงดั่งคาด ก็จำกัดผลเสียหาย ยกเลิกการทำประกันภัยได้ ด้วยการขอปิดสถานะ (Offset) โดยเร็ว แล้วมีความสุข กับการนั่งดูหุ้นบลูชิพของตน มีมูลค่าสูงขึ้นสูงขึ้น ในแต่ละวัน …..

นับจากนั้นมา นายเอก็มีใจอุเบกขา ไม่ว่าตลาดหุ้นจะปรับขึ้น หรือ ดิ่งลง

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:58:42 น.
Counter : 921 Pageviews.  

Trade Smart, Trade Index Futures ตอนที่ 1

นายเอ กันเงินฝากธนาคารมาลงทุนในหุ้น 150,000 บาท แต่เนื่องจาก งบลงทุนมีไม่มากนัก ทำให้ซื้อหุ้นได้ ในจำนวนที่จำกัด ปีนั้นซื้อหุ้น ADVANC เพราะนักวิเคราะห์บอกว่าดี ให้เป้าหมายเท่านั้นเท่านี้ ตัวนายเอเอง ก็มองว่าดี เลยซื้อ ADVANC ติดปลายนวมไว้หน่อย ด้วยคาดหวังว่า จะทำกำไรได้ดี ในช่วง January Effect …… ในช่วงนั้น ตลาดหุ้นคึกคะนอง วิ่งขึ้นแตะ 800 จุด ภายในเวลาไม่นาน คนเฮฮากันทั้งตลาด ปล่อยให้นายเอ นั่งเศร้าอยู่คนเดียว หุ้น ADVANC กลับนิ่งสนิท แม้ท่านผู้นำ จะเป็นผู้ก่อตั้ง AIS ขึ้นมาก็ตาม หุ้น SHIN เองก็อืดๆ รู้งี้ ซื้อ SCC ดีกว่า วิ่งแรงแซงโค้ง ถูกใจวัยรุ่น ….. ปีต่อมา นายเอขอแก้ตัวใหม่ ซื้อ SCC ในช่วงราคา ปรับตัวลงมาต่ำ นักวิเคราะห์บอกว่าดี ให้เป้าหมายเท่านั้นเท่านี้ ตัวนายเอเอง ก็มองว่าดี เลยซื้อ SCC ติดปลายนวม ไว้นิดนึง ด้วยคาดหวังว่า จะทำกำไรได้ดี ในช่วง January Effect ….. เดือนมกรา มาถึง ปูนใหญ่ของเรา ยังคงเป็นหุ้นที่มั่นคง นิ่งสุขุม ปล่อยให้ TTA PSL และ TOC ATC วิ่งกันโครมๆ …. เอ เราก็เลือกบลูชิพแล้วนี่หว่า งั้น เอาใหม่ ขายทิ้ง SCC ในราคาเท่าทุน …. ใช่แล้ว ต้อง ATC กับ TTA ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ปีนี้ เราได้โบนัสเยอะ จะเอาเงินค่าขายปูนต์ใหญ่ กับ เงินโบนัส ซื้อดักทั้ง 2 ตัวเลย เห็นนักวิเคราะห์เชียร์ว่า ATC ดี TTA ก็ดี พื้นฐานดี พีอีต่ำ ปันผลสูง นักวิเคราะห์ให้เป้าหมายเท่านั้นเท่านี้ …. อ้าว ปรากฏว่างวดนี้กลับเป็นกลุ่มน้ำมัน งั้น ขายขาดทุน ATC TTA ดีกว่า นักวิเคราะห์บอกว่า ไม่ดีซะแล้ว งั้น เดี๋ยวจะรอซื้อ PTT อัครมหาบลูชิพ แห่งตลาดหุ้นไทย

ถ้านายเอ มีงบเพื่อการลงทุนมาก ก็คงจะซื้อโน้นซื้อนี่ ได้ทั้งกระดานแหละ ตามหลัก Diversified investment แต่เงินเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด นะครับ ถึงจะคาดการณ์ได้แม่นยำว่า ช่วงไหน ตลาดจะขึ้น ช่วงไหนเม็ดเงินต่างชาติน่าจะไหลเข้า ตลาดหุ้นไทย แต่ถ้าเลือกหุ้นผิด ก็เซ็งได้เหมือนกัน

ปีนี้ นายเอ ไปทำการศึกษาค้นคว้ามาแล้ว เลือกหุ้นในดวงใจ ที่อยากจะลงทุนมา ได้ดังนี้ SCC PTT PTTEP TOP RRC IRPC PTTCH EGCOMP BBL KBANK BAY BANPU และ KSL เขาเชื่อว่า ถ้าเขากว้านซื้อหุ้นมา อย่างละ 300 หุ้น เขาต้องทำกำไรได้แน่ ในช่วง January Effect (สมมุติ เหตุการณ์ 19 ธค. แบ็งค์ชาติออกมาตรการฯ เป็นแค่ความฝัน)

แต่ความหวังของนายเอ จะเป็นไปได้ ก็ยังต้องรอเงินโบนัสปลายปีอยู่ดี และ ถึงแม้เงินโบนัสออกมาแล้ว ก็ยังไม่สามารถ ซื้อหุ้นบลูชิพเหล่านั้นได้ครบ อ่ะ ตัดบางตัวออกก็ได้ ….. นายเอตัดสินใจเลือกหุ้นจากกลุ่มน้ำมัน กลุ่มปิโตรฯ กลุ่มธนาคาร มาอย่างละตัวพอ แต่แล้ว ก็สงสัยอีก …. เอ ถ้ารอโบนัสปลายปีออก ราคามันไม่ขยับ ไปไกลแล้วหรอ …. ด้วยความหวั่นๆว่า ราคาหุ้นในดวงใจจะพุ่งแรง ในช่วงปลายปี เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา (สมมุติ เหตุการณ์ 19 ธค. แบ็งค์ชาติออกมาตรการฯ เป็นแค่ความฝัน) นายเอเลยรีบโทรศัพท์ ไปที่บริษัทโบรกเกอร์ทันที เพื่อขอจอง BAY กับ PTTEP ที่ราคานี้ไว้ก่อน พร้อมสัญญาหนักแน่นว่า จะซื้อแน่ สัญญา สาบาน โบนัสออกปุ๊ป จะมาจ่ายเงินส่วนที่ขาดให้ ในทันที ไม่เบี้ยวแน่ สัญญา สาบาน พร้อมทั้งวาดฝันว่า พอถึงปลายปี ราคา BAY คงจะประมาณ xx บาท และ ราคา PTTEP คงจะประมาณ xxx บาท พอโบนัสออก เขาจ่ายค่าหุ้นเสร็จ รับโอนหุ้นเข้าพอร์ต โอววว์ จอร์ช กำไรเห็นๆ

อนิจจา! หลังฟังคำตอบจากบริษัทโบรกเกอร์ ฝันของนายเอ ก็พลันสลายลง ในพริบตา อุปมาดั่งได้ยิน มาตรการแปลกๆ มาจากแบ็งค์ชาติ ….. แต่ด้วยความที่ ตลาดอนุพันธ์ เปิดโอกาสให้นายเอ สามารถทำสัญญาหมั้นหมายไว้ก่อน ในวันนี้ได้ว่า จะ “ซื้อ” หุ้นทั้ง 50 ตัว ในสัดส่วนที่ประกอบกัน เป็น SET50 Index ที่ระดับราคา ที่ตกลงในวันนี้ (“Long” in a SET50 Index Futures Contract) โดยใช้เงินลงทุน เพียงเท่าเงิน ที่ต้องวางเป็น หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา (Initial Margin) เพียงสัญญาละ 50,000 บาทเท่านั้น และทุกๆ 1 จุดที่ปรับขึ้น จากระดับราคา ที่เขาทำสัญญาไว้ เขาจะได้กำไรจุดละ 1,000 บาท (Multiplier) ต่อ 1 สัญญาที่เขา “long” ทำให้ นายเอ รู้สึกว่า SET50 Index Futures เป็นคำตอบสุดท้าย ที่เหมาะกับเขา ซึ่งมีความต้องการ ซื้อหุ้นบลูชิพจำนวนมาก แต่มีเงินจำกัด และ ถ้าช่วงไหนที่คาดว่า ตลาดจะปรับตัวขึ้น ระดับราคาของ Index Futures ก็จะขึ้นตามแน่ๆ เพราะ Index Futures มี SET50 เป็นสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ถ้าหุ้นบลูชิพส่วนใหญ่ในตลาดปรับขึ้น ยังไง SET50 Index Futures ก็ต้องขึ้นแน่ ไม่ต้องไปสุ่มซื้อหุ้นผิดตัว ซึ่งอาจจะไม่ปรับขึ้น ในขณะที่ หุ้นบลูชิพส่วนใหญ่ในตลาดปรับขึ้น เหมือนอย่างที่เขาเคยประสบปัญหานี้ มาตลอดหลายปี

(มีต่อ) ห้วข้อ Trade Smart, Trade Index Futures ตอนที่ 2

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:58:58 น.
Counter : 1117 Pageviews.  

อนุพันธ์: โทษมหันต์ หรือ คุณอนันต์

ผมขับรถเก่าๆ ขับรถก็ไม่เก่ง เงินก็ไม่มี ยังต้องจ่ายเบี้ยประกันทุกเดือนอีก ….. ในแต่ละเดือน ผมกันเงินไว้ ให้คุณแม่ เหลือเก็บนิดหน่อย ยังต้องไปจ่ายเบี้ยประกันชีวิต ….. สัปดาห์หน้า ผมจะย้ายไปเข้าสำนักงานสาทร ไกลบ้านเหลือเกิน อพาร์ตเม้นท์ก็มีห้องว่าง เพียงห้องเดียว ยังต้องมาจ่ายเงิน มัดจำประกันการเช่าห้องอีก ผมจะจ่ายประกันภัยรถต่อดีไหมครับ รถไม่เห็นชนสักที ผมจะจ่ายเบี้ยประกันชีวิตต่อ ดีไหมครับ ไม่เห็นตายสักที สัปดาห์หน้า ผมจะย้ายเข้า มาอยู่อพาร์ตเม้นท์ที่เล็งไว้เลย ดีไหมครับ ทำไมต้องไปจ่ายเงินมัดจำห้องด้วย

ฝรั่งมันว่า “ความเสี่ยงที่สุดในชีวิต คือ การไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย” จริงสิ ถ้าผมไม่จ่ายเบี้ยประกัน ไม่จ่ายเงินมัดจำห้อง ก็เท่ากับผมกำลังพนัน กับชีวิตตัวเอง และ กำลังเล่นอยู่กับความเสี่ยง อย่างเต็มประตู …. หากผมขับพลาดท่า ไปชน Benz คันงามอย่างจัง โดนเรียกค่าเสียหาย 200,000 บาท จะทำไงดี งั้น โอนความเสี่ยงของผม ไปให้คนอื่น ที่ยินดีจะรับความเสี่ยงแทน น่าจะดีกว่า

ทำไมบางท่านถึงมองว่า ตราสารอนุพันธ์มันเสี่ยง มันเป็นการพนัน หากคุณถือหุ้นอยู่ โดยไม่มีธุรกรรมอนุพันธ์ นั่นก็เป็นความเสี่ยง และ เป็นการพนันว่า ทุกอย่างจะปกติสุข …. ท่านที่ถือหุ้นบลูชิพชั้นดี ในต้นทุนที่ต่ำกว่าชาวบ้าน แต่มิได้ทำการโอนความเสี่ยง ไปให้ผู้ที่พร้อมจะรับความเสี่ยง ไว้บ้าง หลับสบาย อุ่นใจ ไร้กังวล หรือเปล่าครับ ในวันที่แบ็งค์ชาติ ออกมาตรการแบบรีบๆ ในวันที่ 19 ธ.ค. และส่งผลให้วันนั้น หุ้นลงระเนระนาด กว่าร้อยจุด ในชั่วพริบตา ถ้าท่านยัง อุ่นใจ ไร้กังวล ก็แสดงว่า ท่านเป็น Value Investor ที่พนันว่า ทุกอย่างจะกลับมาปกติได้ ในเร็ววัน

บางท่านแย้งว่า ตราสารอนุพันธ์มันเสี่ยงมาก คำถามคือ ท่านทำธุรกรรมอนุพันธ์ ในฐานะผู้ต้องการโยกย้ายความเสี่ยง ด้วยการโอนความเสี่ยงออกไป (Hedger) หรือ ท่านทำธุรกรรม ในฐานะเป็นผู้ยินดีรับความเสี่ยงนั้นไว้เอง (Risk Taker, Speculator)

หากท่านเป็น Speculator ด้วยการรับโอนความเสี่ยงมาจาก Hedger ท่านย่อมมีโอกาสได้ “รับ” เงินมหาศาล หากท่านคาดการณ์ถูก ขณะที่ Hedger จะต้อง “จ่าย” เงินเล็กน้อยเพื่อป้องกันความเสี่ยง และ จะได้รับการปกป้องสินทรัพย์ หากเกิดอันตรายขึ้นจริง

Hedger ที่มีหุ้นบลูชิพมูลค่า 1 ล้านบาท ใช้เงิน 100,000 บาท (margin) เพื่อ “short Index Futures” 2 สัญญา (สมมุติ short ที่ระดับราคา 500) หาก SET50 ขึ้น 10% เขาจะได้ผลตอบแทนจากหุ้น 100,000 บาท (10%ของพอร์ต 1 ล้าน) แต่มีผลขาดทุนจากการ “short” จำนวน 100,000 บาท (2 สัญญาๆละ 50 จุดๆละ 1,000 บาท) ซึ่งในความเป็นจริง Hedger สามารถ limit loss ได้โดยไว เมื่อ short แล้ว ปรากฏว่า หุ้นเดินหน้า ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ….. ขณะที่ Speculator เก็งว่าหุ้นจะขึ้นแน่ๆ เขาจึงวางเงิน margin 100,000 บาท เข้ารับความเสี่ยงของ Hedger ด้วยการ “long Index Futures” 2 สัญญา และเมื่อตลาดขึ้นไป ตามที่เก็งไว้ Speculator ผู้นี้จะได้กำไรจากการ “long” จำนวน 100,000 บาท (2 สัญญาๆละ 50 จุดๆละ 1,000 บาท) หรือเรียกง่ายๆว่า Speculator เก็งถูก ทำกำไรได้ 100% จากเงิน margin

ในทางตรงข้าม หลังจาก Hedger “short” แล้ว ตลาดปรับลง 10% มูลค่าพอร์ตของ Hedger ก็หดหายไปด้วย 10% เช่นกัน แต่ได้กำไรจาก “short position” จำนวน 100,000 บาท (2 สัญญาๆละ 50 จุดๆละ 1,000 บาท) ในทางปฏิบัติ หากเป็นการปรับตัวลงชั่วคราว หุ้นในพอร์ต ยังมีโอกาสฟื้น คืนมาทำกำไรได้อีก ในวันข้างหน้า ….. ขณะที่ Speculator เก็งว่าหุ้นจะขึ้นแน่ๆ เขาจึงวางเงิน margin 100,000 บาท เพื่อรับความเสี่ยงของ Hedger ด้วยการ “long Index Futures” 2 สัญญา และเมื่อเก็งผิดพลาด ตลาดปรับตัวลง Speculator ผู้นี้จะขาดทุนจากการ “long” จำนวน 100,000 บาท (2 สัญญาๆละ 50 จุดๆละ 1,000 บาท) หรือเรียกง่ายๆว่า Speculator เก็งผิด ขาดทุนทันที 100% จากเงิน margin ซึ่งในความเป็นจริง Speculator สามารถ limit loss ได้โดยไว เมื่อ long แล้ว ปรากฏว่า หุ้นปรับลงหัวทิ่มอย่างต่อเนื่อง

ด้วยความที่กำไร 50%-100% และขาดทุน 50%-100% สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าหุ้นมาก …..

โทษมหันต์ หรือ คุณอนันต์ ของตราสารอนุพันธ์ จึงน่าจะเป็น ที่พฤติกรรมของผู้เล่น มากกว่า เพราะโดยตัวของมันเองแล้ว อนุพันธ์เป็นเพียง เครื่องมือในการโอนความเสี่ยงออก และ รับความเสี่ยงเข้า ระหว่าง Hedger และ Risk Taker เท่านั้นเอง

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:59:13 น.
Counter : 961 Pageviews.  

Long Option: Limited Downside Risk, Potential Upside Gain

ปีหน้า Google จะปฏิวัติวงการโฆษณาวิทยุครั้งใหญ่ ด้วยการออกโครงการ Google Radio Ads แหม เจ้าพ่อโฆษณาออนไลน์ จะกระโดดมาลุย โฆษณาวิทยุแบบนี้ หุ้นก็น่าจะขึ้นใช่ไหมครับ แต่ที่เทรดอยู่ตอนนี้ มันปาเข้าไปตั้ง $440 เหรียญต่อหุ้น เงินไม่มีอ่ะ กว่าเงินโบนัสปลายปีจะออก ผมคงต้องไปตามซื้อ ที่ราคากว่า $500 หรือ $600 แน่ ทำไงดี ซื้อตอนนี้ มันน่าจะทำกำไรได้ดีเชียว

(เหตุการณ์และตัวเลขสมมุติ) ทางเลือกหนึ่ง ผมอาจจะไปขอ “ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ซื้อ”หุ้น Google 100 หุ้น (“Long” “Call” Options on GOOG) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (expiration date) ที่ให้สิทธิในการซื้อ (Strike price, Exercise price, x-price) หุ้น GOOG ในราคา $460 ต่อหุ้น ก็ได้ และเนื่องจาก ตราสารอนุพันธ์ ประเภท Options ต่างจาก ตราสารอนุพันธ์ ประเภท Futures ตรงที่ Options ให้สิทธิแก่ผู้ถือ ในการที่จะเลือกได้ว่า จะซื้อหรือขาย ตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ ผมจึงต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ สิทธิที่จะเลือก นั้นมา (ค่า Premium) …. เมื่อเวลาผ่านไป หากหุ้น GOOG ปรับตัวขึ้นสูง ผมอาจจะขายสิทธินั้น ให้ผู้อื่นก็ได้ หรือ จะรอลุ้น ในวันครบกำหนดใช้สิทธิ ก็ได้ หาก ณ วันใช้สิทธิ ราคาในกระดานของ GOOG ต่ำกว่าคาด ผมก็จะเข้าซื้อในกระดานแทน แล้วปล่อยให้สิทธินั้นหลุดลอยไป (expire) แต่หาก GOOG มีราคาในกระดานสูงมาก ผมก็จะใช้สิทธิ ด้วยการจ่ายเงินซื้อ ในราคาเพียงหุ้นละ $460 แล้วรีบวิ่ง สั่งขายทำกำไรทันที ในกระดาน รวยฉับพลัน!

ตลาดอนุพันธ์ของไทย ก็กำลังจะออก SET50 Index Options เหมือนกัน ผมมีหุ้นบลูชิพอยู่ 15 ตัว มูลค่า 10 ล้านบาท (สมมุติว่าผมรวย) แต่ในใจ ก็หวั่นๆว่า ต่างชาติจะเข็ดขยาด กับมาตรการ Black Tuesday ของแบ็งค์ชาติ ด้วยการขายหุ้นทิ้งโครมๆ ลงมาเป็นร้อยจุด ซึ่งพอร์ตจะเสียหายมหาศาล แต่ครั้นจะขายขาดทุน ในหุ้นบลูชิพที่มีอยู่ในตอนนี้ ก็คงไม่ดีแน่ เพราะความหวั่นๆของผม ยังคงเป็นแค่การมั่วนิ่ม เอางี้ดีกว่า ผมจะไปขอ “ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ขาย” SET50 Index ในอีก 3 เดือนข้างหน้าไว้ก่อน (“Long” “Put” Options on SET50 Index) อย่างน้อย เรากำหนด ระดับราคาที่จะขายไว้ล่วงหน้าแล้ว หาก SET50 ปรับลงจริง จะได้มีกำไร จากการที่หุ้นตก มาชดเชยความเสียหายในพอร์ตได้มั่ง ในทางตรงข้าม หากตลาดปรับขึ้นแรง ผมก็จะปล่อยให้ Put Options นั้นหมดอายุ ไม่รู้จะไปใช้สิทธิทำไม มาตั้งหน้าตั้งตา ทำกำไรล็อตใหญ่ จากการขายหุ้นในพอร์ต น่าจะดีกว่า

สำหรับสนามเทรดจริง หากพิจารณาตามลักษณะของ สัญญาที่จับคู่ซื้อขายแล้ว จะประกอบไปด้วย Position ที่เกิดขึ้นในตลาด Options มากถึง 4 positions ซึ่งมีทั้ง Long Call (“ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ซื้อ”), Long Put (“ซื้อสิทธิ” ที่จะ “ขาย”), Short Call (“ขายสิทธิ” ที่จะ “ซื้อ”), Short Put (“ขายสิทธิ” ที่จะ “ขาย”) แต่ในเบื้องต้น เราจะเน้นไปที่ Long Position เป็นสำคัญ (Long Call & Long Put) เนื่องจาก การมีสถานะ “Long” ใน Options ให้สิทธิประโยชน์อย่างมากกับผู้ถือ เนื่องจากมีลักษณะของ Limited Loss, Unlimited Gain หากผู้ถือ เห็นว่าตนได้ประโยชน์ ก็เลือกที่จะใช้สิทธิ หากเห็นว่า ตนเสียประโยชน์ ก็จะปล่อยให้ตราสารนั้นหมดอายุไป

กรณีที่เรา “Long” “Call” on KSL (KSL = หุ้นน้ำตาลขอนแก่น) ที่มี Exercise price ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ในราคา 10 บาทต่อหุ้น …. เมื่อถึง expiration date ปรากฏว่า KSL อยู่ที่ 12.60 บาท เราก็จะทำการขอใช้สิทธิ ด้วยการจ่ายเงินซื้อ เพียง 10 บาทต่อหุ้น แล้วนำหุ้นมาขาย ทำกำไรในกระดาน ที่ราคา 12.60 บาท และยิ่งราคา KSL สูงขึ้นเท่าใด กำไรที่ได้จาก Long Call ก็มากขึ้นเท่านั้น เป็นเงาตามตัว (Potential Upside Gain) …. แต่หาก ณ expiration date ปรากฏว่า KSL อยู่ที่ 9.40 บาท เราก็จะไม่ใช่สิทธิซื้อ KSL ที่ราคา 10 บาท เพราะหากยังต้องการซื้อ KSL อยู่ ก็ย่อมสามารถ ซื้อหุ้นได้ ในกระดาน ที่ราคาเพียง 9.40 บาท เมื่อเราปล่อย ให้ตราสารหมดอายุไป ความเสียหายของเราจริงๆ จึงถูกจำกัดไว้เพียง ค่า premium ที่เราจ่ายซื้อสิทธิ ในการที่จะซื้อหุ้น KSL (Limited Downside Risk)

กรณีที่เรา “Long” “Put” on ASCON (ASCON = บริษัทแอสค่อน คอนสตรัคชั่น) ที่มี Exercise price ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ในราคา 14 บาทต่อหุ้น …. เมื่อถึง expiration date ปรากฏว่า ASCON อยู่ที่ 9 บาท เราก็จะทำการขอใช้สิทธิ ด้วยการรับเงินค่าขายหุ้น ในราคา 14 บาทต่อหุ้น แล้วเอาหุ้นในพอร์ต ส่งมอบคู่สัญญาไป หรือ ในกรณีที่ เราไม่มี ASCON อยู่ในพอร์ต เราก็สามารถซื้อหุ้น ในกระดานที่ราคา 9 บาท ไปส่งมอบคู่สัญญา และคู่สัญญาจะจ่ายค่าซื้อหุ้นจากเรา ในราคา 14 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ ยิ่งราคา ASCON ต่ำลงเท่าใด กำไรที่ได้จาก Long Put ก็จะมากขึ้นเท่านั้น เป็นเงาตามตัว (Potential Upside Gain) …. ในทางตรงข้าม หาก ณ expiration date ปรากฏว่า ASCON อยู่ที่ 15 บาท เราก็จะไม่ใช่สิทธิขาย ASCON ที่ราคา 14 บาท เพราะเราสามารถเลือก ที่จะขายหุ้นในกระดาน ได้ที่ราคา 15 บาท เมื่อเราปล่อยให้ตราสารหมดอายุไป ความเสียหายของเราจริงๆ จึงถูกจำกัดไว้เพียง ค่า premium ที่เราจ่ายซื้อสิทธิ ในการที่จะขายหุ้น ASCON (Limited Downside Risk)

หากจะซื้อหุ้น ทองคำ หรือ SET50 ด้วยคาดการณ์ว่า ราคาจะขึ้นสูง แต่ยังไม่แน่ใจ หรือ ยังไม่อยากจ่ายเงินก้อน ณ เวลานี้ อย่าลืม Long Call เพื่อล็อคราคาซื้อของเรา ไว้ก่อนนะครับ และ หากจะขายหุ้น ทองคำ หรือ SET50 ด้วยคาดการณ์ว่า ราคาจะปรับลง แต่ยังไม่แน่ใจ หรือ ยังไม่ขายทันที ณ เวลานี้ อย่าลืม Long Put เพื่อล็อคราคาขายของเรา ไว้ก่อนนะครับ และถ้าตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย ซึ่งกำลังร่างกฎกติกา ในการเทรด Options อยู่ในเวลานี้ อนุญาตให้เรา ใช้สิทธิใน Options ได้ก่อน expiration date ก็จะยิ่งเพิ่มความคล่องตัว ในการทำกำไร ให้เรามีโอกาส ล็อคผลกำไร ที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน ระหว่างสัปดาห์ ระหว่างเดือน ได้ดียิ่งขึ้น

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 28 มกราคม 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:59:35 น.
Counter : 920 Pageviews.  

1  2  3  4  

thanapononline
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add thanapononline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.