ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ดูหนังฟรี สำหรับลูกค้า Samsung Galaxy Tab

ดูหนังฟรี สำหรับลูกค้า Samsung Galaxy Tab

รายละเอียด :

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Samsung Galaxy Tab รับบัตรชมภาพยนตร์ ฟรี 1 ที่นั่ง
เมื่อดาวน์โหลด Application Major Movie จาก Samsung app store
พร้อมรับ code จำนวน 6 หลัก เพื่อรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 1 ที่นั่ง
จำนวนโควต้า 500 ที่นั่ง

ตั้งแต่ 10 กันยายน – 10 ตุลาคม 2554

สาขาที่ร่วมรายการ
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ แะละ อีจีวี ทุกสาขา

เงื่อนไข

ลูกค้า Samsung Galaxy Tab ดาวน์โหลด icon Major Movie by Samsung สามารถใช้สิทธิ์ รับบัตรชมภาพยนตรืฟรี 1 ที่นั่ง
นำ Code ที่ได้รับจากระบบ แสดงที่หน้า Box office โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ แะละ อีจีวี ทุกสาขา เพื่อรับบัตรชมภาพยนตร์ 1 ที่นั่ง
สามารถใช้กับระบบปกติ, เก้าอี้ปกติเท่านั้น จำนวนจำกัด 500 ที่นั่ง
ระยะเวลา 10 ก.ย.-10 ต.ค.2554
สิทธิพิเศษดังกล่าวไม่สามารถแลกเปลี่ยน หรือ ทอนเป็นเงินสดได้
สงวนสิทธิ์งดร่วมรายการ กับภาพยนตร์เรื่อง Cars 2

ตัวอย่าง Application

ที่มา :: //www.majorcineplex.com




 

Create Date : 13 กันยายน 2554   
Last Update : 13 กันยายน 2554 8:53:34 น.   
Counter : 1563 Pageviews.  

สำรวจร้านดังมาบุญครอง จับกระแสก่อนเปิดตัว iPhone 5 ราคา iPhone 4 รูดลงทุกวัน



นับถอยหลัง อีกไม่นาน "Apple" จะเปิดตัว iPhone 4 ความจุ 8GB พร้อม กับ iPhone 5 ชั่วโมงนี้ สาวก "Apple" ต่างตั้งตารอ เตรียมทุบกระปุก


กระแสข่าว iPhone 5 ถูกจับตามองกันแบบวันต่อวัน บางกระแสก็ลือว่าจะมีการวางจำหน่ายในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ บางกระแสก็บอกว่าจะวางจำหน่าย 14 ตุลาคม ซึ่งกระแสข่าวทั้งสองก็ยังไม่ได้มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการ

ขณะที่ Apple ก็ยังไม่ระบุแน่ชัดว่าวันไหน แต่ล่าสุดกลับมีกระแสข่าวใหม่ออกมาเพิ่มเติมว่า ทาง Apple จะทำการเปิดให้สั่งจองหรือ Pre-Order ในช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้


สำหรับ iPhone 4 ความจุ 8GB นั้น ซึ่งผลิตออกมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับล่างและนำมาขายในราคาที่ไม่สูงมาก นัก ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 12,000-14,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่มีกำลังซื้อน้อย แต่อยากใช้ iPhone ซึ่งโฉมใหม่ของ iPhone 4 จะมาพร้อมกับความจุ 8GB และจะเปิดตัวในเร็วๆนี้


มติชนออนไลน์ สำรวจ ตลาดมือถือยอดนิยม ศูนย์การค้ามาบุญครอง ก่อน iPhone 5 จะเปิดตัวในเร็ววัน


นายอำนวย แกะสุวรรณ พนักงานขายร้าน "A.O.B mobile" เผยว่า ราคา iPhone 4 ปรับลงเกือบทุกวัน ลดลงประมาณ 100-200 บาทต่อวัน ตั้งแต่ที่มีข่าวออกมา เกี่ยวกับ iPhone ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งตอนนี้ทางร้านไม่ได้รับสินค้าเพิ่มแล้ว เพียงแต่ขายของในสต๊อกให้หมดก่อน เกรงว่า ถ้ารับของมาขายในตอนนี้ อาจจะทำให้ขาดทุนได้ เพราะราคา iPhone 4 ปรับลดลงทุกวันและคาดว่า ราคาอาจจะลดลงไปถึง 3,000-5,000 บาท ก็เป็นไปได้


พนักงานร้าน "A.O.B mobile" ให้ข้อมูลอีกว่า ราคาขาย iPhone 4 (16GB) ในตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 19,900 บาท(ราคาเครื่องหิ้ว) ซึ่งราคาเดิมอยู่ที่ 23,000 บาท และคาดว่า หาก iPhone 5 เข้ามา ราคาอาจจะลดเหลือเพียงแค่ 16,000 บาทเท่านั้น


อย่างไรก็ตามยอดขาย iPhone 4 ของร้านเราในตอนนี้จำนวนการขายยังคงที่ เพียงแต่ต้องปรับราคาลดลงเพื่อดึงดูดลูกค้า เพราะตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะรอซื้อ iPhone 5 กันทั้งนั้น


ขณะที่ นายส่งศักดิ์ จรรยาวุฒิกุล เจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์ "M2D-online" กล่าวว่า จำนวนยอดขาย iPhone 4 ในตอนนี้เริ่มลดลงเรื่อยๆ ส่วนในเรื่องราคาขายนั้น ทางร้านของเราขาย iPhone 4 ในราคา 20,900 (16GB) เป็นราคาเครื่องศูนย์รับประกันให้หนึ่งปี ส่วนในเรื่องการปรับราคาในแต่ละวันนั้น จะดูจากจำนวนผู้ซื้อ หากผู้ซื้อมีจำนวนมากทางเราก็จะมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 100-200 บาท หากผู้ซื้อมีจำนวนน้อยลงทางเราก็จะปรับราคาลงอีกพอสมควร ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าด้วยว่า ขาดสต๊อกหรือเปล่า




"ลูกค้าของร้านเราในตอนนี้จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ลูกค้าที่รอให้ iPhone 5 ออกมาก่อน เพื่อที่จะรอซื้อ iPhone 4 ในราคาที่ถูก และอีกประเภทคือ รอซื้อ iPhone ตัวใหม่ล่าสุดทีเดียวเลย" เจ้าของร้านโทรศัพท์ M2D-online กล่าว





สำหรับข่าวลือใหม่ล่าสุดทีมีการเผยแพร่ออกมาก็คือ เคสด้านหลังของ iPhone 5 จะใช้อะลูมิเนียมแทนการใช้กระจกแก้วที่มีปัญหาว่ามันแตกร้าวได้ ซึ่งจะว่าไป การใช้อะลูมิเนียมเป็นทางที่ Apple ชอบอยู่แล้ว และนอกจากจะเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำเคสของ iPhone 5 แล้ว เสาสัญญาณยังได้รับการออกแบบใหม่ โดยจะไม่มีการโผล่ส่วนใดๆ ของเสาสัญญาณออกมาเหมือนดีไซน์ของ iPhone 4 แต่จะซ่อนอยู่ด้านหลังโลโก้ของ Apple ซึ่งจะคล้ายกับวิธีซ่อนเสาสัญญาณ Wi-Fi ในตัวเคสของ iPad


อย่างไรก็ตามหลักฐานที่ทำให้แนวคิดนี้มีความน่าเชื่อถือก็คือ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Apple ได้จดสิทธิบัตรสำหรับวิธีซ่อนเสาอากาศไว้ในโลโก Apple ของ iPhone ส่วนเรื่องเคส iPhone 5 จะใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ยังไม่มีแหล่งข่าวออกมายืนยันถึงความเป็นไปได้ แต่ก็ถือว่า เป็นข่าวลือข่าวแรกที่ฟังดูแล้วมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียว ยังไงก็ต้องติดตาม รอดูความชัดเจนกันต่อไป


ก่อน iPhone 5 ตัวจริงจะมาถึง เรามาดูรูปโฉมของ iPhone 5 ตัวปลอม ฆ่าเวลากันไปพรางๆก่อนแล้วกันนะคะ

แค่ราคาก็กินขาดแล้ว เริ่มต้นเพียง 2,000 บาท ถูกเหลือเชื่อจริงๆ สำหรับ iPhone 5 (ตัวก๊อปจีน) ซึ่ง ดีไซน์โดยโรงงานจีน คุณสมบัติเพียบ อาทิเช่น WIFI,ดูTVฟรี,Bluetooth,กล้อง ซึ่งมีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และอื่นๆอีกเพียบ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ตัวเครื่องสามารถใส่ได้ 2 ซิม โอ้โห้!! เห็นอย่างนี้แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple จะสู้ได้อย่างไรกัน ฮ่า...ฮ่า...



"ใครที่กำลังมองหา มือถือ ก็ลองซื้อไปเซอร์ไพรส์เพื่อนๆกันดูได้นะ ว่าเรามีโอกาสได้ใช้ iPhone 5 ก่อนใครอีกนะ เออ.."




งานนี้จะหาว่ามาหลอกกันเห็นทีจะไม่ได้เสียแล้วสำหรับ iPhone 5 สมาร์ทโฟนยอดอัจฉริยะว่าที่ 1 ใน 10 ของเล่น IT แห่งปี 2011 จากบริษัท Apple ที่โดนตี๋ใหญ่จากประเทศจีนจัดการ ทำของปลอมออกมาวางขายกันเกลื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากลองนับนิ้วดูต้องบอกว่าพี่ๆพ่อค้าจีนแดงนั้นได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ล่วงหน้า Apple ไปถึงเกือบ 6 เดือนทีเดียวกว่าที่ iPhone 5 ตัวจริงจะปรากฏโฉมเสียอีก



เรื่อง ศรางกูล พูลทวี



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน




 

Create Date : 09 กันยายน 2554   
Last Update : 9 กันยายน 2554 7:49:31 น.   
Counter : 2089 Pageviews.  

Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 เปิดตัวทางการแล้ว!

iPod Touch 5G อยู่เฉยได้ไหมหลัง Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 เปิดตัวทางการแล้ว!

ดูท่าว่าศึกใหญ่ในวงการเครื่องเล่นเพื่อความบันเทิงแบบพกพาหรือ Portable Media Player จะกลับมาทวีความเข้มข้นอีกครั้งหลังจากที่ทั้ง 2 ค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Apple และ Samsung มัวแต่ไปตีกันในฝั่งสมาร์ตโฟน(iPhone 5 vs. Samsung Galaxy S II) และแทบเลต (iPad 2 vs. Samsung Galaxy Tab 10.1) อยู่เสียนานสองนาน หลังจากที่ล่าสุด Samsung ได้ประกาศเปิดตัว Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 ออกมาท้าชน iPod Touch 5G อย่างเต็มรูปแบบแล้ว

Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6

สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 จะหันมาเลือกใช้งานหน้าจอ LCD ขนาด 3.65 นิ้วแทนแบบ AMOLED อย่างที่เห็นกันในรุ่น Wi-Fi 4.0 และ 5.0 โดยตัวเครื่องจะยังใช้งานปุ่ม Home ตรงกลางแบบเดิมคล้ายๆกับใน iPod Touch นั่นเอง

Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6

ขณะเดียวกันภายในเครื่องของ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 จะมาพร้อมกับซีพียูแบบ Single Core ความเร็ว 1GHz, กล้องหน้า VGA, กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซล, ระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread พร้อม TouchWiz UI รวมถึงหน่วยความจำภายในเครื่องที่ 8GB และ 16GB ที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเติมได้ผ่าน microSD Card ได้อีกด้วย

Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6

ในส่วนของกำหนดการวางจำหน่าย Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 จะอยู่ในเดือนตุลาคมนี้ด้วยราคาประมาณ $242 (7,260 บาท) สำหรับ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 รุ่นความจุ 8GB และ $274 (8,220 บาท) สำหรับ Samsung Galaxy S Wi-Fi 3.6 รุ่นความจุ 16GB ตามลำดับ

iPod Touch 5G

ขณะเดียวกันสำหรับ iPod Touch 5G จาก Apple นั้นก็น่าที่จะได้รับการเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกันโดยอาจจะมาพร้อมกับซี พียูแบบ Dual Core เหมือนใน iPad 2, หน่วยความจำภายใน 128GB และรุ่นสีขาวให้เลือกซื้อด้วย

บทความโดย: ekk TechXcite
ที่มา: samsung




 

Create Date : 08 กันยายน 2554   
Last Update : 8 กันยายน 2554 7:25:17 น.   
Counter : 2205 Pageviews.  

เตือนภัยผู้ใช้ 'โรมมิ่ง' ศึกษาให้ดี...ลดเสี่ยงกระเป๋าฉีก!!!

หลายต่อหลายคนเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ มักนิยมใช้บริการโรมมิ่งกัน เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อกับครอบครัว หรือคนรู้ใจด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา แต่เมื่อกลับมาต้องหน้าซีด บางคนถึงกับกระเป๋าฉีก เมื่อเห็นบิลเรียกเก็บค่าบริการโทรศัพท์!!

ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้บริการโรมมิ่งว่า สิ่งแรกต้องเข้าใจก่อนว่า ในแต่ละประเทศจะมีบริการโทรศัพท์มือถือเป็นของตนเองโดยบริษัทที่ได้รับอนุญาตจะมีขอบข่ายของประเทศตนเอง โดย จะไม่มีบริษัทใดได้รับอนุญาตให้ใช้สัญญาณข้ามทวีปหรือข้ามประเทศ

เมื่อได้เลขหมายของประเทศตนเองแล้วจะนำไปใช้กับประเทศอื่นไม่ได้ เพราะประเทศอื่นก็มีเลขหมายที่ให้บริการ มีขอบข่ายของเขาเช่นเดียวกับประเทศของเรา แต่ วิธีที่จะทำให้โทรศัพท์ของเราจะไปใช้ในประเทศอื่นได้ คือ ประเทศของเราต้องไปทำสัญญากับคู่บริการในประเทศของเขา ไปขอใช้โครงข่ายชั่วคราว โดยใช้เลขหมายของเราเป็นหลัก

ฉะนั้น ข้อดีของการเปิดโรมมิ่ง คือ สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นได้เหมือนเดิม แม้จะเดินทางไปต่างประเทศ โดยที่ผู้บริโภคใช้หมายเลขโทรศัพท์เบอร์เดิม คนจะโทรฯหาก็โทรฯมาเบอร์เดิม และเช่นเดียวกันเมื่อเราโทรฯกลับไปเลขหมายเราก็จะปรากฏขึ้น ปลายทางก็จะรู้ว่าเราโทรฯมา

“แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ค่าใช้จ่าย เพราะปกติเวลาโทรฯที่เมืองไทยค่าใช้จ่ายจะเป็นค่าใช้จ่ายภายในประเทศเช่นเดียวกันกับประเทศอื่น ๆ แต่ถ้าเมื่อไรเป็นโรมมิ่ง แปลว่า มีต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะสัญญาณโทรศัพท์จะต้องวิ่งจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง ทำให้ค่าโรมมิ่งแพงกว่าค่าใช้จ่ายปกติ

รวมทั้ง ค่าบริการโรมมิ่งไม่มีการกำกับดูแล คือ ค่าบริการโดยปกติในแต่ละประเทศ ถ้าอยากกำกับราคาขั้นสูง สามารถกำกับได้ว่าจะใช้เกณฑ์กี่บาท ห้ามเกินกี่บาทต่อนาที แต่ถ้าเป็นโรมมิ่งเมื่อไรจะไม่มีการกำกับเพราะไม่มีรัฐบาลโลก ดังนั้น ประเทศนี้จะไปกำหนดโรมมิ่งประเทศโน้นไม่ได้ ทำให้อัตราค่าโรมมิ่งจึงไม่ขึ้นกับใคร แต่จะอยู่ที่คู่สัญญาต้นทางทำกับคู่สัญญาปลายทาง”

ตลอดจน ในเรื่องของเทคโนโลยี นั่นคือ ถ้าใช้บริการเครือข่ายของบริษัทใดในเมืองไทย เวลาเปิดโรมมิ่งก็ต้องไปเปิดกับเครือข่ายนั้น ในกรณีที่เห็นว่าอีกเครือข่ายหนึ่งโปรโมชั่นถูกกว่า จะไปเปิดโรมมิ่งของอีกเครือข่ายหนึ่งไม่ได้ เพราะหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้อยู่เป็นของอีกเครือข่ายหนึ่ง



สำหรับการเปิดโรมมิ่ง โดยหลักแล้วขึ้นอยู่กับบริการที่เราจะใช้ สมัยก่อน จะมีแค่โทรฯออกและรับสาย ซึ่งเป็นบริการประเภทเสียง หรือ วอยซ์ (voice) แต่ปัจจุบันมีบริการที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็น เอดจ์, จีพีอาร์เอส หรือ 3 จี ซึ่งเป็นอีกบริการหนึ่งที่เรียกว่า บริการด้านข้อมูล หรือ ดาต้า (data)

“เวลาเปิดโรมมิ่งบริษัทจะเปิดให้ทั้งคู่ คือ เสียงและข้อมูล ซึ่งตรงนี้ผู้บริโภคสามารถเปิดแยกได้ เช่น ถ้าไม่เล่นอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องการรับ-ส่งข้อมูลผ่านมือถือ โดยข้อมูลนี้ไม่ได้รวมถึงเอสเอ็มเอส เพราะเอสเอ็มเอสเป็นแพ็กเกจที่ผูกติดมากับบริการประเภทเสียง ก็ให้เลือกบริการประเภทเสียงเท่านั้น คือ รับสายได้ รับเอสเอ็มเอสได้ แต่เล่นอินเทอร์เน็ตไม่ได้”

อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้บริการต้องทำความเข้าใจด้วย นั่นคือ เมื่อเปิดโรมมิ่งแล้วจะเป็นการเปิดตลอดไป หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเมื่อกลับมาเมืองไทยแล้วโรมมิ่งจะถูกปิด ฉะนั้น ถ้าอยากปิดต้องโทรฯไปแจ้งที่บริษัทว่าหมายเลขนี้ต้องการปิดโรมมิ่ง แล้วถ้าจะไปต่างประเทศอีกก็ค่อยโทรฯไปขอเปิดโรมมิ่งใหม่ก็ได้ เพราะ ถ้าไม่แจ้งปิดบริษัทจะเปิดโรมมิ่งให้ตลอด

การเปิดโรมมิ่งหากเปิดไว้ตลอด ถ้าไม่ได้ไปต่างประเทศก็จะไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหากรณีเดียว คือ ถ้าเดินทางไปชายแดน เช่น ด่านปาดังเบซาร์ซึ่งจะมีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ของประเทศมาเลเซียเข้ามาในฝั่งไทยด้วย เมื่อโทรศัพท์ของเราไปจับสัญญาณมาเลเซียเข้า เมื่อรับสายหรือโทรฯออกก็จะกลายเป็นว่าใช้คลื่นมาเลเซีย เปลี่ยนเป็นโรมมิ่งมาเลเซีย

รวมทั้งถ้าไปหนองคายคลื่นโทรศัพท์จับสัญญาณของประเทศลาว
เราก็จะเสียเงินค่าโรมมิ่งของประเทศลาวทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ข้ามไปลาว ตรงนี้เป็นข้อจำกัดทางเทคนิค หากบริษัทคิดค่าโรมมิ่งสามารถโต้แย้งกับทางบริษัทได้ เพราะเรายังอยู่ในเขตแดนไทยอยู่ แต่ข้อจำกัดตรงนี้ก็มีประโยชน์สำหรับบางพื้นที่ เช่น เมื่อข้ามไปท่าขี้เหล็ก เราโทรฯออกเป็นสัญญาณเมืองไทย ทั้ง ๆ ที่เราอยู่ในประเทศพม่า ตรงนี้เท่ากับว่าเราใช้สัญญาณเมืองไทยทั้ง ๆ ที่อยู่ในฝั่งพม่าโดยไม่ต้องเสียค่าโรมมิ่ง

ฉะนั้น หากต้องเดินทางไปชายแดน ต้องดูให้ดีว่า ตอนนี้โทรศัพท์จับสัญญาณของประเทศไหนอยู่ทางออกที่ดี คือ ควรจะปิดโรมมิ่งจะได้ไม่ต้องกังวลว่าตอนนี้โทรศัพท์จับคลื่นสัญญาณประเทศไหน ในกรณีที่ต้องข้ามไปจริงๆ แล้วค่อยเปิดโรมมิ่ง ซึ่งสามารถโทรศัพท์ไปขอเปิดโรมมิ่งได้ที่เครือข่ายที่เราใช้บริการอยู่ เมื่อกลับมาแล้วก็โทรฯไปขอปิดได้เช่นกัน

เมื่อขอเปิดบริการโรมมิ่งแล้วไม่จบเพียงเท่านั้น ผอ.สบท. กล่าวต่อว่า ในประเทศสามารถจำกัดวงเงินได้ เช่น ไม่เกิน 5,000 บาท

ถ้าเกินให้ตัดทันทีซึ่งบริษัทสามารถทำได้ แต่โรมมิ่งไม่มีการจำกัดค่าบริการ ต้องเข้าใจด้วยว่า การจำกัดวงเงินในประเทศกับโรมมิ่งแยกกัน ทำให้หลายคนต้องเสียค่าโรมมิ่งเป็นเงินจำนวนมาก เพราะเข้าใจว่ายังโทรฯได้อยู่ไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้อยู่ แต่ถึงแม้จะแจ้งจำกัดวงเงินสูงสุดโรมมิ่งไว้ ปัญหาก็ยังไม่หมดเพราะโดยหลักทางเทคนิคค่าใช้จ่ายในต่างประเทศไม่ได้โอนข้อมูลมาเป็นวินาที โดยข้อมูลที่ส่งกลับมาจะล่าช้าใช้เวลา 1-2 วัน ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเกินวงเงินสูงสุดที่กำหนดไว้ได้ ผู้บริโภคจำต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้โรมมิ่งด้วยแม้จะกำหนดวงเงินสูงสุดไว้แล้วก็ตาม

อีกทั้ง ปัจจุบันบาง บริษัทมีโปรโมชั่นเป็นอันลิมิท เช่น บริการดาต้าโรมมิ่งวันละ 450 บาท ผู้บริโภคเห็นเข้าก็จูงใจคิดว่าดีกว่าไปซื้อซิมต่างประเทศ ปรากฏว่า พอกลับมาก็โดนไปหลายแสนบาท ก็เพราะว่าอันลิมิทที่ว่านี้เฉพาะบางเครือข่ายเท่านั้น เนื่องจากประเทศหนึ่งจะทำสัญญากับหลาย ๆ บริษัท และบริษัทของไทยก็ทำสัญญากับหลาย ๆ บริษัทในประเทศนั้น ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น เวลาเราไปต่างประเทศเครื่องจะจับสัญญาณอัตโนมัติ โดยจะจับสัญญาณของทุกบริษัทที่เครือข่ายที่เราใช้ไปทำสัญญาโรมมิ่งไว้

“ประเทศหนึ่งอาจมีคู่สัญญา 9 บริษัท แต่ที่เป็นอันลิมิท ล็อกไว้แค่บริษัทเดียว จึงมีกรณีที่ผู้บริโภคไปญี่ปุ่นสมัครอันลิมิทแพ็กเกจ เมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่นแล้ว โทรศัพท์กลับไปจับสัญญาณของเครือข่ายอื่นที่ไม่ใช่เครือข่ายที่สมัครไว้กลับมาก็โดนหลายแสนบาท เพราะเข้าใจผิดคิดว่าโทรฯได้ตลอดแต่จ่ายเท่าที่กำหนดไว้ ทางออกที่ดี คือ จะต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าอันลิมิทเป็นของเครือข่ายใดในประเทศที่เราจะไป จะได้เลือกรับสัญญาณที่เครื่องโทรศัพท์ได้ถูก และที่สำคัญ ต้องสอบถามวิธีการล็อกค้นหาเครือข่ายด้วยว่ามีขั้นตอนอย่างไร เพราะโทรศัพท์จะค้นหาแบบอัตโนมัติ เครื่องจะได้ไม่ไปจับเครือข่ายอื่น จะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม”

บางคนเกิดจากการใช้ ไวไฟฟรีที่โรงแรมหรือที่ประชุม เช่น ผู้บริโภคไปอินเดียใช้มือถือติดต่อไวไฟทั้งคืนกลับมาก็โดนหลายหมื่นบาท เพราะหลักการ คือ เมื่อสัญญาณไวไฟหลุดหากเราเปิดโรมมิ่งอยู่เครื่องจะต่อมือถือเป็นอินเทอร์เน็ตมือถือให้โดยอัตโนมัติ กรณีนี้ก็เช่นกัน ผู้บริโภคจะต้องรู้วิธีการปิดสัญญาณโรมมิ่งในเครื่องโทรศัพท์

อีกกรณีคือ บริษัทจะมีแพ็กเกจข้อมูล 5 เมก จ่าย 1,500 บาท ผู้บริโภคเห็นว่าดีก็เลือกใช้ โดยจะนิยมเล่นประเภทข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือบีบี ซึ่ง โซเชียลเน็ตเวิร์กเหล่านี้สามารถส่งรูปได้ด้วย หลายคนส่งรูปให้เพื่อนที่เมืองไทยเพราะคิดว่าไม่เท่าไร แต่จริง ๆ แล้ว คนไทยถ่ายรูปความละเอียดสูงแล้วส่งเลย โดยไม่มีการบีบไฟล์รูปให้เล็กลง ซึ่งรูปหนึ่งจะประมาณ 1 เมก ถ้า 5 รูปก็ 5 เมก ก็ครบแล้ว ที่เหลือก็จะจ่ายเพิ่ม ตรงนี้ก็ต้องระวังด้วย พยายามจำกัดข้อมูลอย่าใช้ฟุ่มเฟือย เพราะจะเกินวงเงิน 5 เมก ที่ตกลงไว้ได้

ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมกล่าวฝากทิ้งท้ายว่า โรมมิ่งเป็นบริการข้ามประเทศ บางครั้งต้องใช้เวลาในการดำเนินการ กว่าที่เราจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาจส่งผลทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เกินเกิดขึ้นได้ หรือเวลาเจอปัญหาในต่างประเทศก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร เพราะกลัวเรื่องค่าบริการ ฉะนั้นสิ่งที่ผู้บริโภคควรทำ คือ การศึกษาข้อมูลให้ดีอย่างละเอียดทั้งในส่วนของเครื่องโทรศัพท์มือถือ และโปรโมชั่นของทางบริษัทที่จะเลือกใช้บริการก็จะเป็นทางออกที่ดี สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาได้.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 07 กันยายน 2554   
Last Update : 7 กันยายน 2554 7:48:17 น.   
Counter : 4080 Pageviews.  

Toshiba AT200 แท็บเล็ต 10.1 นิ้วที่หนาเพียง 7.7 มิลลิเมตร

ซัมซุงอาจออกแบบ Galaxy Tab 10.1 ให้บางกว่า iPad 2 เล็กน้อยเพื่อสร้างจุดขายเรื่องความบางของตัวเครื่อง (และก็ทำได้สำเร็จ) แต่วันนี้ซัมซุงโดนตลบหลังซะแล้ว เพราะแท็บเล็ตตัวใหม่ Toshiba AT200 บางกว่า Tab 10.1 อีก 1 มิลลิเมตร

หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับ Toshiba Thrive แท็บเล็ตตัวแรก (ถึงแม้จะมีพอร์ตเชื่อมต่อมากมาย) แต่การกลับมารอบสองกับ AT200 ถือว่าน่าสนใจมาก

Toshiba AT200 ใช้หน้าจอ 10.1" 1280x800, ซีพียู TI OMAP 4430 1.2GHz (อันนี้น่าสนใจเพราะ Thrive เป็น Tegra 2) กล้อง 5MP/2MP, พอร์ตเชื่อมต่อก็มาตรฐานสำหรับแท็บเล็ตขนาดประมาณนี้ คือ Micro SD, Micro USB, Micro HDMI, ระบบปฏิบัติการ Android 3.2, แบตเตอรี่อยู่ได้ 8 ชั่วโมง

จุดเด่นที่สุดคงเป็นความบาง 7.7 มิลลิเมตร และหนัก 558 กรัม วางขายภายในปีนี้ ยังไม่ระบุราคา




ข้อมูลจาก : blognone.com





 

Create Date : 06 กันยายน 2554   
Last Update : 6 กันยายน 2554 8:18:02 น.   
Counter : 1362 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]