คุณพระช่วย...Apple เตรียมส่ง iPhone 5 ลุยตลาดประเทศจีนเร็วๆนี้ก่อนใครเพื่อน! คุณพระช่วย...Apple เตรียมส่ง iPhone 5 ลุยตลาดประเทศจีนเร็วๆนี้ก่อนใครเพื่อน! iPhone 5 - อัพเดทข่าวล่าสุดกับกำหนดการวางจำหน่ายสมาร์ตโฟนรุ่นต่อไปจาก Apple ที่ดูเหมือนว่าจะทำให้ชาวโลกรวมถึงแฟนๆที่ติดตาม TechXcite มาตลอดต้องช็อคไปตามๆกัน เมื่อล่าสุดที่ประเทศจีนซึ่งยังไม่เริ่มวางจำหน่าย iPhone 4S เหมือนบ้านเราแต่อย่างใด ทว่ากลับปรากฏป้ายโฆษณาของ iPhone 5 ขึ้นหราตามหัวมุมเมืองต่างๆทั่วประเทศแล้ว โดยในป้ายโฆษณา iPhone 5 ในประเทศจีนดังกล่าวนั้นระบุรายละเอียดที่พอจะแปลคร่าวๆออกมาได้ว่า This changes everything. Again. CDMA iPhone 5. Please stay tuned! (นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนทุกสิ่งอีกครั้งกับ iPhone 5 รุ่นรองรับเครือข่าย CDMA ติดตามรายละเอียดเร็วๆนี้!) แต่แหม...พอนั่งดูจากรูปแล้วก็รู้สึกว่าคุณพี่จีนจะไปเอารูปคอนเซปต์ iPhone Ultra 4G ของที่อื่นเขามาเหมารวมเป็น iPhone 5 เสียอย่างนั้นนะ งานนี้ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่านอกเหนือจาก iPhone 5 ของพวกพี่จะรองรับเครือข่าย CMDA ได้แล้ว ก็คงจะสามารถรองรับระบบ 2 SIM และ TV ในตัวได้อย่างแน่นอนสินะ 555+ บทความโดย: ekk TechXcite ที่มา: micgadget   Create Date : 17 ธันวาคม 2554     0 comment Last Update : 17 ธันวาคม 2554 9:42:42 น.     Counter : 1535 Pageviews.   Share Tweet

คลิป iPad 2 จุ่มลาวา ทดสอบประสิทธิภาพ ไอแพด 2 สุดเพี้ยน   Create Date : 15 ธันวาคม 2554     0 comment Last Update : 15 ธันวาคม 2554 8:27:09 น.     Counter : 1160 Pageviews.   Share Tweet

รีวิว Sony Ericsson Live with Walkman Sony Ericsson Live with Walkman แอนดรอยด์สายพันธุ์มิวสิคโฟนที่นอกจากจะมากไปด้วยประสิทธิภาพจากขุมกำลัง 1 GHz แล้วยังมีฟังก์ชั่นรองรับความบันเทิงหลากหลายทั้ง Market ให้เลือกโหลดแอพพลิเคชั่นที่คุณต้องการ การเล่นภาพ และวิดีโอความละอียด HD กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และให้กำลังเสียงที่ยอดเยี่ยมจากลำโพงเสียง 2 ตัว พร้อมลูกเล่นมากมายในฟังก์ชั่นเครื่องเล่นเพลง Sony Ericsson Live with Walkman ออกแบบมาเป็นรูปทรงแท่ง วัดความสูงได้ 106.19 กว้าง 56.6 และหนา 14.3 มิลลิเมตร ชั่งน้ำหนักรวมแบตเตอรี่ได้ 117 กรัม จอแสดง ผลเป็นระบบสัมผัส Capacitive ความละเอียด 480 x 320 พิกเซล กว้าง 3.2 นิ้ว เหนือหน้าจอขึ้นไปเป็นลำโพงรับเสียงสนทนา และเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ และกล้องหน้า ด้านล่างเป็นปุ่มควบคุมหลัก 3 ปุ่มได้แก่ ปุ่ม Back เพื่อเก็บเมนู เก็บแป้นพิมพ์ และย้อนกลับไปยังหน้าจอก่อนหน้า ปุ่ม Home เพื่อกลับไปยังหน้าจอหลัก แตะค้างไว้จะแสดงไอคอนของโปรแกรมที่เคยเปิดใช้งาน 8 โปรแกรมล่าสุด ปุ่ม Setting เพื่อตั้งค่าเมนูในแอพพลิเคชั่นที่เรากำลังใช้งานโดยในแต่ละแอพพลิเคชั่นจะมีเมนูต่างๆกันไป ด้าน บนตรงกึ่งกลางเป็นช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรพร้อมวงแหวน LED ที่จะกระพริบเมื่อเล่นเพลง ด้านซ้ายเป็นปุ่มลัด Walkman สำหรับเข้าเมนูเพลง ด้านขวาเป็นปุ่ม Power เมื่อกดค้างไว้จะเป็นการเปิด/ปิดเครื่อง หากกดปุ่มครั้งเดียวสั้นๆ จะเป็นการเปิด/ปิดจอแสดงผล และล็อคเครื่อง ด้านซ้ายเป็นช่องต่อสาย Micro USB ด้านขวาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มชัตเตอร์กล้อง ด้านล่างเป็นช่องใส่สายคล้องโทรศัพท์, รูไมโครโฟนสนทนา ด้านหลังมีกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และยังมีลำโพง 2 ตัวแยกออกจากกันทางด้านหลังเครื่อง ฝา หลังถอดได้โดยการงัดช่องด้านซ้ายแล้วดึงฝา ขึ้น เมื่อถอดฝาหลังออกมาจะเป็นแบตเตอรี่ Li-Polymer ขนาด 1200 mAh เหนือแบตเตอรี่ขึ้นไปเป็นช่องใส่ซิมการ์ด ส่วนด้านล่างของแบตเตอรี่เป็นช่องใส่ Micro SD อุปกรณ์ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ โทรศัพท์มือถือ Sony Ericsson Live with Walkman แบตเตอรี่ Li-Polymer 1200 mAh อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร สายเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกรูปแบบ micro USB คู่มือแนะนำการใช้งาน รูปแบบการแสดงผลหน้าจอหลัก โดย พื้นฐาน Sony Ericsson Live with Walkman จะใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.3.4 แต่เมนูหลักเป็น UI เฉพาะของ Sony Ericsson ที่แบ่งหน้าหลักออกเป็น 5 หน้าแต่ละหน้าประกอบไปด้วย หน้าที่ 1 เป็นหน้าแสดงรายชื่อโปรด, ประวัติการโทร และ Market หน้าที่ 2 จะมีปุ่มลัดสำหรับเปิด/ปิด เครือข่าย Wi-Fi, เสียงเรียงเข้า ถัดลงมาเป็นการแนะนำการใช้งานเครื่อง และเมนูลัด Market, เบราว์เซอร์ หน้าที่ 3 เป็นช่องค้นหาโดยเสียงและข้อความ ถัดลงมาเป็น เวลาและวันที่ หน้าที่ 4 เป็นทางลัดเข้าสื่อมัลติมีเดียได้แก่ อัลบั้มภาพ และเครื่องเล่นเพลง หน้าที่ 5 เป็นหน้าแสดงการพยากรณ์อากาศ โดย ทั้ง 4 มุมของหน้าจอจะมีปุ่มลัดเข้าฟังก์ชั่นต่างๆ ได้แก่ ข้อความ, มัลติมีเดีย (เครื่องเล่นเพลง, คลังภาพ, วิทยุ), สมุดโทรศัพท์, ปุ่มโทรออก ซึ่งจะไม่แสดงข้อความในหน้าแรก เมื่อแตะที่หน้าจอหลักค้างไว้จะสามารถเพิ่มไอคอนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่หน้าหลักที่เลือกไว้้ แบ่งออกเป็น ปุ่มลัด : เพิ่มทางลัดเมนูเฉพาะของเครื่อง Widget : เพิ่มทางลัดแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งภายในเครื่อง โฟลเดอร์ : เพิ่มทางลัดในรูปแบบโฟลเดอร์ ภาพพื้นหลัง : เปลี่ยนภาพพื้นหลัง 3 รูปแบบ ได้แก่ Wallpaper จากคลังภาพ, Live Wallpaper, Sony Ericsson Wallpaper หรือจากคลังภาพ ธีม : เปลี่ยนสีธีมที่หน้าหลัก การแสดงผลภายในเมนู เมนู หลักแสดงผลในรูปแบบตาราง 3x4 รวม 12 เมนูต่อ 1 หน้า เมื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาจะแสดงที่หน้าหลังสุดพอครบ 12 ไอคอนจะตัดขึ้นหน้าใหม่ทันที เมื่อ กดปุ่มมุมซ้ายล่างจะมีวิธีเรียงแอพพลิเคชั่น แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบได้แก่ การเรียงลำดับที่กำหนด, ตามตัวอักษร, ใช้มากที่สุด, ติดตั้งล่าสุด ส่วนด้านขวาจะเป็นปุ่มสำหรับเรียงเมนู โดยผู้ใช้จัดการผ่านการลากไปยังตำแหน่งต่างๆ การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง Sony Ericsson Live with Walkman ใช้หน่วยประมวลผล Single Core ความเร็ว 1 GHz เมื่อทดสอบความเร็วและการแสดงผลต่างๆ แล้วได้ผลดังนี้ ทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 2848 คะแนน ตรวจสอบ Multitouch แบบสมบรูณ์สูงสุด 4 จุด ความเร็ว Frame Rate วัดผ่าน Neocore ได้ 63.9 เฟรมต่อวินาที เว็บเบราว์เซอร์ Sony Ericsson Live with Walkman สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน 3G, Wi-Fi, EDGE, GPRS พร้อมรองรับการเล่นไฟล์ Flash บนเว็บไซด์ ใน ระหว่างชมเว็บไซด์สามารถใช้ระบบซูมภาพด้วย Pinch-to-zoom (จีบนิ้วเพื่อย่อขยายหน้าเพจ) ในหน้าเว็บไซต์ หากกดปุ่ม Setting จะเป็นการตั้งค่าเว็บมีระบบการใช้งานดังนี้ หน้าต่างใหม่ : สำหรับเปิดหน้าต่างเว็บไซต์ใหม่ บุ๊คมาร์ค : บันทึกหน้าเว็บที่เปิดอยู่เก็บเว็บใน Bookmarks เพื่อเปิดภายหลัง หน้าต่าง : แสดงหน้าต่างที่เปิดทั้งหมด รีเฟรช : เปิดหน้าต่างซ้ำ ส่งต่อ: แสดงหน้าถัดไป เพิ่ม เติม : ฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติมได้แก่ เพิ่มบุ๊คมาร์ก, ค้นหาในเพจ, เลือกข้อความ, ข้อมูลเพจ, แชร์เพจ, ดาวน์โหลด และตั้งค่า คลังภาพ โปรแกรมคลังภาพจะแสดงภาพ และวิดีโิอทั้งหมดในเครื่อง โดยแบ่งออกเป็นโฟล์เดอร์ตามที่เราตั้งไว้ เมื่อ เข้าไปดูรูปภาพจะแสดงผลได้ทั้งแนวตั้งและนอน หากกดตั้งค่าจะมีฟังก์ชั่นสำหรับเล่นสไลด์โชว์, แชร์ไฟล์, ลบภาพ, ดูรายละเอียด, ตั้งเป็นภาพผู้ติดต่อ หรือวอลล์เปเปอร์ และเพิ่มเติม (ตัด, หมุนไปในทิศซ้าย-ขวา) สำหรับ วิดีโอ Sony Ericsson Live with Walkman สามารถเล่นไฟล์ได้ในระดับสูงสุด HD 720p โดยแสดงผลได้ทั้งแนวตั้งและนอน ในขณะที่เล่นวิดีโอสามารถจะแสดงปุ่มควบคุมวิดีโอ ประกอบไปด้วย เล่นช่วงก่อนหน้า, เล่น/พัก, เล่นช่วงถัดไป ถ้ากดตั้งค่าจะแสดงการตั้งค่าจอ และการตัดวิดีโออย่างง่ายๆ เครื่องเล่นเพลงและวิทยุ เครื่อง เล่นเพลงถืิอเป็นจุดเด่่นหลักของ Sony Ericsson Live with Walkman เพราะนอกจากจะมีปุ่มทางลัดเข้าเครื่องเล่นเพลงที่ด้านบนแล้วฟังก์ชั่นด้านใน ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อ เข้าเครื่องเล่นเพลงแล้วจะแสดงเพลงที่เล่นไว้ล่า สุด โดยจะแบ่งเพลงออกเป็น ศิลปิน, อัลบั้ม, แทร็ค, เพลย์ลิสต์ และยังมีช่องสำหรับพิมพ์ชื่อแล้วค้นหาเพลงด้านบน หน้า ตาของเครื่องเล่นเพลง ด้านบนจะเป็นสัญลักษณ์แฟ้มแสดงเพลงทั้งหมด, สัญลักษณ์คล้ายเลข 8 สำหรับการหาข้อมูลเพลง และ แสดงรายการเพลงที่กำลังเล่น ถัดลงมาเป็นปกอัลบั้ม, เครื่องควบคุมเพลง (เล่นก่อนหน้า, เล่น/พัก, เล่นถัดไป) ชื่อศิลปิน, ชื่อเพลง และแถบเวลาเพลง เมื่อกดตั้งค่าจะเป็นการตั้งค่าระบบเสียง, อีควอไลเซอร์, ตั้งเป็็นริงโทน, การใช้แสงด้านบนส่วนช่องต่อหูฟัง, ส่วนขยาย (การค้นหาเพลงบน Wikipedia, Youtube, Google) สำหรับ การค้นหาเพลงอย่างละเอียดผ่านปุ่มคล้ายเลข 8 นั้นสามารถค้นหาได้ทั้ง ข้อมูลศิลปินบน Wikipedia, MV จาก Youtube, รายละเอียดอื่นๆ บน Google และส่วนขยายจาก Market และ ยังมี TrackID™ ฟังก์ชั่นที่จะช่วยค้นหาเพลงที่เราได้ยินระหว่างทางแต่ไม่รู้ชื่อเพลงได้ เพียงทำการอัดเสียงแล้วนำไปค้นหาบนอินเทอร์เน็ต แล้วเพลงที่ค้นหาจะทำการบันทึกในเครื่อง นอกจากนั้นยังแสดงชาร์จเพลงฮิตของประเทศไทยอีกด้วย กล้องถ่ายรูป กล้อง ถ่ายรูปของ Sony Ericsson Live with Walkman มีความละเอียด 5 ล้่านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช และบันทึกวีดีโอระดับ HD 720p สามารถปรับตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ดังนี้ คุณสมบัติในการถ่ายภาพนิ่ง ปรับความละเอียดได้ : 2592 x 1944, 2560 x 1440, 1920 x 1080, 1632 x 1224 พิกเซล - กล้องหน้าความละเอียด VGA 640 x 480 พิกเซล - ซูมดิจิตอล 8 เท่า (8x Digital zoom) โหมดถ่ายภาพ : ปกติ, การจดจำภาพถ่าย, ตรวจจับรอยยิ้ม, พาโนรามา, พาโนรามา 3D ตั้งเวลาถ่ายภาพ : 2, 10, วินาที ถ่ายภาพต่อเนื่อง : ปิด, ภาพเดียว, 3, 5 ภาพ ค่าชดเชยแสง EV -2 ถึง +2 เสียงชัตเตอร์ 3 เสียง และ ปิดเสียง โหมดแฟลช : เปิด, ปิด, อัตโนมัติ, ลดจุดตาแดง ถ่ายภาพโดยสัมผัสหน้าจอ : เปิด, ปิด แนบพิกัด GPS ลงบนภาพถ่าย : เปิด, ปิด คุณสมบัติในการบันทึกวีดีโอ ความละเอียด - HD : 1280 x 720 พิกเซล รูปแบบไฟล์ MP4 ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที - VGA เต็มจอ: 864 x 480 พิกเซล รูปแบบไฟล์ MP4 ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที - VGA : 640 x 480 พิกเซล รูปแบบไฟล์ MP4 ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที - QVGA : 320 x 240 พิกเซล รูปแบบไฟล์ MP4 ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที - MMS : 176 x 144 พิกเซล รูปแบบไฟล์ 3GP ความเร็ว 15 เฟรมต่อวินาที กล้องหน้าความละเอียด - VGA : 640 x 480 พิกเซล รูปแบบไฟล์ MP4 ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที - QVGA : 320 x 240 พิกเซล รูปแบบไฟล์ MP4 ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที - MMS : 176 x 144 พิกเซล รูปแบบไฟล์ 3GP ความเร็ว 15 เฟรมต่อวินาที โหมดฉาก : อัตโนมัติ, บุคคล, ทิวทัศน์, กลางคืน, ชายหาด และหิมะ, กีฬา, งานเลี้ยง โหมดโฟกัส : โฟกัสจุดเดียว, ตรวจสอบใบหน้า, ระยะอนันต์ ไฟช่วยถ่าย : เปิด, ปิด เปิด/ปิดลดการสั่นไหวขณะถ่ายภาพ ตั้งเวลาถ่ายวิดีโอ : 2, 10, วินาที ค่าชดเชยแสง EV -2 ถึง +2 เปิด, ปิด การบันทึกเสียง เสียงชัตเตอร์ 3 เสียง และ ปิดเสียง สมดุลแสงสีขาว : อัตโนมัติ, ไฟหลอด, แสงนีออน, แสงธรรมชาติ, มีเมฆ ถ่ายภาพโดยสัมผัสหน้าจอ : เปิด, ปิด การวัดแสง : ศูนย์กลาง, เฉลี่ย, จุด ข้อมูลจาก : siamphone.com   Create Date : 12 ธันวาคม 2554     0 comment Last Update : 12 ธันวาคม 2554 9:52:23 น.     Counter : 2914 Pageviews.   Share Tweet

วิเคราะห์ราคา iPhone 4S - อาจ “ต่ำกว่าสองหมื่น” [เกาะติดกระแส iPhone 4S] วิเคราะห์ราคา iPhone 4S - อาจ “ต่ำกว่าสองหมื่น”! เบื่อกันไหม กับข่าวลือที่หลุดออกมาทุกปี แบบนี้... “ลือ iPhone รุ่นต่อไปแพงขึ้น” “สามหมื่นชัวร์ ๆ เพิ่มนั่นเพิ่มนี่มาเยอะขนาดนี้” “เมืองนอกเค้าขายถูก เดี๋ยวเข้าไทยมาก็แพงอยู่ดี” วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันง่าย ๆ ว่าทำไมบรรดาข่าวลือที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ถึง “ผิด” และไม่มีเหตุผลใด ๆ มารองรับข่าวลือเหล่านี้เลย... [ ประเด็นที่ 1 ] วิถีของ Apple คือการใช้หลัก “เพิ่มความสามารถ แต่คงราคาเดิมไว้” ราคา iPhone 4S แบบไม่ติดสัญญาในสหรัฐ สิ่งที่ Apple ยึดมาตลอดเลย คือหลักในการ “ยึดราคาขายเดิมเป็นหลัก” แต่เพิ่มความสามารถให้กับผลิตภัณฑ์เข้าไปเรื่อย ๆ หลักการนี้ จะทำให้สินค้ายังคงอยู่ในระดับ High-End สมกับแบรนด์ Apple เองได้ เพราะเมื่อราคาสินค้าอยู่ในระดับสูงเท่าเดิม ไม่มีการลดราคาพร่ำเพรื่อ เวลาคนนึกถึง “Apple” ก็ย่อมที่จะนึกถึงสินค้าที่หรูหรา เป็นสินค้าเทคโนโลยีที่เน้นแฟชันนั่นเอง Apple นั้นใช้หลักการนี้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะกับคอมพิวเตอร์ Mac หรือ iPod เวลามีการเปิดตัวสินค้าใหม่ประจำปี ก็จะมีการปรับเพิ่มสเป็คให้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ แต่ราคาของ Mac และ iPod กลับไม่เคยต่ำลงกว่าคู่แข่งในตลาดเลย iPhone เองก็เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ iPhone 4 เริ่มวางจำหน่ายเครื่องเปล่าในสหรัฐฯ ก็ถูกตั้งราคาไว้ ดังนี้ iPhone 3GS รุ่น 8GB : $499 iPhone 4 รุ่น 16GB : $649 iPhone 4 รุ่น 32GB : $749 เมื่อ iPhone 4S วางจำหน่าย Apple เลือกที่จะตรึงราคา iPhone ไว้ และเพิ่มเติมความสามารถให้กับ iPhone 4S นอกจากนั้น Apple ได้ปรับราคา iPhone 3GS ลงมา เพื่อบุกตลาดโทรศัพท์มือถือระดับกลาง (จากเดิมที่ iPhone บุกตลาดระดับสูงมาโดยตลอด) เราจึงเห็นว่า Apple มี iPhone ขายพร้อมกันถึง 5 รุ่น ในปีนี้ ได้แก่ iPhone 3GS รุ่น 8GB : $375 iPhone 4 รุ่น 8GB : $549 iPhone 4S รุ่น 16GB : $649 (สังเกตว่า ราคาขายยังเท่า iPhone 4) iPhone 4S รุ่น 32GB : $749 iPhone 4S รุ่น 64GB : $849 ในเมื่อ iPhone ราคาคงเดิม แทบไม่เปลี่ยนแปลง (หรือเปลี่ยนแปลงน้อยมาก) มาโดยตลอดแบบนี้ ข่าวลือที่ว่า iPhone ราคาแพงขึ้น สามหมื่นสี่หมื่นบาท คงไม่เป็นจริงอย่างแน่นอนครับ [ ประเด็นที่ 2 ] ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเรื่อย ๆ ในปีที่ผ่านมา “เงินบาทแข็ง ซื้อของนอกได้ถูกลง” (ภาพประกอบจาก: Business Report Thailand) หลายคนอาจจะงงกับคำว่า “ค่าเงินบาทแข็ง” ลองนึกภาพตามครับ ก่อนหน้านี้ ถ้าเรามีเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เราจะแลกเงินบาทได้ 35 บาท ถูกไหมครับ พอมาวันนี้ เรามีเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่าเดิม เราจะแลกเงินบาทได้เพียง 30 บาท เหตุการณ์นี้เราเรียกว่า “การแข็งค่าของเงินบาท” เพราะ 1 ดอลลาร์เท่าเดิม แต่กลับแลกเงินบาทได้น้อยลง แต่ในทางกลับกัน หากมองในมุมของคนที่ใช้เงินบาท ซื้อสินค้าต่างประเทศที่มีราคาเป็นดอลลาร์สิครับ ก่อนหน้านี้ เราต้องมีเงิน 35 บาท จึงจะซื้อสินค้าราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ พอมาวันนี้ เรามีเงินเพียง 30 บาท เราก็ซื้อสินค้าชิ้นเดิมในราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แล้ว!!! iPhone ก็เข้าข่ายนี้เช่นกัน เมื่อ Apple ตั้งราคา iPhone เท่าเดิมมาโดยตลอด (649 ดอลลาร์ฯ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นั่นหมายความว่า คนไทยได้ซื้อ iPhone ในราคาถูกลงจากการแข็งค่าของเงินบาทนั่นเอง เรามาดูอัตราแลกเปลี่ยนย้อนหลังกัน ค่าเงินบาท ธ.ค. 2551 ประมาณ 35.00 บาท ต่อดอลลาร์ฯ (ช่วงก่อน iPhone 3G เข้าไทย) จะต้องใช้เงิน 35.00 x $649 = 22,715 บาท ในการซื้อ iPhone 3G 1 เครื่อง (ราคา iPhone 3G ในไทย ณ เวลานั้น เคาะราคาที่ 23,275 บาท) 22,715 ต่อ 23,275 บาท ราคาคำนวณไม่ต่างกับราคาขายจริงมากใช่ไหมครับ? ลองดูกันต่อ ค่าเงินบาท ส.ค. 2552 ประมาณ 33.90 บาท ต่อดอลลาร์ฯ (ช่วงก่อน iPhone 3GS เข้าไทย) จะต้องใช้เงิน 33.90 x $649 = 22,000 บาท ในการซื้อ iPhone 3GS 1 เครื่อง (ราคา iPhone 3GS ในไทย ณ เวลานั้น เคาะราคาที่ 22,900 บาท) 22,000 ต่อ 22,900 บาท ตั้งราคาห่างกันไม่ถึงหนึ่งพันบาทเลย ค่าเงินบาท ส.ค. 2553 ประมาณ 31.70 บาท ต่อดอลลาร์ฯ (ช่วงก่อน iPhone 4 เข้าไทย) จะต้องใช้เงิน 31.70 x $649 = 20,573 บาท ในการซื้อ iPhone 4 1 เครื่อง (ราคา iPhone 4 ในไทย ณ เวลานั้น เคาะราคาที่ 20,650 บาท) 20,573 ต่อ 20,650 บาท แทบจะได้ราคาเดียวกับสหรัฐฯ แล้วนะครับ!!! ค่าเงินบาท พ.ย. 2554 ประมาณ 30.50 บาท ต่อดอลลาร์ฯ (ช่วงก่อน iPhone 4S เข้าไทย) จะต้องใช้เงิน 30.50 x $649 = ....... กด เครื่องคิดเลขกันได้เท่าไหร่ครับ? อย่าตกใจตัวเลขนะ 19,794 ใช่แล้วครับ เราใช้เงินเพียง 19,794 บาท ณ เวลานี้ ในการซื้อ iPhone 4S 1 เครื่อง!!! เห็น ตัวเลขนี้แล้ว อดคิดไม่ได้ว่า ราคาขายจริง จะเคาะออกมาเท่าไร หากจะตั้งให้สวย ๆ ก็หมื่นเก้าพันเก้าร้อย แต่อีกไม่กี่วัน เราได้รู้ตัวเลขจริง ๆ กันครับ... หากมีข้อสงสัย หรือคำแนะนำ ติชมใด ๆ สามารถพูดคุยกับทีมงานได้ที่ Facebook Fanpage ของ iPhone4Society และ Twitter @iPhone4Society เช่นเคยครับ ข้อมูลราคาขาย iPhone จาก : //store.apple.com/us ข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนจาก : //www.bot.or.th ขอบคุณที่มาของบทความ : iPhone4Society   Create Date : 09 ธันวาคม 2554     0 comment Last Update : 9 ธันวาคม 2554 8:13:16 น.     Counter : 1775 Pageviews.   Share Tweet

ยลโฉมไอโฟน 4S แพงที่สุดในโลก มูลค่า 282 ล้าน!!! เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก stuarthughes.com ฮือฮา! ไอโฟน 4S ฝังเพชร เหลื่อมทองคำ แพงที่สุดในโลก รุ่น “iPhone 4S Elite Gold“ วันนี้ (6 ธันวาคม) เว็บไซต์อินเท็กซ์-บีบี รายงานว่า มีไอโฟน 4S ฝังเพชร เหลื่อมทองคำ ออกวางขายให้กับสาวกไอโฟน (มีฐานะ) ได้ครอบครองเป็นเจ้าของแล้ว แต่ไม่ใช้ไอโฟน 4S ธรรมดาที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หากแต่เจ้าเครื่องรุ่น “iPhone 4S Elite Gold“ นี้ทำขึ้นจากเพชรและทองคำ ที่มีมูลค่าสูงถึง 9,400,000 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 282 ล้านบาท) ทำขึ้นโดย สจ๊วร์ท ฮิวจ์ เจ้าของบริษัท Luxury Gadget ชื่อดังในประเทศอังกฤษ โดยที่ไอโฟนเครื่องดังกล่าวนั้นทำขึ้นจากทองคำและเพชร ซึ่งด้านหลังเครื่องนั้นทำด้วยทอง 24 กะรัต และประดับด้วยเพชรสีชมพูอีก 500 กะรัต ทำให้เครื่องรุ่นนี้มีน้ำหนักมากจนถือคุยไม่ไหว และที่เครื่องหมายการค้าของแอ๊ปเปิ้ล ช่วงหน้าอกของโลโก้ทำด้วยทองคำขาว ชิ้นส่วนขัดเงาของกระดูกไดโนเสาร์พันธุ์ "ที-เร็กซ์" ท่ามกลางหินหายาก เช่น โอปอล หินไพท์เตอร์ไซร์ หินชารอยต์ หินรูทิเลทเทด ควอรตซ์ และหินสตาร์ ซันสโตน อีกทั้งยังถูกบรรจุอยู่ในกล่องที่ถูกตกแต่งออกมาอย่างมีสไตลล์เฉพาะตัว ที่สวยงามและสะท้อนให้เห็นถึงของมูลค่ามันอย่างเด่นชัด และได้ชื่อว่าเป็นโทรศัพท์ไอโฟน 4S ที่แพงที่สุดในโลกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะแสนแพงขนาดไหน ก็มีเศรษฐีณีนักธุรกิจชาวออสเตรเลียได้ซื้อมันมาครอบครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   Create Date : 07 ธันวาคม 2554     0 comment Last Update : 7 ธันวาคม 2554 8:15:29 น.     Counter : 1601 Pageviews.   Share Tweet