ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ภาพหลุด Samsung Galaxy S III กล้อง 12 ล้าน



เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก GSM Helpdesk

          หลุดอีกแล้วสำหรับ Samsung Galaxy S III ที่กลับมาเป็นประเด็นร้อนให้แฟน ๆ ได้ฮือฮากันอีกครั้ง เมื่อเว็บไซต์ Gsmhelpdesk จากประเทศเนเธอร์แลนด์ อ้างว่านี่คือภาพอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy S III โค้ดเนม GT-I9300 พร้อมกับเผยข้อมูลสเปคล่าสุดของ Samsung Galaxy S III และนี่ถือเป็นภาพหลุดล่าสุด ซึ่งไม่แน่เราอาจจะได้เห็นโฉมหน้าตัวจริงของ Samsung Galaxy S III เร็ว ๆ นี้ก็ได้


สำหรับสเปคที่หลุดมาพร้อมกับนั้นระบุว่า Samsung Galaxy S III มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  ด้านหน้า 1.3 ล้านพิกเซล ใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED Plus HD ขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล และใช้หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core ความเร็ว 1.5 GHz  แรม 1 GB หน่วยความจำภายใน 32 GB  พร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0, NFC, en Wi-Fi a/b/g/n, MicroUSB 2.0 และ HDMI โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.8 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 125 กรัมและใช้แบตเตอรี่ 1750 mAh


          ข้อมูลยังเปิดเผยต่ออีกว่าซัมซุงอาจจะเปิดตัว Samsung Galaxy S III ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Samsung Galaxy S II ที่ขายดีและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สำหรับกำหนดการเปิดตัวนั้นจะเป็นเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ แต่ยังมีข้อมูลจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ระบุว่าอาจจะเปิดตัวระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคมก็เป็นไปได้ จากข้อมูลทั้งหมดยังยืนยันไม่ได้ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป




 

Create Date : 29 มีนาคม 2555   
Last Update : 29 มีนาคม 2555 8:47:13 น.   
Counter : 1955 Pageviews.  

งานเข้าพ่อค้า แม่ค้าเครื่องหิ้ว (The new iPad) ปล่อยของไม่ทัน

งานเข้าพ่อค้า แม่ค้าเครื่องหิ้ว (The new iPad) ปล่อยของไม่ทัน

หลังจากการเปิดตัว New iPad (iPad 3) ไปเมื่อต้นเดือนนั้น ตอนนี้ของได้ทยอยถึงมือลูกค้าในหลายประเทศแล้ว (ทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็มีเล่นกับเค้าด้วยเช่นกัน)

สำหรับรายงานข่าวอัพเดทล่าสุดของ New iPad (iPad 3) รุ่นใหม่นอกจากข่าวเกี่ยวกับการเจอปัญหาใหม่ล่าสุดเรื่องของเกี่ยวกับ ปัญหาใหม่ New iPad (iPad 3) ชาร์จแบตไม่สุดแม้เลขโชว์เต็ม 100% หากต้องการชาร์จแบตฯให้เต็ม 100% คุณอาจจะต้องชาร์จนานกว่าปกติร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว (แหล่งข่าวยืนยันเช่นนั้น)

วันนี้นั้นทางทีมงาน Macrumors ได้นำข่าวเกี่ยวกับ Apple Store สาขาถนน Fifth Avenue ในกรุงนิวยอร์ค ว่าทางพนักงานได้ตั้งแถวพิเศษขึ้นมาสำหรับรับคืนสินค้า ตามเงื่อนไขที่สามารถนำ New iPad (iPad 3) มาคืนได้ภายในกำหนดระยะเวลา 14 วันหากไม่พอใจในตัวสินค้า

พ่อค้าแม่เค้าเครื่องหิ้วเข้าแถวรอคืน New iPad

แต่ที่น่าสังเกตนั้นคือลูกค้าที่นำสินค้ามาคืนส่วนใหญ่ล้วนเป็นพ่อค้า แม่ค้า เสียเป็นส่วนใหญ่บางรายนั้นนำมาคืนถึง 30 เครื่อง อาจะสืบเนื่องมาจากการปล่อยสินค้าของแอปเปิ้ล มีการจัดระบบส่งสินค้าไปถึงลูกค้าไวขึ้น ทำให้พ่อค้าแม่ค้า เครื่องหิ้วเหล่านี้ปล่อยของออกไม่ทันนั้นเอง...

ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่างบ้านเราก็ไม่ต้องไปหิ้วไกลถึงเมกาเหมือนสมัยก่อน สิงคโปร์, ฮ่องกง สามารถเป็นอีกตัวเลือกได้อย่างดี

พ่อค้าแม่ค้าเครื่องหิ้วบ้านเราว่าไงเอ่ย....ตามกระแสข่าวลือ 9 เมษานี้ค่ายใหญ่ๆ บ้านเราก็เตรียมพร้อมกับการเปิดตัว New iPad (iPad 3) กันแล้วนะ!!

บทความโดย: ทีมงาน Sanook! Hitech




 

Create Date : 27 มีนาคม 2555   
Last Update : 27 มีนาคม 2555 8:14:16 น.   
Counter : 1057 Pageviews.  

หรือ iPhone 5 จะมีหน้าตาแบบนี้...ถูกใจมั๊ยคร้าสาวก Apple!

iPhone 5 - อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite หลังจากที่เมื่อสักครู่นี้ป๋าได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ iPhone 5 (New iPhone) ที่ว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอ Retina Display ขนาด 4.6 นิ้วและเปิดตัวกันในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ล่าสุดป๋าไปพบคอนเซปต์ดีไซน์ iPhone 5 ฝีมือทีมงาน Ciccarese Design เจ้าของผลงาน iPhone 5 รวมร่างกับ Magic Mouse ที่ TechXcite ได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ซึ่งดูไปดูมาแล้วถ้าได้แบบนี้ก็สวยดีไม่หยอกเหมือนกันนะ

โดย iPhone 5 ตามภาพร่างในจินตนาการของ Ciccarese Design นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ยักษ์อลังการดูหนังกันสะใจไปข้างหนึ่ง, ตัวเครื่องที่บางเฉียบพลิกโฉมหน้าสมาร์ตโฟนของ Apple ไปแบบคนละเรื่อง, รองรับคุณสมบัติ 4G LTE เหมือนอย่างใน New iPad, ปุ่ม Home เองก็ถูกปรับลงไปเป็นส่วนหนึ่งใน Dock จอสัมผัสด้านล่าง และที่สำคัญก็คือ iPhone 5 เครื่องนี้ยังจะไม่จำกัดตัวเองอยู่กับการใช้งาน SIM Card แบบเดิมๆแต่ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเครือข่ายจะถูกดาวน์โหลดและเก็บไว้ภายในเครื่องอีกต่างหาก

เรียกได้ว่าพอเห็น iPhone 5 ผลงานของ Ciccarese Design แบบนี้แล้วก็ไม่อยากเจอ iPhone 5 ของจริงจาก Apple ซะแล้ว...กลัวผิดหวังว่าจะเป็น New iPhone ยังไงไม่รู้สิ

ที่มา: redmondpie


ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
บทความโดย: ป๋าเอก TechXcite




 

Create Date : 26 มีนาคม 2555   
Last Update : 26 มีนาคม 2555 7:59:51 น.   
Counter : 1207 Pageviews.  

Hardware Review: The new iPad

Hardware Review: The New iPad(iPad 3)

มีโอกาสได้รับ The New iPad(iPad 3) มาลองใช้อยู่พักใหญ่ๆ จนสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงและอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเอามารีวิวกันให้ดูกันตามปรกติและก็เช่นเคยที่การรีวิว ของเราจะเน้นการใช้งานจริงไม่เน้นสเปกหรือรายละเอียดปลีกย่อย (ที่สามารถหาอ่านจากเว็บ apple.com ได้) เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าว่า The new iPad นั้นจะเจ๋งจริงตามที่ต่างประเทศเค้าเห่อกันรึเปล่า

แรกเริ่มต้องแกะกล่อง

สำหรับตัวกล่องภายนอกของ The New iPad(iPad 3) นั้นก็อย่างที่หลายๆ คนเห็นกันมาแล้วว่าไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมมากนัก จะมีก็แค่รูป iPad ด้านหน้าที่ Wallpaper เป็นสีใหม่แค่นั้น นอกนั้นเหมือนเดิม เรียกว่าถ้าวางกล่องตั้งๆ กันปนกับ iPad 2 นี่แยกกันไม่ออกหากันไม่เจอเลยทีเดียว โดยตัวเครื่องที่นำมารีวิวให้ดูกันนั้นเป็นเครื่องจากสิงคโปรทำให้ได้หัว ปลั๊กแปลกประหลาดมาซึ่งก็ต้องไปหาตัวแปลงหรือหาหัวต่อสำหรับใช้ในไทยกันเอา เอง

หนักขึ้นแบบรู้สึกได้

ใครจะไปคิดว่า iPad 2 ที่ Apple อุตส่าห์ทำให้มีน้ำหนักเบาลงไปกว่า iPad รุ่นแรกเกือบร้อยกรัม จะต้องมาถูกบวกน้ำหนักเพิ่มเข้าไปจนทำให้ The new iPad หนักขึ้นจนผมสามารถรู้สึกได้ทันทีหลังจากถือเป็นครั้งแรก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการที่ผมเป็นคนที่ iPad 2 ต้องผ่านมือตลอดเวลา (ด้วยหน้าที่การงาน) ทำให้คุ้นมือกับน้ำหนักของ iPad 2 ซึ่งพอลองได้ถือ The New iPad(iPad 3) ก็รู้สึกได้เลยจริงๆ ว่ามันหนักขึ้น จากเดิมที่เป็นคนผอมแห้งแรงน้อยอยู่แล้วทำให้ถือ iPad 2 ด้วยมือเดียวก็จะเกร็งๆ หน่อย พอมาเป็น The New iPad(iPad 3) ก็เกร็งหนักขึ้นไปอีกทำให้ผมต้องกลับไปถือเครื่องแบบสองมืออีกครั้งจึงจะทำ อะไรได้ถนัดกว่า

ดังนั้นในเรื่องของน้ำหนักผมสรุปได้เลยว่างานนี้บรรดาผู้หญิงที่ผอมแห้ง แรงน้อย (รวมถึงผู้ชายบางๆ แบบผมด้วย) อาจจะต้องมีเกร็งมือกันหน่อยสำหรับการถือ The New iPad(iPad 3) ในการใช้งานทั่วไป หากจะให้เห็นภาพก็คิดซะว่ากำลังลองเล่น iPad รุ่นแรกอยู่ซึ่งน้ำหนักก็จะประมาณนั้นใกล้ๆ กัน แต่ที่พูดมาทั้งหมดจะมีผลแค่ตอนถือใช้งานจริงเท่านั้น แต่ตอนถือเดินไปมาหรือพกพาใส่กระเป๋านี่แทบไม่รู้สึกถึงความต่างซักเท่าไหร่

iPad ที่ไม่มีใครสนใจ(จะมอง)

การเปิดตัว The New iPad(iPad 3) ด้วยหน้าตาแบบเดิมอาจจะมีข้อดีตรงที่ Apple ไม่ต้องออกแบบใหม่ เพราะของเดิมของสวยอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือเอกลักษณ์ของความโดดเด่นในสินค้าใหม่ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนตอน iPhone 3GS เปลี่ยนไปเป็น iPhone 4 เราจะเห็นว่าบรรดาผู้ที่ครอบครอง iPhone 4 เป็นคนแรกๆ ช่างดูเท่ห์และทันสมัย (อย่างน้อยก็ในความคิดของผมในตอนนั้นน่ะนะ) แต่ช่วงเปิดตัว iPhone 4S เราก็ได้รู้ถึงสถานการณ์ที่ว่าใครๆ ก็มี iPhone 4 และไม่มีใครสนใจว่าคุณจะถือ iPhone 4 หรือ iPhone 4S

การใช้งาน The New iPad(iPad 3) ก็มีส่วนคล้ายกัน คือแทบไม่มีใครรู้ว่าที่ถืออยู่นั้นเป็น The new iPad ถ้าไม่มามองหน้าจอ ดังนั้นทำให้พอคิดไปเองได้ว่าการซื้อ The new iPad มาใช้นั้นไม่น่าจะมีเรื่องของภาพลักษณ์หรือความเท่ห์อะไรทำนองนั้นมาเกี่ยว ข้องด้วยแล้ว ซึ่งคนที่ต้องการจะซื้อก็น่าจะมองที่การใช้งานเป็นหลักมากกว่าว่าคุณต้องการ ใช้จริงๆ มั้ยหรืออยากแค่จะมีใว้ทำเท่ห์? ซึ่งถ้าเป้นอย่างหลังคราวนี้ต้องบอกแล้วว่าไม่เวิร์ค!

หน้าจอ Retina Display ทำให้อึ้งได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

จุดขายที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างของ The New iPad(iPad 3) ก็คือ Retina Display ซึ่งต้องบอกเลยว่าความรู้สึกตอนจับ iPhone 4 ใหม่ๆ ได้กลับมาอีกครั้ง เพราะภาพต่างๆ ที่อยู่บนจอของ The new iPad นั้นชัดจริงอะไรจริงจนผมต้องหาเรื่องเอารูปขนาดใหญ่ๆ ที่มีอยู่บนเครื่อง Mac มา Import ลงไปใน The New iPad(iPad 3) เพื่อชื่นชมความสวยงามของหน้าจอความละเอียดสูงตัวนี้

บรรดาไอคอน App ต่างๆ ก็ดูคมชัดและสวยงามมาก ซึ่งหากเทียบกับ iPad 2 ก็จะได้ออกมาตามภาพข้างต้น หรือแม้แต่พวกภาพ Wallpaper ที่ Apple ให้มาในเครื่องก็เป็นเวอร์ชั่น Retina Display ซึ่งคมกริบกว่าเดิมมาก เรียกว่าแค่เปลี่ยน Wallpaper เล่นก็เพลินแล้ว (ขนาดนั้นแหละ!)

จุดเด่นที่สุดที่ผมรู้สึกได้จากการใช้งาน Retina Display คงหนีไม่พ้นการอ่านพวกตัวหนังสือต่างๆ เพราะแทบจะไม่ต่างกับการเปิดนิตยสารที่เป็นสิ่งพิมพ์จริงๆ ขึ้นมาอ่านเพราะตัวหนังสือคมชัดมาก ซึ่งทำให้พวกเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการอัดตัวหนังสือเข้าไปเยอะๆ (เช่น sanook.com) อ่านง่ายขึ้นอีกเยอะมาก แต่การที่เป็น Retina Display ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าภาพประกอบต่างๆ บนเว็บดูแตกและไม่ละเอียดทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเป็นที่ตัวหนังสือมันชัดเกินไปซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นเว็บไซต์ทั่วไปคิดว่า ยังไงก็คงหนีปัญหานี้ไม่พ้นแน่ๆ ซึ่งก็ต้องอาศัยความเคยชินกันหน่อย

สังเกตว่า Text (สีขาวพื้นดำจะคม) แต่ภาพด้านบนและด้านล่างจะแตก ที่ขนาดจริง 100%

เครื่องร้อนกว่าปรกติแบบน่าเป็นห่วง

ตั้งแต่ใช้ iPad 2 มาผมแทบจะไม่ค่อยเจอกับอาการเครื่องร้อนซักเท่าไหร่ แต่ใน The New iPad(iPad 3) ต้องบอกเลยว่าร้อนผิดธรรมชาติไปหน่อย ซึ่งๆ หลักๆ ก็น่าจะเป็นผลมาจากชิปกราฟิกที่โหดกว่าปรกติ และส่วนหนึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเพราะแบตเตอรี่แบบใหม่ที่หนาแน่นกว่าปรกติทำให้ อาจจะทำให้ร้อนง่ายกว่าเดิม ซึ่งดูแล้วก็น่าห่วงเหมือนกันเพราะด้วยตัวเครื่องที่เป็นอลูมิเนียมทำให้ สัมผัสความร้อนได้ง่ายกว่าปรกติ ใช้ๆ ไปแล้วจะแอบกังวลเล็กๆ

กล้องหลังอย่างเทพกล้องหน้าหลอกตา

การเปิดกล้องถ่ายรูปด้านหลังของ iPad ขึ้นมาลองถ่ายรูปเป็นครั้งแรกของผมในร้านกาแฟทำให้อึ้งไปได้พักใหญ่ๆ เพราะด้วยความที่หน้าจอนั้นคมชัดมาก ประกอบกับกล้องด้านหลังที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทำให้ภาพที่ได้จากกล้องหลังนั้นสวยสุดๆ ยิ่งตอนยกเครื่องขึ้นมาเล็งตามมุมต่างๆ ภาพบนจอจะใสมากราวกับว่ามองผ่านกระจกใสกันเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้นับว่า The New iPad(iPad 3) แก้ตัวเรื่องกล้องด้านหลังได้แล้วในระดับหนึ่ง

ภาพตัวอย่างจากกล้องหลังของ The new iPad, ย่อขนาดอย่างเดียวไม่ได้แต่งเพิ่ม

ภาพตัวอย่างจากกล้องหลังของ The new iPad, ย่อขนาดอย่างเดียวไม่ได้แต่งเพิ่ม

อย่างไรก็ตามกล้องด้านหลังของ The New iPad(iPad 3) กลับดูไม่ค่อยเวิร์คในสภาพที่มีแสงน้อย ซึ่งรวมๆ แล้วคุณภาพยังไม่ถึงกับ iPhone 4S โดยเวลาถ่ายด้วย The new iPad ในที่มือดๆ เราจะเห็น Noise และคุณภาพของภาพก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหน้าจอที่เก็บรายละเอียดได้ครบมากด้วย ดังนั้นก็อยากจะแนะนำให้ใช้โหมดถ่ายรูปในที่ที่แสงเพียงพอเท่านั้น

สำหรับกล้องหน้า ที่บอกว่าหลอกตานั้นก็เพราะว่าความละเอียดของกล้องหน้าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่จอนั้นดูคมชัดและสีสันสวยงามมากทำให้เวลาถ่ายรูปตัวเองด้วย กล้องหน้าจะดูเนียนๆ หน่อย แต่เอาเข้าจริงๆ ตอนเอารูปลงเครื่องมาใช้ก็ดูไม่จืดเหมือนกัน (ส่วนนึงเพราะหน้าตัวเองด้วยอ่ะนะ :p)

วิดีโอดีจริง แต่ยังไม่สุด

การใช้ iPad ถ่ายวิดีโอสำหรับผมนั้นถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะเวิร์คเท่าไหร่ ทั้งท่าทางในการถือและน้ำหนักเครื่องที่มากพอสมควรทำให้ควบคุมคุณภาพได้ยาก มาก ดังนั้นสำหรับการถ่ายวิดีโอบน iPad สำหรับผมถือว่าเป็นส่วนเสริมที่มีใว้ให้ครบๆ เท่านั้น ซึ่งความสามารถในการถ่าย Full HD ที่มีมาให้ก็ถือว่าโอเคและใช้งานชั่วคราวได้ดี แต่ระยะยาวๆ ยังคิดว่าใช้ iPhone ถ่ายน่าจะสะดวกกว่าเยอะ

สำหรับคุณภาพวิดีโอต้องบอกว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว แต่ระบบกันสั่นเอาเข้าจริงๆ ก็ง่อยเหมือนกันเพราะในสถานการณ์ที่เราต้องเดินถ่ายวิดีโอตัวไฟล์ที่ได้ก็ ยังดูกระตุกแบบเห็นได้ชัดอยู่พอสมควร ซึ่งกล้องวิีดโอระดับสูงๆ ทำได้ดีกว่านี้แน่นอน แต่ก็ถือว่ายังดีที่มีมาให้และคุณภาพพัฒนาขึ้นมาจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

iPad ในฝันสำหรับคอเกม

บน: iPad 2, ล่าง: The new iPad

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ใน The New iPad(iPad 3) น่าจะเป็นเรื่องของการเล่นเกม เพราะด้วยหน้าจอ Retina Display ที่สวยบาดจิต เมื่อนำมาประกอบร่างกับ Engine เกมโหดๆ อย่าง Unreal Engine ทำให้ภาพของเกมออกมาสวยเวอร์เทียบชั้นเครื่องเกม Console ได้สบายๆ ตรงนี้แนะนำเลยสำหรับนักเล่นเกมทั้งหลายว่า The New iPad(iPad 3) เป็นอุปกรณ์ที่คุณควรจะได้ลองเล่นและลองสัมผัสด้วยตัวเอง (ในการเล่นเกม) แล้วคุณจะติดใจในคุณภาพของกราฟิกได้ง่ายๆ

อื่นๆ เกี่ยวกับ The new iPad

- The New iPad(iPad 3) มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นมาก แต่ดูเหมือนว่าการใช้งานทั่วไปแบตจะลดฮวบๆ ไปเหมือนกัน ซึ่งดูแล้วน่าจะลดเร็วกว่า iPad 2 หน่อยๆ แต่ก็ไม่มากแบบชัดเจน

- แน่นอนว่าเมื่อแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น การชาร์จก็ต้องนานขึ้นด้วย ซึ่ง iPad นั้นปรกติชาร์จนานสุดๆ อยู่แล้ว ดังนั้นบอกได้เลยว่าอย่าคาดหวังว่า The new iPad จะชาร์จเร็ว เพราะเท่าที่ลองชาร์จด้วยไฟบ้านก็ยังค่อยๆ กระดิก ประมาณว่าช้ากว่า iPad 2 อยู่พอสมควร ดังนั้นแนะนำว่าเสียบชาร์จข้ามคืนไปเลยจะดีกว่า

- App บางตัวบน iPad เริ่มทยอยเป็น Retina Display แล้ว เช่น Twitter ที่สวยงามคมชัดมาก ขณะที่ Facebook ยังไม่ได้เปลี่ยนจึงดูเบลอในส่วนที่เป็นรูปภาพ

- App พวก Digital Magazine เช่น Mars, GM พวกนี้ตัวหนังสือจะถูก Layout ขึ้นมาเองในตัว App ทำให้ยังเบลออยู่ใน Retina Display ซึ่งดูแปลกตาพอสมควร คาดว่าคงต้องรอเวอร์ชั่นใหม่ที่ Layout มาใหม่สำหรับ Retina Display โดยเฉพาะ

- ความอิ่มตัวของสีในจอ The New iPad(iPad 3) ที่ Apple บอกว่ามีมากขึ้น เท่าที่ดูยังแยกไม่ค่อยออกว่าต่างจาก iPad 2 มากน้อยแค่ไหนเพราะรู้กันว่า iPad แต่ละเครื่องโทนสีของจอเหมือนกันบ้างไม่เหมือนบ้างอยู่แล้ว ดังนั้นก็พูดยากว่าสีอิ่มตัวมากขึ้นอย่างที่โม้ใว้จริงหรือเปล่า (ซึ่งเอาจริงๆ ก็คงไม่ได้เป็นประเด็นอะไรมาก)

คลิกที่ภาพเพื่อดู Screenshot ขนาดจริง

สรุป! The new iPad ซักเครื่องดีไหม?

เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ผมอยากจะบอกว่าสินค้าของ Apple ตัวนี้ น่าซื้อและน่าสนใจที่สุดในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าความเปลี่ยนแปลงอาจจะดูน้อยนิด แต่ก็เป็นอะไรที่ทำให้ความรู้สึกในการใช้งานเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือหน้าจอ Retina Display ที่สวยงามบาดจิตบาดตาทุกคนที่เห็น ทำให้เราจะเกิดอารมณ์ที่ว่าอยากจะลองนั่น ลองโน่น ลองนี่ ทั้งๆ ที่เป็น App เดิมๆ ภาพเดิมๆ แต่เราก็จะพยายามหามาเล่น หามาลองดูว่ามันจะสวยขึ้นแค่ไหน ซึ่งความตื่นเต้นแบบนี้แหละที่เป็นเอกลักษณ์ของ Apple ที่ไม่ว่าแบรนด์ไหนๆ ก็เลียนแบบได้ยาก

เอาเป็นว่า The New iPad(iPad 3) นั้นดีจริง น่าใช้จริง สำหรับคนที่มี iPad 2 แล้วยังคิดว่าไม่ดีพอ คุณสามารถมองหา The New iPad(iPad 3) ได้เลยอย่างไม่ต้องลังเล แต่สำหรับคนที่คิดว่าเรื่องของอารมณ์ในการใช้งานยังไม่สำคัญเท่าเหตุผล ก็ถือว่ายังไม่จำเป็นในการซื้อมาใช้เท่าไหร่ เพียงแต่อยากแนะนำให้อยู่ห่างๆ The New iPad(iPad 3) เข้าใว้ เพราะถ้าคุณเผลอไปเห็นหน้าจอของมันเมื่อไหร่…คุณอาจจะเสียเงินไปโดยไม่รู้ ตัว




 

Create Date : 25 มีนาคม 2555   
Last Update : 25 มีนาคม 2555 9:39:46 น.   
Counter : 2156 Pageviews.  

Apple เริ่มทดสอบ iPhone 5 รองรับ 4G LTE พร้อมเปิดตัวกันยายนนี้!

iPhone 5 - อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite ขอพักเรื่องราวของ New iPad ที่มีข่าวว่าจะมาเปิดตัวในเมืองไทยในวันที่ 9 เมษายน 2555 นี้เอาไว้ก่อนแล้วมาติดตามอัพเดทอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สาวก Apple ทั้งหลายรอคอยกันอยู่นั่นก็คือ iPhone 5 (หรือ New iPhone ก็ยังไม่รู้เลย) ที่ล่าสุดตกเป็นข่าวว่าในเวลานี้ Apple ได้เริ่มเจรจาต้าอวยกับผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับ iPhone 5 ในเวลานี้กันแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการยืนยันมาแล้วว่า iPhone 5 จะมาพร้อมกับความสามารถในการรองรับเครือข่ายความเร็วสูง 4G LTE เช่นเดียวกับ New iPad อย่างแน่นอน

โดยสำนักงานลงทุน Barclays รายงานข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า Apple ได้ติดต่อไปยังบริษัท Qualcomm เพื่อขอสิทธิ์ใช้งานชิปเซ็ต Qualcomm MDM9615 ใน iPhone 5ซึ่งสามารถรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลและเสียงผ่านเครือข่าย 4G LTE ได้นั่นเอง ซึ่งชิปเซ็ตจาก Qualcomm ตัวนี้จะต่างจากรุ่น MDM9600 ที่มีอยู่ใน New iPad และสามารถใช้รับส่งข้อมูลได้แต่เพียงอย่างเดียว (โทรศัพท์เข้า-ออกไม่ได้) ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นใน iPhone 5 เองก็จะยังคงรักษาคุณสมบัติความเป็น world phone ที่สามารถใช้งานร่วมกับเครือข่าย 4G LTE ได้ในหลากหลายย่านความถี่ไม่ต่างจากใน iPhone 4S อีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว Barclays ยังได้ระบุมาด้วยว่า iPhone 5 (New iPhone) จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดย Apple ในช่วงประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคมของปีนี้ซึ่งถือได้ว่าครบรอบ 1 ปีเศษๆหลังงานเปิดตัว iPhone 4S เมื่อปีกลายแบบพอดิบพอดีอีกต่างหาก

ที่มา: appleinsider

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
บทความโดย: ป๋าเอก TechXcite




 

Create Date : 24 มีนาคม 2555   
Last Update : 24 มีนาคม 2555 8:33:17 น.   
Counter : 1080 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]