ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

CordLite สายชาร์จ iPhone. iPad และ iPod สำหรับที่มืด




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Kickstarter

          เผยไอเดียสุดเจ๋งจากเว็บไซต์ Kickstarter.com เว็บไซต์ที่ทำหน้าที่ระดมทุนให้กับศิลปินหรือคนที่มีไอเดียเจ๋ง ๆ เพื่อทำโครงการต่างๆ ล่าสุดมีโครงการใหม่สำหรับผู้ใช้ iPhone, iPad และ iPod ที่ชอบเสียบสายชาร์จในที่มืด บางครั้งการทำแบบนี้อาจส่งผลต่อสายชาร์จเข้ากับอุปกรณ์เหล่านี้ให้เกิดความเสียหายได้ เพราะนอกจากต้องใช้ความแม่นยำแล้วจะต้องรู้อีกว่าเสียบสายชาร์จถูกด้านหรือไม่ จึงได้เกิดโครงการผลิตสายชาร์จ iPhone, iPad และ iPod (Dock Connector) แบบติดหลอดไฟ LED เพื่อให้การเสียบชาร์จในที่มืดกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ กับสายชาร์จที่มีชื่อว่า "CordLite"




CordLite

โดยสายชาร์จ (Dock Connector) อันนี้ไม่ต่างกับสายชาร์จ iPhone, iPad และ iPod ทั่วไปของแอปเปิล เพียงแต่สายชาร์จตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าของทางแอปเปิลเล็กน้อยและเพิ่มความพิเศษด้วยไฟ LED ที่ฝังอยู่ส่วนหัวของสายชาร์จ เพียงแค่สัมผัสตรงหัวของสายชาร์จไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่ก็จะให้แสงสว่าง ทำให้การเสียบสายชาร์จเชื่อมต่อกับ iPhone, iPad และ iPod ได้ถูกต้องและแม่นยำ สำหรับโครงการนี้จะระดมทุนผ่านเว็บไซต์ KickStarter ใช้ทุนทั้งหมด 70,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 2 ล้านกว่าบาท ตอนนี้ยังเป็นเพียงต้นแบบ (Prototype) เท่านั้น ถ้าการระดมทุนบรรลุเป้าหมายและทุกอย่างเป็นไปตามคาด ผู้ที่สนใจจะสามารถหาซื้อสายชาร์จ CodeLite ได้ในเดือนกันยายนปี 2555 นี้ ด้วยราคา 35 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 1,100 บาทต่อเส้น มีให้เลือกทั้งสายสีขาวและสีดำ

          นอกจากนี้หากโครงการสายชาร์จ CordLite สำหรับที่มืดอันนี้ประสบผลสำเร็จ ทางผู้ผลิตก็มีแผนที่จะทำสายชาร์จแบบสาย microUSB อีกด้วย เพื่อให้รองรับอุปกรณ์อื่น ๆ หรือสมาร์ทโฟนที่ใช้สายแบบ microUSB เช่น BlackBerry,  Android และ Windows Phones ถ้าพร้อมแล้วมาชมภาพตัวอย่างและคลิปวิดีโอแนะนำสายชาร์จสำหรับที่มืดอันนี้กัน




CordLite



CordLite



CordLite




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2555   
Last Update : 28 พฤษภาคม 2555 8:16:44 น.   
Counter : 2235 Pageviews.  

OPPO Find my Guitar แอนดรอยด์โฟน 2 ซิม


OPPO Find my Guitar

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก oppothai

          ออปโป้ตอกย้ำความแรงหลังจากส่ง OPPO Find 3 ลงบุกตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เป็นครั้งแรกและได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีเลยทีเดียว และล่าสุดทางออปโป้เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สองซิมรุ่นใหม่ พร้อมด้วยราคาเบา ๆ กับ OPPO Find my Guitar (R8015) ซึ่งเป็นแอนดรอยด์โฟนตัวที่สองของค่ายออปโป้ ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นมาติดตามกันเลย


OPPO Find my Guitar มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.6 Gingerbread, ซีพียูความเร็ว 1GHz, แรม 512MB, หน่วยความจำภายใน 4GB, ใช้หน้าจอขนาด 3.5 นิ้วความละเอียด HVGA พร้อมกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม Autofocus และ LED Flash กล้องด้านหน้าแบบ VGA ส่วนการเชื่อมต่อรองรับเครือข่าย 3G ความถี่ 850/900/2100 MHz และระบบซิมการ์ดแบบ Dual Sim ใช้งานได้ 2 ซิม โดยช่องใส่ซิมช่องแรกจะรองรับ 3G ส่วนด้านมัลติมีเดียใช้ระบบเสียง Dirac HD Sound และมีความจุแบตเตอรี่ 1400 mAh


สำหรับกำหนดวางจำหน่าย OPPO Find my Guitar จะเริ่มวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2555 ราคาอยู่ที่ 6,990 บาท ถือว่าราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับสเปคและฟังก์ชันการใช้งานเรียกได้ว่าคุ้มค่าทำให้ OPPO Find my Guitar เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบใช้งานสมาร์ทโฟนแบบ 2 ซิม แถมยังรองรับ 3G ทุกค่ายในประเทศไทยอีกด้วย




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2555   
Last Update : 27 พฤษภาคม 2555 10:36:00 น.   
Counter : 2698 Pageviews.  

ทดสอบความแข็งแรงของหน้าจอ Nokia Lumia 900 ด้วยการนำไปตอกตะปูแทนค้อน

ทดสอบความแข็งแรงของหน้าจอ Nokia Lumia 900 ด้วยการนำไปตอกตะปูแทนค้อน

Nokia Lumia 900 - นับว่า เป็นเรื่องปกติไปแล้ว กับการทดสอบความแข็งแรงของสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการโยนลงจากที่สูง หรือนำไปปั่นในเครื่องซักผ้า แต่การทดสอบล่าสุดนี้ ถือว่า เป็นการทดสอบที่ค่อนข้างแปลกเล็กน้อย โดยนำเอา Nokia Lumia 900 ไปตอกตะปูแทนค้อน เพื่อทำการทดสอบว่า หน้าจอ Gorilla Glass นั้น แข็งแรงสมคำร่ำลือหรือไม่

โดยผู้ที่ทำการทดสอบนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น 2 วิศวกรที่มีชื่อว่า Mike Myers และ Chris Ruble จากทางโนเกีย (Nokia) นั่นเอง ซึ่งทั้งคู่ ได้ทำการทดสอบ 2 ระดับด้วยกัน ขั้นแรกคือ ตอกตะปูลงไปบนหน้าจอของ Nokia Lumia 900 และขั้นที่สอง ก็คือ ใช้ส่วนของหน้าจอ ตอกตะปูลงไปบนไม้ ซึ่งหลังทำการทดสอบแล้ว พบว่า Nokia Lumia 900 ยังสามารถใช้งานได้ปกติ ลองมาดูวิธีการทดสอบความแข็งแรงของหน้าจอ Nokia Lumia 900 ได้จากคลิปวิดีโอด้านล่างครับ




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2555   
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 11:16:57 น.   
Counter : 2326 Pageviews.  

โปรโมชั่น Samsung Galaxy S3 จาก 3 ค่ายมือถือ

Samsung GALAXY S3

Samsung GALAXY S3 


Samsung GALAXY S3

Samsung GALAXY S3


Samsung GALAXY S3

Samsung GALAXY S3


  เปิดตัวไปแล้วสำหรับ Samsung Galaxy S3 สมาร์ทโฟนแอนดรอย 4.0 ตัวแรกของซัมซุง ซึ่งค่ายมือถือต่าง ๆ ก็ทยอยปล่อยโปรโมชั่นออกมาให้ได้เห็นกันแล้ว ส่วนแต่ละค่ายจะมีทีเด็ดอะไรบ้างนั้น ต้องไปดูกันเลย...



 โปรโมชั่น Samsung Galaxy S3 จาก 3 ค่ายมือถือ


Samsung Galaxy S3 จากค่าย True Move H

  เริ่มเปิดให้จอง Samsung Galaxy S3 ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งโปรโมชั่นในการจอง Samsung Galaxy S3 ของทรูมูฟ จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น  Micro SD Card16GB, ฟิล์มกันรอยรุ่นพิเศษ, ที่ชาร์จในรถยนต์, ดูทีวีคุณภาพระดับ HD บนมือถือด้วยเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนท์จากทรูวิชั่นส์และช่องสาระบันเทิงอื่น ๆ สูงสุด 91 ช่องผ่าน H TV นาน 1 ปี มูลค่ากว่า 4,700 บาท รวมไปถึง สิทธิ์ลุ้นรับแพ็คเกจทัวร์พร้อมชมคอนเสิร์ตมาดอนนาที่ฝรั่งเศส 6 วัน 3 คืน มูลค่ากว่า 200,000 บาท

สำหรับ Samsung Galaxy S3 จาก True Move H ราคา 21,900 บาท มัดจำ 3,120 บาท และจะได้แพ็คเกจ Smart 899 นาน 12 เดือน พร้อมทั้งรับสิทธิ์ใช้ฟรี 6 เดือน อีกทั้งยังสามารถผ่อน 0% ได้สูงสุดนาน 18 เดือน ผ่านบัตร First Choice และรับเงินคืน 3-5% อีกด้วย

เปิดจอง : 23-31 พฤษภาคม 2555

วันรับเครื่อง : 2 มิถุนายน 2555

ช่องทางการจอง : www.truemove-h.com, www.weloveshopping.com

ราคา : 21,900 บาท (มัดจำ 3,120 บาท)

สิทธิพิเศษ :

- Micro SD Card16GB

- ฟิล์มกันรอยรุ่นพิเศษ

- ที่ชาร์จในรถยนต์

-  ดูทีวี HD บนมือถือ สูงสุด 91 ช่องผ่าน H TV นาน 1 ปี มูลค่ากว่า 4,700 บาท

- ลุ้นรับแพ็คเกจทัวร์พร้อมชมคอนเสิร์ต มาดอนนา ที่ฝรั่งเศส 6 วัน 3 คืน มูลค่ากว่า 200,000 บาท

- ผ่อน 0% ได้สูงสุดนาน 18 เดือน ผ่านบัตร First Choice และรับเงินคืน 3-5%

แพ็คเกจ : Smart 899 (โทร 500 นาที, SMS 300 ครั้ง, MMS 50 ครั้ง, 3G+ EDGE GPRS WIFI ไม่จำกัด) นาน 12 เดือน พร้อมทั้งรับสิทธิ์ใช้ฟรี 6 เดือน


โปรโมชั่น Samsung Galaxy S3 จาก 3 ค่ายมือถือ


Samsung Galaxy S3 จากค่าย DTAC

 ตามมาติด ๆ ด้วยการเปิดให้จองออนไลน์ ในวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พร้อมทั้งรับฟรี Micro SD Card16GB สำหรับลูกค้าที่จองเครื่อง 2,000 ท่านแรก

Samsung Galaxy S3 จาก DTAC ราคา 21,900 บาท พร้อมรับแพ็คเกจ “Galaxy S III Super Deal” เดือนละ 499 บาท โทรฟรีทุกเครือข่าย 550 นาที และเล่นเน็ตได้ไม่จำกัด รวมทั้ง Dtac WiFi ไม่จำกัดนาน 6 เดือนอีกด้วย

เปิดจอง : 24 พฤษภาคม 2555 15.00 น. เป็นต้นไป

วันรับเครื่อง : 2 มิถุนายน 2555

ช่องทางการจอง : www.dtac.co.th/samsung/galaxyIII

ราคา : 21,900 บาท

สิทธิพิเศษ :

- Micro SD Card16GB สำหรับ 2,000 ท่านแรก

- ลุ้นแพ็คเกจท่องเกาหลี ตามรอย Galaxy S III 10 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง

แพ็คเกจ : Galaxy S III Super Deal 499 บาท (โทร 550 นาที, เล่นเน็ตได้ไม่จำกัด, DTAC WIFI ไม่จำกัด นาน 6 เดือน)


โปรโมชั่น Samsung Galaxy S3 จาก 3 ค่ายมือถือ


Samsung Galaxy S3 จากค่าย AIS

เปิดให้จองแล้วเช่นกัน ในวันที่ 23-29 พฤษภาคม โดยมีข้อเสนอพิเศษมอบผ่านแอพลิเคชั่น AIS Book Store ฟรี E-Magazine 10 เล่ม, E-Newspaper 6 ฉบับ นาน 1 เดือน รวมมูลค่า 23,000 บาท

ราคา 21,900 บาท พร้อมรับแพ็คเกจ iSmart 399 บาท รวมทั้งสามารถผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน
เปิดจอง : 23-31 พฤษภาคม 2555

วันรับเครื่อง : 2 มิถุนายน 2555

ช่องทางการจอง : AIS Online Shopping

ราคา : 21,900 บาท

สิทธิพิเศษ :

- ฟรี E-Magazine 10 เล่ม, E-Newspaper 6 ฉบับ นาน 1 เดือน รวมมูลค่า 23,000 บาท

- ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
แพ็คเกจ : iSmart 399 บาท (โทร 200 นาที, 3G EDGE GPRS ได้ไม่จำกัด)




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2555   
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 13:43:59 น.   
Counter : 3745 Pageviews.  

มินิรีวิว: The new iPad สำผัสความก้าวหน้าแห่งอนาคต

มินิรีวิว: The new iPad สำผัสความก้าวหน้าแห่งอนาคต

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปแล้วสำหรับ The new iPad (iPad 3) ล่าสุดนั้นทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ The new iPad (iPad 3) มาลองเล่นกับเค้าแล้วเหมือนกัน  The new iPad (iPad 3) สมกับเป็น TABLET ที่ใครหลายคนกำลังเฝ้ารอจริงๆ ด้วยขนาดหน้าจอสัผผัสที่ใหญ่ถึง 9.7 นิ้วและมีความละเอียดมาถึง 2048*1536 พิกเซล

มาเริ่มทำการรีวิว กันเลยดีกว่าครับ สำหรับตัวกล่องภายนอกของ The new iPad นั้นถ้าไม่สังเกตุดีๆ แล้วแทบแยกไม่ออกเลยระหว่าง iPad 2 กับ The new iPad  ส่วนอุปกรณ์ที่ให้มาข้างในนั้นก็เหมือนกับรุ่นก่อนๆ ไม่มีอะไรมากมาย

Hardware Review: The New iPad(iPad 3)

มีโอกาสได้รับ The New iPad(iPad 3) มาลองใช้อยู่พักใหญ่ๆ จนสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงและอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเอามารีวิวกันให้ดูกันตามปรกติและก็เช่นเคยที่การรีวิว ของเราจะเน้นการใช้งานจริงไม่เน้นสเปกหรือรายละเอียดปลีกย่อย (ที่สามารถหาอ่านจากเว็บ apple.com ได้) เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าว่า The new iPad นั้นจะเจ๋งจริงตามที่ต่างประเทศเค้าเห่อกันรึเปล่า

แรกเริ่มต้องแกะกล่อง

สำหรับตัวกล่องภายนอกของ The New iPad(iPad 3) นั้นก็อย่างที่หลายๆ คนเห็นกันมาแล้วว่าไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมมากนัก จะมีก็แค่รูป iPad ด้านหน้าที่ Wallpaper เป็นสีใหม่แค่นั้น นอกนั้นเหมือนเดิม เรียกว่าถ้าวางกล่องตั้งๆ กันปนกับ iPad 2 นี่แยกกันไม่ออกหากันไม่เจอเลยทีเดียว โดยตัวเครื่องที่นำมารีวิวให้ดูกันนั้นเป็นเครื่องจากสิงคโปรทำให้ได้หัว ปลั๊กแปลกประหลาดมาซึ่งก็ต้องไปหาตัวแปลงหรือหาหัวต่อสำหรับใช้ในไทยกันเอา เอง

หนักขึ้นแบบรู้สึกได้

ใครจะไปคิดว่า iPad 2 ที่ Apple อุตส่าห์ทำให้มีน้ำหนักเบาลงไปกว่า iPad รุ่นแรกเกือบร้อยกรัม จะต้องมาถูกบวกน้ำหนักเพิ่มเข้าไปจนทำให้ The new iPad หนักขึ้นจนผมสามารถรู้สึกได้ทันทีหลังจากถือเป็นครั้งแรก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการที่ผมเป็นคนที่ iPad 2 ต้องผ่านมือตลอดเวลา (ด้วยหน้าที่การงาน) ทำให้คุ้นมือกับน้ำหนักของ iPad 2 ซึ่งพอลองได้ถือ The New iPad(iPad 3) ก็รู้สึกได้เลยจริงๆ ว่ามันหนักขึ้น จากเดิมที่เป็นคนผอมแห้งแรงน้อยอยู่แล้วทำให้ถือ iPad 2 ด้วยมือเดียวก็จะเกร็งๆ หน่อย พอมาเป็น The New iPad(iPad 3) ก็เกร็งหนักขึ้นไปอีกทำให้ผมต้องกลับไปถือเครื่องแบบสองมืออีกครั้งจึงจะทำ อะไรได้ถนัดกว่า

ดังนั้นในเรื่องของน้ำหนักผมสรุปได้เลยว่างานนี้บรรดาผู้หญิงที่ผอมแห้ง แรงน้อย (รวมถึงผู้ชายบางๆ แบบผมด้วย) อาจจะต้องมีเกร็งมือกันหน่อยสำหรับการถือ The New iPad(iPad 3) ในการใช้งานทั่วไป หากจะให้เห็นภาพก็คิดซะว่ากำลังลองเล่น iPad รุ่นแรกอยู่ซึ่งน้ำหนักก็จะประมาณนั้นใกล้ๆ กัน แต่ที่พูดมาทั้งหมดจะมีผลแค่ตอนถือใช้งานจริงเท่านั้น แต่ตอนถือเดินไปมาหรือพกพาใส่กระเป๋านี่แทบไม่รู้สึกถึงความต่างซักเท่าไหร่

iPad ที่ไม่มีใครสนใจ(จะมอง)

การเปิดตัว The New iPad(iPad 3) ด้วยหน้าตาแบบเดิมอาจจะมีข้อดีตรงที่ Apple ไม่ต้องออกแบบใหม่ เพราะของเดิมของสวยอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือเอกลักษณ์ของความโดดเด่นในสินค้าใหม่ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนตอน iPhone 3GS เปลี่ยนไปเป็น iPhone 4 เราจะเห็นว่าบรรดาผู้ที่ครอบครอง iPhone 4 เป็นคนแรกๆ ช่างดูเท่ห์และทันสมัย (อย่างน้อยก็ในความคิดของผมในตอนนั้นน่ะนะ) แต่ช่วงเปิดตัว iPhone 4S เราก็ได้รู้ถึงสถานการณ์ที่ว่าใครๆ ก็มี iPhone 4 และไม่มีใครสนใจว่าคุณจะถือ iPhone 4 หรือ iPhone 4S

การใช้งาน The New iPad(iPad 3) ก็มีส่วนคล้ายกัน คือแทบไม่มีใครรู้ว่าที่ถืออยู่นั้นเป็น The new iPad ถ้าไม่มามองหน้าจอ ดังนั้นทำให้พอคิดไปเองได้ว่าการซื้อ The new iPad มาใช้นั้นไม่น่าจะมีเรื่องของภาพลักษณ์หรือความเท่ห์อะไรทำนองนั้นมาเกี่ยว ข้องด้วยแล้ว ซึ่งคนที่ต้องการจะซื้อก็น่าจะมองที่การใช้งานเป็นหลักมากกว่าว่าคุณต้องการ ใช้จริงๆ มั้ยหรืออยากแค่จะมีใว้ทำเท่ห์? ซึ่งถ้าเป้นอย่างหลังคราวนี้ต้องบอกแล้วว่าไม่เวิร์ค!

หน้าจอ Retina Display ทำให้อึ้งได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

จุดขายที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างของ The New iPad(iPad 3) ก็คือ Retina Display ซึ่งต้องบอกเลยว่าความรู้สึกตอนจับ iPhone 4 ใหม่ๆ ได้กลับมาอีกครั้ง เพราะภาพต่างๆ ที่อยู่บนจอของ The new iPad นั้นชัดจริงอะไรจริงจนผมต้องหาเรื่องเอารูปขนาดใหญ่ๆ ที่มีอยู่บนเครื่อง Mac มา Import ลงไปใน The New iPad(iPad 3) เพื่อชื่นชมความสวยงามของหน้าจอความละเอียดสูงตัวนี้

บรรดาไอคอน App ต่างๆ ก็ดูคมชัดและสวยงามมาก ซึ่งหากเทียบกับ iPad 2 ก็จะได้ออกมาตามภาพข้างต้น หรือแม้แต่พวกภาพ Wallpaper ที่ Apple ให้มาในเครื่องก็เป็นเวอร์ชั่น Retina Display ซึ่งคมกริบกว่าเดิมมาก เรียกว่าแค่เปลี่ยน Wallpaper เล่นก็เพลินแล้ว (ขนาดนั้นแหละ!)

จุดเด่นที่สุดที่ผมรู้สึกได้จากการใช้งาน Retina Display คงหนีไม่พ้นการอ่านพวกตัวหนังสือต่างๆ เพราะแทบจะไม่ต่างกับการเปิดนิตยสารที่เป็นสิ่งพิมพ์จริงๆ ขึ้นมาอ่านเพราะตัวหนังสือคมชัดมาก ซึ่งทำให้พวกเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการอัดตัวหนังสือเข้าไปเยอะๆ (เช่น sanook.com) อ่านง่ายขึ้นอีกเยอะมาก แต่การที่เป็น Retina Display ก็จะทำให้เรารู้สึกว่าภาพประกอบต่างๆ บนเว็บดูแตกและไม่ละเอียดทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเป็นที่ตัวหนังสือมันชัดเกินไปซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นเว็บไซต์ทั่วไปคิดว่า ยังไงก็คงหนีปัญหานี้ไม่พ้นแน่ๆ ซึ่งก็ต้องอาศัยความเคยชินกันหน่อย

สังเกตว่า Text (สีขาวพื้นดำจะคม) แต่ภาพด้านบนและด้านล่างจะแตก ที่ขนาดจริง 100%

ใครสนใจอ่านรีวิวฉับบเต็มสามารถอ่านได้ที่: Hardware Review: The new iPad

และที่ดีที่สุดนั้นคือ The new iPad มี Application รองรับพร้อมทั้งยังมีแอพพลิเคชั่นอื่นๆให้ดาวน์โหลดกันอีกเพียบ ทุกเครือข่ายในเมืองไทย  เอาเป็นว่าค่ายแรกที่เราจะนำมาแนะนำกันขอเป็น Application  จากค่ายทรูกันดีกว่า ไม่ว่าจะเป็น True iService, My Life, GURU HD, Thailand Journey, Thai Baby Name, Math Journey  และอื่นๆอีกมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อ The new iPad ได้ที่ร้านทรูช็อปทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com

//hitech.sanook.com/950526/




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2555   
Last Update : 23 พฤษภาคม 2555 10:48:58 น.   
Counter : 2632 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]