Group Blog
 
All Blogs
 
ดักฟังนักเรียนป้อมอัศวินคุยกัน#4 : เมื่อซาตานแห่งป้อมอัศวินเป็นหวัด.....((นอกแผน))

หมายเหตุ : เขียนออกมาจนตอนกลับมาแก้อีกรอบเป็นช่วง"ไข้หวัดนก"ระบาดพอดีเลยอ่า เหอเหอเหอ อะไรมันจะเหมาะเหม็งขนาดนี้ฟร่ะ (แล้วดีตรงไหนเนี้ย??)
ตอนนี้ที่จริงแต่งเสร็จเร็วแหละ ....แต่ตอนแรกกะจะเอามาลงพร้อมตอนที่ 5 เพื่อความต่อเนื่อง.....ไปๆมาๆตอน 5 มันก็ยังไม่ยอมคลอดซะที ก็เลยเอามาลงก่อนดีกั่ว.....
ไม่มีอะไรแล้ว ไปอ่านเองเหอะ....

==============================
ดักฟังนักเรียนป้อมอัศวินคุยกัน#4 : เมื่อซาตานแห่งป้อมอัศวินเป็นหวัด.....((นอกแผน)) ==============================

ผ่านไปกว่าสัปดาห์.....หลังจากลูคัสได้ 'กระทำการ' อันกระตุ้นต่อมโทสะของทั้งนักบวชหมอมีดและหมาป่าตัวหนึ่งจนแตกระเบิด....

คนหาเหา(อาจรวมถึง เห็บ ริ้น ไร)ใส่หัวก็ได้รับคำตัดสินบทลงโทษจากศาล...ถูกเนรเทศออกไปนอกห้อง......โดยไม่มีโอกาสได้ร้องอุทธรณ์ ฏีกาใดๆทั้งสิ้น
และเนื่องจากลอเรนส์หัวเสียขนาดที่แม้แต่เจ้าชายนักการฑูตคนเก่งแห่งเจมิไนอย่างโรเวนยังเข้าหน้าไม่ติด.....
พื้นโล่งทางเดินหน้าห้องจึงได้ถูกยกระดับเป็นที่ซุกหัวนอนจำเป็นของผู้คุมกฎคนสำคัญของป้อมอัศวินไปทั้งอาทิตย์.....

และเมื่อ ลอเรนส์ ดอว์น เดอะคิงออฟรูม เริ่มใจเย็นลงและปลงได้ นักโทษจึงได้รับการอภัยโทษให้ซมซานกลับเข้ามาในห้อง.....
เรื่องราวมันก็น่าจะจบแค่นั้นถ้าเหตุบางอย่างมันไม่เกิด....
ถ้าลูคัสไม่ได้กลับมาพร้อมใบหน้าซึ่งแดงเรื่อด้วยพิษไข้ และอุณหภูมิที่วัดได้จากปรอท ( ซึ่งหมานำเข้าอีกนั่นแหละ ) ......

39 องศา....!!!!

หมาเลยต้องมาทำหน้าที่ไม่สมหมา แถมไม่สมความตั้งใจตอนมาเพราะจากคน(หมา)หาข่าวกลับต้องมานั่งเฝ้าคนป่วยเป็นนางพยาบาล.......

แต่ความลำบากของหมายังไงๆมันก็ดูจะไม่เท่ากับคน.......

"กินซะ....ลูคัส" พูดอย่างสกัดกั้นอารมณ์เต็มที่ เมื่อคนที่ปรกติจับมีดต้องจำใจเปลี่ยนมาจับช้อนป้อนข้าวคนนอนซม.....

"ม่ายอาววว ม่ายอยากกิน" พฤติกรรม 'งอแงเหมือนเด็ก' น่าหมั่นไส้จนคนรับหน้าที่ป้อนข้าวป้อนน้ำแทบอยากคว่ำจานลงกบาลถ้าไม่ติดว่ามันเป็นคนป่วย....

ไอ้ลูคัส....แกหายเมื่อไหร่ล่ะน่าดู!!!!

กว่าจะจัดการป้อน ( ยัด ) ข้าวใส่ปากคนป่วยดื้อด้านได้สำเร็จก็ปาเข้าไปกว่า 3 ทุ่ม ให้ทั้งคนและหมาเหนื่อยจนแทบลากเลือด แต่ตัวต้นเหตุกลับได้สิทธิพิเศษถอดจิตไปเฝ้าพระอินทร์สบายใจเฉิบ....

"สรุปว่ามันเป็นอะไร..." คำถามจากลอเรนส์ที่การ์ดแข็งๆดูจะอ่อนลงหน่อยเมื่อมองเห็นคนไม่สบายเบื้องหน้า

"ไข้หวัดใหญ่" คำตอบจากหมาล่าข่าวพยาบาลจำเป็นที่บัดนี้ควบตำแหน่งแพทย์อีกตำแหน่ง

"โรคอะไร??" คิ้วเข้มขมวดอย่างสงสัยเมื่อชื่อที่ได้ฟังไม่คุ้นหู....

"ก็โรคชนิดนึง...มาจากแถวๆที่อยู่ของชั้น.....แต่ไม่รู้ทำไมลูคัสถึงเป็นได้" คำเปรยอย่างสงสัยจากสัตว์หน้าขนที่ลอเรนส์หรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ

"ไม่ใช่ว่าเธอเอามาแพร่...."

"ชั้นสบายดี...จะแพร่เชื้อได้ไง" คำตอบกลับไม่มั่นใจนัก....

หมาหันควับไปมองคนนอนซมที่นอนอยู่บนเตียงของตัวเองก่อนฉุกคิดถึงอะไรบางอย่าง...

คงไม่น่ะลูคัส แต่นายมันมือบอนเหลือเกิน........
ความรู้สึกสงสัยที่เกิดขึ้นในใจมันทำให้หนาวๆร้อนๆจนต้องรีบวิ่งไป 'ตรวจสอบ' ให้แน่ชัดในห่อสัมภาระของตัวเอง.....

ภาพที่ปรากฏต่อหน้า...คือกล่องเพาะเชื้อสีเทาหม่นที่ถูกเก็บไว้อย่างมิดชิดในส่วนลึกสุดมีร่องรอยของการถูกงัดแงะแม้คนแอบเปิดดูจะบรรจงปิดใว้เนียนที่สุด.....

ให้หมาที่มองเห็นต้องสบถอย่างหัวเสีย......
"ไอ้บ้าลูคัส!! ( พูดคำนี้กี่ครั้งแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่เนี้ย...... ) มันเปิดกล่องเพาะเชื้อของชั้น!!"

"กล่องเพาะเชื้อ...?"

"ก็...เป็นที่เก็บเชื้อโรคที่กำลังเล่นงานคนงี่เง่าที่นอนพะงาบๆอยู่นั่นแหละ" ตอบกลับอย่างหงุดหงิด....

"โรคนี้มันร้ายแรงมากถึงขนาดคนอึดอย่างหมอนี้ยังต้องนอนซมเลยเหรอ...."

"ก็พอดู....ไข้หวัดใหญ่ที่จริงเป็นโรคติดต่อ แต่นี่เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่ชั้นเพิ่งได้มา...ไม่ติดต่อ แต่ของแถมคือเชื้อมันแรงกว่าเดิม...แถมลูคัสถูกไล่ออกไปนอนนอกห้องอยู่ตั้งอาทิตย์ ภูมิคุ้มกันมันก็คงอ่อนลง...."

"แล้วจะหายเมื่อไหร่...?" ถามถึงเรื่องสำคัญ

"ถ้าให้หายเองก็เป็นเดือน....." คำตอบที่คนรับฟังสะดุ้งเฮือก

ปรกติมันก็งี่เง่าอยู่แล้ว....ยิ่งป่วยก็ยิ่งรั้นเข้าไปอีก....
ถ้าต้องคอยดูแลหมอนี่เป็นเดือน.....
เขาคงต้องป่วยแทนมัน....

"แต่ถ้าใช้ยา...3 วันก็หาย...." ต่อพลางยักคิ้วแผล่บ ให้อีกฝ่ายฟังแล้วถอนหายใจโล่งอก...ก่อนหันมาแยกเขี้ยวใส่เพราะรู้ว่าหมามันจงใจแกล้ง.....

"แล้วยา.....?"

"จะมาพรุ่งนี้เช้า....ที่จริงจะมาคืนนี้ด้วยซ้ำ แต่ตอนแรกเห็นลูคัสป่วย...ชั้นก็เลยคิดว่าคงจะยุ่ง...ไม่นึกว่าจะต้องมาใช้กับมัน" คำตอบที่ลอเรนส์พยักหน้าอย่างเข้าใจ

แต่ก่อนจะแยกย้ายกันพักผ่อน คำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของนักบวชแห่งป้อมอัศวิน.....ความสงสัยที่ทำให้ต้องปรายตามองเจ้าหมาตัวเดียวในห้องก่อนออกปากถามคำถามสุดท้ายของวัน....
"แล้วเธอเอาเชื้อนั่นมาด้วยทำไม....?"

แล้วนั่นก็เป็นคำถามที่หมาปากไวได้แต่อ้าปากค้างก่อนหัวเราะแห้งอย่างไม่สามารถให้คำตอบได้......

++++++++++

เช้าวันต่อมา เหยี่ยวสีน้ำตาลดำตัวนึงก็บินร่อนจากฟากฟ้าเข้ามาในห้อง....ที่ขาของมันมีห่อผ้าสีขาวขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กถูกผูกไว้อย่างดิบดี

หมาค่อยๆเอื้อมขาหน้าไปแกะห่อผ้า....แต่คงจะใช้เวลามากไปนิด ( ก็มันเป็นขาหมานี่หว่า...แต่คิดดูซิว่าเหยี่ยวมันจะไปเข้าใจอะไร... ) เจ้าเหยี่ยวที่ดูอารมณ์จะไม่โสภาจึงเริ่มใช่จงอยปากจิก 'ลูกค้า' เบื้องหน้าอย่างหงุดหงิด

"เฮ้...เจ็บน่ะ อย่าจิกเซ่!!" คำบ่นจากหมาที่ทำได้แต่เป็นเป้านิ่งเพราะมือมันดันไม่ว่าง และเมื่อหมามันเตรียมจะฝากรอยเล็บขย้ำคอเจ้าตัวร้ายหลังแกะห่อผ้าจนหลุดออกจากขาเหยี่ยวสำเร็จ มันก็เชิดหน้าหนีพลางสะบัดปีกให้อย่างน่าหมั่นไส้ก่อนเผ่นออกไปนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็ว....

"น่าจับไปถอนขนย่างไฟ...." คำพูดจากคนเห็นเหตุการณ์อย่างลอเรนส์....ที่เธอพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเป็นที่สุด

"คราวหน้าจะไม่ใช้บริการมันอีกเลยให้ตายเหอะ เป็นแค่เหยี่ยวส่งของยังมาทำหยิ่ง"
บ่นอุบอิบพลางลากสิ่งที่เพิ่งถูกส่งมามาวางไว้กลางห้องเพื่อให้เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนได้เห็นถนัดชัดตา ก่อนมืออันไม่ค่อยสันทัดงานของหมาจะถูกใช้อีกครั้งเพื่อเปิดดูของในห่อผ้า....

และไม่นานนัก ( หมามันเริ่มใช้ขาหน้าเก่ง ) สิ่งที่อยู่ในห่อผ้าก็ถูกเผยออก...ให้กล่องสีขาวที่บรรจุของแปลกประหลาด 4 ชิ้น ปรากฎขึ้นสู่สายตาของนักบวชแห่งแอเรียส.....

ลอเรนส์ค่อยๆปรายสายตามองของต่างๆอย่างพิจารณา....

อย่างแรกวางอยู่ซ้ายสุด...เป็นขวดเล็กสีชา ของข้างในเป็นผงที่เขาไม่แน่ใจว่าสีอะไร...
อย่างที่สองเป็นเหมือนหลอด....หลอดแบบแปลกๆที่มีก้านอะไรสักอย่างอยู่ด้วย ตัวหลอดใส...มีเลขสีดำเป็นขีดๆ ที่ปลายด้านหนึ่งเหมือนเป็นเข็มที่ทำจากโลหะ
อย่างที่สามเป็นขวด...เหมือนแบบแรกนั่นแหละ แต่ของข้างในเป็นของเหลว
อย่างที่สามเป็นถุงอะไรสักอย่าง สีใส....มองเห็นเม็ดกลมสีขาว 3-4 เม็ดบรรจุอยู่ภายใน....

"ไอ้นี่...." พูดพลางชี้มือ(ขาหน้า)ไปที่หลอดรูปร่างแปลกประหลาด "หลอดฉีดยา"

"แล้วนี่ก็....ยาที่ใช้ฉีด" มือชี้ไปยังขวดที่บรรจุของเหลวประกอบคำอธิบาย.....

ลอเรนส์พยักหน้าเป็นเชิงบอกอีกฝ่ายว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่มันพูด....

"แล้วไง"

"แล้วไงอะไร...?" ตีหน้างงแล้วถามกลับ

"ถ้านี่มันเป็นยาที่เธอว่า....เธอก็ทำไปอย่างที่เธอรู้ว่ามันควรจะทำนั่นแหละ" เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจแล้วลุกเดินไปหยิบหนังสือมานอนอ่านบนเตียงตัวเอง

พฤติกรรมที่แสดงเจตนาชัดเจน...
'แกจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าสะเออะมายุ่งกับชั้น.....'

แต่งานที่อยู่ตรงหน้ามันก็ไม่ใช่งานสำหรับหมาเหมือนกัน....

ทั้งเปิดขวด แกะปลอกเข็ม ดูดยาใส่หลอด แล้วยังต้องเอาไปฉีดให้กับไอ้คนป่วยที่น่าจับโยนทิ้งให้ไปตายนอกหน้าต่างให้รู้แล้วรู้รอด.....
ถึงหมามันจะแสนรู้แค่ไหน....สำหรับงานละเอียดอย่างนี้....มันก็ยังยากเกินไป
วิธีที่จะทำให้สามารถปฏิบัติตามรายการทั้งหมดได้มันก็มีหรอก.....
แต่ไม่อยากทำนี่หว่า.....

เปรยสายตาไปยังคนขี้เก๊กเจ้าอารมณ์บ่นเตียงก่อนนึกขอโทษขอโพยมันในใจ....
แต่ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว (ถึงแม้จะถูกลากลงมาก็เหอะ) ก็ช่วยๆพายๆกันหน่อยล่ะกันเนอะ.....

"ลอเรนส์ ลงมาช่วยกันหน่อยน่า....ไอ้พวกเนี้ย...บอกตรงๆชั้นทำเองไม่ได้" ออดอ้อนก่อนเป็นอันดับแรกถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีทางได้ผล แต่ทดลองก่อนก็ไม่มีอะไรเสียหาย.....

ปฏิกริยาที่ตอบกลับมาก็คือไร้ปฏิกริยา.....

"น่าๆ ลอเรนส์ มาช่วยกัน" พูดไม่พูดปล่าว คราวนี้ขาหมามันก็พาดไปบนแขนคนถูกอ้อนก่อนเขย่าอย่างถือดี ให้ผู้ถูกกระทำปรายสายตาอาฆาตมาให้ แต่คนเคยชินมันก็ยังคงฉีกยิ้มส่งให้อย่างหน้าชื่นตาบาน.....

"ไม่!!" ตอบกลับด้วยเสียงเฉียบขาด "ปัญหาใครก่อ ก็ควรจะรู้จักแก้"

"ตามใจๆ ชั้นไม่รู้หรอกน่ะว่านายอยากฝึกเพิ่มจุดเดือดหรืออยากทำหน้าที่ในฐานะเพื่อนที่แสนดีให้ลูคัสโดยการนั่งพยาบาลมันสักเดือน...แต่ขอให้ความพยายามมันสัมฤทธิ์ผลล่ะกัน"
คำย้อนกลับพร้อมสีหน้าที่หมามันเสแสร้งตีให้ดูว่าพยายามเอาใจช่วยเต็มที่....

ให้คนถูกขู่ได้แต่กัดฟันกรอดก่อนต้องจำใจยอมลุกขึ้นมาทำงานที่ ( ถูกยัดเยียดให้ ) ต้องทำ.....

แล้วหมากวนประสาทมันก็ชนะพนันอีกตามเคย......

++++++++++

"เข้าใจแล้วใช่มั้ย? ดูเส้นเลือด...จิ้มเข็มลงไปเบาๆ อย่าแทงจนทะลุแขนล่ะ" คำพูดที่หมามันนั่งกรอกหูอยู่เกือบชั่วโมงด้วยความกลัวว่าเขาจะใช้งานนี้บังหน้าเป็นหนทางลัดกำจัดคนกวนบาทา

มันน่าจะทำเองให้รู้แล้วรู้รอด ในเมื่อมันรู้ดีนัก....

"ชั้นรู้แล้ว....และถ้าเธอไม่รู้....จะบอกให้ว่าเข็มนี่มันไม่ยาวพอทะลุแขนคนได้ แต่มันอาจจะทะลุปากหมาบางตัวได้ถ้ามันยังไม่หยุดพล่าม" นั่นแหละมันถึงได้หุบปาก....

และหยิบกระดาษกับปากกาออกมาใช้แทน.....-_-##

ตัวอักษรหวัดๆลายมือหมาแสดงข้อความสีน้ำเงินตวัดบนกระดาษสีขาวให้ใจความว่า "งั้นก็รีบจัดการเถอะ"

ภาพที่นักบวชแห่งป้อมอัศวินเห็นแล้วต้องกุมขมับก่อนคิดว่าควรจะรีบทำงานให้จบก่อนที่การต่อกรกับหมาตรงหน้าจะทำให้เขาเป็นบ้า......

"อรุณสวัสดิ์ลอรี่ แอล" เสียงทักทายอย่างอารมณ์ดีดังมาจากคนที่อยู่บนเตียงเป็นสัญญาณบอกว่ามันตื่นขึ้นมาแล้ว ดูๆไปก็ยังคงกวนประสาทไม่ต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ถ้าไม่นับว่าเสียงมันแหบลงไปจนน่าสงสาร

"ตื่นก็ดีแล้ว...เพราะพวกเราไม่นิยมทำร้ายคนกำลังหลับ" คำทักทายยิ้มแย้มจากหมาผู้มีน้ำใจนักกีฬาที่คนป่วยตีหน้าฉงนสงสัยก่อนหันมาขอคำตอบจากอีกคนที่ดูจะพูดรู้เรื่องกว่า...

"ชั้นจะฉีดยาให้นาย" เฉลยด้วยน้ำเสียงเนือยๆ หากแต่ปฏิกริยาของคนตรงหน้ากลับเป็นอะไรที่เขาคาดๆไม่ถึง......

ดวงหน้าที่เคยแดงก่ำด้วยพิษไข้ซีดเผือดลงจนน่ากลัว มือโบกปฏิเสธเป็นระวิง ขณะที่ปากละล่ำละลักพูดเป็นอยู่คำเดียว
"ม่ายๆๆๆๆๆๆๆๆ "

ข่าวใหญ่พิเศษพาดหัวประจำสัปดาห์.....
ลูคัส ซาโดเรีย ผู้คุมกฏคนเก่ง.....ซาตานแห่งป้อมอัศวิน....
กลัวเข็มฉีดยา.....
รู้เข้าถึงไหนอายเข้าถึงนั้น.....

"ไม่อาวน้าลอรี่.....ชั้นจะนอนเฉยๆทำตัวดีๆ อย่าเอาไอ้นั่นเข้ามาใกล้ช้านน้าาาาา T-T " คำเว้าวอนอย่างน่าสมเพชจากคนป่วยที่น่าสงสาร หากแต่นักบวชที่ใจดำยิ่งกว่าซาตานก็ยังคงตีหน้าเฉยก่อนจัดเตรียมของตามที่หมาบอกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

"ชั้นจะไม่เรียกนายว่าลอรี่อีกก็ด้ายน้า....อย่าเอาไอ้หลอดนั่นมาใกล้ๆชั้นเลยน้า....." การเจรจายังคงไร้ผลเมื่ออีกฝ่ายยังคงทำหน้าไม่สนใจ.....

"นะน้า......ลอเรนส์น่ะ"

"เงียบ!! แล้วนอนอยู่เฉยๆ.....อย่าคิดว่าชั้นจะปล่อยนายให้นอนกวนประสาทชั้นอีกเดือน แค่เมื่อวานวันเดียวชั้นก็จะจับไข้แทนอยู่แล้ว" ตวาดกลับพร้อมส่งสายตาปรามดุเดือดก่อนจะหันไปหยิบเข็มมาใส่กับตัวหลอด......

สถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตของ ลูคัส ซาโดเรีย เดอะ ซอเซอร์เรอร์ ออฟ ทริสทอร์...........

เมื่อนายไม่ฟังคำขอร้อง ชั้นก็ขอลา........
คนป่วยที่เคยไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะขยับตัวลุก แต่เพื่อเอาชีวิตรอดตอนนี้ก็กระโดดเหยงออกจากเตียงก่อนค่อยๆย่องอย่างเงียบกริบไปทางประตู.......

แต่ทว่า.....คนมันเกิดจะซวยมันก็ต้องซวยนั่นแหละ ^^

ฟรึ่บ...!!
ของสิ่งหนึ่งถูกโยนมาจากหมาที่บัดนี้ส่งสายตาเจ้าเล่ห์รู้ทัน.....ไม่ต่างกับที่เขาชอบใช้บ่อยๆ
มันเป็นบ่วงเชือกขนาดที่พันธนาการซาตานแห่งป้อมอัศวินได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวเป็นที่สุด.......!!!

"ขอบใจ แอลเมท" เสียงเย็นยะเยือกดังมาจากลอเรนส์ที่บัดนี้ "เตรียมการ" เสร็จเรียบร้อยแล้ว......

เข็มฉีดยาสะท้อนวิบวับกับเงาแดดอยู่ในมือนักบวชผู้กำราบซาตาน....

เสียงร้องฟังไม่ได้ศัพท์จึงดังขึ้นจากคนชอบแกล้งที่บัดนี้เป็นฝ่ายถูกรังแก......ก่อนที่เสียงการออกกำลังกายจากกีฬาชักกะเย่อกับวิ่งไล่จับจะดั่งลั่นไปทั่วทั้งชั้น........

===================
13-26 /5-6/04

Author's note : บทนี้เราก็ยังคงไม่ได้ออกไปไหนอยู่ดี....ใครใช้ให้ลูคัสดันมาป่วยล่ะ ชริๆ ( ก็แกแต่งมาอย่างงั้นเองง่ะ จะโทษใคร... )
แต่ก็ทำให้เราได้รู้ความลับอะไรบางอย่างของเขาละเน้อ.....หุหุหุ
หลังจากการเปิดเผย ( ใส่ไฟ/นั่งเทียน ) ถึง "ความเค็ม" ของพี่แก..คราวนี้ก็มาถึงเรื่อง "เข็มฉีดยา" นี่อีก.....
เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ลูคี่เป็นคนที่ถูกเรายำมากที่สุด ยำจนเละไม่เหลือชิ้นดีซะแหล่ว เหอเหอ
((สาวกลูคัสอย่ามาฆ่าชั้นเลย))
แกล้งลูคัสเป็นอะไรที่หนุกดี (พอๆกับแกล้งลอรี่น่ะแหละ) ชอบอยู่กับสองคนนี้เพราะดูจะทำให้เรามีอะไรทำอย่าง 'หนุกหนาน' ไปได้เรื่อยๆ...(รวมถึงการเอื่อยเฉื่อยและงานไม่เดินด้วย :p)

ลอยละล่องมานาน....คราวหน้าเราจะพาไปดูฉากหวานๆ ( แบบมีการจัดฉากนิดหน่อย ) ที่ไม่หลุดออกนอกแผนเหมือนคราวนี้.....
((แต่หลังจากคราวหน้าเราอาจโดนสาวกใครบางคนหมายหัวจนถูกลอบสังหารได้.....งานนี้คงต้องไปติดสินบนใครบางคนแถวๆซาเรสก่อนดีกั่ว ))



Create Date : 29 มกราคม 2548
Last Update : 29 มกราคม 2548 0:37:47 น. 5 comments
Counter : 683 Pageviews.

 
แกตายแน่ไอ้นักเขียน


โดย: นู๋ซ่าจอมซน IP: 61.47.119.187 วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:19:37:22 น.  

 
เยี่ยมมากสะใจ
ชอบแกล้งคนอื่นเขาดีนัก
ลูคัสเอ๋ย


โดย: 555+ IP: 203.172.49.208 วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:05:14 น.  

 
สะใจจิงๆอ่ะ หมั่นไส้มานานแล้ว
แกล้งคนอื่นดีนัก
ชอบมั่กๆเลยอ่ะ อิๆ


โดย: หัวขโมย IP: 202.151.183.162 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:57:55 น.  

 
น่าร้ากกกกกกกก


โดย: Rozenzaki IP: 61.19.196.133 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:09:47 น.  

 
แหะๆน่าร๊ากกกกดีจ้งแต่เราชอบห้ายแกล้งลอรี่...เฟี้ยว~~~ฉึก!!!...โอ๊ยขอโต๊ดค๊าบพี่ลอเรนซ์ต่อๆชอบให้ลอ...ร...(เอื๊อก)ลอเรนซ์มากกว่าเพาะน่ารักดี


โดย: คนน่ารักของลอรี่+ลูคี่ IP: 58.8.175.155 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:17:24:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

A.A the wolf
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add A.A the wolf's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.