All Blog
การไปฆ่าตัวตาย ที่ทะเลป่า ญี่ปุ่น
 ติดตามในยูทูป เรื่องของอาชญากรของโลก ไปเจอลิ้งค์เรื่องของการฆ่าตัวตาย ด้วยสถานที่ซึ่งน่าสนใจมาก

เมื่อติดตามไปดูสถานที่ยอดฮิต 10 อันดับโลกที่คนนิยมไปทำการอย่างว่านี่ ทั้งหมดเป็นทะเล หน้าผาซึ่งใช้วิธีโดดลงไป ยกเว้นที่นี่ "AOKIGAHARA" หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า จูไก (jukai) พวกเขาเดินเข้าไป...

ขอบคุณยูทูปค่ะ
........................

อันนี้เป็นเหมือนสกูปพิเศษ ตอนที่ 1 (มี 5 ตอน) 

https://www.youtube.com/watch?v=vdb_W593w9I



ส่วนอันนี้มีซับภาษาอังกฤษ น่าสนใจมากเช่นกัน



https://www.youtube.com/watch?v=pgAHP4M84ZE

.............
ส่วนอันนี้ สะพานโกลเด้นเกท ที่ว่าสวยๆน่าไปเที่ยวน่ะ มันก็น่าโดดด้วย ดูแล้วหดหู่ค่ะ พระเจ้า..


เฮ้อ...

ทั้งหมดทั้งมวลสอนให้รู้ว่า ต้องระลึกถึงพระคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดู รักเรามา อย่าไปหลงติดวังวนความคิดหมกมุ่นของตัวเองว่า ฉันไร้ค่าหมดความหมาย จนต้องตายจากโลกนี้เสียดีกว่า

พูดกับใครก็ได้ เล่าให้เขาฟัง มองตาเขา สัมผัสเขา และเปิดใจรับสัมผัสจากพวกเขา

เรายังเชื่อว่า แม้โลกปัจจุบันจะแข่งกันอยู่ แข่งกันกินแข่งกันใช้และรู้สึก"หาเพื่อนยาก"แค่ไหน แต่ในที่สุด เพื่อนจะมาจากการที่เราได้พูด ได้คุย ได้สบตา ได้หัวเราะกับตัวเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่ผ่านมือถือหรือโลกไซเบอร์..

เงยหน้า พูดคุยกับคนรอบข้างให้มากชึ้น ชื่นชมกับธรรมชาติให้คุ้มค่ากับ การมีชีวิต กันเถอะค่ะ.



Create Date : 03 เมษายน 2557
Last Update : 3 เมษายน 2557 16:40:47 น.
Counter : 1116 Pageviews.

2 comment
งานคอนโด-ต้องเข้าไปยุ่งแค่ไหนเมื่อลูกน้องมีกิ้ก
รปภ.กับป้าคนสวน มาทำงานที่นี่ก็สองสามปีแล้ว เปนคนดีกันมาตลอด
เพิ่งจะมาเกิดเหตุเอาตอนเดือนนี้ บ้าชมัด

ป้าแกเสียงดัง ปากร้าย ชี้หน้าต่อว่าผัวต่อหน้าคนอื่นเยอะแยะไม่อาย แต่ผัวแกอาย ผัวแกเปนหัวหน้าชุดรปภ. มีลูกน้องอีกสี่นายที่ต้องอยู่ใต้บังคับบัญชา เป็นเสียแบบนี้เขาอายนะ ทำงานก็อึดอัด

มีอีก ตาลุงรปภ.ก็ดันอ้างว่ามีกิ้ก และจริงจังจนประกาศว่าจะเลิกกับป้าแน่ๆ เพื่อไปเอากับคนนั้น

"แกว่าฉันมีกิ้ก จะบอกให้ ฉันมีมาสองปีแล้ว ได้เสียกันแล้ว สาวกว่าแกอีก ทองที่คอฉันก็ให้เขาใส่เนี่ย"

โทรมาปรึกษาขอหยุดงานกับฉันเพื่อเคลียร์ปัญหาชีวิตรัก ..จากคนที่หยุดเหล้าได้ กลับมากินอีกจนเมาตลอดวันเหม็นหึ่งแถมยังอ้างว่ามีสาวบาร์ข้างเคียงกายอีกด้วย

ฉันคิดว่าคงจะชั่วคราวเพื่อประชดเมีย อยากหาข้ออ้างเลิกกับเมียปากมาก แต่ต้องตกใจเมื่อเขาให้คุยกับสาวบาร์คนนั้น แล้วบอกว่าจริงจังกันนักหนา

"พี่ครับ..คนนี้ผมขอ ผมไม่อยากเห็นเขาร้องไห้"
"หมายถึงใคร พี่งงไปหมดแล้ว??"

สาวบาร์ เขามาทำงานอย่างนั้น ใครๆแม้แต่มาม่าซังก็บอกฉันว่า"มันก็แต่สูบเงินลูกค้า อย่างมันจะไปเอาใครจริงจัง ..ลุงอา พี่น้องที่บ้านนอก มันยังเอาไม่เว้น จนที่บ้านไล่มันไปทำเลวไกลๆนี่ไง มันถึงมาขายตัวที่พัทยา" แล้วไง....?

นึกว่าจะใจเยนกันลง ตกลงกันได้แล้ว อยู่ๆเช้ามาก็ต่างคนต่างย้ายของออกจากห้องพัก แยกกันอยู๋ แต่มาตกลงกันไม่ได้เรื่องแบ่งสมบัติ เมียก็อ้างว่าฉันไม่ได้อะไรเลย ผัวก็บอก

"ไอ้ที่เขาเอาไป ของผมหมดเลย ก็ลูกค้าคอนโดเวลาย้ายบ้านเขาไม่เอาอะไรก็ยกให้ผม ไม่ได้บอกว่ายกให้คนสวนนี่"

ลูกติด(ลูกชาย)ของฝ่ายป้าคนสวนโทรมาคุยกับแม่เขา ก็เข้าข้างแม่เพราะคิดว่านารปภ.เอาเปรียบแม่เกินไป ไอ้ที่ช่วยกันทำมาหากินมา ทำไมไม่แบ่งแฟร์ๆ คุรคะ เรื่องของเขาสองคนเนี่ย ใครจะรู้ดีเท่าเขา เราฟังๆกันก็ไม่รู้หรอกว่าใครพูดจริง ใครใส่ไข่บ้าง พูดคนละที ไอ้ลูกชายก็จะมาดักตีลุงรปภ.

เขาส่งโทรศัพท์ให้ฉันช่วยเจรจาสงบศึก แต่เมื่อคุยกับลูกป้าเขา สิ่งที่เขาต้องการคือ คุยกันดีๆ ให้แม่เขาได้อะไรบ้าง และเขาจะให้แม่ออกจากงานไปอยู่กับเขาที่บ้านนอก เขาเลี้ยงแม่ได้ และไม่เคยเห็นดีด้วยที่แม่ตามลุงเขามาแบบนี้ตั้งแต่ตอนแยกกับพ่อเขาแล้ว
เป็นเรื่องดี แต่ไม่มีใครรู้ว่าสองฝ่ายนี้จะตกลงกันได้อย่างไร ฝ่ายลุงยังคงเมาตลอดวัน ฝ่ายลูกชายไม่อยากเห็นหน้าเพราะกลัวอดตีนไม่ได้ คนแม่ลางานไปย้ายบ้าน

ตอนนี้ทุกคนเข้าใจว่า รปภ.โดนของจากสาวบาร์เข้าให้แล้ว เพราะคนไม่มีประวัติอยู่ๆมาเสียคนปุ้บปับโงหัวไม่ขึ้นมันจะเพราะอะไร บางคนบอกเห็นมีพระขุนแผน บางคนบอกระวังสาวคนนี้ มันไม่เลือกจริงๆ สูบจนหมดมันก็ไม่เอาอยู่ดี นีมันอาชีพเขา ให้เมียแก้ของสิ เอาผ้าถุงคลุมหัวเลย..มันอยู่ให้คลุมที่ไหนล่ะ สาวบาร์พัทยา..จะอะไรนักหนา เด็กมันยังรู้เลยว่าอาชีพนี้มันคืออะไร โดนหลอกแล้วละมัง

"ตอนเย็น ผมไม่ได้ไปนอนกับเขานะ ผมไปนั่งคนเดียวที่ทะเล แถวนี้ล่ะ .."แล้วเขาก็ร้องไห้ออกมา

"พี่ก็อยากจะรู้ความจริงนะว่า ผู้หญิงคนนี้มันใคร มาจากไหนกัน รู้จักเขามานานแล้วหรอ?" "แล้วเราเป็นอะไรไปเนี่ย อยู่ๆทำไมเสียคนแบบนี้?"

"พี่ครับ .." เสียงเขากระซิกๆ " ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมเป็นอะไรไปแล้ว"

เฮ้ย!!

ชิหายละ


..............
ฉันกลับมาเข้านอน แต่นอนไม่หลับ ในหัวคิดทบทวนเรื่องของเขาสองคน หาทางที่ไปพูดคุย คำพูดไหนดี จะคุยยังไง คุยกับใครก่อน เขาจะเข้าใจสิ่งที่เราสื่อไหม เขาจะทำงานต่อที่นี่ไหม ???

ตีสาม ฉันเพลียจนหลับไปเอง

ตื่นเช้ามาทำงานตาบวม เรื่องของสองคนนี้ยังรบกวนทั้งวัน เดี๋ยวเข้ามาคุย เดี๋ยวแม่บ้านมาผสมโรงอยากรู้เรื่องอีก ไหนจะทีมรปภ.อีก เอ้ย....

แน่ล่ะ ฉันเปนหัวหน้าทีมต้องเข้มแข็ง รับฟังทุกคน

แต่รู้ไหมเปนคนอ่อนไหวขนาดไหน เจ้าปู้นิ่มที่หลบในกระดองป้องกันภัยอันตราย ตอนนี้กลับหดตัวเข้าไปซุกในกระดองไม่ได้ ต้องยืดขาออกมาเดินไต่ดิ้กๆๆ ไปตามพื้นทรายสู้โลก

แค่ไหนกันที่ต้องเข้าไปยุ่งกับชีวิตลูกน้อง?? มากแค่ไหนที่ยื่นมือไปให้เขาจับ พยุงเขาเอาไว้ไม่ให้ล้ม?

ฉันพูดว่า "เรื่องส่วนตัวพี่ช่วยเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าใครจะทำให้ทีมงานพัง เจอกันหน่อย" ในฐานะของคนทำงาน ฉันทำถูกใช่ไหม

แล้วแค่ไหนดี????





Create Date : 08 สิงหาคม 2553
Last Update : 8 สิงหาคม 2553 16:19:17 น.
Counter : 364 Pageviews.

0 comment
งานคอนโด-ทำไมต้องขอแลกบัตรเข้าตึก

ลุงฝรั่งเศสไปอ๊อฟเด็กหนุ่มจากหาดมาเมื่อวานเย็น 1 ชั่วโมง นอนเสร็จก็ไปหยิบตังจากตู้เซฟที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าออกมาจ่ายให้ แล้วก็แยกทางกันไป วันรุ่งขึ้น แกไปเดินหาดที่เดิม ไปเจอคู่ขาคนเดิมเข้ามาคุยด้วยที่ร้านอาหารบอกว่าไม่มีตังค์กินข้าว นั่งลูบๆคลำๆขาแก สักพักก็จากไป แกก็นั่งกินข้าวต่อไม่ได้สนใจอะไรจนมารู้ตัวอีกทีพบว่ากุญแจห้องที่เป็นคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงหายไปก็เลยเอะใจรีบกลับมาที่คอนโด
ถามสมชาย,รปภ.ที่อาคารบีว่าเห็นเด็กหนุ่มไทยสองคนขึ้นไปห้องแกไหม ใครจะจำได้ว่าใครจะเข้าห้องไหน แต่มีเด็กหนุ่มหน้าตาคนไทยสองคนใส่เสื้อสีขาวคนลายคนตามที่แกถามขึ้นลิฟท์ไปข้างบน แกเลยรีบขึ้นลิฟท์ตามไป ไม่นานไอ้เด็กหนุ่มที่ว่าเดินลงบันไดจากชั้นสองลงมาผ่านโต๊ะสมชายๆก็เลยเดินตาม พอมันเห็นรปภ.เดินตามมามันก็วิ่งสิคร๊าบ ไอ้ฝ่ายเราก็วิ่งตามบ้างแสดงว่าไปทำอะไรไม่ดีมาแน่แล้ว เสียงพูดออกวิทยุสื่อสารเสียงกระชั้นมาก “วอเจ็ดป้อมหน้า...ชายสองคนเสื้อขาวกับลาย จับไว้ด้วย” “...วอเจ็ดป้อมหน้า”…(ขอความช่วยเหลือ) ได้ยินกันทั่วหน้า ทางธุรการได้ยินเสียงก็พากันเงี่ยหูฟังว่าเรื่องอะไร ก็ลุกขึ้นยืนกันมองซ้ายมองขวาว่ามันเหตุอะไร เห็นคนวิ่งไล่กันจากตึกบีไปทางออกคอนโดผ่านสระ ไม่นานก็รวบตัวไว้ได้ รปภ.วิ่งตามออกมากันเป็นพรวนช่วยกันหยุดมันไว้กับที่ ธุรการโทรแจ้งตำรวจสน.ที่ใกล้ที่สุดให้และแจ้งว่าเป็นเหตุลักทรัพย์ชาวต่างชาติตามที่ได้ยินจากวิทยุ
ฉันเดินออกไปเป็นไทยมุงบ้างแต่ก็ต้องกลายเป็นล่ามให้ผู้เสียหายทันที เห็นลูกน้องยืนกดโจรสองตัวให้นั่งยองๆเอามือไขว้หลังไว้ ทุกคนหายใจหอบกับการวิ่งกวด โจรมันขอน้ำกินหน่อยก็ไม่มีใครไปเอามาให้ ฉันต้องเดินไปกดมาให้มันถึงสองแก้ว กินโฮกๆ ตำรวจยังไม่มา รอจนเมื่อย ทุกคนผ่อนคลายลง คุยเล่นกันไป ลูกบ้านคนอื่นๆก็เริ่มจับกลุ่มคุยกันรอบๆไกลๆ มีฝรั่งเดินเมามาถามว่าเกิดอะไรขึ้นฉันกลัวว่าจะลงตีนให้โจรแต่ก็โล่งใจที่เขาไม่ทำ ลุงฝรั่งเศสถามมันว่าเอามือถือเขามาด้วยหรือเปล่า? มันบอกว่าไม่ได้เอามา

เมื่อตำรวจมาถึงฉันถามไล่เลียงเหตุการณ์จากฝรั่งแล้วแปล ฝรั่งชี้ตัวคนที่เขานอนด้วยวันก่อน “อีกคนนี่ใคร?”ตำรวจถาม มันหันหน้าคุยกันด้วยภาษาต่างด้าว “มันชวนผมมา บอกว่ามีฝรั่งจะเอาก็มา แล้วมันก็เอาเงินให้” พูดไทยไม่ค่อยชัดนะไอ้หน้าแขกๆเนี่ย ตำรวจเลยเดินถือกุญแจมือเข้าไปล๊อคข้อมือติดกันไว้ทั้งคู่ แล้วก็ขึ้นไปดูสถานที่เกิดเหตุกัน มีเพียงตู้เซฟที่ถูกเปิดอ้าไว้ ไม่มีร่องรอยค้นที่อื่นอีกเนื่องจากไม่มีเวลามาก ลุงแกโชว์ว่าวิธีเปิดตู้เซฟทำได้สองวิธีคือกดรหัสกับใช้กุญแจที่ร้อยอยู่กับพวงคีย์การ์ด ตำรวจถามว่ามีเงินทั้งหมดเท่าไรที่หายไปและใครค้นเจอที่ตัวคนร้าย ปรากฏว่าลุงแกเป็นคนค้นเองในช่วงที่รปภ.รวบตัวพวกมันไว้เงินทั้งหมดในซองของแกพบในตัวทั้งสองคน มันแบ่งเงินกันไว้ คนหนึ่งเอาเงินไทยอีกคนเอาเงินยูโรซึ่งยังหนีบติดกันไว้ด้วยคลิปอยู่เลย

รปภ.ช่วยค้นตัว และเปิดประเป๋าสตางค์ของโจรทั้งคู่ตามที่ตำรวจสั่ง รื้อบัตรต่างๆมาวางเรียงบนพื้นห้อง ไม่พบว่ามีบัตรประชาชนไทย ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพราะมัวคุยกับเพื่อนลุงฝรั่งเศสที่มาช่วยพูดฝรั่งเศส-อังกฤษให้แก “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกใช่ไหมที่ฝรั่งโง่ๆโดนหลอกจากเด็กอ๊อฟ โชคดีนะที่ฉัน..ยูโน้ว ไม่โง่ ..ฉันบอกเขาแล้วเชียวให้ระวัง” แหม ย่ะหล่อน ฉลาดมากมาย ตำรวจให้นับเงินว่าเป็นจำนวนเท่าไรให้ฉันเป็นพยานแล้วขอเก็บไว้เมื่อถึงสน.จะคืนให้ “ที่ตร.ต้องขอเก็บหลักฐานไว้เพราะว่าบางคดีพอรับแจ้งไปสน.กัน ฝรั่งได้เงินครบแล้วก็หายไปเลยก็ไม่มีเจ้าทุกข์เราก็ดำเนินคดีกับมันไมได้” ตำรวจถามฉันว่าจะไปช่วยเป็นล่ามที่สน.หน่อยได้ไหม ฉันปฏิเสธอ้างว่าไม่สบาย ไม่สะดวกไปด้วยคิดว่าที่นั่นคงมีเจ้าหน้าที่พูดได้หรอก รถตำรวจและพี่ตม.มารับโจรออกไป ตร.บอกฉันว่า “คงจะติดคุกก่อนแล้วจะรีบผลักดันออกนอกประเทศ เอาไว้ไม่ได้” ลุงฝรั่งเศสขี่มอเตอร์ไซด์ตามไปที่สน.ชายหาด

เรื่องตื่นเต้นของฉันวันนี้ก็เลยเรียบร้อย ที่เหลือก็เป็นหน้าที่บ้านเมืองแล้ว วันรุ่งขึ้น ฉันทำประกาศติดไว้ที่หน้าอาคารทั้งสอง มีรูปชายพม่าสองคนถูกล๊อคกุญแจมือ แจ้งเตือนลูกบ้านเรื่องให้แลกบัตรคนนอกก่อนเข้าอาคารเสมอ ไม่ว่าคุณจะพาใครมาอย่าได้ไว้ใจเพราะไม่มีใครรู้ว่าเขาไว้ใจได้แค่ไหน และเป็นความยากลำบากในการทำงานของแผนกรปภ.อย่างยิ่งที่จะขอแลกบัตรถ้าลูกบ้านปกป้องคนที่เขาพามาแบบไม่เคารพกฎ ถ้าเกิดเรื่องขึ้น สุดท้ายก็ต้องมาพึ่งรปภ.กับตำรวจอยู่ดี

เห็นใจรปภ.เวลาขอแลกบัตรกันบ้างนะ ทีนี้.



Create Date : 25 พฤษภาคม 2553
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 15:56:27 น.
Counter : 1114 Pageviews.

0 comment
ลาก่อนกระสีน้ำตาล-ยิงเลเซอร์
ที่มาของการตัดสินใจเข้าหาหมอสวยด้วยแพทย์ครั้งนี้ ก็คือ มือถือ ก็ผ่าถ่ายรูปมืดๆเต็มหน้า แล้วหน้าคุณเธอออกมาแบบว่า ปื้นกระสีน้ำตาลมันเต็มจอน่ะสิยะ รับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มือถือมันฟ้องภาพอย่างซื่อสัตย์มาก..อืม

เช้าวันต่อมาโทรไปบอกคุณหมอให้แสตนด์บายไว้นะ บ่ายๆจะเข้าไปหา เอาตังค์ไปให้ แต่แล้ว ตั้งแต่เที่ยงดันมีงานด่วนเข้ามาซึ่งชิ่งไม่ได้เลย ต้องอยู่คุมงานด้วยตัวเอง กว่าจะได้วางมือให้ลูกน้องสานต่อก็บ่ายสาม รีบออกไปเลย เห็นหมอบอกใช้เวลาไม่นาน วันนี้ละวะ ยังไงก็จะดั้นด้นไปทำให้ได้

ไปถึงก็ให้หมอดูว่าอันไหนที่อยากเอาออกวันนี้ มันเป็นกระแผ่นสีน้ำตาลกลมๆที่โหนกแก้ม ราว 4 อัน ใกล้ตาด้วย โหงวเฮ้งไม่ค่อยดีนะอันนี้ เคยคิดนานละว่าต้องเอาออก พอดีเลยคราวนี้แรงบันดาลใจแรง! เป็นที่เข้าใจกันดีก็นอนเตียงในห้องทำงานหมอ เป็นห้องเล็กๆ เตียงชิดผนังที่เราเคยเข้ามาครั้งแรกตอนคุยกับหมอ วันนั้นมากับเพื่อนสาวและเราชี้ให้น้องดูว่าเราเห็นรอยเลือดกระเด็นติดผนังอยู่เลย สยองดีนะ ห้องนี้ บนหัวเตียงจะมีเครื่องเลเซอร์ หมอบอกว่าจะฉีดยาชาก่อนนะคะ เอียงหน้าข้างขวาขึ้นก่อน หมออยู่ด้านซ้าย เอาข้างไกลมือก่อน ยาชาจะถูกฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังตรงที่จะจี้เลเซอร์เลย หมอบอก”ขำๆคุณพี่ คิดเสียว่าทำเมโส”เราเคยนอนให้หมอเอาเข็มจิ้มหน้าในขั้นตอนการทำเมโสเธอราปีมาแล้ว ก็ชิน อีตอนงัดเข็มจะปล่อยยาเข้าหน้านี่สิ ปวดหน่อยๆ เขารีบจิ้มทุกจุดให้ครบเร็วๆจะได้เจ็บรวดเดียว นับว่าอาชีพนี้เสี่ยงทีเดียวกับการถูกตบ เพราะถ้าพลาดไปนิดเดียวลูกค้าไม่ชอบใจอาจลุกขึ้นมาตบได้ ฮ่าๆๆ ฉีดเสร็จ หมอเปิดเครื่องเลเซอร์ดังหึ่งๆ เฮ้ย ยิงเลยหรอ “ค่ะ ยิงได้เลย” “แล้วต้องหลับตาไหมคะ” “หึหึ ตามสะดวกพี่ค่ะ” ไรวะ? ว่าแล้วเราก็หลับตาดีกว่า หมอดึงหนังหน้าเราเล็กน้อยประมาณว่าให้เห็นพื้นที่ชัดๆแล้วยิงแสงลงมา “จี้ดๆๆ” เสียงแสงยิงผิวหน้าเราประกอบกลิ่นเหม็นไหม้ เออนะ เวลาเราโดนเปาคงจะกลิ่นแบบนี้ล่ะ ปลงเลยตรู อยากทำไรทำไป สังขารนี้เราแค่ผ่านมาใช้มัน เจ็บเดี๋ยวก็หายได้ หมอรีบยิงด้านขวา จุดหนึ่งก็ใช้เวลาแป้บเดียวเท่านั้นเอง ก็เรียบร้อย แล้วก็หยิบสำลีชุบอะไรสักอย่างมาถูๆแผลไม่ได้เจ็บอะไร เข้าใจว่ายาชาช่วยไว้ทั้งที่หมอออกแรงมากอยู่ จะเอาผิวที่ไหม้ออกให้น่ะสิ เสร็จก็ปาดสำลีให้ครั้งสุดท้าย

ต่อไปหันข้างซ้าย ฉีดยาชา “อืม หมอแถมให้นะ ขี้แมงวันอันนี้เอาออกนะคะ” ว่าแล้วก็งัดเข็มเสียบเข้าขี้แมงวันมหาเสน่ห์แก้มซ้ายของเรา จ้ากๆ อันนี้เจ็บ พอหมอฉีดครบทุกจุด ด้านขวาตะกี้มันก็แสบขึ้นมาเลย ว้ากๆๆ “อี้ด ขอน้ำแข็งหน่อย” หมอตะโกนสั่งผู้ช่วยที่หนีไปอีกห้องตั้งแต่เราโดนจิ้มเข็มแรก แต่เธอไม่ได้ยิน หมอทำงานต่ออย่างไว ไม่หยุดรออะไรทั้งสิ้น นาทีนี้ แต่ข้างนี้ที่ขี้แมงวันนี่ล่ะ พิเศษ หมอต้องซ้ำครั้งที่สองหลังจากถูเช็คเรตติ้งออกไปแล้ว เนื่องจากมีรากลึก งานวันนี้หมอบอกว่า ต้องมีครั้งที่สอง อีกอาทิตย์หนึ่ง มาตามผลคงต้องยิงเอาขอบๆสีน้ำตาลออกอีกค่ะ ง่า..ยิงอีกหรอเนี่ย

ราคาวันนี้พันบาทถ้วนค่ะ นับว่าถูกสุดในละแวกนี้เลย หมอก็ติ้งต๊องออกแนวชีอยากได้เพื่อนมาก ลดแลกแจกแถมมากมายเพื่อผูกสัมพันธ์กับลูกค้าที่ผ่านมือ หรือว่าเราเป็นเหยื่อของชีเฉยๆเนื่องจากอายุใกล้กัน แบบว่า เคยไปดูหนังด้วยกันแล้วด้วยเพราะเพื่อนสาวเราสนิมกับหมอมาก เราสามคนเลยไปดูหนังด้วยกัน

ก่อนออกจากคลินิก หมอให้ยาตลับเล็กๆมาทาเช้าเย็นทุกวัน เลี่ยงแดดและลมแรง แถมลูกโป่งแช่แข็งก้อนเล็กๆสองก้อน เอามาคลึงแผลจะได้ไม่แสบร้อนหน้า แหม เทคโนโลยีมากเชียว น่ารักดีอ่ะ

ความรู้สึกตอนนี้คือ อยากตะโกนดังๆว่า “ลาก่อนนะโว้ย กระสีน้ำตาล ลาก่อนนนนนนน” มองกระจกบ่อยๆเพื่อให้จดจำภาพว่ามัน “เคย” อยู่ตรงนั้นและต่อไปจะไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว

ทำเสร็จบ่ายสามเกือบบ่ายสี่โมง ค่ำๆไปเดินตลาดนัดอีก เห็นมันมีสีเขียวที่รอบแผลบนโหนกแก้มหน่อยๆ อาจเพราะใกล้เส้นเลือดน่ะ กลับมาก็แอบทาเจลหางจระเข้ที่แผล ตอนโดนแผลแสบมาก หนึ่งนาทีก็หายแสบ ห้าทุ่มแสบอีกครั้ง ทำลืมๆ นอนหลับไป
.......
เช้าลุกไปทำงาน ยังไม่กล้าโดนน้ำ แต่หมอกับข้อมูลในเนทบอกโดนได้ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ขอแห้งก่อนดีกว่า ถึงที่ทำงานเดินไปมา สามโมงเช้าแสบมากมาย แสบตลอดเวลา ไม่ได้เอาก้อนน้ำแข็งลูกโป่งประคบ ปล่อยมันไป ความรู้สึกก็แค่นั้น มันทำลายการทำงานของเราไม่ได้หรอก ฮ่าๆ เอาเจลโป่ะไว้

ช่างคอนโดมาบรีฟงานที่โต๊ะตอนเช้า ถามว่า หน้าพี่ไปโดนอะไรมา "โดนต่อยมา" " พี่! เลอะเทอะอีกละ" ไมได้เล่าให้ใครฟังที่ทำงาน ตอนนี้แผลมันหน้าตาเหมือนแผลถลอกแบบรถล้มครูดกับพื้น แต่ไม่มีเลือดหรือสะเก็ดแผล มันเป็นเนื้อสดใหม่ เผชิญโลกอยู่เนี่ย อึ๊ย..

.......

วันที่ 1

ล้างหน้าได้แล้วแต่ไม่ได้ใช้ครีมอะไรล้างนะ แค่น้ำเปล่าพอ

เช้ามาแสบตลอดวัน เหมือนใครเอาเตารีดขนาดจิ๋วมานาบแก้มไว้อย่างนั้น โอ้ยๆๆๆ

ตอนเย็น โดนไซโค ไปคุยกับสตรีสาววัยกลางคนท่านหนึ่ง เขาเคยยิงเลเซอร์แล้วบอกว่าไม่ดี ตอนนี้มีฝ้ากระจายเต็มแก้มเลย หนักกว่าเดิม ทั้งที่คลินิคหมอทำให้เองนะ เราก็ไม่รู้หรอกว่าหมอที่ว่าจะเชื่อมือได้แค่ไหน แค่เรารู้ว่าหมอของเราจบตรีแน่นอน มีใบประกอบวิชาชีพแน่นอน เป็นหลักแหล่งตามตัวได้ อืม..ต้องคอยติดตามชมตอนต่อไปค่ะ มันก็เสี่ยงทั้งนั้นเนอะ


วันที่ 2

ไม่แสบตลอดวันแล้ว ทายาที่แผลก็ไม่ได้แสบมากแล้ว แป้บเดียวหายแสบ แต่..โชคร้ายวันนี้ต้องทำงานเดินผ่านแดดเปรี้ยงๆ ร้อนมากๆ จนแก้มแดง(ตามปกติโดนแดดเราจะหน้าแดงง่าย) กลับเข้าห้องทำงานก็เลยเอาลูกโป่งน้ำแข็งมากลิ้งบนแก้ม ไม่รู้จะช่วยให้ดีขึ้นหรือว่า...

เสียวว้อย... รอลุ้นๆ แผลเริ่มแห้งละค่ะ

..........
ก่อนทำด้านซ้าย หลังทำวันที่1 และ วันที่4ค่ะ..




ก่อนทำด้านขวา หลังทำวันที่1และวันที่4ค่ะ ....



..........
วันที่ 3

ไม่แสบ แผลเริ่มตึง และมีสีน้ำตาล แห้ง เตรียมตกสะเก็ด ส่วนครีมที่หมอให้มา เราทาเมื่อคืน ตอนเช้าล้างน้ำเปล่า มันจะมาให้เห็นเป็นแผ่นสีขาว ฉาบหน้าแผลอยู่ เอากระดาษทิชชู่เขี่ยเบาๆ แล้วเอาเจบหางจระเข้โป่ะลงไป พอแห้งก็เอาครีมหมอลงตาม

บ่ายตรงนั้นสีเข้มเป็นแห้ง เห็นชัดขึ้น อืม..ให้มันแห้งไวๆเข้า กลัวว่าตอนตกสะเก็ดมันจะคันยิกๆไหม ตอนนอนกลัวเผลอไปเกาน่ะสิ เดี๋ยวแผลเยิน

................

วันที่ 6 ไม่ไหวละ นั่งแงะสะเก็ดออกมาวางเรียงบนกระดาษสีขาว ฮ่าๆๆๆสะใจ มันติดผิวอยู่ต๋อยเดียวเองอ่ะ เอาออกมาเหอะ ก็เหมือนโดนเปลือยหน้า ต้องคอยทาเจลหางจระเข้โป่ะๆไว้ค่ะ แสบ ดีว่าหลังจากแกะไม่ได้ไปเจอแดดเลย เก็บตัวๆ


..............
วันที่ 8 ตอนไม่มีสะเก็ดแล้ว



.......
เดือนที่ 8 ตอนนี้จางลงเยอะแล้วค่ะ แต่..ตรงกลางหายไปเหลือขอบๆที่ยังไม่ได้ไปเก็บงาน หมอเขาย้ายไปที่อื่นแล้ว ต้องไปร้านอื่นแล้วล่ะ..แง๊..



Create Date : 04 เมษายน 2553
Last Update : 26 ธันวาคม 2553 13:53:38 น.
Counter : 1560 Pageviews.

4 comment
ถ้าตึกเอียง??
วันนี้ตอนเช้า คุยกับช่างเพื่อสั่งงานประจำวัน
ปรากฏว่ามีเหตุน้ำรั่วหลังตึกจากท่อระบายที่ระเบียงชั้น2 รั่วลงใส่กล่องไฟชั้น1เข้า ช่างไปดูก็แล้ว ถ่ายรูปมาก็แล้วก็คุยกันตกลงมันเกิดจากอะไรจะซ่อมยังไง

ช่างเล่าว่า "มันเป็นมานานแล้วพี่ จนกล่องไฟผุขนาดนี้ แล้วมีตะไคร่น้ำงอกที่ผนัง ไปยาแนวที่ท่อก็ไม่จบหรอก รู้ไหม ผมเคยมุดลงไปใต้ตึก ตอนนั้นมีรูกว้างมากช่างข้างนอกเข้ามาทำอะไรนี่ล่ะ ส่องไฟไปดู ดินข้างล่างนี่หายไปแล้ว มันเป็นโพรง"

"หมายความว่าไง?" "ผมว่านะ พี่ดูดีๆ แนวท่อหลังตึกรอยต่อชั้น1กับชั้น2ที่มันยาวตลอดตึกเนี่ย มันห่างออกมา โดนดึงออกเรื่อยๆ" ในใจนี่คิดกันแล้ว "ตึกมันเอียงพี่"
เอาแล้วไง จะแก้ตึกเอียงกันเลยรึไง พวกเมิง?

"ผมถึงว่า แก้ไปปีหน้าก็ต้องมาแก้อีก " "แล้วคิดว่าจะทำยังไงได้? ก็ต้องทำไปปีนี้เท่าที่ทำได้ อันนั้นที่เราคิดกันอยู๋ในใจเนี่ยก็ไม่ต้องพูดไป ลูกบ้านได้ขายห้องหนีหมด" จริงๆถึงไม่หนีหรือไม่รู้ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเรามากมายหรอกเว้ย

ทำงานของเราไปเรื่อยๆนี่ล่ะ

เป็นกรรมเวรของคนซื้อคอนโดนะ ตอนจะซื้อว่าเลือกดีแล้วเชียว แต่เมื่อตึกอายุ12ปีคุณจะเข้าใจไหมว่า มันก็เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาได้ค่ะ

ตึกร้าวบ้างล่ะ น้ำรั่ว ท่อผุบ้างล่ะ เฮ้อ...คนที่ทำงานฝ่ายจัดการก็ต้องตอบคำถาม ให้ข้อมูลและข่วยเหลือแก้ไขปัญหาตามหน้างาน คิดดูเอาเถอะ เราต้องมาดูแลตึกอายุ12ขวบนี่ มันจะปวดหัวไหม

ทุกวันค่ะคุณ.




Create Date : 28 มีนาคม 2553
Last Update : 28 มีนาคม 2553 16:11:35 น.
Counter : 326 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  

podduang-pk
Location :
ขอนแก่น  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



โลกนี้เป็นสถานที่เรียนที่กว้างใหญ่ ฉันได้เรียนทุกนาทีที่หายใจ..ฉันอยากมีความสุขที่อยู่ตรงนี้ ก็เท่านั้นเอง


msn-email : podduang-pk@hotmail.com
..ยินดีสนทนาก๊องแก๊งงงงงงงงง..
...วันนี้ มีความสุขกับสิ่งที่รักบ้างหรือยังจ้ะ... ..ลองเข้าไปดูของข้างล่างดูนะ เราลองทำลิ้งค์ไปที่อเมซอนดูน่ะ