รีวิว ภาพยนตร์ใหม่ "Leio" ไลโอโคตรแย้ยักษ์ 🦎💥
ตอนแรกผมกำลังเลือกว่าจะเอาเรื่องไหนดี มีภาพยนตร์ไทยเข้า 2 เรื่อง
แต่ไปๆมาๆขอเรื่องเป็นเรื่องนี้ละกันครับ ผมให้คะแนนอยู่่ที่ 6.5/10 คะแนน



หนัง Leio หรือชื่อไทยว่า ไลโอโคตรแย้ยักษ์ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ
ดินแดนสุดแห้งแล้งแถบภาคอีสานในจังหวัดเลยประสบปัญหากับภัยแล้งเป็นประจำทุกปี
จึงเกิดกลุ่มคนที่แย่งชิงการขุดเจาะหาแหล่งน้ำบาดาลเกิดขึ้น กลุ่มคนที่แสวงหา
ผลประโยชน์จากการขุดเจาะน้ำบาดาล ที่จะสร้างรายได้ให้พวกเขาอย่างมหาศาล



เพียงเพราะต้องการหาแหล่งน้ำบาดาลพวกเขาจึงต้องตระเวน เจาะ ขุด
หาแหล่งน้ำให้ลึกลงไปถึงชั้นใต้ดิน แต่ใครจะรู้เลยว่าการขุดเจาะในครั้งนี้จะเปลี่ยนจาก
ดินแดนสวรรค์ให้กลับกลายเป็นนรกในทันที เมื่อสัตว์ประหลาดร้ายสายพันธุ์
ดึกดำบรรพ์ตื่นจากการจำศีลเพราะการถูกปลุกจากพวกเขานั่นเอง



สัตว์นักล่าสายพันธุ์ใหม่ขนาดมหึมาที่ล่าใครแล้วโอกาสรอดยาก
พวกเขาต้องหาทางรับมือกับมันอย่างไม่มีทางเลือก ทางเดียวที่จะรอดคือต้องสู้
 เตรียมตัวพบกับความระทึกอุบัติใหม่จากใต้ดิน! 28 กรกฎาคม พ.ศ.2565 นี้



นับว่าเป็นหนังที่มีแนวคิด และไอเดียที่น่าสนใจมาก เป็นหนังไทยที่เลือกที่จะแตกต่าง
หยิบยกสัตว์ประหลาดเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว ซึ่งหนังแนวนี้ในไทยที่เรานึกออก
และค่อนข้างโอเคครั้งสุดท้ายที่เคยดูคือ ปักษาวายุ ที่จำได้ว่าตอนดูก็เอ็นจอยและสนุก
กับมันอยู่นะ พอมาเรื่องนี้เลยมีความคาดหวังพอสมควร



ไลโอโคตรแย้ยักษ์ - Leio เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่จะมาแข่งขันกันขุดเจาะ
หาน้ำบาดาล แต่มันเป็นการไปปลุกแย้ยักษ์ที่หลับไหลอยู่ใต้ดินให้ออกมาอาละวาด



จริง ๆ เราไม่ได้ติดเรื่อง CG เลยว่ามันจะเนียน สมจริงหรือไม่
เพราะหนังสัตว์ประหลาดหลายเรื่อง CG ไม่ได้เนียนไม่ได้สมจริง ก็สนุกกับมันได้
เช่น แฟรนไชส์ Sharknardo เป็นต้น ซึ่งเอาจริง ๆ CG ในไลโอโคตรแย้ยักษ์
ก็ไม่ได้น่าเกลียดเลยนะ เห็นความตั้งใจและความพยายามเลยแหละ



การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทำได้ดีซะด้วย ปฏิสัมพันธ์แบบถึงเนื้อถึงตัวของนักแสดง
กับสัตว์ประหลาดก็ทำได้ดี ดีเทลตัวสัตว์ประหลาดก็ละเอียด แต่หลายฉากก็ลอยด้วย
แสงและเงาต่าง ๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่ปัญหา เราไม่ได้
ติดเรื่องนี้เลย ปัญหาจริง ๆ มันอยู่ที่บทต่างหาก เพราะมันพังมากจริง ๆ



บทพูดนี่พังพินาศมาก การต่อบทกันของตัวละครที่ไร้มิติ ไร้ชั้นเชิง แข็งทื่อ
ยิ่งผสมผสานกับการแสดงแบบแข็ง ๆ ต่าง ๆ มันยิ่งทำให้เหมือนเรานั่งดูตัวละคร
ยืนอ่านหนังสือท่องบทที่มันไม่เข้าปาก ไม่สมเหตุสมผลแบบสุด ๆ ยิ่งบทคู่พระนางนะ



ไล่ไปตั้งแต่เรื่องราวเบื้องหลังตัวละครของพระเอกที่ปูมาทำไมก็ไม่รู้
เป็นนักร้องเหมือนจะตกงาน ทะเลาะกับผู้จัดการ โดนยัดยา ไม่ได้ส่งผลต่อ
เรื่องราวอะไรเท่าไหร่เลย ส่วนตัวนางเอกที่บอกว่าเป็น Youtuber



แต่ไม่มีทีมงาน ไม่มีตากล้อง ไม่มีอะไรบ่งบอกความเป็นแบบนั้นเลยสักนิด
ไม่มีความจำเป็นต้องให้เป็น Youtuber ก็ได้ด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์ตลอดทั้งเรื่อง
ของพระ-นางนี่โคตรเชยเลย มีหลายซีนที่เกิดคำถามว่า มีทำไม? มีเพื่ออะไร? 



แถมตัวนางเอกชอบหนังดึงดราม่าไร้สาระในหลายจุดมากแบบไม่มีเหตุไม่มีผล
เอะอะก็จะดราม่า ตัดพ้อบลา ๆ ส่วนพระเอกนี่ไม่รู้ตัวหนังมันตั้งใจทำให้ขำหรือเปล่า
เป็นแบบทีเล่นทีจริงหรือเปล่า แต่หลุดขำหลายฉากมาก



โดยเฉพาะฉากปลุกใจก่อนปราบสัตว์ประหลาดช่วงท้ายนี่ขำมาก ขำแบบอย่างนี้ก็ได้หรอวะ
ยิ่งฉากแบบนึกถึงคำสอนปู่นี่ยิ่งโคตรฮา "ปู่ผมเคยบอกเอาไว้ว่า..." ฮาแบบลั่นอะ
มันไม่ได้มีความอิน ซึ้ง ทรงพลัง ขนลุก แต่มันเป็นฉากที่โคตรตลกเลย



หนังไม่มีน้ำหนักให้ตัวสัตว์ประหลาดแย้ยักษ์เลยสักนิด ที่มาที่ไป เหตุและผล
ในการจับหรือเลือกรับประทานมนุษย์ แถมมันก็ไม่ได้รู้สึกน่ากลัวหรือน่าเกรงขามแบบ
ที่หนังสัตว์ประหลาดควรจะเป็นเลยแม้แต่น้อย ความลุ้น ความระทึกจากตัวสัตว์ประหลาด
นี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็น 0 เลยทีเดียว



มันมีฉากนึงที่ตัวพระเอกพูดประมาณว่า "จบยังเนี่ย ไม่ไหวแล้วโว้ย"
อยากจะลุกปรบมือให้จริง ๆ เพราะมันคือประโยคแทนใจเราหมดทุกอย่างแล้ว 



สามารถชมภาพยนตร์ "Leio" ไลโอโคตรแย้ยักษ์ 🦎💥
ได้ในโรงภาพยนต์ทั่วประเทศไทย



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก ภาพยนตร์ "The Witch: Part 2. The Other One"
แม่มด มือสังหาร 💥👧 สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกด like กด แชร์ด้วยนะครับ 🙏
ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
 #นายแว่นขยันเที่ยว 😎📷



ขอบคุณตัวอย่าง : "Leio" ไลโอโคตรแย้ยักษ์ 🦎💥
กำกับการแสดงโดย : ชาลิต ไกรเลิศมงคล, ชิตพล เรืองกัลป์
Vote : ภาพยนตร์

​​​​​​​

วัดสี่ร้อย พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอ่างทอง
วัดสี่ร้อย ตั้งอยู่ ตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
พิกัด : https://goo.gl/maps/1UU8L77KovvZnNmR9 



เดียวผมจะพามารู้จักวัดสี่ร้อยกันก่อนนะครับ "วัดสี่ร้อย" ตามตำนานเล่าว่า ในอดีตกาล
พระเจ้าอลองพญากษัตริย์พม่า ได้ให้มังระ ละมังฆ้อนนรธาราชบุตร ยกทัพมาตีเมืองมะริด
ของไทย ซึ่งอยู่ในความปกครองของกรุงศรีอยุธยา ในครั้งนั้นขุนรองปลัดชู
กรมการเมืองวิเศษไชยชาญ ซึ่งเป็นผู้ทรงวิทยาคมแก่กล้า



ชำนาญการรบด้วยดาบสองมือ จนมีลูกศิษย์มากมายจึงได้รวบรวมชาววิเศษไชยชาญ
จำนวน 400 คน เข้าสมทบกับ กองทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ โดยใช้ชื่อว่า "กองอาทมาต"
เมื่อพระยารัตนาธิเบศร์ยกกองทัพไปตั้งที่เมืองกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ
ได้สั่งให้ขุนรองปลัดชูคุมกองอาทมาต ไปตั้งสกัดกองทัพพม่าที่อ่าวหว้าขาว



เหนือที่ว่าการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน พอกองทัพพม่ายกทัพผ่านมา
ขุนรองปลัดชูจึงคุมทหารเข้าโจมตีรบด้วยอาวุธสั้นถึงตะลุมบอน แม้ทหารของไทยจะน้อยกว่า
แต่ก็สามารถรบกับพม่าจนล้มตายเป็นจำนวนมาก การต่อสู้ผ่านไป 1 คืน ถึงเที่ยงวัน
รุ่งขึ้นก็ยังไม่สามารถเอาชนะพม่าได้ เพราะพม่ายกทัพหนุนเข้ามาช่วยอีก



ด้วยกำลังที่น้อยกว่าจึงอ่อนแรง ในที่สุดก็ถูกพม่ารุกไล่โจมตีแตกพ่ายยับเยิน
แต่ทหารกองอาทมาต มีวิชาอาคมแก่กล้า ฟันแทงไม่เข้า ทหารพม่าจึงไสช้างเข้าเหยียบย่ำ
ทหารกองอาทมาตตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือก็ถูกไล่ลงทะเลจมน้ำตายไปในที่สุด
ขุนรองปลัดชูพร้อมด้วยทหารกองอาทมาตแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ จำนวน 400 คน



จึงเสียชีวิตด้วยฝีมือของพม่า เมื่อชาววิเศษไชยชาญทราบข่าวก็พากันโศกเศร้าเสียใจ
จึงได้แต่ภาวนาขอบุญกุศล ที่ได้สร้างสมไว้จงเป็นปัจจัยส่งผลให้ดวงวิญญาณทหารกล้า
ได้ไปสู่สุคติ ความเงียบเหงาวังเวงเกิดขึ้น หมดกำลัง ใจในการทำมาหากิน
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการร่วมกันสร้างสิ่งต่าง ๆ



ไว้เป็นที่ระลึกถึงผู้พลีชีพจึงได้สร้างวัดสี่ร้อยขึ้น ในปี พ.ศ. 2313 โดยตั้งชื่อวัดตามจำนวน
กองอาทมาต 400 คนที่เสียชีวิตไปในการรบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชนรุ่นหลังของ
ชาวเมืองวิเศษไชยชาญ ย้ำเตือนความทรงจำให้ระลึกถึงบรรพบุรุษ
ที่พลีชีพและปกป้องแผ่นดินจนเสียชีวิต



จ้าอาวาสวัดสี่ร้อยในขณะนั้น จึงได้สร้างเจดีย์ ไว้เป็นที่รวบรวมดวงวิญญาณของ
ชาวแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ที่เสียชีวิตจำนวน 400 คน และมีการจัดงานประจำปี
ของวัดสี่ร้อยขึ้น โดยตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12



ซึ่งประชาชนทั่วสารทิศจะมานมัสการหลวงพ่อใหญ่ ขอโชคลาภต่าง ๆ นานา
ใครมีทุกข์ร้อนประการใดก็มาบอกเล่าหลวงพ่อใหญ่ และมักมีการแก้บนด้วยพลุและละคร
ปัจจุบันนี้วัดสี่ร้อยเป็นหนึ่งในแหล่ง ท่องเที่ยวน่าไปของจังหวัดอ่างทอง



ขอขอบคุณข้อมูล : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดสี่ร้อย 



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก พาชิม อาหารอินเดีย ที่ ร้านSipster Cafe
จังหวัดกรุงเทพมหานคร สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube กูรูเอมมี่ แชลแนล : 
https://www.youtube.com/channel/UCRYXqGydbgKYciPr2Kilw3g
ขอขอบคุณ อาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ โหราเวทย์ศรีธนญชัย



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : ขวานบิ่น
ศิลปิน : สิงโต นำโชค กับ โจ๊ก โซคูล
Vote : ท่องเที่ยวไทย

พาชิม อาหารอินเดีย ที่ ร้านSipster Cafe จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ร้านSipster Cafe ตั้งอยู่ ริมถนนราชพฤกษ์ แขวงบางพรหม
เขตตลิ่งชัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พิกัด : https://goo.gl/maps/J1XFNYLtszjEVCuX8 



หลังจากบล๊อกนี้ผมอาจจะ ลง น้อยลงหรือปลับเปรียนไปนะครับ เพราะว่า
ผมต้องกลับไป เรียนเพราะ มหาวิทยาลัยเปิดการเรียนการสอนปกติแล้ว



วันนี้ผมเลยขอหยิบ ร้านอาหารอินเดีย มาแนะนำคนฝั่งธนกันครับ เพราะว่า
ร้านSipster Cafe เป็นเจ้าของเดียวกับ ร้านChilli Chilli ตรงถนนข้าวสาร



ผมบอกเลยว่า อาหารร้านนี้ อร่อยมากๆ และสู้ร้านที่อยู่ที่ถนนสาวสารได้แน่นอนครับ
(เหตุที่อยากกินอาหารอินเดีย เพราะซีรี Gangubai Kathiawadi)



ผมบอกก่อนนะครับผมไม่รู้จักอาหารอินเดียเลยผมจะขออธิบายว่าในอาหารมันมีอะไรบ้าง
รสชาติ เป็นยังไง กินยากไหม และก็ถ้าสั่งมากิน รู้สึกใหม่ยังไงเดียวเราไปชมกันเลยครับ



มากับจานแรกนะครับ ผมขอให้คำนิยามว่าไก่อบสมุนไพร และทาด้วยมาซาล่า
ผมบอกเลยว่า ตอนแรกผมสั่งมากินผมเห็นก็หลัวกินไม่ได้แต่ว่าไม่เลย
กินง่ายมากๆและที่สำคัญกลิ่นเครื่อองเทศไม่ได้แรงขนาดนั้น อร่อยเลยครับ



ต่อกันด้วยแกงไก่อินเดียครับ รสชาติเข้มขนมมากๆ อร่อยรสชาติคลายๆมัสสมั่นแต่ว่า
กลิ่นเครื่องเทศมากกว่า และก็เปิดความแบบเราไม่เคยกินเลยรู้สึกไหม่ อร่อย แต่เผ็ดน้อย
ผมไม่มั้นใจว่าทางร้านปรับปริมาณเครื่องเทศเพื่อที่จะให้คนไทยชอบหรือป่าวนะครับ อร่อยครับ



ถ้วยนี้ผมมากินครั้งที่สองที่ร้านนี้เจ้าของร้านบอกว่า ให้ลองชิมเมนูนี้ดู เปลี่ยนจากเนื้อไก่
เป็นเนื้อแกะ เป็น แกงแกะ อร่อยนะครับ แต่ผมติดตรงที่กลิ่นเครื่องเทศแรกกว่า
แกงไก่ที่เคยกิน ถ้าคนไม่เคยกินอาหารอินเดียแต่อยากลองชิมผมแนะนำให้กินเนื้อไก่ก่อนนะครับ



ต่อกันด้วยไข่ผัดชีส และใส่ผักต่างๆ ที่ผมเข้าใจนะครับ มีหัวหอมใหญ่ ต้มหอม มะเขือเทศ
หอมแดง แล้วก็ เหมือนจะใส่นมด้วยเพราะว่าได้กลิ่นหอมๆของนมและเลยว่า
กินยาก ถ้าเป็นคนไม่ชอบมันและเค็ม แต่ถ้ากินกับแผ่นโรติก็ถือว่าใช้ได้ครับ



อันนี้ผมอยากลองกินอาหารพื้นๆของประเทศอินเดียดูบ้างผมเลยสั่ง มาม่าผัดอินเดีย
บอกเลยว่าอร่อยไม่เหมือนมาม่าซอง และที่สำคัญกินง่ายไม่ได้กินยากมาก
กลิ่นเครื่องเทศคือไม่แรง รสชาติคือดี อร่อยครับ



เมนูเส้นไปแล้ว ต่อกันด้วยข้าวผัดอินเดียว อันนี้อร่อยครับ แบบมันๆเค็มๆ
อารมณ์เหมือนกินขาวหมกไก่ แต่ว่าหอมเครื่องเทศ และก็มันกว่าเพราะ
ขาวอินเดียมันจะะเม็ดยาวและแน่น กว่า ข้าวหอมมะลิที่เรากินกัน รู้สึกใหม่มากๆครับ



เมนูไข่จานที่แล้วเป็นไข่ยี รอบนี้เป็นไข่เจียว แต่ว่าเป็นไข่เจียวที่ใส่นมสด
และใส่เครื่องเทศหลายอย่าง แต่ผมแยกไม่ออกเลยว่ามีอะไรบ้าง
แต่ว่ามันไม่เรี่ยนเท่าไข่ผัด ผมว่าอันนี้กินง่ายกว่าและอร่อยกว่ามากๆ 
(ความชอบส่วนตัวของผมนะครับ)



อาวพิมถึงโรตีทำไมไม่มีโรตีให้ดูเลย โรตีมีแป้งให้เรือกสองแบบ
คือแบบหนานุ่ม ให้ความรู้สึกเหมือนกินขนมปังอบในเตาถ่าน



และก็แบบ กรอบ ทุกคนคงสงสัยว่ามันต่างกันยังไงบอกเลยว่าแบบกรอบคือหอมกว่า
อร่อยกว่าแต่ว่า ก็อยู่ที่ว่าแต่ละคนชอบกินอาหารแบบไหนอย่าผม
ชอบอาหารทอดก็จะชอบแบบกรอบ



ร้านเปิดทุกวันนะครับ สามารถโทรสอบถามเพิมได้ที่ : 082-522-5222
หรือไปที่เพจFacebook : Sipster at ราชพฤกษ์
https://www.facebook.com/sipstercafe/



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก ถวายผ้าอาบน้ำฝน และเทียนพรรษา
ประจำปี 2565 (ปีขาล) วัดพระขาว จังหวัดชัยนาท สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube กูรูเอมมี่ แชลแนล : 
https://www.youtube.com/channel/UCRYXqGydbgKYciPr2Kilw3g
ขอขอบคุณ อาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ โหราเวทย์ศรีธนญชัย



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : Gangubai Kathiawadi Highlight
ศิลปิน : Arijit Singh
Vote : ท่องเที่ยวไทย

รีวิว ภาพยนตร์ใหม่ "The Witch: Part 2. The Other One" แม่มด มือสังหาร 💥👧
วันนี้ผมขอหยับหนังภาคต่อกันบ้างครับ ผมบอกเลยว่าถ้าได้มาดูภาคนี้ไม่ผิดหวัง
ผมขอให้คะแนน ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่ 7/10 คะแนน



หนัง The Witch: Part 2. The Other One เด็กสาวตื่นขึ้นมาในห้องทดลองลับ
และได้พบกับ Kyung-hee ผู้ที่พยายามปกป้องเธอจากแก๊งที่ไม่หวังดี
แต่พวกมันต้องเผชิญกับพลังที่ไม่คาดคิดของเด็กสาวคนนั้น



นี่คือหนังภาคต่อจาก The Witch: Part 1 The Subversion ในปี 2018
ที่พึ่งจะมีโอกาสมาดูภาคแรกก่อนไปดูภาค 2 ไม่กี่ชั่วโมง แล้วปรากฏว่าชอบเลยแหละ
ถึงแม้มันจะหนังสูตรดำเนินเรื่องช้า ราบเรียบ แต่ช่วงท้ายก็มีความน่ากลัว ความระทึก
บวกกับคาแรคเตอร์ของนางเอก รอยยิ้มชวนสยอง ก็ทำให้มันน่าสนใจขึ้นมาทันที ภาค 2
เลยพลาดไม่ได้แน่นอน



ถ้าถามว่าต้องดูภาคแรกมาก่อนมั้ย ก็คงบอกว่าต้องดูแหละ ถึงแม้มันจะเป็นอีกเส้นเรื่องนึง
แต่มันก็เกิดในช่วงเวลาเดียวกันที่มีความเกี่ยวข้องกันในหลาย ๆ อย่าง
ถ้าได้ดูภาคแรกมาก่อนจะเข้าใจและอินกับเรื่องราวหลายอย่างมากขึ้น



ในภาค 2 นี้ จะบอกเล่าเรื่องราวเด็กสาวที่ได้บังเอิญออกมาจากห้องทดลองแห่งหนึ่ง
ซึ่งเธอคนนี้มีพลังบางอย่างอันน่าสะพรึง เธอได้จับพลัดจับผลูมาเจอกับหญิงสาวที่คอย
ดูแลให้ที่พักอาศัยเธอ และนั่นมันนำมาซึ่งความอันตราย เพราะเด็กสาวคนนี้เป็นที่
ต้องการตัวของหลายฝ่ายเลยทีเดียว



เห็นได้ชัดเลยว่าในภาคนี้ตัวหนังพยายามยกระดับฉากแอ็คชันให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งรูปแบบการตัดต่อ การถ่ายทำ การใช้ CGI ต่าง ๆ เรียกได้ว่าจัดเต็มขึ้นมาก ๆ จากภาคแรก
มันสนุกขึ้นจริง มันส์ขึ้นจริง มันมีความแอ็คชันเอามันส์แบบหนังแอ็คชันเลยอะ แต่...
ความสยอง ความหลอน ความระทึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภาคแรกมันหายไปเกือบหมดเลย



อย่างที่ได้บอกไปย่อหน้าแรกว่าช่วงท้ายคาแรคเตอร์นางเอกทำได้ดี
แอ็คชันชวนสยองเหล่านั้นมันทำให้อยากติดตามแฟรนไชส์นี้
(หากใครนึกไม่ออก มันให้ความรู้สึกน่ากลัวแบบ Wanda ใน Doctor Strange 2)
แต่พอมาภาค 2 เหมือนเสน่ห์ตรงนั้นมันหายไป มันกลายเป็นแอ็คชันแบบเพียว ๆ
แทน ก็นับว่าน่าเสียดายเหมือนกัน 



ทางด้านเนื้อเรื่องก็ยังคงดำเนินเรื่องแบบเนิบ ๆ ช้า ๆ ไม่ได้เร่งหรือรีบร้อนอะไร
กระชับขึ้นนิดหน่อย แต่ประเด็นมันเยอะขึ้น จักรวาลมันขยายขึ้น มีเรื่องราวต่าง ๆ ชวนสงสัย



ให้อยากรู้ อยากติดตามต่อเต็มไปหมด เรียกได้ว่าทิ้งประเด็นและปูไปภาคต่อแน่นอน
ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าในภาคต่อจะกลายเป็นหนังแอ็คชันจ๋าไปเลยหรือเปล่า
แต่ใจอยากให้มันสยอง น่ากลัวแบบภาคแรกนะ 



นักแสดงบทแม่มดในภาคนี้ก็น่ารักดี น่ารักแบบแบ๊ว ๆ น่าเอ็นดู น่าถนุดถนอม
พอมาอยู่ในบทโหดหน้านิ่ง ๆ ก็ทำได้ดี แต่โดยส่วนตัวชอบคาแรคเตอร์นางเอกแม่มด
ในภาคแรกมากกว่า มันดูจิต น่ากลัว สยอง



มันดูร้ายจริง ๆ ทางด้านตัวร้ายในภาคนี้ก็ไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร
แอบเหมือนตัวร้ายผู้หญิงในภาคแรกด้วย แต่คาแรคเตอร์หัวหน้าในภาคนี้สู้ภาคแรก
ไม่ได้จริง ๆ ภาคแรกดูร้ายบวกดูกวนตีน ส่วนตัวละครอื่นก็ไม่ได้มีอะไรชอบเป็นพิเศษเลย
มารอดูว่าภาคต่อไปจะออกมาเป็นยังไง



สรุปแล้ว The Witch Part 2: The Other One - แม่มดสังหาร เป็นภาคที่ดูสนุก
แอ็คชันนี่มาเต็มยกระดับจากภาคแรกอย่างชัดเจน บทหนังที่น่าติดตาม ด้วยการทิ้งเรื่อง
น่าสงสัยชวนอยากรู้เต็มไปหมด แต่น่าเสียดายที่ขาดเสน่ห์ความสยอง ความน่ากลัว
ความระทึกเหมือนในภาคแรกไปซะหน่อย คงรอติดตามภาคต่อกันนั่นแหละว่าจะออกมาเป็นยังไง



สามารถชมภาพยนตร์ "The Witch: Part 2. The Other One" แม่มด มือสังหาร 💥👧
ได้ในโรงภาพยนต์ทั่วประเทศไทย



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก ภาพยนตร์ "The Black Phone"
สายหลอน ซ่อนวิญญาณ 📞💀 สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกด like กด แชร์ด้วยนะครับ 🙏
ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
 #นายแว่นขยันเที่ยว 😎📷



ขอบคุณตัวอย่าง :  "The Witch: Part 2. The Other One" แม่มด มือสังหาร
กำกับการแสดงโดย : พัก ฮุน-จุง
Vote : ภาพยนตร์

ถวายผ้าอาบน้ำฝน และเทียนพรรษา ประจำปี 2565 (ปีขาล) วัดพระขาว จังหวัดชัยนาท
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมานำโดยอาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ 
โดยมีที่ที่ไปหลายที่ แต่ว่าผมเลือกวัดพระขาว จังหวัดชัยนาท



วัดพระขาว ตั้งอยู่ ตำบลชัยนาท อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท
พิกัด : https://goo.gl/maps/JUcggM2TRZuGBL2C6 



เส้นทางบุญ ครั้งที่ 31 พลังบุญพรรษามหามงคลปีขาล เส้นทาง สิงห์บุรี
และ ชัยนาท ช่วงสนับสนุนและ ตามรอยเส้นทาง ของ ททท.สนง.ลพบุรี
ในเรื่อง วัดวาอาราม ศาสนาสถานวัฒนธรรม และ วิถีชุมชน



วัดหลวงพ่อขาวสัมฤทธิ์สำเร็จ พระพุทธรูปหิน ที่ลอยน้ำมา ชาวชัยนาท
นิยมมากราบขอพรให้ สมปรารถนา ดังจิต ที่ตนเองคิด และ จุดเด่นที่แปลก
สำหรับในความเป็นพระพุทธรูป ที่ต่างจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์อื่นๆก็คือ



หลวงพ่อองค์นี้ ท่านชอบผ้าห่มสีขาวมากๆ และคณะเราได้นำเทียนพรรษา พร้อม
ผ้าอาบน้ำฝน มาถวายเพื่อสืบประเพณีบุญ อีก 1 วาระ



หลวงพ่อขาว ขาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชัยนาท เชื่อกันว่า
หลวงพ่อขาวเป็นพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาก ติดอยู่ที่วัด 



ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมมาขอเรื่องโชคลาภวาสนาดี และใครที่ไม่อยากจับใด้ใบแดง
ชาวบ้านบอกว่าต้องมาบนกับหลวงพ่อขาวเลยครับ 



หลวงพ่อขาวชาวบ้านนิยมมาบนด้วย หัวหมูไข่ต้ม พวกมาลัย และที่ขาดไม่ได้คือขนมตาล
ใครใด้ตามที่สมหวังก็ต้องเอาของมาแก้บนทุกคน ครับ



ขอกราบโมทนาบุญ ในมหากุศล จากทุกๆท่านที่ ร่วมหนุนนำในครั้งนี้ อีกครั้ง



ขออาราธนาบารมีหลวงพ่อหลวงขาว แห่งวัดพระขาว จงประทานพร
ให้ทุกๆท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จ



สมปรารถนา สุขภาพแข็งแรง ไร้อุปสรรค มีความสวัสดี
โดยทั่วหน้ากันเทอญ......











ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก โรงแรมหรรษนันท์ จังหวัดพิษณุโลก
 สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube กูรูเอมมี่ แชลแนล : 
https://www.youtube.com/channel/UCRYXqGydbgKYciPr2Kilw3g
ขอขอบคุณ อาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ โหราเวทย์ศรีธนญชัย



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : ฝนตกไหม
ศิลปิน : Three Man Down
Vote : ท่องเที่ยวไทย