รีวิวภาพยนตร์ "Tee Yod" ธี่หยด : สยองขวัญแอ็กชันเดือด อิทธิฤทธิ์ผีปั่นประสาทสุดเฮี้ยน
วันนี้ผมขอหยิบหนังผีอีกหนึงเรื่องที่กถึงในตอนนี้ อย่างเรื่อง "ธีหยด"
ขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 8/10 คะแนน



เปิดเรื่องย่อธี่หยด พร้อมรีวิว "ธี่หยด" หนังผีไทยที่น่าจับตามองแห่งปี สร้างจากเค้าโครง
เรื่องจริงของกระทู้ดังบนเว็บไซต์ Pantip นำเรื่องราวที่ทุกคนเคยอ่านแล้วจินตนาการถึง
มาสร้างเป็นภาพยนตร์สยองขวัญสั่นประสาท หนังเรื่องธี่หยดเข้าฉายวันไหน
รีวิวเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามได้ที่นี่



ธี่หยด คือ เรื่องเล่าที่คุณกิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์ ได้เขียนลงบนเว็บไซต์ Pantip.com
เมื่อปี พ.ศ. 2558 เล่าเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณแม่ สมัยที่ครอบครัวยัง
อาศัยอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ในช่วงปี พ.ศ. 2515 ทำให้ "ธี่หยด" กลายเป็นกระทู้เรื่องผี
ที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ มียอดแชร์มากกว่า 130,000 ครั้ง



หลังจากนั้นถูกนำมาตีพิมพ์เป็นนิยายเรื่อง "ธี่หยด... แว่วเสียงครวญคลั่ง"
รวมถึงเจ้าของเรื่องยังโทรไปเล่าผ่านรายการวิทยุผีชื่อดัง The Ghost Radio อีกด้วย
จนกระทั่งนำมาสร้างเป็นหนังสยองขวัญ "ธี่หยด" กำกับโดยทวีวัฒน์ วันทา
ซึ่งเคยฝากผลงานไว้ในหนังไทยเรื่องทองสุก 13



ส่วนคำว่า "ธี่หยด" แปลว่าอะไรนั้น ยังมีไม่ข้อระบุแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าหมายถึง "โอม"
ซึ่งเป็นเสียงสวดที่อาจเพี้ยนมาจากภาษามอญโบราณนั่นเอง



ธี่หยด เล่าเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2515
เมื่อ "แย้ม" (น้องสาวของคุณแม่ของคุณกิตติศักดิ์) ลูกสาวคนกลางของบ้าน ล้มป่วยลง
ด้วยโรคประหลาด หลังจากเห็นหญิงชรายืนอยู่ใกล้ศาลร้างใต้ต้นไม้ใหญ่ นิสัยและพฤติกรรม
ของแย้มเริ่มเปลี่ยนไป จากเด็กอ่อนโยนก็กลายเป็นเด็กก้าวร้าว
อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ นอนซมอยู่ที่บ้าน 



จนกระทั่ง "ยักษ์" พี่ชายคนโตของบ้านเดินทางกลับมา และพบเจอกับเหตุการณ์แปลกๆ
เมื่อ "หยาด" น้องสาวอีกคนเล่าให้ฟังว่าในเวลากลางคืนจะได้ยินเสียงสวดประหลาด
เปล่งเสียงว่า "ธี่หยด" อย่างโหยหวน นำไปสู่การสืบหาความจริง โดยมีชีวิตของ
น้องสาวและความปลอดภัยของครอบครัวเป็นเดิมพัน



สิ่งแรกที่ต้องยอมรับเลยว่าหนังไทยเรื่อง "ธี่หยด" ทำออกมาได้ดีก็คือการเซตภาพ
ฉากต่างๆ ออกมาได้หลอนจับใจ บรรยากาศอึมครึมในยามโพล้เพล้ชวนให้รู้สึกไม่
ปลอดภัย ราวกับมีภัยอันตรายที่มองไม่เห็นกำลังคืบคลานเข้ามา



โดยเฉพาะวิชวลในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยบรรยากาศหลอนๆ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยปริศนา
และความหวาดกลัว มีแค่แสงแดดและแสงสว่างยามกลางวันเท่านั้นที่พอจะทำให้ผู้ชมรู้สึก
โล่งใจขึ้นมาบ้าง ธี่หยดเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทห่าง
ไกลเมื่อราว 50 กว่าปีก่อน



ครอบครัวที่พ่อเข้มงวด ทำให้ลูกๆ ไม่กล้าปรึกษาหรือเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง
แม้กระทั่งในช่วงที่ "แย้ม" ลูกสาวเกิดล้มป่วยด้วยโรคประหลาด พ่อก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่า
เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่กระนั้นก็ดูเหมือนว่าหนังจะไม่ได้จงใจเน้นเล่าดราม่าครอบครัว



ทำให้พัฒนาการของตัวละครไม่ได้เข้มแข็งมากนัก หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชายก็เป็นเพียงไม้ประดับที่ทำหน้าที่
ส่งบท "ฮีโร่" ให้กับยักษ์ (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ)
ผู้เป็นพี่ชายคนโตของบ้านเท่านั้น



เนื้อหาที่สนุกสนานและจังหวะการเล่าเรื่องชวนลุ้นให้ติดตามต่างหาก ที่กลายเป็นหัวใจ
หลักของหนังที่ต้องการพาผู้ชมไปสัมผัสประสบการณ์หลอน ทำให้พาร์ทหลังของธี่หยด
เต็มไปด้วยความสยองขวัญปั่นประสาท ไม่ใช่แค่หนังผีที่สร้างบรรยากาศขนลุกเท่านั้น
แต่ยังมีความเป็น "หนังแอ็กชัน" ที่เพิ่มจังหวะตื่นเต้น ระทึกชวนขนลุก และทำให้ผู้ชม
ลุ้นจนเหนื่อยกับหลายๆ ฉากสุดหลอนจนต้องเอาใจช่วยเชียร์ตัวละครไปตามๆ กัน



หนังธี่หยดถือว่าเป็นหนังไทยที่คอหนังสยองขวัญไม่ควรพลาดชม สมการรอคอย
สำหรับคนชอบเรื่องผีที่อาจจะเคยได้อ่านหรือได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับ "ธี่หยด"
เมื่อหลายปีก่อน การได้เห็นภาพในจินตนาการออกมาโลดแล่นบนจอฟิล์มแบบเคารพ
ต้นฉบับ เรียกได้ว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีในการดูหนังผีในรอบหลายปีของแฟนๆ
ซึ่งธี่หยดยังเป็นหนังผีไทยเรื่องแรกที่จัดฉายในโรงภาพยนตร์จอ IMAX อีกด้วย



สามารถชมภาพยนตร์ "Tee Yod" ธี่หยด ได้ในโรงภาพยนต์ทั่วประเทศไทย



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก สรุปวิชาสังคมไทยสังคมโลกในศตวรรษที่ 21
เรื่องบทบาทการเคลื่อนไหวทางศาสนาในศตวรรษที่ 21 สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกด like กด แชร์ด้วยนะครับ 🙏
ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
 #นายแว่นขยันเที่ยว 😎📷



ขอบคุณตัวอย่าง :  "Tee Yod" ธี่หยด
กำกับการแสดงโดย : ทวีวัฒน์ วันทา
Vote : ภาพยนตร์

วัดหงส์รัตนาราม วัดสวย กรุงเทพฯ พิกัดสายบุญ ที่ต้องไปไหว้ขอพร
วัดหงส์รัตนาราม ตั้งอยู่ ถนนอิสรภาพ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พิกัด : https://goo.gl/maps/9HeK9L5MgXFbA2MK9 



วันนี้ผมจะพามาเที่ยวที่วัดที่ได้แรงบันดาลใจการตกแต่งสถานีรถไฟฟ้า
MRTอิสราภาพ ที่เป็นรูปหงส์สีทอง ซึ่งเป็นรูปที่มาจากวัดแห่ง "วัดหงส์รัตนาราม" 



วันนี้ตื่นเช้ากันสักหน่อย ออกไปไหว้พระ เสริมบุญกันที่ วัดสวย
ของ กรุงเทพ  กันดีกว่า เป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เก่าแก่ และอยู่มาอย่างยาวนาน
แล้วด้วย นั่นก็คือวัดที่มีชื่อว่า วัดหงส์รัตนาราม หรือ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร แห่งนี้



ประวัติ วัดหงส์รัตนาราม วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร หรือเรียกสั้นๆ
ว่า วัดหงส์รัตนาราม เป็น วัดสวย ของ กรุงเทพฯ แขวงวัดอรุณฯ เขตบางกอกใหญ่
ที่สร้างมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว เดิมชาวบ้านจะเรียกว่า วัดเจ้าขรัวหงส์ 



เพราะตั้งตามเศรษฐีชาวจีนผู้สร้างวัดในสมัยอยุธยา คือ นายหง นั่นเอง ซึ่งต่อมา
ในสมัยพระเจ้าตากสิน ก็ได้มาเป็นวัดในพระบรมราชูปถัมภ์ ทรงปฏิสังขรณ์บูรณะต่างๆ
จนมาถึงในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานนามใหม่โดยใช้ชื่อว่า วัดหงส์รัตนาราม



ไฮไลท์ ของ วัดหงส์รัตนาราม ภายในวัดก็จะมีพระอุโบสถที่สร้างมาตั้งแต่
สมัยพระเจ้าตากสิน โดยมีเรื่องเล่ากันว่าพระองค์มักจะเสด็จมานั่งวิปัสสนากรรมฐานที่วัดนี้
ซึ่งในพระอุโบสถจะมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญคือ หลวงพ่อแสน นั่นเอง



 เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์โลหะ ปางมารวิชัย ที่สำคัญและงดงามอย่างมาก
อีกทั้งยังเก่าแก่โบราณหาชมยากมากๆ อีกด้วย



นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ทั้ง สระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ศาลพระเจ้าตากสินมหาราช
หอพระไตรปิฎก ตู้พระไตรปิฎก รวมไปถึงลวดลายที่สวยงามของบานประตู ทั้งด้านหน้า
และด้านหลัง โดยจะตกแต่งเป็นรูปหงส์เกาะกิ่งไม้ ได้รับการยกย่องว่างดงามแบบที่หาดู
ได้ยากมาก



นึกว่า วัดสวย ที่อยู่ตามจังหวัดอื่นๆ นะเนี่ย แต่จริงๆแล้ว อยู่ในกรุงเทพฯ นี่เอง
ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีวัดที่งดงามได้ขนาดแบบนี้ และยังเก่าแก่มากๆ หลงเหลือในเมืองกรุงด้วย



อีกอย่างว่ากันว่าเป็นวัดที่เหล่าอาชีพอย่างทหารและตำรวจให้ความเคารพนับถือกันอย่างมาก
ด้วยนะ ใครอยากไปกราบสักการะก็ลองไปกันได้เลย



ภาพในกรอบเหนือประตูหน้าต่างมีทั้งสิ้น 57 ภาพ แบ่งเป็น 19 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ภาพ
เล่าเรื่องตำนานพระแก้วมรกตตั้งแต่การสร้าง ณ เมืองปาตลีบุตร จนถึงตอนที่อัญเชิญ
มาประดิษฐานยังนครลำปาง ถึงสมัยพระเจ้านรินทรซึ่งเป็นเนื้อหาตามที่ปรากฏใน "รัตนพิมพวงษ์"



หลวงพ่อสุข หรือ หลวงพ่อทองคำแห่งวัดหงส์รัตนาราม เคยถูกพอกด้วยปูนจนกลายเป็น
พระพุทธรูปศิลปะรัตนโกสินทร์มาก่อน จนใน พ.ศ. 2499 พระสุขุมธรรมาจารย์
เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามในเวลานั้นพบรอยกะเทาะบริเวณพระอุระ



เห็นเนื้อในของพระพุทธรูปเป็นสีทองสุกปลั่ง จนนำมาสู่การกะเทาะปูนออก
เผยให้เห็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยองค์งามข้างใน และด้วยความสุกปลั่งของทองคำ
จึงเป็นที่มาของชื่อ "หลวงพ่อทองคำ" ส่วนชื่อ "หลวงพ่อสุข" นั้น สันนิษฐานว่ามาจาก
การที่พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปในศิลปะสุโขทัยนั่นเอง



อีกหนึ่งความสำคัญของหลวงพ่อสุข คือการเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยที่มีจารึกที่ฐาน
(อาจจะสังเกตยากสักหน่อย เพราะเรามองท่านในมุมเงย) ความสำคัญของจารึกหลักนี้มี
ทั้งการเป็นจารึกที่ระบุศักราชที่สร้างพระพุทธรูปเอาไว้ คือ พ.ศ. 1967 รวมถึงระบุชื่อผู้สร้าง



คือ พระยาศรียศราช ซึ่งพอเราเอาชื่อนี้ไปหาในเอกสารทางประวัติศาสตร์อื่น
พบว่าพระยาศรียศราชคือบุตรของ พระยาเชลียง ผู้ครองเมืองสวรรคโลกด้วย จึงเป็นไป
ได้ว่า พระพุทธรูปองค์นี้น่าจะสร้างขึ้นที่เมืองเชลียงหรือเมืองศรีสัชนาลัย



อีกหนึ่งสถานที่สำคัญของวัดหงส์รัตนารามที่อาจจะไม่ได้เก่าแก่เท่าพระอุโบสถ
หรือพระวิหารของวัด แต่สถานที่นี้ก็สำคัญและเป็นที่รู้จักไม่แพ้กัน นั่นก็คือ
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ ศาลพระเจ้าตาก



ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทย มีที่มาจากตำนานถึงเหตุการณ์หลังจาก
สำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ ได้มีการอัญเชิญพระบรมศพ
ผ่านวัดหงส์รัตนาราม ขณะนั้น



หนึ่งในคนในขบวนที่ถือพานรองพระโลหิตหันไปเห็นพระเจ้าตากไร้พระเศียรยืนอยู่ที่
พระอุโบสถของวัดจนทำพานรองพระโลหิตในมือหล่น จากนั้นจึงนำดินที่มีพระโลหิตมาปั้น
เป็นพระรูป แล้วตั้งไว้ภายในศาลไม้ที่ตำแหน่งนั้น และตำแหน่งที่ว่าก็คือบริเวณต้นโพธิ์
ใกล้กับศาลปัจจุบันนั่นเอง



ส่วนศาลหลังปัจจุบันซึ่งเป็นอาคารทรงไทยสมัยใหม่นั้น สร้างขึ้นโดยความร่วมมือ
ของกองทัพเรือและคณะผู้ศรัทธาแทนที่หลังเดิมซึ่งเป็นไม้ในตำแหน่งของศาลไม้นั้นเมื่อ
พ.ศ. 2527 ภายในประดิษฐานพระบรมรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ขนาดเท่าพระองค์จริง



วัดหงส์รัตนารามแห่งนี้เป็นอีกวัดที่ผ่านกาลเวลามานับร้อยปี ผ่านร้อนผ่านหนาว
ผ่านเรื่องราวมามากมาย และทิ้งริ้วรอยแห่งอดีตเอาไว้ผ่านตำนาน เรื่องเล่า และสิ่งที่
มองเห็น-จับต้องได้ อย่างงานศิลปกรรมที่ทำให้เราเห็นถึงความเก่าแก่และความสำคัญ



ของวัดได้อย่างชัดแจ้ง ซึ่งสัมผัสได้เพียงแค่ลองเดินเข้ามาเท่านั้น เราก็จะมองเห็น
และสัมผัสถึงเรื่องราวของวัดได้ไม่ยาก สิ่งสำคัญก็คือ การเปิดใจเดินเข้ามา ปล่อยให้
เรื่องราวที่ฟังผ่านหู ความงามที่ไหลผ่านตา เราก็จะซาบซึ้งไปกับทุกสิ่งในวัดนี้ได้ไม่ยาก
เลยครับ ถ้าไม่เชื่อ ขอเชิญมาพิสูจน์ด้วยตัวเองสักครั้งครับ



ขอบคุณข้อมูล : https://readthecloud.co/wat-hong-rattanaram-ratchaworawihan/ 



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก  "งานนวราตรี 2566"  พิธีแห่ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี
(วัดแขก สีลม) สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube PT Channel : 
https://www.youtube.com/channel/UCGZdHn45JVfiyGdW4wZE0Tw 



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : ผ่านวัยเยาว์
ศิลปิน : Phumin
Vote : ท่องเที่ยวไทย

"งานนวราตรี 2566"  พิธีแห่ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก สีลม)
พิธีแห่พระแม่อุมาเทวี วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก สีลม) เนื่องในวันวิชัยทัสมิ
งานแห่ประเพณีในวันที่อังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2566



“งานนวราตรี 2566” ของวัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือวัดแขก สีลม เป็นอีกหนึ่งพิธีสำคัญ
จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในแต่ละปีจะมีพิธีและขบวนแห่เพื่อเฉลิมฉลอง 



งานนวราตรี คือ งานอะไร  งานนวราตรี มาจากคำว่า “นวราตรี” แปลว่า 9 คืน
ซึ่งหมายถึง การบูชาพระแม่ทุรคา หรือพระแม่ปารวตี หรือพระแม่อุมาเทวี 9 คืน
แต่ในความเป็นจริงจะจัดขึ้นทั้งหมด 10 คืน



โดยเชื่อกันว่าคืนวันที่สิบจะเป็นวันที่สำคัญที่สุดในเทศกาลนี้ เนื่องจากเป็นวันที่
พระแม่ทุรคาที่ปราบมหิงษาสูรได้สำเร็จ หลังจากการต่อสู้ 9 วัน 9 คืน ที่ผ่านมา



ตามตำนานเดิม งานนวราตรี อินเดียมีที่มาอย่างยาวนาน ส่วนใหญ่มักจะจัดขึ้น
พร้อมกันทั่วประเทศ เพียงแต่จะมีรูปแบบ หรือลักษณะงานต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับ
วัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ถือเป็นงานเทศกาลที่สำคัญอีกงานหนึ่งในศาสนาฮินดู 



ในวันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2566 เป็น วันวิชัยทัสมิ อันเป็นวันฉลองชัยชนะ
ขององค์พระแม่มหาทุรคาที่ปราบอสูรได้สำเร็จ หลังจากต่อสู้กันมาเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน
(นวราตรี) จนสามารถเอาชนะได้ในวันที่ 10 (วิชัยทัสมิ)
ซึ่งทางวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม)



ได้จัดให้มีงานแห่ประเพณีอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้ร่วมกันสักการะองค์
พระแม่และองค์เทพเทวะทั้งหลายอย่างทั่วถึง โดยขบวนเริ่มเคลื่อนออกจากวัด



"5 เรื่องน่ารู้งานนวราตรี วัดแขก 2566" ช่วงเวลาที่จัดงานนวราตรี
จะจัดขึ้นช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 11 รวม 9 วัน 9 คืน โดยเชื่อว่าเป็นช่วงเวลา
ที่พระแม่และขบวนเหล่าทวยเทพเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพร



พิธีทุบมะพร้าว หรือ การปามะพร้าวลงพื้นจะเกิดขึ้นก่อนขบวนราชรถคันใหญ่
ขององค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี พระแม่มหาลักษมี และพระแม่มหาสรัสวตีผ่าน
เชื่อว่ามะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีความบริสุทธิ์และสะอาด หากทุบมะพร้าวหน้าพระพักตร์
ของเทวรูปที่นับถือ จะแสดงถึงการละทิ้งอัตตาของตนเอง และพร้อมที่จะถวายตน



พิธีตั้งซุ้ม หรือโต๊ะบูชา พร้อมของเซ่นไหว้ ระหว่างทาง หรือขบวนแห่งานนวราตรี 2566
จัดขึ้นเพื่อรับพร ทั้งเรื่องความร่ำรวย มั่งคั่ง และอำนาจบารมี
แต่จะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของการจัดงาน



ผู้ที่เข้าร่วมพิธีงานนวราตรี ส่วนใหญ่เน้นใส่เสื้อผ้าสีขาว หรือชุดส่าหรีแบบอินเดีย
หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าโทนสีดำ ม่วง หรือน้ำเงินเข้ม รวมถึงจะมีการเตรียมดอกไม้
สีเหลือง สีแดง และดอกบัว



ผู้ที่เข้าร่วมพิธีควรสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และเตรียมพกร่ม
หรือเสื้อกันฝนไว้ เนื่องจากวันแห่บางปีมีฝนตก



งานนวราตรี 2566 เป็นอีกหนึ่งงานสำคัญทางศาสนาฮินดู ผู้ที่เคารพบูชา
สามารถเดินทางเข้ามาร่วมพิธีได้โดยไม่มีการจำกัดเชื้อชาติ หรือศาสนา
โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตของตนเอง



บทสวดบูชาพระแม่อุมา พระแม่กาลี และพระแม่ทุรคา (ทั้ง 3 ปางรวมกัน)
“มะโมเม องค์พระแม่ลักษมีผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทีเปรูปะผานัง สักการะวันทนังสุ
ปัพยันนัง โกชนานัง สปริงวารัง อุททังวรัง อาคัจฉันตุ ปริภัณชันตุ สัพพุทติ
หิตายะ สุขายะ สันติ อุเทวานัง เตปีถมเหอนุรักขันติ อาคัจฉายะ
อาคัจฉา หิมานิมามา



ขอเชิญองค์พระแม่ลักษมี ได้โปรดรับเครื่องสังเวย อันพวกข้าพเจ้าได้จัดถวายสักการะแต่ท่าน
ขอท่านได้โปรดรับอย่างมีความสุข เมื่อท่านได้เสวยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอได้โปรด
กำจัดอุปสรรคทั้งหลาย ราชภัย โจรภัย อัคคีภัยและโรคาภัยต่างๆ รวมทั้งทุกขเวทนาต่างๆ
ขออย่าได้แผ้วพาน และในทุกกรณีที่มีปัญหาประการใด ขอให้ข้าพระเจ้าเป็นผู้ชนะ
และได้รับผลสำเร็จตามข้าพเจ้าปรารถนาทุกประการ”



บทสวดพระแม่ลักษมี วัดแขก  “โอม ชยะ ศรี ลักษมี มาตา” (3 จบ)
“โอม ศรี ลักษะมิไย นะมะห์” (3 จบ) “โอม มหาลักษะ มิไย นะโม นะมะห์
โอม วิษณุ ปรียาไย นะโม นะมะห์ โอม ระนะ ประทาไย นะโม นะมะห์
โอม วิศวา จะนันไย นะโม นะมะห์ ยา เทวี สะระวะ ภูเตชุ ลักษมี รูเปนะ สัม สะถิตา
นะมัส ตัสไย นะมัส ตัสไย นะมัส ตัสไย นะโม นะมะห์”



บทสวดพระแม่ลักษมี แบบย่อ “โอม ศรี มหาลักษมี เจ นะมะฮา” หรือ
“โอม พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ ทุติยัมปิ พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ
มหาลาโภ ตะติยัมปิ พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ”



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก  พาส่องงาน Thailand Game Show 2023
พร้อมพรีวิวเกม สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube PT Channel : 
https://www.youtube.com/channel/UCGZdHn45JVfiyGdW4wZE0Tw 



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : Mustofa Atef
ศิลปิน : Qomarun
Vote : ท่องเที่ยวไทย

สรุปวิชาสังคมไทยสังคมโลกในศตวรรษที่ 21
เรื่องบทบาทการเคลื่อนไหวทางศาสนาในศตวรรษที่ 21





ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก รีวิวภาพยนตร์ "The Exorcist : Believer"
หมอผี เอ็กซอร์ซิสต์ : ผู้ศรัทธา สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341 



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : ข้ามเวลา
ศิลปิน : วิโอเลต วอเทียร์
Vote : สื่อการเรียนการสอน

พาส่องงาน Thailand Game Show 2023 พร้อมพรีวิวเกม
จัดกันจนเป็นธรรมเนียมกับงาน Thailand Game Show ที่ปีนี้จัดคู่กับงาน
Wonder Festival 2023 กรุงเทพฯ ในชื่องานว่า Thailand Game Show 2023 Assemble!
ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Hall 1-4 วันที่ 20-22 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา



ในงานมีบูทต่าง ๆ มากมายที่ยกทัพมาตั้งแต่เกมมือถือ, เกมออนไลน์, เกมคอนโซล
และอุปกรณ์เกมมิ่งต่าง ๆ พร้อมกิจกรรมมากมายตลอดทั้ง 3 วัน ค่าเข้างาน 150 บาทต่อวัน



สำหรับบูทฝั่งเกมคอนโซลปีนี้นำโดย Bandai Namco พวงมากับเกม Square-Enix
มาให้ทดลองเล่น โดยเกมที่เปิดให้ทดลองเล่นทั้งหมดในบูทของ Bandai Namco
มีดังต่อไปนี้ Tekken 8, Naruto x Boruto Ultimate Ninja Storm Connection,



Synduality Echo of Ada, Sword Art Online, Sand Land, Armored Core VI,
Jujutsu Kaisen Curesd Clash, Final Fantasy VII Rebirth, Star Ocean The Second
Story R และ Dragon Quest Monster The Dark Prince โดยระบบจัดคิวของ Bandai Namco



นั้นจะให้เราสแกน QR code เพื่อกดรับคิวในโทรศัพท์ เมื่อถึงคิวเล่น Bandai Namco
จะส่ง Notification เข้ามาใน LINE ของผู้ใช้ สำหรับเกมที่มีคนต่อคิวเล่นเยอะที่สุดคือ
Final Fantasy VII Rebirth



ทาง Sega ก็ไม่น้อยหน้าจัดบูทอยู่ข้าง ๆ กัน ขนเกมจากทั้งค่ายตัวเอง และ Altus
นำโดย Sonic Superstars, Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name,
Like a Dragon: Infinite ∞ Wealth, Endless Dungeon และ Persona 3 Reload



มาให้ทดลองเล่น แต่ของ Sega ใช้วิธีต่อแถวเล่นแบบปกติ ทำให้มีแถวยาวทะลุออก
มาจากบูทเล็กหน่อย โดยเกมที่มีคนต่อแถวรอเล่นเยอะที่สุดคือ Persona 3 Reload



สำหรับที่ผมได้ลองเล่นแล้วมีได้แก่ Tekken 8, Synduality Echo of Ada, Sand Land
และ Star Ocean The Second Story R ส่วนเกมไฮไลท์อย่าง Final Fantasy VII Rebirth
ได้คิวตอนเล่น Star Ocean The Second Story R พอดีทำให้คิวข้ามไป
กดคิวใหม่ต้องอีก 100 คิว ผู้เขียนจึงขอยอมแพ้



Tekken 8 ภาคนี้เปลี่ยนการควบคุมใหม่ทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นหลาย ๆ คนต้องปรับตัว
กันค่อนข้างเยอะ เลยกลายเป็นหนึ่งในเกมที่มีคนวนเล่นเยอะมาก ผู้เขียนได้ลองเข้าไป
เล่นแล้วโดนยำแพ้ 3 ยกติด ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามเตรียมกดต่อคิวเพื่อเล่นต่อ



Synduality Echo of Ada เป็นเกมที่เคยเปิดตัวใน Tokyo Game Show 2022
และเพิ่งประกาศเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดในงาน Tokyo Game Show 2023 ที่ผ่านมา
ใน Demo ตัวนี้จะแสดงให้เห็นระบบคร่าว ๆ ของตัวเกมที่จะให้เราได้ปรับแต่งองค์ประกอบ
หุ่นยต์ก่อนไปลุยในภารกิจต่าง ๆ ซึ่งศัตรูภายในเกมค่อนข้างท้าทายในระดับนึง
สำหรับการควบคุมของเกมใช้คีย์บอร์ด และเมาส์



Sand Land เป็นเกมที่มีผู้มาทดลองค่อนข้างน้อย แต่จากการทดลองเล่นปรากฏว่า
เป็นเกมที่สนุกกว่าที่คิด ตัวเกมจะให้เราได้บังคับปีศาจเบลเซบับผจญภัยในโลกทะเลทราย
ที่รายล้อมไปด้วยโจร และไดโนเสาร์ โดยเราสามารถลงไปผจญภัยด้วยตัวเอง หรือ
ขับยานภาหนะลุยทะเลทรายก็ได้ เกมมีความเป็น Action Openworld ที่มีสกิลต่าง ๆ
ให้ใช้ เปรียบต่าง Mad Max เวอร์ชันแฟนตาซีลายเส้น อ.โทริยามะ อากิระ ก็ว่าได้



Star Ocean The Second Story R เกมรีเมคของ Star Ocean 2 ที่เคยลงให้กับเครื่อง
PS1 ตัวเกมยังคงเป็นเกม Action RPG เหมือนต้นฉบับแต่มีการปรับด้านกราฟิกอย่างเห็น
ได้ชัด โดยมีสไปร์ทที่ยังคงเป็น 2D เหมือนต้นฉบับ แต่ฉากเป็น 3D คุณภาพสูงที่สามารถ
หมุนมุมกล้องเมื่ออยู่นอกดันเจี้ยน



สำหรับบูทในเกมอื่น ๆ มีทั้ง Huawei AppGallery ขนเกมอย่าง Ragnarok Origins,
Devil May Cry Perk of Combat และบรรดา vtuber ที่ให้แฟนได้เข้าไป Hi-touch
กัน บูท Mihoyo ก็จัดตามทั้งเกม Honkai Star Rail และ Genshin Impact ที่มีผู้คนสัญจร
ไปมาไม่ขาดสาย บูท Play park ที่กลับมาเอาใจเด็กหนวดอย่างเกม Yulgang และ Audition



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก  แนะนำสถานที่กินเจ โรงเจบ้วนฮกตั้ว
บ้านโปง ราชบุรี สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube PT Channel : 
https://www.youtube.com/channel/UCGZdHn45JVfiyGdW4wZE0Tw 



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : โลกความรักสีชมพู
ศิลปิน : Pinku Notori
Vote : ท่องเที่ยวไทย