Bloggang.com : นายแว่นขยันเที่ยว - วัดสิงห์ ปทุมธานี ชมประวัติศาสตร์โบราณสมัยอยุธยา

วัดสิงห์ ปทุมธานี ชมประวัติศาสตร์โบราณสมัยอยุธยา

วัดสิงห์ ปทุมธานี ชมประวัติศาสตร์โบราณสมัยอยุธยา
วัดสิงห์ ตั้งอยู่ มู่ 2 บ้านสามโคก ตําบลสามโคก อําเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/Mn8B36Vj3xs8F3DH6

ประวัติวัดสิงห์ ได้รับวิสึงคามสีมา(ได้รับพระราชทานพื้นที่จากพระเจ้าแผ่นดินให้สร้างโบสถ์)
เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2210 ภายในวัดมีอุโบสถ กว้าง 8.50 เมตร ยาว 18.00 เมตร

สร้างเมื่อ พ.ศ. 2300 อาคารทรงไทย หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ วิหารน้อย
ศาลาดิน วิหารโถง กุฏิพระโบราณ

เอาใจสายบุญ และคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ด้วยการพาไปเช็คอิน ปทุมธานี ที่นี่เลย
วัดสิงห์ ไหว้พระ ใกล้กรุงเทพ แถมยังได้ศึกษาประวัติศาสตร์โบราณในสมัยอยุธยาอีกด้วย

ขยับออกจากกรุงเทพแค่นิดเดียวก็ถึงแล้ว รับรองว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์คนรักประวัติศาสตร์ ได้อิ่มบุญ อิ่มใจกลับไปแน่นอน ตามไปดูกันเลย

วัดสิงห์ วัดโบราณเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่บ้านสามโคก จังหวัดปทุมธานี
ถือเป็นวัดคู่บ้านเมืองคู่เมืองปทุมธานีเลยก็ว่าได้ค่ะ ชาวบ้านต่างนิยมมากราบไหว้
และเรียกได้ว่าเป็นที่ศึกษาประวัติศาสตร์ไทย ที่มีมาอย่างยาวนานอีกด้วย

วัดสิงห์ ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในตอนที่ชาวมอญอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองนี้
ในบันทึกพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาวัดสิงห์เป็นวัดคู่เมืองสามโคก บริเวณนี้มี
การอพยพเข้าออกมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนของชาวมอญมาหลายยุคสมัย

ตามการสันนิษฐานวัดแห่งนี้น่าจะสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถหรือใน
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วงปี พ.ศ.2202-2210 ที่ตั้งของวัดอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา

มีคลองเชื่อมสำหรับเรือเข้าออกเรียกว่า คลองวัดสิงห์ ทำให้ในบริเวณวัดมีโบราณสถาน
และโบราณวัตถุ ที่น่าสนใจ ควรค่าแก่การศึกษาในด้านประวัติศาสตร์และศิลปะ

ภายในวัดมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโตปูนปั้นลงรักปิดทองปางมารวิชัย
ที่นิยมแก่การสักการะของผู้คน และมีพระประธานในอุโบสถ พร้อมด้วยพระอู่ทอง
อีก 3 องค์ อายุประมาณ 300 ปีเศษเลยทีเดียว

ที่นี่จึงเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์โบราณคดีขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง

อีกทั้งบนกุฏิของวัดมีพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาของเก่า ได้แก่ ตุ่มสามโคก
ส่วนด้านหน้าวัดมีการขุดค้นพบโบราณสถานเตาโอ่งอ่าง หลักฐานการตั้งชุมชนมอญ
ในสมัยแรก โดยมีตุ่มสามโคกเป็นภาชนะบรรจุที่ใหญ่ที่สุดซึ่งผลิตจากเตานี้

ใครที่เป็นสายบุญ และมีความสนใจในประวัติศาสตร์ การมาที่นี่รับรองว่าเพลิดเพลิน
เหมือนได้มาไหว้พระ และเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไปพร้อมๆ กัน กลับบ้านแบบอิ่มบุญ
และได้ความรู้ประวัติศาสตร์โบราณคดีไปด้วย