ซากุระบาน Day 3 ฟูกุโอกะ

ต่อวันที่สามของการเดินทาง เมฆครึ้มมาแต่เช้าดูท่าทางวันนี้ฝนจะตก เราจึงเปลี่ยนแผน หาที่ช้อปปิ้งกันดีกว่า อย่างน้อยก็อยู่ในห้าง(ตามความคิดขณะนั้น) เราเดินทางจากสถานีรถไฟ เบปปุ ไปยัง ฟูกุโอกะ (ผ่านโคคุระต้องหมุนเก้าอี้) ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง อยากจะชมระบบรถไฟญี่ปุ่นจริงๆ เพราะ นอกจาก ตารางที่ตรงต่อเวลา เป๊ะๆ สภาพรถไฟที่สะอาดสะอ้าน ดูทันสมัย เบาะน่านั่ง ห้องน้ำสะอาดน่าเข้าแล้ว พนักงานรถไฟ ทั้ง เจ้าหน้าที่ตรวจตั๋ว และ พนักงานขายของ ล้วนแต่ พูดจาดีมีมารยาท ทุกครั้งที่เข้าและออกโบกี้ จะ โค้งคำนับเสมอ ก็ไม่รู้อีกกี่ปีเมืองไทยถึงจะมีระบบรถไฟดีๆ แบบเค้ามั่ง (เฮ้อ) เรามาถึง สถานี ฮากาตะ สิบเอ็ดโมงนิดๆ แหล่งท่องเที่ยวแรกของเรา คือ ศาลเจ้า ไดซาฟุ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเมือง









วิธีการเดินทาง เนื่องจาก ศาลเจ้านี้อยู่นอกเมือง จึง ต้องต่อรถไฟเอกชน nishitetsu โดยจากสถานีฮากาตะ นั่งใต้ดิน ไปลง เทนจิน (ย่านช้อปปิ้ง) จากสถานีเทนจิน สามารถเดิน ทะลุ ห้านาที ก็ถึง สถานี ฟูกุโอกะ เป็นที่ตั้งของขบวนรถไฟ nishitetsu ซึ่งใช้บัตร JR pass ไม่ได้ ขบวนรถไฟเอกชนนี้จะมีสองแบบ แบบ local ถ้ามีป้ายไป ดาไซฟุ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ มันจะจอดทุกสถานี จนถึงปลายทางคือ ดาไซฟุเลย อีกแบบเป็นแบบ express จะจอดบางสถานี เราต้อง ลงที่สถานี futsukaichi เพื่อต่อขบวน local ไปดาไซฟุ แบบที่สองจะเร็วกว่าหน่อย ขากลับก็แบบเดียวกัน











ถึงหน้าสถานี ฝนก็ตกมาพอสมควร จากสถานีเดินมาด้านขวา จะเห็นเสา โทริอิ หิน เรียงราย เป็นเครื่องบอกทางเข้าศาลเจ้า สองข้างทางเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก และร้าน โมจิ ของเขาเป็นแบบคล้ายๆ ขนมเข่งมีไส้ถั่วแดง อร่อยดี ชิ้นละ ร้อยเยน ก่อนเข้าศาลเจ้าจะมีรูปปั้น วัว กระทิง เล็กๆ ไว้ให้ลูบ (เห็นแล้วนึกถึงตัวใหญ่ที่อยู่ตรง วอลลสตรีท นิวยอร์ค แต่คงไม่เกี่ยวกัน) เดินข้ามสะพานมาก็จะเห็นสวนญี่ปุ่นอยู่ข้างทาง มีรูปปั้น เสียดายที่ฝนตก ไม่งั้น บรรยากาศคงดี กว่านี้







ก่อนเข้าในศาลเจ้าแต่ละที่ก็มักจะมี กระบวยตักน้ำ เพื่อให้ล้างปาก ล้างหน้า ล้างมือ สุดแล้วแต่ เพื่อชำระร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าบริเวณ ศาลเจ้าดาไซฟุมีชื่อเสียงเนื่องจากเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษา จึงมีเด็กนักเรียนจำนวนมากจากทั่วสารทิศ มาขอพร ให้สำเร็จในการเรียน การสอบ ตอนที่ไปก็มีคนมาทำพิธี เนื่องจากฝนตกค่อนข้างหนักเราจึงต้องรีบเผ่นออกมาขึ้นรถไฟกลับมาเทนจิน













ถึงย่านเทนจิน ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้ง คล้ายๆ สยามบ้านเรา เป็นที่ตั้งของห้างดัง หลายห้าง เดินซักพักชักหิว เราจึงเลือกมาห้าง canal city ซึ่งต้องนั่งรถบัส ร้อยเยน ที่ป้ายหัวมุมหน้าห้างไดมารู มาลงป้ายหน้า ห้างคาแนลซิตี้ ถือเป็นห้างใหม่ ห้างใหญ่ ที่รวมร้านแนวๆ ในห้างจะมีหลายๆโซนด้วยกัน มีโรงแรม ร้านอาหาร ถ้าจะเลือกกินจะมีชั้นล่าง หรือไม่ก็ ราเมนสเตเดี้ยม ที่รวมร้านราเมนขึ้นชื่อจากที่ต่างๆมาไว้ด้วยกัน มีหลายร้าน พอมาถึงก็อึ้งเหมือนกันเพราะหน้าร้านแต่ละร้านจะมี ตู้ให้กด บางร้านมีแต่ปุ่มอักษร ผมเลยเลือก ร้านที่มีปุ่มที่มีรูปภาพ วิธีกดก็เหมือนตู้ขายน้ำ หรือ ตั๋วรถไฟ คือ ใส่เงินเข้าไปก่อน จากจำนวนเงินที่ใส่เข้าไป ตู้ก็จะมีไฟ ในรายการที่เงินถึง (ถ้าแพงกว่าเงินที่ใส่ ไฟก็ไม่ติด) จากนั้นก็กดปุ่ม ก็จะมี คูปองมาให้ จากนั้นก็เดินเข้าร้าน รอคิวนิดหน่อย ยื่นตั๋วที่กดให้พนักงาน ดีที่ พนักงาน พูดภาษาอังกฤษได้ เลยถามว่า จะเอา เส้นแข็ง หรือเส้นนิ่ม มื้อนี้ผมกิน ราเมน น้ำต้มกระดูกหมู รสชาติ เข้มข้น หอมมัน มากๆ อร่อยจริงๆครับ จะคล้ายๆร้านที่อยู่ใต้ดินพารากอน ข้างๆร้านแกงกะหรี่ นั่นแหละ กินกับเกี๊ยวซ่า ราเมนชามละ 580 เยน ถ้ามีเครื่องมากขึ้น เช่น ไข่ เนื้อ ก็จะแพงขึ้นตามลำดับ ฟันธง มื้อนี้เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของทริปครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ ใครมาต้องมาลองดู













ติดกับราเมน สเตเดี้ยมจะเป็นร้านเกมส์ ร้านเกมส์ที่นี่ดูเป็นล่ำเป็นสัน คนคงชอบเล่นเกมส์ตู้กันเยอะ เห็นหลายที่ ถนนสายนึงนี่ มีหลายร้าน ทีเดียว เราเดินลงมาดูของเล็กน้อย (ซึ่งก็ไม่ได้อะไร) ถือว่าเดินเล่น ชมบรรยากาศ ชั้นล่างจะเป็นคลอง ช่วงนั้นมี นิทรรศการเอาดอกไม้มาทำเป็นตุ๊กตา ประมาณ รักโลก ไรงี้ ที่นี่มีน้ำพุดนตรีให้ชมด้วย ออกจากห้างนั่งรถ ร้อยเยน จากป้ายหน้าห้าง (ป้ายเดียวกับที่ลง) มายัง สถานี รถไฟ ฮากาตะ เพื่อ เดินทางกลับ โรงแรม ซื้อ ข้าวกล่อง เดินทางสองชั่วโมง โดยรถไฟ กว่าจะถึง เบปปุ ก็ ทุ่มกว่าๆ ไม่มีรถที่ไปโรงแรมแล้ว เรานั่นแท็กซี่ (ทักชี่) กลับ ค่ารถคืนนั้น พันห้าร้อยกว่าเยน แท็กซี่ที่นี่คนขับจะสั่งเปิด ปิดประตูให้เอง ค่าโดยสารก็คิดตามมิเตอร์ นั่งไปลุ้นไป เพราะ ตัวเลขมันเปลี่ยนเร็วมาก แต่คนขับมารยาทดีครับ










Create Date : 31 มีนาคม 2553
Last Update : 1 เมษายน 2553 0:51:50 น. 1 comments
Counter : 1721 Pageviews.  
 
 
 
 
รถไฟฟ้าน่านั่งมากๆเลยค่ะ ดูดีกว่าbusiness class บนเครื่องบินอีกอ่ะ
 
 

โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:7:14:48 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

guntv
 
Location :
Canyon,Texas Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add guntv's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com