ซากุระบาน Day 5 ฮิโรชิม่า

วันนี้เป็นวันที่ห้า ของการเดินทาง จุดมุ่งหมายคือฮิโรชิม่า เมืองแห่งสันติภาพซึ่งวันนี้เราจะได้นั่งรถไฟด่วน ชินกังเซน โดยจาก เมือง เบปปุ นั่งรถไฟ limited express มาที่ โคคุระ แล้วต่อ ชินกังเซ็น บัตร JR pass สามารถใช้นั่ง ชินกังเซ็นได้ ยกเว้นขบวนพิเศษ ใหม่ที่สุด เร็วที่สุด คือ nozomi รถไฟหัวยาวๆๆ ดูเร็วน่าดู ส่วนที่ขึ้นได้จะเป็นขบวน ฮิดาริ เรลล์สตาร์ ปลายทาง โอซาก้า ครับ ว่าด้วยเรื่องรถไฟ เราสามารถจองที่นั่งได้ล่วงหน้า ครับ โดยจองได้ที่ขายตั๋วทุกสถานี เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าได้นั่งแน่ๆ หรือ นั่งกับคนที่อยากนั่ง ถ้าเราไม่ได้จองไว้เราก็ต้องไปต่อคิว ขึ้นตู้ที่ไม่ได้จอง ตอนแรกๆผมก็นั่งผิดครับ ไม่รู้ไปนั่งที่จอง โดนเค้าไล่มาหนึ่งที กับ เจอคนตรวจตั๋วไล่มาหนึ่งที สังเกตง่ายๆครับ ตู้ที่จอง จะมีภาษาอังกฤษตรงทางเข้าครับว่า reserved seat ส่วนใหญ่ อักษรคันจิ จะเป็นตัวสีเขียว แต่ถ้าตู้ non reserved จะเป็นอักษรสีส้ม แต่สำหรับชินกังเซนแล้ว จะมีภาษาอังกฤษบอกที่ชานชลา ว่ายืนตรงไหน จอง ไม่จอง มีตู้สูบบุหรี่ด้วยนะครับ ควันโขมงเชียว














สถานีรถไฟชินกังเซ็น จะแยกออกจาก สถานีรถไฟธรรมดาครับ แต่สามารถเดินเชื่อมกันได้ หลังจากนั่งเกือบหนึ่งชั่วโมง จาก โคคุระ ในที่สุดก็ถึง สถานี ฮิโรชิม่า เมืองศูนย์กลางของเกาะฮอนชูตอนใต้ มาเข้าห้องน้ำที่ใหม่ แล้วก็เจอประสบการณ์ใหม่ คือ โถปัสสาวะ ผู้ชายจะมีเหมือนเป็นเป้าครับ ถ้าปัสสาวะ ใส่ตรงเป้า จะเปลี่ยนสีจากสี ดำเป็นสีแดง ก็เข้าใจคิดเหมือนกันครับ หลายคนที่เคยไปญี่ปุ่นก็คงเคยได้ลอง โถส้วมที่มีปุ่มเยอะๆครับ จะรีวิวตอนท้าย ของวันนี้นะครับ (เนื่องจากวันนี้เนื้อหาน้อย)



ก่อนออกจากสถานี เห็นมี information ใหญ่อยู่ก็ไปถามเค้าครับ หลักๆคือถามทางไป เกาะมิยาจิม่า ที่ตั้งของศาลเจ้า อิตสึคุชิมะ สัญลักษณ์เอก คือ เสา โทริอิ สีแดง กลางน้ำ ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ถือว่าเป็นสถานที่สัญลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และ ได้รับการยกย่องว่าเป็น ภูมิทัศน์ที่สวยงาม หนึ่งในสาม ของญี่ปุ่น ทั้งยังเป็น มรดกโลก จากยูเนสโก ซึ่งผมก็ตั้งหน้าตั้งตาถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยก็ว่าได้ครับ จากสถานี เรานั่งรถไฟ JR local มาลงสถานี มิยาจิม่ากูชิ จะนั่งรถรางมาก็ได้ แต่คงช้ากว่าเยอะครับ ลงจากรถ เดินมาอีกซักหน่อย ข้ามอุโมงค์ข้ามถนน ก็มาโผล่ที่หน้าท่าเรือข้ามฟาก จะมีสองเจ้าครับ เจ้านึงเป็นของ JR บัตรของเราใช้ขึ้นได้ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม รอซักพัก อากาศ หนาว ลมแรง เรือไปยังเกาะมิยาจิม่า ก็เป็นเรือเหมือนข้ามเกาะเสม็ด เกาะช้างครับ บรรทุกรถยนต์ได้ มีชาวต่างชาติ (ฝรั่ง) มาเที่ยวเยอะพอสมควร ซักพักก็จะได้เห็นวิว ของ เกาะ และ ศาลเจ้า เด่นชัด ผมไปยืนท้ายเรือ เตรียมถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ตามเรื่อง













แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันของผมก็เกิดขึ้นครับ แบตที่เหลืออยู่สองขีด ดันหมดลงได้ครับ วันนี้เลยไม่ค่อยมีรูปๆมาอวดซักเท่าไหร่ เสียดาย ตอนที่ผมไปเกาะ ประมาณเที่ยงกว่าๆครับ สังเกตุได้ว่า บรรยากาศในรูป กับ ของจริงของศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ ไม่เหมือนกัน คือ ระดับน้ำครับ ศาลเจ้ากลางน้ำ ที่เหมือน ลอยอยู่ในน้ำนั้น ต้องมาเห็นตอนน้ำขึ้นเต็มที่ครับ จากข้อมูลน่าจะประมาณ สิบโมง จากนั้นจะค่อยๆลดลง (เห็นลอยน้ำนั้นจริงๆ ตื้นนิดเดียวเอง) ตอนที่ไป จึงมีสภาพ ศาลเจ้าริมหาดครับ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย พอเรือเทียบท่า เราก็เดินไปยังศาลเจ้าโดยถนนเลียบชายหาด ก็ชิวดีครับ มีกวางเยอะเลยที่นี่ ถ้าจะเข้าศาลเจ้าก็ต้องเสียเงินครับ ถ้าไม่อยากเสียเงินก็สามารถเดินบนหาดได้ (ก็น้ำมันลงแล้วนี่) หรือ เดินบนถนนทางซ้ายมือ ก็จะเห็นรอบๆ ได้ครับ







กลับมาขึ้นท่าเรือเดิม ระหว่างทางกลับย้อนมาทางถนนขายของที่ระลึก เกาะนี้มีชื่อเสียงเรื่องหอยนางรม มีหอยปิ้งหน้าร้าน หอมๆ ก็ต้องลองซักหน่อยครับ สองตัว สี่ร้อย เยน อร่อยดีครับ ตัวใหญ่สะใจดี มีร้านขนม คล้ายขนมครกญี่ปุ่น ไส้ต่างๆ ที่ให้ดูขั้นตอนการผลิตจะๆเลย แล้วก็มี ขนมครกแบบเมื่อกี้ เอามาทอดกรอบ ชิมไม้นึงไส้ชีส ต้องบอกว่า อร่อยมากครับ และยังมี ปลาหมึกเกาะไม้ไผ่อีก ชิมไปชิมมา ก็ อิ่มเหมือนกัน มายังฝั่ง นั่งรถไฟไปยังสถานีเชื่อมรถราง ฮิโรเดน นิชิ ฮิโรชิม่า เพื่อซื้อตั๋วรถราง one day pass หกร้อยเยน (ใช้ไม่คุ้มอีกแระ ถ้าจ่ายเป็นเที่ยว เที่ยวละ ร้อยห้าสิบเยน) จะได้เป็นการ์ดมา ไม่เหมือนที่นางาซากิ (ที่นางาซากิโชว์บัตรให้คนขับดูตอนลงเฉยๆ) แต่ที่ฮิโรชิม่านี้ ต้องเสียบตั๋วเข้าไปในเครื่องตอนขึ้น (ขึ้นตรงกลาง) พอจะลง ก็เสียบบันทึก ไปอีกที (ลงข้างคนขับ) ลงป้าย หน้า อะตอมมิค บอมบ์ โดม ลงปุ๊บเจอเลย เป็นอาคารที่สร้างอย่างแข็งแรงมาก จึง เหลือซากจากการโดนระเบิดเยอะหน่อย (ดูรูปแต่ก่อนลักษณะคล้ายๆ พระที่นั่งอนันต์ บ้านเรา) บรรยากาศ โดยรอบ อาคาร จะมีแม่น้ำข้างๆ เป็น บรรยากาศที่ สงบและสวยงามมาก น่าเดิน น่าขี่จักรยาน น่านั่งเล่นเป็นที่สุด ข้ามสะพานไปอีกฝั่งของแม่น้ำจะเป็น สวนสันติภาพ มีรูปปันหลายอย่างแต่ที่น่าสนใจที่สุดดูจะเป็น อนุสรณ์เด็กหญิงซาดาโกะ ผู้กำเนิดตำนานพับนกกระเรียน (เจ้าตัวโดนอานุภาพระเบิดเป็นมะเร็ง แล้ว คิดว่า ถ้าพับนกเยอะๆ จะหายป่วย) และ อนุเสาวรีย์เหยื่อระเบิดปรมณู ที่มี อะตอมมิค บอมบ์โดม เป็นฉากหลัง ผมอดใจไม่ไหวจึงได้ซื้อกล้องสำเร็จรูปราคา เจ็ดร้อยห้าสิบเยน มาถ่ายเก็บบรรยากาศไว้ เอาไว้ล้างเสร็จแล้วจะมา อัฟเพิ่มเติมนะครับ



จากป้ายหน้าอาคารโดม เรานั่งรถราง มายัง ป้าย หน้าสวน ชุกเคเอ็น แต่เกิดเปลี่ยนใจ จากชมสวน ไปยัง ปราสาทฮิโรชิม่า แทน (รู้งี้ ไม่ต้องขึ้นรถรางก็ได้ เดินจาก ตึกโดม มาปราสาท ระยะทางพอกัน) เป็นปราสาทเดียวที่ผมได้ชม ครับ เป็นอาคารไม้ ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ดี สงบร่มรื่นดี เวลาน้อย เลยไม่ได้ขึ้นไปดูวิวข้างบนครับ เราเดินกลับมาไปยังสถานี เพื่อนั่งรถไฟกลับที่พัก ถึงสองทุ่ม ค่าแท็กซี่ พันแปดร้อยกว่าๆ แช่ออนเซ็นซักหน่อย เดี๋ยววันนี้มารีวิว การอาบน้ำรวมแบบญี่ปุ่นดีกว่า

สกู๊ปพิเศษ อาบน้ำรวม grand bath ญี่ปุ่น



เมืองเบปปุที่ผมพักนั้นเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำร้อน สปา ออนเซ็น ฉะนั้นมันก็ต้องแช่ครับ แช่ทุกวัน บางวันเช้าเย็น เนื่องจากห้องน้ำในห้องเล็ก แคบ อึดอัด ครับ จึงไม่แปลกว่า เค้านิยมจะมาอาบน้ำรวมกัน ผมก็เช่นกัน ห้องน้ำที่ห้องแทบไม่ค่อยได้ใช้ คนไทยที่ไปญี่ปุ่นมักจะอายครับ แรกๆผมก็เขินๆ ดีที่คนไม่เยอะมากครับ วิธีการใช้บริการก็ไม่ยาก (ผมก็ไม่เคยเข้ามาก่อน ก็อาศัยดูๆ เค้าเอา)





เริ่มแรกที่ห้องจะมี ชุดยูกาตะ กับชุดคลุมให้ครับ ก็ใส่มาอาบก็ดี ถ้าไม่ใส่มา จะใส่ชุดธรรมดามา ก็ไม่เป็นไร เข้าห้องมาในโซนแต่งตัว ก็ถอดรองเท้า มีห้องน้ำไว้เผื่อใครอยากเข้าห้องน้ำทำภารกิจส่วนตัวก่อนแช่น้ำครับ จากนั้นก็ ถอดเสื้อใส่ในตระกร้าครับ





โซนแต่งตัวก็จะมี พวก ผ้าเช็ดตัว โลชั่น ครีม แฮร์โทนิค มีดโกน อาฟเตอร์เชพ คอตตอนบัต ไดร์เป่าผม หวี เรียกได้ว่ามีแทบทุกอย่างครับ ถ้าเราเข้าประตูไป โซนอาบน้ำ ก็จะมีฝักบัวให้เราอาบน้ำก่อนครับ เค้านิยมนั่งอาบกัน (ตอนหลังถึงรู้เหตุผล) ทำให้ร่างกายสะอาดก่อนลงแช่บ่อ จากนั้นมาที่บ่อ ก่อนแช่ จะมีขัน เอาไว้ให้เอาน้ำในบ่อราด เพื่อปรับอุณภูมิร่างกายครับ น้ำที่บ่อ จะร้อน (มาก) มีสีออกเขียวๆครับ ที่นี่สบายไม่ต้องต้มน้ำ ใช้น้ำธรรมชาติมาเลย น้ำจะมีตะกอนเล็กน้อย ค่อยๆลงแช่นะครับ หลังจากแช่ประมาณสิบนาที รู้สึกตัวเลยครับว่า หัวใจเต้นแรง ชักไม่ไหว ลุกออกจากบ่อ อาจมีหน้ามืดเล็กน้อย (ถึงต้องนั่งอาบฝักบัวปรับสภาพ) ถึงจะลงไปใหม่ได้ หรือจะ อาบน้ำสระผม เลย สบู่ แชมพู ก็มีอยู่ตรงนั้น อาบน้ำเสร็จ มายังโซนแต่งตัว เอาผ้าเช็ดตัว ใส่ชุด กินน้ำ(มีเครื่องกินน้ำเย็นอยู่) แล้วก็ นวดเท้าไฟฟ้า ด้วยเครื่อง สบาย หายเหนื่อยล้า จากการเดินทางไปเที่ยวในแต่ละวันสุดๆไปเลยทีเดียวครับ










Create Date : 01 เมษายน 2553
Last Update : 1 เมษายน 2553 21:31:46 น. 0 comments
Counter : 1422 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

guntv
 
Location :
Canyon,Texas Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add guntv's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com