4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
ผีสาวชุดขาวในหอพักชาย




หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าหอพักชายที่ 3 และ 4 ที่ศาลายา แต่เดิมเคยเป็นหอพักหญิงมาก่อน เป็นประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้ซึ่งหลายคนไม่เคยทราบมาก่อน  สำหรับสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงจากหอหญิงมาเป็นหอชายนั้นก็ไม่สามารถหาคำตอบที่แน่นอนได้ จากการตรวจสอบก็มีหลายคนบอกในเหตุผลต่าง ๆ กันไป  สำหรับประเด็นที่ว่าหอชายถึงมีวิญญาณผีสาวในชุดขาว เพราะวิญญาณหญิงสาวตนนี้คงจะเป็นผู้ที่เคยอยู่หอพักแห่งนี้มาก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นหอชาย เรื่องราวความเฮี้ยนของเธอเริ่มต้นจากความผิดหวังในรักของเธอ. เพื่อน ๆ ของเธอที่รู้ข่าวต่างก็พากันมาปลอบโยนเธอ พาเธอขึ้นไปพักบนห้อง แต่ความเสียใจของเธอมันมากเกินกว่าความปลอบโยนจะบรรเทาได้ จนเธอตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน  หลังจากที่เพื่อนปลอบโยนเธอจนหลับไป เพื่อนก็แยกย้ายกลับไปห้องของตัวเอง  แต่กลางดึกคืนนั้นเธอก็รู้สึกตัวขึ้นมา และเธอก็นำเข็มขัดที่ใช้เรียนมาเป็นเครื่องมือในการดับลมหายใจของตัวเอง เธอใช้มันแขวนห้อยกับเพดานและนำชีวิตเธอไปพาดไว้ จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิตเธอ  ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเธอถึงต้องฆ่าตัวตาย หรือเพียงเพราะเธออยากจะทำเพื่อประชดชายหนุ่มคนนั้น หรือหวังเพียงจะเรียกร้องความสนใจ  แต่คงไม่มีใครสามารถหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ได้ เพราะคนที่รู้มีเพียงเธอคนเดียว แต่ถ้าอยากรู้มาก ๆ ก็ลองไปเล่นผีเหรียญหรือผีถ้วยแก้วที่หอนี้ดูก็ได้นะคะ รับรองว่าวิญญาณของเธอต้องออกมาตอบคำถามคุณแน่ อิๆๆๆ  เพราะขนาดแค่คนที่อาศัยอยู่ที่หอนี้ยังเคยเจอเธอมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ความเฮี้ยนของวิญญาณเธอได้รับการการันตีจากเด็กหอหลาย ๆ คน และมีสถานที่อยู่ 2 แห่งที่หลายคนได้พบเห็นวิญญาณของเธอบ่อยมากจนนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งแน่นอนว่าสถานที่สองแห่งนั้นกลายเป็นสถานที่ต้องห้ามของเด็กหอในยามค่ำคืน ไม่มีใครกล้าที่จะผ่านไปยังบริเวณนั้น เพราะกลัวที่จะพบเจอวิญญาณของเธอ สถานที่แรกก็คือบริเวณบันไดหนีไฟ แต่เดิมมีเด็กหอหลายคนที่ชอบใช้ทางหนีไฟ อาจจะเป็นเพราะว่าห้องของพวกเขาใกล้กับบันไดหนีไฟมากกว่าบันไดหลักของหอ ด้วยความสบายหลายคนจึงใช้ทางนี้  ตั้ม..เป็นเด็กปีหนึ่งที่เคยพักอยู่ที่หอนี้ เขาเข้ามาพักที่หอนี้โดยไม่เคยรู้เรื่องราวความเฮี้ยนของวิญญาณสาวตนนี้มาก่อน  คืนนั้นตั้มต้องออกไปทำรายงานที่ห้องเพื่อน และกว่าจะเสร็จก็ปาไป 4 ทุ่มกว่า ๆ ทีแรกเพื่อนชวนให้ตั้มค้างที่บ้านจะได้ไม่ต้องกลับหอคนเดียว แต่ตั้มอยากจะกลับมานอนที่หอมากกว่าเพราะเขาไม่ได้นำเสื้อผ้าไปเผื่อสำหรับวันพรุ่งนี้  แต่เพื่อนก็ยังอยากให้ตั้มมาค้างที่บ้าน เพราะไม่อยากให้ตั้มเดินทางกลับตอนมืดคนเดียว “เอาเสื้อเราไปใส่ก็ได้ ระวังเถอะ กลับตอนมืด ๆ แบบนี้ไม่กลัวเจอผีเหรอวะ”  “ผีที่ไหนไอ้บ้า ไม่มีหรอก ไปแล้ว”  ตั้มคงไม่คิดมาก่อนว่าคำที่เพื่อนทักจะกลายเป็นจริงได้และตั้มก็เดินทางกลับที่หอพักคนเดียว เหงื่อตั้มเริ่มออก ตั้มพยายามคิดในใจ สวดมนต์อยู่ในใจหวังให้สิ่งศักดิ์สิทธ์คุ้มครอง  พอมาถึงบริเวณหอพัก ตั้มตัดสินใจใช้บันไดหนีไฟในการขึ้นตึก เพราะมันอยู่ใกล้กับห้องตั้มที่ชั้นสาม ตอนนั้นบันไดหนีไฟมีไฟนีออนหลอดสั้นอยู่เพียงชั้นละหลอดเลยทำให้ไม่ค่อยจะมีแสงสว่างสักเท่าไหร่ ซึ่งมันช่วยเพิ่มความน่ากลัวให้กับทางเดินมากขึ้นไปอีก  ระหว่างที่ตั้มเดินขึ้นมา ตั้มก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีคนเดินตามหลังอยู่ด้วย แต่พอเขาหันไปมองก็ไม่มีใครสักคน  ตั้มเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังลึกลับบางอย่าง ขนหัวตั้มเริ่มลุกขึ้น ตั้มพยายามรีบเดินให้เร็วขึ้นเพื่อไปให้ถึงชั้นสามโดยเร็ว

แต่น่าแปลกที่เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที จากเดินเร็ว ๆ ก็กลายมาเป็นวิ่ง ตั้มวิ่งขึ้นบันไดมาหลายขั้น แต่ตั้มรู้สึกว่าไม่ว่าเขาจะวิ่งเร็วสักเท่าไร ความรู้สึกที่มีคนตามหลังก็ยังไม่หายไปสักที มันเหมือนว่าวิญญาณยังคงเกาะตามหลังเขาไปอยู่ตลอด และดูเหมือนว่าคำสวดของตั้มจะได้ผล เพราะพอเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็มองเห็นประตูออกไปสู่ชั้นสามแล้ว  พอตั้มมาถึงประตูก็รีบวิ่งเปิดออกไป และพอขาตั้มก้าวพ้นประตูมา ความรู้สึกที่เหมือนว่ามีคนตามหลังก็หายไปทันที  แต่ตั้มยังแอบเหลือบไปมองที่ด้านหลังอีกครั้ง และตั้มก็ได้รู้ว่าอะไรที่ตามหลังเขามาตลอด ตั้มมองเห็นหญิงสาวผมยาว ใส่ชุดสีขาว ยืนก้มหน้าอยู่ตรงประตูบันไดหนีไฟ ถึงแม้เธอจะไม่ได้มองหน้าตั้มตรง ๆ แต่ตั้มรู้สึกได้ว่าเธอกำลังจ้องเขาอยู่ ตั้มรีบวิ่งกลับไปที่ห้องด้วยอาการตกใจ จนรูมเมทของตั้มต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้มเลยบอกเพื่อน ๆ ว่า “โดนผีหลอก” เพื่อนพากันตกใจและรีบถามถึงเหตุการณ์ที่ตั้มเพิ่งพบเจอมา  พอทุกคนฟังตั้มเล่าจนจบก็พากันไปถามรุ่นพี่ที่อยู่ห้องข้าง ๆกัน รุ่นพี่คนนั้นก็ทำท่าเหมือนไม่ตกใจ และเขาก็บอกตั้มและเพื่อนให้ได้รู้ถึงที่มาของวิญญาณสาวตนนี้  “เธออยู่ที่หอนี้มานานแล้ว รุ่นพี่หลายคนเคยเจอมาแล้วทั้งนั้นโดยเฉพาะตรงบันไดหนีไฟนี่จุดเฮี้ยนเลย ทำไมเอ็งดันใช้ทางนั้นวะ”  พอตั้มฟังก็ถึงกับเข่าอ่อนอีกรอบ เพราะตัวเขาเองแท้ ๆ ทางเดินมีดี ๆ ไม่รู้จักไป ไปใช้ทางหนีไฟ เลยต้องมานั่งขนหัวลุกอยู่แบบนี้

อีกสถานที่หนึ่งในหอพักที่หลายคนมักพบเห็นวิญญาณสาวตนนี้ก็คือบริเวณทางเชื่อมระหว่างหอ พจน์...เด็กปีสองที่พักอยู่ที่หอพักแห่งนี้ เขาเป็นคนที่กลัวผีเอามากๆ แต่เขาต่างจากตั้มเพราะเขารู้เรื่องวิญญาณตนนี้มาก่อนแล้ว เพราะทันทีที่เขาย้ายเข้ามาอยู่ที่หอพัก เขาก็เที่ยวไปสอบถามเรื่องผีๆจากรุ่นพี่มาก่อนแล้วว่าที่หอนี้มีผีรึเปล่า และแน่นอนที่รุ่นพี่ทุกคนต้องเล่าเรื่องของวิญญาณสาวตนนี้ให้พจน์ฟัง เมื่อพจน์รู้เขาเลยไม่ใช้บันไดหนีไฟไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน รวมถึงทางเชื่อมหอในเวลากลางคืน  แต่มีอยู่คืนหนึ่ง เวลาประมาณเกือบ 5 ทุ่มแล้ว พจน์เพิ่งจะได้กลับมาหอเพราะเขาออกไปเที่ยวกับแฟนมา ระหว่างที่กลับเขานึกกลัวอยู่ในใจ วันนั้นเขารู้สึกว่าหางตาขวามันกระตุกแปลก ๆ แต่เขาก็พยายามคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอกเพราะเขาเองก็อยู่ที่หอพักนี้มานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยเจอสักที และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่เขากลับดึก  คืนนั้นพจน์ไม่ใช้ทางเชื่อมระหว่างหอ เขายอมที่จะเดินไกลขึ้นอีกนิดเพื่อความสบายใจ แต่ถึงเขาจะเลือกไม่ใช้ทางเชื่อมหอ แต่เขายังคงต้องเดินผ่านใต้ทางเชื่อมหออยู่ดี  ตอนที่เขาเดินผ่านทางเชื่อมแห่งนั้น เขาคิดไว้ในใจว่าจะไม่มองขึ้นไป แต่พอเดินไปถึงจริง ๆ ก็มีอะไรมาดลใจให้เขามองขึ้นไป และทันทีที่เขามองขึ้นไป เขาก็เห็นเธอจริง ๆ วิญญาณสาวตนนั้นยืนอยู่กลางทางเชื่อม และกำลังจ้องเขาอยู่  พอพจน์เห็นก็ถึงกับสติแทบแตก เขาตะโกนร้องด้วยความตกใจและรีบวิ่งย้อนกลับทางเดินทันที รีบขี่มอเตอร์ไซด์ไปนอนบ้านเพื่อนแทน เพราะเขาไม่กล้ากลับขึ้นหอแล้ว พจน์ไม่กล้ากลับหอไปหลายวันมาก จนเขาตัดสินใจว่าจะย้ายออกจากหอนั้นแล้ว เขาจึงต้องกลับไปหอนั้นเพื่อเก็บของและเขาก็ไม่กล้าเดินผ่านบริเวณนั้นอีกเลยในยามค่ำคืน

อีกคนหนึ่งที่เคยเจอความเฮี้ยนของวิญญาณหญิงสาวตรงทางเชื่อมก็คือ “หนึ่ง” หนึ่งพักอยู่อีกหอ แต่คืนนั้นขณะที่หนึ่งอยู่ที่ห้องของตัวเองก็มีโทรศัพท์จากเพื่อนชวนให้ไปดูหนังอย่างว่า ซึ่งเพื่อนพักอยู่ที่หอแห่งนั้น  ด้วยความที่อยากดูหนัง เลยทำให้หนึ่งลืมนึกถึงเรื่องของวิญญาณผีสาวตนนั้นไปเลย ทันทีที่วางสาย หนึ่งก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที  และแน่นอนว่าหนึ่งต้องผ่านตรงทางเชื่อมระหว่างหอ ทางเชื่อมที่เป็นทางสามแพร่งซึ่งคนเจอวิญญาณบ่อยที่สุด แต่หนึ่งไม่ทันได้คิดถึงจนมาถึงทางเชื่อมแห่งนั้น แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะทันทีที่หนึ่งวิ่งมาถึงทางเชื่อม หนึ่งก็พบเธอยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว พอหนึ่งเห็นเขาก็หยุดวิ่งแทบจะทันที  หนึ่งมองเห็นหญิงสาวผมยาวในชุดขาวคนหนึ่งกำลังยืนหันหลังให้เขา และไม่ต้องให้ใครมาบอก หนึ่งก็รู้ว่าเธอคือใคร และหนึ่งก็ไม่รอให้เธอหันหน้ากลับมา หนึ่งรีบวิ่งกลับห้องไปนอนคลุมโปงอยู่บนเตียงด้วยความเร็วยิ่งกว่าตอนขามาซะอีก หนึ่งนอนคลุมโปงอยู่นานจนเพื่อนคนเดิมโทรเข้ามาอีก เพราะหนึ่งมาถึงห้องช้ามากจนเพื่อนจะเปิดหนังดูไปก่อนแล้ว หนึ่งเลยตอบสั้น ๆ ไปว่า “ข้าโดนผีหลอก” และเพื่อนก็เข้าใจทันทีว่าทำไมหนึ่งถึงยอมพลาดหนังที่หนึ่งโปรดปรานมากที่สุด 

สถานที่สองแห่งนี้แม้จะเป็นสถานที่ที่หลายคนพบเจอวิญญาณตนนั้นมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ไปสถานที่ 2 แห่งนั้นจะรอดนะ โรจน์....เป็นอีกคนที่เจอความเฮี้ยนแบบเดลิเวอรี่ คืนนั้นโรจน์อยู่ในห้องคนเดียว เขากำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ตรงริมหน้าต่าง เขานั่งอ่านอยู่พักใหญ่ๆจนเขารู้สึกอยากจะพักสายตา จึงเงยหน้าออกไปมองทางนอกหน้าต่าง จังหวะนั้นเองทำให้เขาผงะตกเก้าอี้ทันที  เพราะตอนที่เขามองออกไปนอกหน้าต่าง เขาก็เห็นวิญญาณหญิงสาวลอยผ่านหน้าต่างไป แต่พอเขาลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งไปหาเพื่อนคนอื่นทันที และคืนนั้นโรจน์ก็ไม่กล้ากลับไปนอนห้องตัวเอง ไปอาศัยเพื่อนห้องอื่นนอนแทน จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีใครกล้ายืนยันว่าวิญญาณของหญิงสาวตนนี้ยังวนเวียนอยู่ที่หอ หรือไปสู่ภพอื่นแล้ว  แต่ที่แน่ ๆ คือ หอนี้ยังคงความเฮี้ยนและอาถรรพ์ที่เล่าสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่นจนกลายเป็นตำนานความเฮี้ยนของหอแห่งนี้ไปแล้ว ตรงทางเชื่อมของหอ หลายคนบอกว่าตรงนี้เป็นสถานที่ที่เฮี้ยนที่สุด เพราะมันมีลักษณะคล้ายทางสามแพร่ง มันเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างสองหอเข้าด้วยกัน  ยิ่งเวลาที่เรามองจากระเบียง และด้านล่างก็จะยิ่งเห็นชัดว่าตรงจุดนี้เป็นทางสามแพร่ง ซึ่งทางสามแพร่งเป็นสถานที่ที่คนโบราณมักเชื่อว่าเป็นจุดผ่านของผี พลังงานลึกลับมักจะไหลวนเวียนอยู่บริเวณทางสามแพร่ง และความเชื่อนี้ก็ดูเหมือนจะมีเค้ามูลความจริงอยู่ เพราะหลายสถานที่ที่มีลักษณะแบบนี้มักจะมีการติดกระจกไว้ ตามความเชื่อที่ว่ากระจกจะช่วยสะท้อนสิ่งไม่ดีกลับไป  แต่สำหรับทางสามแพร่งของหอนี้ไม่ได้มีการติดกระจกไว้ พลังงานหลายอย่างเลยยังคงวนเวียนอยู่ที่จุดนี้ รวมถึงพลังงานจากวิญญาณจากหญิงสาวตนนี้  ถึงแม้มันจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนเดินผ่านไปมาทุกวัน แต่เวลากลางคืนดึกดื่น หลายคนเลือกที่จะเลี่ยงทางนี้ ไม่แม้แต่จะเดินผ่าน เพราะอย่างที่บอกว่าตรงจุดนี้เป็นจุดที่หลายคนพบเห็นวิญญาณตนนี้  

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องนะคะ)







Create Date : 09 สิงหาคม 2557
Last Update : 20 กันยายน 2557 13:51:37 น. 0 comments
Counter : 2148 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.