4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
All blogs
 
10 สุดยอดยานพาหนะผีสิง

#อันดับที่ 10 อีสเทอร์น แอรไลน์ ไฟลท์ 401 (เครื่องบินผีสิง)


เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อปี 1972 เมื่อเครื่องบินลำนี้ได้ตกลงไปบริเวณบึงในฟลอริด้าส่งผลทำให้มีคนเสียชีวิต 101 คน รวมทั้งนักบินและวิศวกรการบิน คือบ๊อบ ลอฟท์ และวิศวกรของเครื่องคือดอน เรโป 

อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและน่ากลัวเป็นอย่างมาก หลังจากที่เครื่องบินลำที่เกิดเหตุก็ถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ และเอาชิ้นส่วนบางชิ้นที่ยังสามารถใช้งานได้ ไปเป็นอะไหล่ใช้กับเครื่องบินลำอื่น และนั่นเป็นที่มาของความลึกลับที่เกิดขึ้น เมื่อมีคนพบเห็นผีสองนักบินทั้งลอฟท์และเรโปปรากฏตัวบ่อยครั้ง โดยส่วนมากจะเห็นทั้งคู่นั่งเงียบ ๆ ปะปนกับผู้โดยสาร อีกทั้งบางคนยังได้คุยกับวิญญาณทั้งสอง ก่อนที่จะหายไปต่อหน้าตาต่อผู้สนทนาสองผีน่าขนลุกนี้มักปรากฏในบริเวณที่ใกล้ชิ้นส่วนของเครื่องบินที่นำมาจากเครื่องจากบินที่ตก แต่วิญญาณไม่ได้มาหลอกหลอนหรือทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ แต่เป็นมักจะมาเตือนภัยที่จะเกิดขึ้นกับเครื่องบินลำนั้น เช่น มีเจ้าหน้าที่ได้เจอใบหน้าลีโปในเตาอบไมโครเวฟ  ซึ่งออกมาเตือนว่าจะเกิดไฟไหม้ อีกไม่ช้า เครื่องบินลำนั้นเกิดไฟไหม้ขึ้นในระหว่างบิน เมื่อตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นจริงและต้องยกเลิกเที่ยวบินในที่สุด แม้ว่าทางการสายการบินจะไม่แสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ทุกวันนี้เรื่องราวแปลกประหลาดของเครื่องบิน อีสเทอร์น แอรไลน์ ไฟลท์ 401 ยังคงหลอกหลอนเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน หรือแม้แต่รองประธานบริษัทก็ได้เห็นผีนักบินด้วย


#อันดับที่ 9 The Black Volga  ( โวลก้าดำ )


ในช่วงยุค 60 และยุค 70 ประชาชนภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตมักมีความกังวลกับสงครามเย็นที่อาจเกิดขึ้น  และนอกเหนือจากความหวาดกลัวการปกครองคอมมัวนิตส์ที่แสนโหดร้ายแล้ว พวกเขายังหวาดกลัวสิ่งที่เรียกว่า “รถโวลก้า” สีดำ ที่คุกคามชีวิตประจำวันที่สงบสุขของพวกเขา รถโวลก้าสีดำเป็นตำนานเมืองที่น่ากลัวและมีชื่อเสียงของโซเวียตในเวลานั้นกล่าวกันว่ามันจะลักพาตัวเด็กและฆ่าทุกคนที่เดินเข้ามาใกล้มัน ที่มาของมันลึกลับไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนขับโวลก้าสีดำ และทำไมมันถึงลักพาตัวเด็ก บางคนบอกว่ามันเป็นซาตาน ไม่ก็ปีศาจเป็นคนขับ บางคนบอกว่าเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวจะถูกนำไปขายให้แก่ชาวอาหรับที่ร่ำรวยที่ต้องการเลือดมารักษาโรคมะเร็งของพวกเขา ไปจนถึงขายอวัยวะ และแน่นอนว่าเด็กจะหายไปตลอดกาลหากโดนรถโวลก้าสีดำจับตัวได้ ตำนานของโวลก้าสีดำนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ของรัสเซีย เบลารุส ยูเครน โปแลนด์ ไปจนถึงมองโกเลีย แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดสนุบสนุนว่าเป็นเรื่องจริง แต่โวลก้านั้นเป็นรถที่แพงที่สุดของโซเวียตในเวลานั้น คนที่เป็นเจ้าของได้จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น ซึ่งชาวบ้านมักหวาดกลัวพวกนี้อยู่แล้ว และน่าจะเป็นที่มาของตำนานเมืองน่ากลัวดังกล่าว

#อันดับที่ 8 Silverpilen 


สตอกโฮล์มเมืองหลวงแห่งความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองของสวีเดน ที่นี่เป็นตำนานที่เกี่ยวข้องกับระบบรถไฟใต้ดิน รถไฟผีที่ชื่อว่า Silverpilen (ลูกศรเงิน) ซึ่งเป็นรถไฟรุ่น C5 ที่ปลดประจำการไปแล้ว ในช่วงกลางดึกมักจะมีคนเห็น รถไฟ Silverpilen วิ่งผ่านสถานีด้วยความเร็วสูงโดยไม่จอดรับผู้โดยสารและไม่มีใครอยู่บนรถเลย Silverpilen เป็นรถไฟผีสิงหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครทราบ แต่สิ่งที่รู้คือรถไฟขบวนนี้หลายคนไม่ชอบมันเลย เพราะเนื่องด้วยการทาสีอลูมิเนียมทั้งตัวรถ (จนเป็นที่มาของชื่อ) ซึ่งน่าขนหัวลุกแก่ผู้พบเห็น และไม่เคยถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีก มันเปิดตัวในฐานะรถไฟสำรองในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น จนทำให้ผู้โดยสารลืมมันไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะปลดระวางไปตั้งแต่ปี 1996 แล้วก็ตาม แต่ทุกวันนี้มันยังคงหลอกหลอนคนงานที่ทำงานอยู่ในอุโมงค์อยู่จนถึงตอนนี้

#อันดับที่ 7 The Phantom Bus Of London (ลอนดอนบัส)


ในปี 1934 ช่วงเช้ามืดเกิดอุบัติเหตุกับรถเมล์สองชั้น เส้นไปเคมบริดจ์ การ์เดนส์ W11 ระบบเกิดการผิดพลาด รถหักเลี้ยวกะทันหันจนชนกับกำแพงเข้าอย่างจัง ทำให้เกิดระเบิดเพลิงลุกไหม้ย่างสดคนขับตายอย่างสยอง หลังจากนั้นเป็นต้นมาในช่วงเช้ามืดของทุกวัน ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณเคมบริดจ์ การ์เดนส์ จะเห็นรถเมล์สองชั้นวิ่งอยู่บริเวณนั้นโดยไม่มีคนขับ มันจะวิ่งไปเรื่อยบนถนนโดยไม่สนเส้นทาง รถที่วิ่งสวนมาเห็นจะต้องหักหลบกระทันหัน แต่พอหันไปดูอีกทีรถเมล์ก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย  ไม่มีใครทราบว่ารถเมล์นั้นปรากฏตัวเพื่ออะไรกันแน่ แต่ครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นมันคือเดือนพฤษภาคม 1990 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นมันอีกเลย

 


#อันดับที่ 6 Pippo The Ghost Plane

 


ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวอิตาเลียนต้องตกระกำลำบากอย่างหนักทั้งจากรัฐบาลฟาสซิสของตัวเองและพันธมิตรนาซี อีกทั้งกองทัพสัมพันธมิตรยังตราหน้าว่าพวกเขาเป็นศัตรูแต่ถึงกระนั้นประชาชนที่อยู่ทางภาคเหนือของอิตาลี ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวกว่านั่นคือเครื่องบินลึกลับที่เรียกว่า ปิปโป (Pippo)

ไม่มีใครรู้ว่าปิปโปมาจากไหน เป็นเครื่องบินรุ่นอะไร ใครเป็นคนขับ ไม่รู้ว่ามันเป็นของฝ่ายไหน อยู่ ๆ เครื่องบินปิปโปก็โผล่มาและยิงปืนกลถล่มใส่ทุกคนที่ขวางเส้นทางบินของมัน แต่คนจดจำมันได้ด้วยเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ดัง "ปิบ-ปิบ" (อันเป็นที่มาของชื่อ) ซึ่งมักจะได้ยินยามค่ำคืน หลายคนกลัวปิปโป ถึงขนาดตอนกลางคืนพวกเขาจะอยู่ในที่มืด เพื่อไม่ให้กลายเป็นเป้าหมาย กระสุนของปิปโปมีหลากหลาย ตั้งแต่ปากการะเบิด ลูกอมยาพิษ และระเบิดร้ายแรง และวันดีคืนดี หรือเบื่อ ๆ มันจะมายิงถล่มชาวบ้านเล่น นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าตัวจริงของปิปโป น่าจะเป็นเครื่องบินลาดตระเวณของอังกฤษ รูปแบบ de Havilland Mosquito ที่มีรูปลักษณ์และเสียงเครื่องยนต์ใกล้เคียงกับปิปโปซึ่งบินผ่านภูมิภาคนี้ ยามค่ำคืน ปิปโป ก็ยังเป็นเครื่องบินผีที่ยังหลอกหลอนอยู่ในความทรงจำของคนในแถบอิตาลีตอนเหนืออยู่เช่นเดิม

 


#อันดับที่ 5 The Jumping Car Of Cape Town 

 


เรื่องของรถเคลื่อนที่เองราวกับมีชีวิตนั้น เกิดขึ้นที่เคปทาวน์ แอฟริกาใต้ เกิดขึ้นกับครอบครัวของ Ian Schietekat  และญาติ ช่วงกลางดึกพวกเขาได้ยินเสียงดังมากมาจากนอกบ้าน พวกเขาจึงตื่นขึ้นไปดู ก็พบว่าเป็นเสียงรถยนตร์เรโนลต์ มีเสียงกุก ๆ กัก ๆ แล้วรถก็วิ่งไปวิ่งมา ชนทำลายรั้วสิ่งต่างที่อยู่ภายในสวน ก่อนที่จะหยุดนิ่งกับที่ ในตอนแรกพวกเขาคิดว่ามีคนพยายามขโมยรถ แต่เมื่อเดินไปดูข้างในรถก็พบว่ารถไม่มีคนขับเลยแม้แต่น้อย และสภาพข้างในรถยังปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง อีกทั้งบริเวณบ้านของพวกเขาก็ไม่มีร่องรอยคนบุกรุกแต่อย่างใด

เมื่อตำรวจมาตรวจสอบ ตำรวจไม่เชื่อคำพูดของพวกเขาว่ารถเคลื่อนที่ไปมาเองได้ แต่ทันใดนั้นจู่ๆ รถก็เปิดไฟหน้าเอง และมันก็วิ่งตรงไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งเสียงคำรามดังสนั่น รถเดินหน้าถอยหลังเอง จนไปชนกับต้นไม้จึงหยุดนึ่ง หลังจากสืบสวนก็พบว่าสาเหตุที่รถวิ่งเองได้นั่นก็เกิดจากระบบสตาร์ทเกิดสนิม แต่เสียงคำรามที่เกิดขึ้นนั้น พวกเขาไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าเกิดจากอะไรกันแน่!?

#อันดับที่ 4 Abraham Lincoln is Phantom Train


หนึ่งในเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน ที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ "รถไฟผีลิงคอล์น” กล่าวกันว่าเป็นรถไอน้ำที่จะวิ่งผ่าน 180 เมืองในทุกเดือนเมษายน และจุดหมายของมันคือสปริงฟิลด์สถานที่พักผ่อนแห่งสุดท้ายของอับราฮัม ลินคอล์น ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต แม้จะไม่เห็นตัวอับราฮัม แต่ในขณะที่รถไฟผีปรากฏนั้นนาฬิกาจะหยุดเดิน รถไฟจะโผล่ออกมาจากเมฆหมอกหนาสีดำมืดสนิท และในรถไฟจะเห็นโลงศพถูกปกคลุมด้วยธงชาติอเมริกันและมีทหารยืนล้อมรอบอยู่ ราวกับขบวนแห่ศพของประธานาธิบดีที่เสียชีวิตก็ว่าได้

#อันดับที่ 3 The Cursed Car Of Franz Ferdinand


บริษัท Graf & Stift เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตรถที่มีชื่อเสียงก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 รถของพวกเขาเป็นรถที่ได้รับความนิยมมากสำหรับผู้ที่มีอิทธิพลในเวลานั้น แต่เกิดเรื่องที่น่าเศร้าเมื่อรถของ Graf & Stift ได้ถูกจารึกว่าเป็นรถที่ท่านอาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์ ประทับพร้อมกับพระชายาก่อนที่จะถูกยิงลอบปลงพระชนม์ทั้งคู่ที่เมืองซาราเยโว ซึ่งการลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้นำไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ที่น่าตกใจมากกว่าคือรถที่ท่านดยุคเฟอร์ดินานด์ประทับ คือรถ 1910 Graf & Stift Double Phaeton เป็นรถที่มีประวัติและตำนานที่น่ากลัวมากคือ รถคนนี้ผ่านมือเจ้าของมามากกว่า 15 ราย และเจ้าของทุกรายล้วนแต่ประสบชะตากรรมที่น่าสยดสยองกันทั้งนั้น บางคนประสบกับอุบัติเหตุจนเสียชีวิต บางคนกลายเป็นบ้าและเสียชีวิต บางคนเพียงเก้าวันหลังจากซื้อรถก็ฆ่าตัวตายอย่างปริศนา

และเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อผู้ว่าการรัฐยูโกสลาเวียได้รับอุบัติเหตุจนต้องเสียแขนไป หลังจากที่เขาครอบครองรถเพียงไม่นาน ต่อมาเพื่อนของเขาที่เป็นแพทย์ก็ขอซื้อรถต้องคำสาปนี้ไป หลังจากนั้นก็เกิดอบัติเหตุรถพลิกคว่ำ  ร่างของเขาถูกรถบดจนแหลกอย่างสยดสยอง ต่อมาเจ้าของที่เป็นนักแข่งรถชาวสวิสต์ก็ได้รับชะตากรรมเดียวกัน แม้กระทั้งเกษตรกรชาวเซอร์เบียที่เป็นคนลากจูงรถก็ถูกรถคันนี้ทับร่างจนเสียชีวิต แม้ว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของก็ตาม 

เจ้าของคนสุดท้ายเป็นคนโรมาเนียที่แสนโชคร้าย เพราะระหว่างที่เขากำลังเดินทางด้วยรถคันนี้เพื่อไปแต่งงานกับเพื่อนอีกห้าคน ระหว่างทางรถเกิดหมุน เสียการควบกระทันหัน ทำให้เขาพร้อมกับเพื่อนอีกห้าคนเสียชีวิตคาที่ แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดอธิบายได้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสาปหรือเปล่า แต่สิ่งที่บอกได้ก็คือรถของท่าน ดยุคเฟอร์ดินานด์ได้เป็นรถที่มีส่วนในการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ปัจจุบันรถคันนี้ได้ถูกเก็บในพิพิธภัณฑ์ที่ประเทศออสเตรีย

#อันดับที่ 2 James Dean is Porsche Spyder


วันที่ 30 กันยายน 1955 เจมส์ ดีน ดาราหนุ่มหล่อแห่งยุคที่มากด้วยพรสวรรค์ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร เพราะอุบัติเหตุจากการขับรถปอร์เช่ 550 สปายเดอร์ สีเงินเปิดประทุนคู่ใจของเขา (คนขับคือช่างยนต์ประจำตัวของดีน) ที่ทางหลวงสาย 466 ช่วงเมืองโชเลม แคลิฟอร์เนีย จากอุบัติเหตุเจมส์ ดีน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจในเวลาต่อมา และหลังจากเจมส์ดีนเสียชีวิต รถของเจมส์ ดีน ถูกนำมาซ่อมใหม่ และขายต่อเป็นทอด ๆ คนที่ได้เป็นเจ้าของรถคนนี้ แต่งประสบชะตากรรมเคราะห์ร้ายต่าง ๆ นานาจนหลาย ๆ คนเชื่อว่ามันเป็นรถอาถรรพ์ เพราะเจมส์ดีนหวงรถคนนี้มาก

รายแรกคือ นายจอร์จ แบร์ริส ซึ่งเป็นผู้ปรับแต่งรถแข่งคันนี้ ซื้อซากรถในราคา $2,500 หายนะก็เกิดขึ้นเมื่อในขณะที่ตรวจสอบสภาพอยู่นั้น จู่ ๆ ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อันหนักอึ้งก็หล่นลงมาทับขาของช่างซ่อมคนนั้น จนกระดูกขาแหลกละเอียดทั้ง 2 ข้าง  ต่อมาสองนายแพทย์ทรอย แม็คอองรี และวิลเลียม เอสชิดได้ซื้อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของรถมรณะคันนี้ไปใส่ในรถแข่งของเขา ต่อมาพวกเค้าก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างแข่งขัน สาเหตุเกิดจากการที่รถยนต์ของเขาควบคุมไม่ได้ แล้วมันก็พุ่งเข้าชนรถแข่งคันอื่น ๆ จนเป็นเหตุให้แม็คอองรีตาย

หลังจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้ ตำรวจทางหลวง California Highway Patrol ได้ขอซากรถคันนี้ เพื่อไปใช้ในการรณรงค์ลดการอุบัติเหตุบนทางหลวง ในช่วงปี 1958-1959 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะมีอุปสรรคที่คาดไม่ถึงบ่อยครั้ง เช่น ซากรถได้เลื่อนไถลไปทับเด็กนักเรียนในระหว่างการขนย้ายที่โรงเรียนในซาคราเมนโต้ และท้ายที่สุดในปี 1960 หลังจากที่ตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียส่งซากรถมรณะกลับคืนให้เจ้าของที่ลอสแองเจลีส และก็ปล่อยเจ้ารถมรณะทิ้งไว้ไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวอีก จนกระทั่งปี 1960 ซากรถมรณะก็หายไปอย่างลึกลับไม่มีผู้ใดพบเห็นมันอีกเลยจนปัจจุบัน

 


#อันดับที่ 1 The Haunted German War Submarine

 

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เรือดำน้ำเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมาก หนึ่งในรุ่นที่อันตรายมากที่สุดคือเรือดำน้ำของเยอรมันรุ่น UB III ด้วยสถิตโจมตีเรือไปกว่า 507 รวมถึงเรือประจันบาน HMS Britania จนเป็นที่หวาดกลัวของเรือรบอังกฤษ เรือดำน้ำ UB III เป็นเรือที่ไม่ได้อันตรายเฉพาะฝ่ายศัตรูเท่านั้น มันยังเป็นอันตรายต่อลูกเรืออีกด้วย หายนะเริ่มขึ้นช่วงต่อเรือ เจ้าหน้าที่สามคนขาดอากาศหายใจเพราะไอจากเครื่องดีเซล อีกสองคนโดนนั่งร้านตกลงมาขยี้เละ ช่วงที่เอาเรือออกทดสอบ ลูกเรือคนหนึ่งถูกคลื่นพัดจมหายสาบสูญไปในทะเล ในการทดสอบครั้งแรกเรือก็จมลงก้นทะเลเพราะถังบัลลาสต์แตกทำให้ลูกเรือติดอยู่ในเรือหลายชั่วโมงโดยไม่สามารถช่วยตัวเองได้  อีกทั้งแบตเตอรี่ที่เสียหายเริ่มปล่อยแก๊สพิษออกมาทีละน้อย ถึงแม้ว่าจะกู้เรือและช่วยลูกเรือขึ้นมาได้สำเร็จแต่ลูกเรือเกิดอาการป่วยและตายไปสองคนเพราะแก๊สพิษ

อย่างไรก็ตามเรือดำน้ำยังคงใช้งานได้ มันจึงปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง แต่เกิดปัญหาตามมาอีกในภารกิจช่วงแรกคือตอปิโดเกิดขัดข้องทำให้ลูกเรือตายไป 8 คน และนายทหารตายอีก 1 นาย หลังจากนั้นนายทหารที่เสียชีวิตก็ได้ปรากฏตัวและหลอกหลอนคนในเรือลำนี้  ไม่นานนักกัปตันเรือก็โดนสะเก็ดชิ้นส่วนปลิวมาตัดหัวขาด และในคืนวันที่เขาเสียชีวิตลูกเรือหลายคนเห็นผีกัปตันมานั่งเฝ้าร่างที่ไร้หัวของตัวเอง ในที่สุดลูกเรือทุกคนทนไม่ไหวและขอย้ายกันหมด แต่กองทัพเรือหาตำแหน่งอื่นให้ไม่ได้เลยทำพิธีไล่วิญญาณให้แทน ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลย

หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ถูกเรือดำน้ำของสหรัฐซุ่มโจมตี ถ้าหากว่าคำให้การของกัปตันเรือดำน้ำอเมริกันบอกว่า พวกเขาไม่ได้ยิงเลยเรือดำน้ำลำนั้นเลย  สรุปได้คือเรือดำน้ำลำนี้ระเบิดขึ้นเอง!!


อ้างอิง : //listverse.com/2013/07/16/10-creepy-and-mysterious-phantom-vehicles/

ที่มา : Dek-D / member : Cammy







Create Date : 09 สิงหาคม 2557
Last Update : 9 สิงหาคม 2557 10:06:44 น. 0 comments
Counter : 1474 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.