# อันดับที่ 10 The Guyra Ghost  ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ครอบครัวเวน ใน Guyra, นิวเซาธ์เวลส์ ออสเตรเลีย ถูกคุกคาม จากการหยอกเล่นโดยสิ่งลึกลับที่เชื่อว่าเป็นผี เมื่อผนัง หลังคาบ้านถูกอะไรบางอย่างปาหินกระทบ หน้าต่างของบ้านถูกทำลายจนแตกเสียหาย ทุกค่ำคืน แม้จะมีตำรวจท้องถิ่นช่วยกันสอดส่องลาดตะเวนในพื้นที่ แต่หินก็ยังบ้านและเกิดเสียงดังไม่หยุดไม่หย่อน แม้กระทั่งทีมงานนักสืบจากซีดนีย์พยายามที่ตรวจสอบที่มาเหตุลึกลับนี้ ปรากฏการณ์ดังกล่าวก็ยังเกิดขึ้นจนสร้างความเดือดร้อนแก่ครอบครัวเวนและเพื่อนบ้าน จนกระทั่งมินนี่ลูกสาววัย 12 ปี สารภาพว่าเธอเป็นคนข้างก้อนหินและทำเสียงเคาะผนังเพื่อหยอกเล่นกับคนในบ้าน แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้เป็นต้นเหตุเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้นดูเหมือนมินนี่จะเป็นจุกศูนย์กลางความลึกลับนี้ เพราะเมื่อส่งตัวเธอไปอยู่บ้านคุณยายของเธอ การหยอกเล่นของผีก็รุนแรงมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มทำลายบ้าน เครื่องประดับล้มออกจากชั้นวาง ก้อนหินบินเข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 1921 มินนี่กลับบ้าน กิจกรรมโพลเตอร์ไกสท์ (Poltergeist). ก็หยุดลงในที่สุด หลังจากนั้นมินนี่ เวนก็ได้แต่งงาน หากแต่เมื่อถูกสัมภาษณ์เหตุการณ์ลึกลับในอดีต เธอตอบแค่ว่าไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง ทำให้เรื่องลึกลับน่ากลัวนี้ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

# อันดับที่ 9 The House of Blood 1987 ที่แอตแลนตา จอร์เจีย ก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 8 กันยายน 1987 มินนี่ วินสตันอายุ 77 ปีได้พบเลือดเปื้อนพื้นอยู่พื้นห้องน้ำ เธอเลยเรียกสามีวิลเลี่ยม อายุ 79 ปีมาช่วยหาที่มาของเลือดดังกล่าว ซึ่งเมื่อทั้งคู่ทำการสำรวจก็พบเลือด (ของเหลวสีแดง) ตามจุดต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นฟนังห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องโถงและห้องใต้ดิน ไปจนถึงช่องใต้พื้นอาคาร ใต้พื้นโทรทัศน์ ทั้งคู่ตกใจที่มาของเลือดดังกล่าวมาก ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในบ้านพวกเขา ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้อยู่ตามลำพังเพราะมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย แต่บ้านเช่าของพวกเขากลับเต็มไปด้วยเลือดทั้งพื้นและผนังโดยไม่มีที่ไป โดยไม่มีอะไรผิดสังเกตก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย พวกเขาจึงเรียกตำรวจ และยืนยันว่าเลือดในบ้านไม่ใช่ของพวกเขาแน่นอน และเมื่อทำการตรวจสอบเลือดมันเป็นของมนุษย์และไม่ใช่ของสองสามีภรรยาวินสตัน มันเป็นเลือดของมนุษย์กรุ๊ปเลือด 0 ในขณะที่สองสามีภรรยามีกรุ๊ปเลือด A แล้วเลือดนี้มันเป็นของใครกันแน่? และจนบัดนี้บ้านเลือดก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

# อันดับที่ 8 Maria Talarico ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1936 ร่างของจูเซปเป้ “เปปี” เวอเรสถูกพบใต้สะพานในคาตานซาโร อิตาลีเห็นได้ชัดว่าเขาโดดสะพานสูงกว่า 13 จนศีรษะกระแทกกับก้อนหินและจมอยู่ในน้ำตื้น จากการสืบสวนของตำรวจชี้ไปทางว่าฆ่าตัวตาย แต่ ครอบครัวของเขาไม่เห็นไม่มีเหตุผลที่จูเซปเป้ที่ต้องการฆ่าตัวตายเลยแม้แต่น้อย สามปีต่อมาในเดือนมกราคม 1939 วัยรุ่นคนหนึ่งชื่อมาเรีย ทาลาริโกใต้เดินไปใกล้สะพานที่ร่างของจูเซปเป้นอนตายอยู่ จู่ ๆ เธอก็ทรุดตัวและหมดสติ และถูกนำตัวส่งที่บ้าน เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอเปลี่ยนไปจากเดิม เธอมีเสียงลึกรุนแรงเหมือนผู้ชาย เธอบอกว่าเธอคือจูเซปเป้ และบอกให้คนในบ้านพาแม่ม่ายของจูเซปเป้มาพูดคุยกับเขา ระหว่างที่รอ เขาก็กินไวน์และดูดบุหรี่เชิญชวนเพื่อนบ้านเล่นเกมซึ่งมาเรียไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน และเมื่อแม่ม่ายของจูเซปเป้มาบ้าน เธอก็ประหลาดใจเมื่อเขาได้ยินเสียงลูกชายของตนเองออกจากปากของมาเรีย ซึ่งมาเรียยืนยันว่าเขาไม่ได้ฆ่าตัวตายแต่โดนเพื่อนของเขาฆ่าตายด้วยท่อนเหล็กและโยนลงจากสะพานที่อำพรางคดี จากนั้นมาเรียจะหมดสติไป และเมื่อมาเรียตื่นขึ้นมาเธอก็ไม่มีความทรงจำเรื่องถูกสิงเลยแม้แต่น้อย 9 ปีต่อมาแม่มายของจูเซปเป้ได้รับจดหมายจากชายคนหนึ่งชื่อ “โตโต้” เพื่อนของลูกชายของเธอ ในจดหมายสารภาพว่าเขากับเพื่อนอีกสามคนร่วมมือฆ่าจูเซปเป้ที่โมโหว่าผู้หญิง ซึ่งรายละเอียดจดหมายสอดคล้องกับที่จูเซปเป้ในร่างของมาเรียเล่ามา

# อันดับที่ 7 Eleanore Zugun เอเลอเนอร์ ซูกัน เป็นเด็กหญิงจาก โรมาเนีย (เกิดในปี 1913) ในขณะที่เธออายุ 12 ปีได้เกิดเหตุการณ์น่ากลัวขึ้น เมื่อเธอไปเยี่ยมกระท่อมของคุณยายของเธอ จู่ๆ หินโครงสร้างบ้านก็หลุดกระแทกตัวของเธอ หมุดและเข็มบินข้ามห้องมาปักที่แขนของเธอ จานแตกกระเด็น ไปจนถึงเหยือกที่มีน้ำเต็มถูกยกลอยขึ้นในอากาศโดยไม่มีน้ำกระเด็นออกมาแม้แต่ หยดเดียว ซึ่งคุณยายของเอเลอเนอร์เชื่อว่าหลานถูกครอบงำวิญญาณที่ชั่วร้าย 

เดือนต่อมาเอเลนเนอร์ถูกส่งไปยังอารามเพื่อทำพิธีไล่ผี แต่ไม่ได้ผล ปรากฏการณ์ลึกลับยังคงเกิดขึ้นและรุนแรงมากขึ้น นักบวชจึงส่งเธอไปโรงพยาบาลบ้า ในเวลานั้นหนังสือพิมพ์ได้ลงข่าวของเธอจะเป็นที่สนใจของ Fritz Grunweld นักวิจัยได้เข้ามาสังเกตการณ์ก็พบว่าเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติของแท้ เมื่อเอเลอเนอร์อายุ 13 ปีและไปอยู่เวียนนาเพื่อฝึกอบรมเป็นช่างตัดผม เหตุการณ์แปลกประหลาดก็ยังเกิดขึ้นจ่อเนื่อง วัตถุต่างๆ เคลื่อนที่ด้วยอำนาจลึกลับ ลอยเข้ามาทำร้ายเธอ บางครั้งพลังนี้ก็ออกอาการก้าวร้าวด้วยการปาสิ่งของเข้าใส่คนอื่นจนบาดเจ็บ และบางครั้งก็เห็นเงาเคลื่อนไหวลึกลับอยู่บริเวณใกล้เคียงที่เอเลนเนอร์อยู่ เอเลนเนอร์ถูกส่งตัวไปลอนดอนเพื่อตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ หลังจากนั้นเธอก็กลับไปใช้ชีวิตและเรื่องก็เริ่มจางหายเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีการโจมตีต่อเนื่อง แต่เทื่อเธออายุ 14 ปรากฏการณ์ลึกลับดังกล่าวก็หมดไปและชีวิตของเธอก็กลับสู่ปกติ

# อันดับที่ 6 "Haunted" Coal เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1925 นายฟรอสต์ได้ซื้อถ่านสำหรับเตาผิงมาจำนวนหนึ่ง แล้วส่งมายังบ้านของเขาที่ 8 Ferrestone road, เมืองฮอร์ซีย์ ลอนดอน หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นเมื่อภรรยาและเด็กวัยรุ่นสามคน (จะเป็นลูกหรือหลานไม่ทราบ เพราะในหนังสือพิมพ์เขียนไม่สอดคล้องกัน) เมื่อพวกเขาเอาถ่านเผาไฟในตะแกงเตาผิง จู่ ๆ ก็เกิดการระเบิด และมันก็กระโดดออกจากตะแกงไปมาเล่นบนพื้นแล้วหยุดไป แต่มันก็เพียงพอที่ทำให้เกิดประกายไฟลุลามไปยังห้องอื่นจนบ้านเกิดความเสียหาย แม้ว่าจะเคลียร์ถ่านหินเอาไปทิ้งในสวน แต่คืนต่อมามันก็โผล่เข้ามาในบ้าน ครอบครัวได้ยินเสียงมันลงมาจากขั้นบันไดทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็นฝีมือของผีของคนงานเหมืองถ่านหิน หลังจากนั้นเหตุการณ์ต่าง ๆ เริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าวของขยับเองได้ มีดและขนมปังบินข้ามห้อง สิ่งของตกลงมาจากชั้นวาง ทำให้ครอบครัวฟอรสต์หวาดกลัวจนประสาทเสียต่อมามิวเรียล ฟรอสต์ก็ได้เสียชีวิตลงเมื่อ 1 เมษายน ซึ่งในหนังสือพิมพ์เขียนว่าเป็นฝีมือของผี ไม่นานพี่ชายของเธอถูกส่งไปโรงพยาบาลบ้า จนบัดนี้ก็ไม่สามารถสรุปโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวฟรอสต์ได้

# ติดตามตอนที่ 2 (จบ)

Cr. Cammy /// Writer-dek-d
ที่มา : https://my.dek-d.com/asmodeus/writer/viewlongc.php?id=486572&chapter=545

Create Date : 09 สิงหาคม 2557
Last Update : 29 กรกฎาคม 2560 10:34:38 น.		1 comments
Counter : 862 Pageviews.
Share Tweet