Beauty ♥ Preview SEOUL SECRET Cream สวัสดีจ้า วันนี้นิมาทำพรีวิวครีมตัวนึงให้ชมกันค่ะ เป็นของแบรนด์ Seoul Secret ค่ะ สำหรับแบรนด์นี้สาวๆน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับตัวอาหารเสริมเนาะ ตอนนี้ทาง Seoul Secret เค้าทำเป็นตัวครีมออกมาด้วย มาชมกันเลย SEOUL SECRET Cream ขนาด 30g. ราคา 680.- นำคอลลาเจนเกรดพรีเมียมโมเลกุลเล็กระดับ Ultra Low Molecular Weight (หน่วยโมเลกุลเล็กกว่า 500 ดาลตัน๗ ซึ่งทางแบรนด์บอกว่าสามารถดูดซึมได้ทันที ที่เป็นจุดเด่นของคอลลาเจนชนิดเม็ด Seoul Secret ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม รวมกับสารสกัดจากโสมเกาหลีซังซัม หรือโสมร้อยปีที่หายากในป่าลึก ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่หายากที่สุด สรรพคุณ ช่วยในเรื่องของการลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระชับรูุขุมขน ลดเลือนจุดด่างดำเนื้อครีมบางเบา ไม่เหนอะหนะ ใช้ทาบำรุงกลางวันและกลางคืน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบาง ไม่มีสารกันแดด แพ็คเกจจิ้งเป็นกระปุกสีตะกั่วแบบในภาพค่ะ เปิดเข้าไปมีฝากันอีกชั้น ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ครีมดูสะอาดดี เนื้อครีมเป็นสีขาวขุ่น มีกลิ่นโสมเจือจางอยู่ ทำให้รู้สึกว่าแน่ใจว่าสกัดจากโสมแน่ๆ เนื้อครีมบางเบา ไม่หนัก ไม่เหนอะผิวค่ะ ชุ่มชื่นใช้ได้เลย คุณสมบัติของครีมตัวนี้คือช่วยในเรื่องการลดเลือนจุดด่างดำ และการกระชับรูขุมขนค่ะ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน www.facebook.com/SeoulSecretThailand www.seoulsecret.com Line : SeoulSecret ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นไม่ได้เหมาะกับผิวของทุกคน อยากให้สาวๆลองศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ MINIPANDAZ   Create Date : 19 สิงหาคม 2557     Last Update : 28 สิงหาคม 2557 11:47:11 น. Counter : 3887 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review EUCERIN Dermo Purifyer Correct & Cover Stick สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้นินำไอเท็มน่าสนใจมากๆตัวนึงมารีวิวให้ชมกัน เป็นคอนซิลเลอร์ที่ช่วยปกปิดรอยสิว แต่คุณสมบัติไม่ได้มีแค่นั้น เพราะคอนซิลเลอร์ตัวนี้จะช่วยลดปัญหาสิวรุนแรงให้ยุบตัว และปกปิดรอยสิวอย่างที่ไม่ทำให้ผิวอุดตันด้วย น่าสนใจใช่มั้ยละ มาดูกันเลย EUCERIN Dermo Purifyer Correct & Cover Stick ขนาด 2.5g ราคา 990.- โดยปกติแล้วเวลาที่เรามีสิว ไม่ว่าจะด้วยอาการแพ้ ผิวอ่อนแอช่วงวันนั้นของเดือน วิธีที่เราจัดการกับปัญหานี้ก็อาจจะเป็นใช้เจลแต้มสิวในเวลากลางคืน วันไหนจะต้องแต่งหน้า มีงาน มีธุระ จะให้ไม่กลบเลยก็ไม่มั่นใจ เราจึงเลือกที่จะใช้คอนซิลเลอร์ในการปกปิด ซึ่งก็จะยิ่งเพิ่มการอุดตันกับผิวมากขึ้น วิทยาการล่าสุดจาก Eucerin Correct & Cover Stick(CC Stick) ผลิตภัณฑ์แต้มสิวเฉพาะจุดสูตรเข้มข้น ด้วยบิสซาโบลอล สารสกัดจากดอกคาร์โมมายด์ เข้มข้น 5 เท่า ช่วยลดแบคทีเรียที่สะสม ให้สิวอักเสบยุบตัว พร้อมเนื้อครีมสูตร Oil-free ปกปิดรอยสิวไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน ผ่านการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณแล้วว่าลดสิว และปกปิดรอยสิว อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผิวดูเนียนละเอียดใส เนื้อดีทีเดียวค่ะ ไม่หนักไปและสามารถปกปิดรอยสิวได้เนียนมาก วิธีใช้ก็แค่แต้มลงไปที่สิวของเรา แล้วใช้นิ้วค่อยๆแตะให้ดูกลืนกับผิวค่ะ เนื้อสีของคอนซืลเลอร์ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ได้กับทุกสีผิวด้วยค่ะ ความเจ๋งอีกอย่างคือ สามารถใช้แต้มสิวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถใช้ปกปิดสิวและรอยสิวก่อนการแต่งหน้าโดยไม่ทำให้อุดตัน และยังสามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้ด้วย ภาพซ้ายคือช่วงที่สิวเริ่มอักเสบค่ะ ผิวยังบวมๆยังมีหัวสิวอยู่เลย ผ่านไปราวๆ 3-4 วัน สิวก็ดูยุบลงไปเยอะเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะหัวสิวหลุดออกไปด้วยเลยดูยุบลงมากค่ะ ถือเป็นคอนซิลเลอร์ที่แนะนำเลย ชอบทั้งคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหาสิว และยังช่วยปกปิดให้ผิวดูเนียนยิ่งขึ้นได้ด้วยโดยไม่มีการอุดตันผิว ภาพนี้เป็น Finished Look ที่ใช้ CC Stick ตัวนี้ค่ะ จะเห็นว่าผิวดูเป็นธรรมชาติมากๆ แต่ภาพนี้จะเป็นตอนที่สิวนิยุบไปพอสมควรแล้ว สังเกตุจะมีปูดๆที่แก้มนิดหน่อย ถือว่าเป็นอีกตัวที่ปกปิดได้ดี และให้ผิวสวยเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ สามารถหาซื้อได้ง่ายด้วยค่ะ มีจำหน่ายที่ Watsons, Boots, โรงพยาบาลและร้านขายยาทั่วไป สำหรับใครที่สนใจและอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ดูในลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ //www.eucerin-club.com/acne/ และตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ ลด 10% เมื่อซื้อที่ Watsons หรือ Boots จากราคา 990.- เหลือ 891.- จ้ะ และสำหรับใครที่ซื้อ CC Stick ที่ Watsons วันนี้ มีโปรโมชั่นรับคะแนน 1000 แต้ม และกิจกรรมสุดพิเศษลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ทำทรีทเมนต์หน้าใส ไร้สิวกับหมอโอ๊คฟรีๆไปเลย ลองไปดูที่ร้าน Watsons กันนะ อย่างไรนี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของนิที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองนะคะ ผิวแต่ละคนเหมาะกับผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน แนะนำให้ทดลองด้วยตัวเองดีที่สุดค่ะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ MINIPANDAZ   Create Date : 19 สิงหาคม 2557     Last Update : 12 กันยายน 2557 18:31:06 น. Counter : 7157 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review & Swatch Mistine Joops!! Color Rich ลิปสีแน่นที่สามารถผสมแล้วได้สีกว่า 30,000 สี  สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน สำหรับวันนี้นิหยิบเอาลิปพิกเมนท์แน่นๆเนื้อสีอิ่มๆมารีวิวให้ชมกัน ทุกวันนี้ลิปชนิดเนื้อลิควิดที่สามารถผสมสีกันแล้วได้สีใหม่กำลังฮิตมากๆ ครั้งนี้เป็นแบรนด์ไทยของเราเอง แถมราคายังน่ารักมากๆ นั่นคือแบรนด์ Mistine นี่เองจ้า Mistine Joops!! Color Rich ลิปชนิดลิควิดสไตล์ใหม่ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ อัดแน่นไปด้วยปริมาณพิกเมนท์ที่มากกว่าลิควิดคัลเลอร์ทั่วไป แม้แต่งแต้มบนริมฝีปากเพียงเล็กน้อยก็สามารถมอบสีสันสดชัด กลบริมฝีปากเดิมมิดไร้กังวลกับปัญหาสีลิปผิดเพี้ยน ติดทนนาน เนียนแนบผิว พรางริมฝีปากที่หมองคล้ำให้แลดูสดใส ช่วยให้สาวๆไม่ต้องเติมลิประหว่างวันบ่อยๆ ขนาด 8g. ราคา 89.- มีทั้งหมด 9 เฉดสี ซึ่งสีที่ 9 เป็น Limited Color For Air Asia ค่ะ สามารถซื้อได้บนเครื่อง Air Asia เท่านั้น มาดูที่แพ็คเกจจิ้งกันก่อน สำหรับตัวนี้จะเป็นแบบหลอดบีบค่ะ หัวหลอดบีบทำเป็นหัวเล็กๆง่ายต่อการควบคุมปริมาณดี ขนาดไม่ใหญ่มาก ง่ายต่อการพกพา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีบนตัวหลอดซึ่งนิว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากๆคือชื่อหรือเบอร์ของสีค่ะ มีเฉพาะบนกล่อง ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่พกกล่องไปไหนมาไหนด้วยอยู่แล้ว จึงเป็นการยากจะที่จดจำหรือแยกสีถ้าหากไม่มีกล่องค่ะ เนื้อค่อนข้างแน่นทีเดียว สีสัดจัดจ้าน โดยรวมมีโทนสีอ่อนๆประมาณ 3 สี นอกนั้นจะเป็นโทนสีจัดๆทั้งนั้นเลย มาดูทีละสีกัน No.1 สีโทนนี้เป็นสีชมพูที่กึ่งนมๆแต่เป็นนมสีจัดๆหน่อย ซึ่งเป็นสีที่นิว่าเป็นสีที่ควรมีติดกระเป๋าไว้นะ เพราะเป็นเฉดสีที่ดูหวานแต่ก็มั่นใจ ทาได้กับหลายๆสถานการณ์ค่ะ ไม่ดูฉูดฉาดเกินไป No.2 สีส้มอมแดง เฉดสีนี้ฉูดฉาดมากพอสมควรค่ะ เหมาะกับสไตล์สาวมั่นยุคใหม่ ดูสดใสและมั่นใจในตัวเองดี เป็นสีที่ขับผิวดีด้วย No.3 สีชมพูอมแดง เป็นอีกสีที่นิชอบมากค่ะ ขับผิวดี ดูสดใส สีเหมือนสีกลีบกุหลาบ ทาแล้วก็ไม่ธรรมดาดี สวยมากๆ No.4 สีชมพูนม เป็นสีที่ทาแล้วจะดูหวานแต่ส่วนตัวนิว่าดูเซ็กซี่ไม่เบานะ ถ้าเป็นคนผิวออกแทนๆหน่อยทาแล้วจะดูโดดเด่นมาก และถ้าผิวขายก็จะดูหวานหยดย้อย เป็นสีที่มีสเน่ห์มากค่ะ No.5 สีแดงอมส้ม เป็นโทนสีที่โดดเด่นมากๆสีนึงเลย ทาแล้วขับผิวมากค่ะ No.6 สีพีช สีโทนนี้หวานและสดใสมาก เป็นอีกเฉดที่นิชอบมาก มันไม่หวานเกินไป ไม่เปรี้ยวเกินไป กำลังดี ดูน่ารัก และที่สำคัญคือเป็นสีที่เข้าได้ง่ายกับเกือบทุกเฉดผิวค่ะ No.7 สีชมพูอมม่วง เป็นเฉดที่อาจจะดูผู้ใหญ่ไปซักหน่อย แต่ก็ดูสวยแบบสาวมั่นดีเหมือนกันค่ะสำหรับสีนี้ เป็นสีอมตะที่เห็นมาทุกยุคทุกสมัย No.8 สีนู๊ด เป็นสีที่ถ้าคุณแต่งสโมคกี้อาย ตาแน่นๆ สามารถทาตัวนี้เพียวๆได้เลยค่ะ มันจะดูแกลมมากๆ แต่ตัวนี้นิชอบใช้เป็นตัวผสมเพื่อเบรคสีจี้ดๆตัวอื่นๆ ผสมออกมาแล้วจะได้วีที่ซอฟท์ลง และทาง่ายขึ้น Limited Color For Air Asia เป็นสีลิมิเตทที่สามารถซื้อได้บนสายการบินแอร์เอเชียเท่านั้นค่ะ เป็นสีแดงสดสัญลักษณ์ของ Air Asia เลย จะเป็นโทนสีแดงอมบลู ไม่มีเฉดส้มหรือชมพูเจือปน ทาแล้วถ้าไม่เด่นให้ตีหัวเลย สีแดงอันนี้โดดเด่นมากจริงๆค่ะ นอกจากนี้อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า Mistine Joops!! Color Rich นี้ สามารถนำแต่ละสีมาผสมกันให้เกิดสีใหม่ได้ถึง 30,000 สี เพราะฉะนั้นจึงขาดการผสมสีในรีวิวนี้ไม่ได้จริงๆค่ะ วันนี้นิมาลองผสมสีใหม่ออกมา 3 สีให้ชมกัน มาดูกันเลย Limited Color For Air Asia + No.8 สีแดงสดจากลิมิเตดแอร์เอเชีย ผสมกับสีนู๊ด ออกมาแล้วได้สีชมพูช้อกกิ้งพิงค์สวยๆแบบนี้ค่ะ สีนู๊ดมีความเจือสีโทนชมพูอยู่หน่อยๆเลยทำให้สีออกมาโทนชมพูแบบนี้ No.2 + No7 สองสีนี้เป็นส่วนผสมที่นิอยากลอง ว่าโทนส้มกับโทนชมพูอมม่วง เมื่อผสมกันออกมาแล้วจะได้สีโทนไหน น่าตกใจที่มันออกมาคล้ายสีของแอร์เอเชียกับสีเบอร์ 8 ข้างบนพอสมควร แต่จะมีเจือโทนม่วงกว่าหน่อยๆค่ะ เลยดูเข้มกว่านิดๆ No.4 + No.6 มาลองเอาสีอ่อนผสมกับสีอ่อนกันบ้าง สีชมพูนมกับสีพีช ผสมออกมาแล้ว กลายเป็นสีชมพูนมอมพีชหน่อยๆดูน่ารักมากๆ เพราะกับวันแต่งหน้าเบาๆ เน้นสีปากน่ารักๆดูสดใสค่ะ ลองเทียบทุกสีที่นิสว้อชให้ดูทั้งหมดในวันนี้ เพื่อให้เห็นชัดเจนขึ้นว่าแตกต่างกันอย่างไรนะคะ นิค่อนข้างชอบลิปแนวนี้นะ แนวที่สามารถผสมสีได้เองเพราะ สามารถผสมสีเฉพาะของตัวเองได้ง่ายๆเลย และไม่จำเป็นจะต้องผสมแค่สองสีด้วยค่ะ จะผสมสามสี สี่สี หรือเอาทุกสีผสมกันก็ยังได้ สนุกดีนะ รวมทั้งหมดให้ดูว่าแต่ละสีเมื่อทาบนริมฝีปากแล้วออกมาได้ Mood&Tone ประมาณไหนค่ะ กลิ่นของลิปหอมทู้ทตี้ฟรุ๊ตตี้มากๆเลย ติดทนค่อนข้างใช้ได้เลยค่ะ โดยเฉพาะสีจัดๆติดทนมากเป็นพิเศษ หากใครอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมลองเข้าไปดูในเพจของ Mistine ได้เลยจ้ะ https://www.facebook.com/MistineNo1CosmeticInThailand หวังว่าสาวๆจะสนุกกับการผสมสีสันเฉพาะของตัวเองกันนะคะ ยังไงซะนี่เป็นเพียงเหตุผลส่วนตัวของนิหลังจากได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองจริงๆ อย่าลืมว่าความชอบของคนเรา ปัจจัยการใช้ชีวิตต่างๆไม่เหมือนกัน ผลที่ได้ย่อมจะแตกต่างกันด้วย และนี่เป็นเรื่องของสีสันที่มีผลโดยตรงกับเฉดสีผิว เวลาทาออกมาอาจจะเหมาะไม่เหมาะต่างกันด้วย ยังไงอยากให้ลองด้วยตัวเองดีที่สุดค่ะ ขอบคุณมากๆที่ติดตามค่ะ MINIPANDAZ   Create Date : 16 สิงหาคม 2557     Last Update : 21 สิงหาคม 2557 0:24:53 น. Counter : 10203 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review LIESE Texture Make Jelly เพื่อผมสวยเก๋แบบมีมิติ สวัสดีจ้าสาวๆทุกคน วันนี้นิหยิบเอาผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมจากญี่ปุ่นมารีวิวให้ชมกัน เป็นแบรนด์ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี LIESE นั่นเองจ้ะ LIESE ทั้ง 3 ตัวนี้จะเป็นตัวที่นิพูดถึงในวันนี้ค่ะ แต่ตัวที่นิจะเน้นคือตัวขวดสีฟ้าน้ำทะเล(ขวาสุด) ซึ่งน่าสนใจมากๆ LIESE Texture Make Jelly เป็นผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมแบบเจลลี่ แค่ใช้นิ้วมือจับปลายผมแล้วเซ็ท ก็จะทำให้ได้ทรงผมดูมีมิติขึ้นได้ค่ะ ขวดสีฟ้าน้ำทะเล-ดำ ส่วนฝาเป็นสีขาวแบบนี้ ขนาด 100ml. ค่ะ เนื้อเจลจะเป็นสีขาวใสๆแบบในภาพค่ะ ให้ความรู้สึกเนื้อเบาไม่หนัก เวลาลง Jelly ที่เส้นผมเพื่อเซทจะรู้สึกถึงความชุ่มชื่น และเมื่อแห้งตัวก็ไม่ทิ้งคราบหรือความเหนียวเหนอะหนะอะไรเลย ผมดูมีมิติแต่ยังพริ้วสวยดูดีอยู่ เป็นธรรมชาติดีค่ะ อันนี้คือสภาพเส้นผม ก่อน-หลังใช้ Liese Texture Make Jelly ค่ะ สังเกตุว่าก่อนจะใช้เจลตัวนี้ผมนิจะดูไม่ค่อยเป็นทรงมาก จะมีเส้นผมบางส่วนที่ดูพันกันยุ่งเหยิง ซึ่งเมื่อใช้เจลจัดแต่งทรงผมแล้วทำให้จัดเส้นผมไปในทิศทางที่ต้องการมากขึ้น และยังดูมีมิติ เงางามด้วยค่ะ และในวันนี้นิมีคลิปสอนทำผมพองฟูพริ้วๆสไตล์ GYARU แบบญี่ปุ่นมาฝากกันด้วยจ้า ซึ่งในคลิปนี้นิก็ใช้ตัว Liese Texture Make Jelly ในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อจัดแต่งทรงในขั้นสุดท้าย ให้ผมดูมีมิติเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ ในคลิปนิใช้ผลิตภัณฑ์อีก 2 ตัวของ Liese ด้วย คือ Liese Volume Make Spray ตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการช่วยให้ผมดูพอง มีวอลุ่ม และช่วยให้อยู่ทรงค่ะ มาในรูปแบบสเปรย์ ซึ่งทำให้ผมอยู่ทรงได้ดีค่ะ ไม่ทำให้ผมดูแข็งกระด้าง และไม่ทิ้งคราบขาวบนเส้นผม กลิ่นหอมดี ตัวนี้เป็นไซส์ 125g. ค่ะ อีกตัวที่นิใช้ในคลิปคือตัวนี้ Liese Iron Make Collection Multi Arrange ตัวนี้นิว่าหลายคนที่ติดตามนิน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่พอสมควร เพราะนิเคยรีวิวไปแล้วค่ะ เป็นตัวจัดแต่งทรงผมให้อยู่ทรง ใช้ได้ทั้งเครื่องหนีบผมตรง และเครื่องม้วนผมไฟฟ้า แถมยังมีเทคโนโลยี Heat Style ที่ช่วยให้ผมอยู่ทรงนานขึ้นแถมปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยค่ะ ตัวนี้ถือเป็นตัวนึงที่นิขาดไม่ได้นะ เพราะนิทำผมบ่อยมากๆ ตัวนี้เลยจำเป็นมากค่ะ และทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมานั้นก็เป็นตัวสำคัญที่ทำให้นิจัดแต่งทรงและได้ทรง GYARU แบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นตามที่สอนไปข้างต้นค่ะ หวังว่าคงจะชอบกันนะคะ แล้วอย่าลืมไปลองทำกันดูนะ ละอย่าลืมโพสรูปมาอวดให้ดูกันมั่งนะคะ ยังไงนี่เป็นเพียงเหตุผลส่วนตัวของนิที่ได้ทำการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วยตัวเอง สภาพเส้นผมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน นิก็ไม่แน่ใจว่าแต่ละคนใช้แล้วผลจะออกมาแบบไหน แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ก็อยากให้ลองทดลองด้วยตัวเองดูนะคะ ชอบไม่ชอบยังไง แชร์กันได้ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามจ้า MINIPANDAZ   Create Date : 13 สิงหาคม 2557     Last Update : 1 กันยายน 2557 17:37:02 น. Counter : 9979 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review PURE BEAUTY White & Bright เซทบำรุงเพื่อผิวกระจ่างใส สวัสดีจ้าสาวๆทุกคน สำหรับวันนี้นิมีแบรนด์สกินแคร์แบรนด์นึงมารีวิวให้ชมกันค่ะ เป็นแบรนด์ที่สามารถหาซื้อได้ง่ายๆที่ Watsons ด้วยล่ะ มาชมกันเลย PURE BEAUTY White & Bright เป็นแบรนด์ที่มีที่มาจากประเทศเกาหลีค่ะ เน้นการพิสูจน์ผิวกระจ่างใสภายใน 4 สัปดาห์ ด้วยอานุภาพของ ไวท์ แอนด์ ไบร์ท คอมเพล็กซ์ (White & Bright Complex) ที่ช่วยปกป้องผิวจากสัญญาณร้ายของอนุมูลอิสระที่ส่งตรงมาสู่เซลล์ผิว ป้องกันความหมองคล้ำของเม็ดสี และแอนตี้ออกซิแดนซ์สูตรเฉพาะ ช่วยปรนนิบัติผิวจากอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุแห่งการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวคุณสะอาดหมดจด ดูอ่อนเยาว์ เปล่งประกายสว่างสดใส อุดมไปด้วยบัลแกเรียน โรส วอร์เตอร์ (Bulgarian Rose Water) มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก พร้อมส่วนประกอบแอนตี้ออกซิแดนซ์ ซึ่งได้รับการรับรองจาก ECOCERT ที่ยืนยันความปลอดภัยและบริสุทธิ์ เพื่อการดูแลผิวที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ให้ผิวดูเรียบเนียน แลดูสว่างใส ตอบสนองทุกความต้องการของสาวเอเชีย มีส่วนผสมชั้นเลิศถึง 4 ชนิด ได้แก่ - สาร เอฟเอสเอฟ จากประเทศเกาหลี : Korean FSF (Forsythia Suspense Fruit Extract) มีคุณสมบัติปกป้องผิวจากการก่อตัวของเมลานินในเซลล์ได้มากขึ้น ช่วยปกป้องผิวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อดูแลผิวให้สว่างกระจ่างใส - สารอิลูมิซีน (Swiss ILLUMISCIN) จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวจากการก่อตัวของไลโปฟูซิน (Lipofucin) ต้นเหตุของความหมองคล้ำแห่งวัย ซึ่งเกิดจากของเสียที่สะสมในเซลล์ผิวที่โดนทำร้าย - อาร์บูติน (Arbution) สารประกอบเพื่อผิวดูสว่างกระจ่างใส ช่วยดูแลผิว ในส่วนเมลาโนไซต์ที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดสีผิวให้กลับสู่สมดุลตามธรรมชาติ - เอเอทูจี (AA2G TM) วิตามินซีธรรมชาติที่ผ่านการปรับสภาพให้เสถียรด้วยกลูโคส สามารถดูแลเมลานินที่หลุดรอดมาจากสารแอกทีฟที่พบอยู่ในชั้นผิวด้านบน ในเซท PURE BEAUTY White & Bright นี้มีผลิตภัณฑ์หลายชิ้นด้วยกันค่ะ ประกอบไปด้วย คลีนซิ่งโฟม (Cleansing Foam) ขนาด 125ml. ราคา 290.- โทนเนอร์ (Toner) ขนาด 130ml. ราคา 490.- เดย์ โลชั่น เอสพีเอฟ 20 (Day Lotion with SPF20) ขนาด 50ml. ราคา 490.- ไนท์ครีม (Night Cream) ขนาด 50ml. ราคา 490.- อาย ครีม (Eye Cream) ขนาด 15ml. ราคา 490.- ซีรั่ม (Serum) ขนาด 30ml. ราคา 590.- มาส์ก (Mask) บรรจุ 5 แผ่น ราคา 590.- สำหรับวันนี้นิหยิบเอาตัวที่นิชอบที่สุดมารีวิวให้ชมกันค่ะ เป็นตัวนี้เลย PURE BEAUTY White & Bright Toner โทนเนอร์สำหรับผิวหน้าเป็นตัวช่วยปรับสภาพผิวหลังจากที่เราล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าค่ะ การใช้โทนเนอร์จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพที่ยังคงตกค้างอยู่บางส่วนบนผิว และช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ แพ็คเกจจิ้งทำออกมาได้แข็งแรงดีแม้ว่าจะเป็นขวดพลาสติกแต่ดูดีมากค่ะ ลักษณะเป็นหัวปั้มซึ่งควบคุมปริมาณได้ดีมาก แน่นหนา ไม่หกเลอะเทอะง่ายแน่นอน เนื้อเป็นเนื้อแบบมีความหยุ่นเล็กน้อย สีใสๆดูสะอาดตาค่ะ เวลาทาไปอย่างที่บอกว่ามีความหยุ่นๆซึ่งชุ่มชื่นผิวดี โดยส่วนมากโทนเนอร์ที่เคยใช้มาจะเป็นเนื้อแบบน้ำเหลวไปเลย และจะมีกลิ่นของแอลกอฮอล์ผสมอยู่ แต่ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์เลย ทำให้สัมผัสรู้สึกดีมากๆ รู้สึกว่าบางเบาดี มีกลิ่นอ่อนๆช่วยให้ผ่อนคลายค่ะ วิธีการใช้งานจะใช้ร่วมกับสำลีค่ะ ปั๊มออกมา 2-3 ปั๊ม ไม่จำเป็นจะต้องชุ่มมากจนเกินไปค่ะ ในการจับสำลี แนะนำวิธีนี้ค่ะ(ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางตามภาพ) เป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดสำหรับการใช้สำลีแล้ว เพราะน้ำหนักที่ลงไปบนผิวจะกำลังพอดี ไม่ทำให้ผิวช้ำ จากนั้นค่อยๆเช็ดลงไปที่ผิวอย่างเบามือ ไม่จำเป็นต้องถูรุนแรง เช็ดไปตามแนวรูขุมขน จากจุดกึ่งกลางผิวไปหากรอบหน้า เช็ดให้ทั่วเพียงพื้นที่ละครั้งเดียวก็พอ ไม่จำเป็นจะต้องถูซ้ำไปซ้ำมา หลังจากเช็ดโทนเนอร์ที่ผิวแล้ว มาสังเกตุที่ลำสีกัน จะเห็นว่ามีสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างหลังจากล้างหน้าแล้วติดออกมาเล็กน้อย อย่างที่บอกค่ะว่าโทนเนอร์จะช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดสิ่งสกปรก ที่ยังคงตกค้างอยู่ให้สะอาดล้ำลึกขึ้น และจะช่วยให้ผิวปรับสภาพเพื่อพร้อมรับการบำรุงในขั้นถัดไปอย่างเต็มที่ อีกตัวหนึ่งที่นิชอบไม่แพ้กันคือตัวนี้ค่ะ PURE BEAUTY White & Bright Facial Mask สำหรับตัวมาส์คจะเป็นตัวบำรุงที่เข้มข้นมากกว่าครีมบำรุงค่ะ เหมาะสำหรับใช้ในวันเร่งรีบ หรือใช้เพียงอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน ใน 1 กล่อง บรรจุ 5 ซอง ซองละ 1 แผ่นค่ะ แผ่นมาส์คใหญ่พอสมควรเลยค่ะ นานๆนิจะเจอแผ่นมาส์คที่ปิดหน้าผากนิมิดถึงโคนผม 555 แผ่นมาส์คติดผิวดีพอสมควร ทิ้งไว้ราวๆ 15-20 ก็เพียงพอ ความรู้สึกหลังใช้ เรื่องความกระจ่างใสต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่วัดกันยาก จากสายตายังไม่เห็นผลในส่วนนี้ชัดเจนนักค่ะ แต่นิชอบความชุ่มชื่น คือหลังใช้รู้สึกว่าผิวมันชุ่มขึ้น มีความหยุ่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มาส์คกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนกับการอโรม่าดีค่ะ และให้ทริคอย่างนึงในการใช้มาส์ค เวลาเรามาส์คหน้า จะมีตัวเซรั่มเข้มข้นในเนื้อมาส์คเหลืออยู่ อย่าเพิ่งทิ้งค่ะ เอามาถูให้ทั่วตัว ใช้กันให้คุ้มค่า ผิวจะได้เด้งทั้งตัวเลย นิทำทุกครั้งหลังมาส์คหน้าด้วยทิชชู่มาส์คเลยสำหรับวิธีนี้ ^^ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ ยังไงซะในส่วนของผลลัพธ์ในแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เพราะสภาพผิวและสภาพแวดล้อมของเราต่างกัน แนะนำว่าอยากให้ลองด้วยตัวเองดีที่สุดค่ะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ MINIPANDAZ   Create Date : 11 สิงหาคม 2557     Last Update : 19 สิงหาคม 2557 16:19:50 น. Counter : 14566 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• purrhouse
• Webmaster - BlogGang

• N i c H a * Hi5
• N i c H a * Jeban
• N i c H a * TheWos
• N i c H a * Exteen
• N i c H a * Multiply
• N i c H a * Twitter
• BlogGang.com