Beauty  Review 12 Plus Photogenic Powder สวัสดีค่ะ วันนี้นิหยิบไอเท็มนึงที่คุณภาพดี ราคาสะบายกระเป๋า แถมยังเป็นแบรนด์ไทยเรานี้เองมารีวิวให้ชมกันค่ะ ไอเท็มนี้เหมาะมากๆสำหรับสาวๆที่ชื่นชอบการถ่ายรูป เพราะทำมาเพื่อให้เหมาะแก่การถ่ายรูปโดยเฉพาะเลยค่ะ 12 Plus Miracle Photogenic Powder กล่องสีชมพูลายแพนเค้กและศิลปินเกาหลี (ทงแฮและซีวอน) ก่อนอื่นมาพูดถึงเรื่องแพ็คเกจกันก่อนค่ะ  นิค่อนข้างจะชอบแพ็คเกจของแป้งที่แบ่งชั้นของเนื้อแป้ง และฟองน้ำแยกกัน บางแบรนด์จะมีแค่แผ่นพลาสติกใสๆบางๆคั่นระหว่างฟองน้ำและเนื้อแป้ง อันนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่  รู้สึกว่าไม่ค่อยสะอาดค่ะ แต่ 12 Plus Photogenic ตัวนี้แยกกันออกไปเลย ตัวตลับเป็นพลาสติกทั้งชิ้น แต่ไม่ก้องแก้งค่ะ เห็นคำโปรยพูดถึง 4D Brightening ซึ่งเป็นตัวกระจายแสงให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น พูดง่ายๆคือจะทำให้หน้าเรียวเล็กลงได้ค่ะ อันนี้คงพิสูจน์ดูว่ามันจริงมั้ย เนื้อแป้งไม่มีชิมเมอร์หรือความวิ้งวาวอะไร เพราะตัวแป้งเน้นในการถ่ายภาพ หากมีชิมเมอร์จะทำให้หน้าดูมันได้ มาดูเนื้อแป้งกันชัดๆซักหน่อย เนื้อค่อนข้างแน่นทีเดียวค่ะ เพราะเห็นว่ามีส่วนผสมของ BB และ CC ด้วย ปาดออกมแล้วดูหนาใช้ได้ อาจจะเพราะช่วยในเรื่องของการปกปิด ซึ่งเมื่อถ่ายรูปออกมาแล้วจะได้กลบจุดบกพร่องได้เนียนกริ๊บยิ่งขึ้น ลองดู Before & After เปรียบเทียบกันให้เห็นชัด หน้าดูเรียวขึ้นมั้ยคะ? ไม่ได้รีทัชใดๆทั้งสิ้นเลยน้า จะเห็นว่าก่อนทาแป้งหน้าจะมีความมันอยู่ แต่พอทาแล้วหน้าดูนวลขึ้น และพวกรอยกระจางๆจะหายไปเกือบหมด อย่างที่บอกค่ะว่าแป้งเนื้อค่อนข้างหนา เพราะฉะนั้นเรื่องการปกปิดถือว่าปกปิดได้ดีมากทีเดียว หน้าดูไบร์ทขึ้นเยอะเลย ในการรีวิวครั้งนี้นิจะขอท้าพิสูจน์กับเจ้าแป้งตัวนี้ซักหน่อย โดยเริ่มทาแป้งตัวนี้ตั้งแต่เช้า แล้วทำกิจกรรมทั้งวัน โดยจะถ่ายภาพให้เห็นถึงสภาพในช่วงเวลาต่างๆค่ะ มาดูกันซิว่า แป้งตัวนี้จะติดทนแค่ไหนกัน ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ค่อนข้างทรหดอยู่เหมือนกัน คือขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยสุเทพค่ะ ก็จะมีแวะตามจุดชมวิวต่างๆไปเรื่อยๆ แดดในวันนี้ค่อนข้างแรงเอาการ เบิร์นผิวนิเข้มขึ้นไปถึง 2 Step แหนะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ซัมเมอร์นี้ขอผิวแทนกะเค้าดูบ้างก็ดี ร้อนจนต้องถกแขนเสื้อขึ้นกันเลยทีเดียว เตรียมตัวขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพค่ะ ไม่ต้องถามนะว่าบันไดกี่ขั้น คิดว่าสาวๆส่วนมากน่าจะเคยไป ก็ไม่ทรหดเท่าไหร่ แค่หอบเป็นพักๆ ฮ่าๆๆ จากนั้นก็บึ่งมอเตอร์ไซค์ไปต่อที่ดอยปุย นั่งพักให้หายร้อนพร้อมแชะภาพให้ดูชัดๆ จากเมื่อกี้ขึ้นดอยมา เหงื่อออกเยอะพอสมควร เพราะอากาศร้อนมาก แต่แป้งไม่เป็นคราบอะไรค่ะ มีหลุดบ้างเล็กน้อยเนื่องจากเหงื่อค่อนข้างเยอะ แป้งไม่ดรอปค่ะ หลังจากกลับจากดอยปุย ก็แวะหาอะไรทานก่อนกลับมานอนพักที่ห้องค่ะ เตรียมลุยต่อพรุ่งนี้ ก่อนจะล้างหน้าอาบน้ำเตรียมตัวนอน  ก็ไม่ลืมที่จะแชะภาพมาให้ชมกันอีกซักรอบว่าตอนนี้หน้าของนิเป็นยังไงบ้าง จากภาพอย่างที่เห็นค่ะว่ามีความมันเกิดขึ้นมาเห็นชัดกว่าตอนเช้าพอสมควร แต่ก็ไม่แปลกอะไรเพราะทำกิจกรรมกลางแจ้งซะขนาดนั้น ไม่เป็นคราบ และดรอปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ่ายรูปออกมายังดูดีอยู่ค่ะ ให้คะแนน 8/10 ขอหักเล็กน้อยที่แป้งยังดรอปอยู่เล็กน้อย แป้งหลุดออกไปนิดหน่อย แต่เพราะกิจกรรมที่นิทำค่อนข้างหนักหน่วง ถ้าแต่งแล้วไม่ได้เจออากาศร้อนมากๆน่าจะติดทนกว่านี้มากค่ะ คุณภาพโดยรวมถือว่าเป็นแป้งที่น่าสนใจทีเดียว เนื้อแป้งละเอียดดี ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นได้จริงๆ อันนี้แอบทึ่ง ปกปิดมากอยู่ ไม่เป็นคราบค่ะ รีวิวนี้ให้ได้เพื่อเป็นตัวให้สาวๆได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ว่ามีลักษณะอย่างไร อย่าลืมว่าสภาพผิวคนเราไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะคลาดเคลื่อนกันไป ตามแต่ละบุคคลนะคะ ยังไงก็ขอบคุณมากๆที่ติดตามค่ะ เจอกันรีวิวหน้าค่ะ   Create Date : 19 พฤษภาคม 2555     Last Update : 19 พฤษภาคม 2555 17:11:59 น. Counter : 6092 Pageviews.   5 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review Smooth E White Babyface Cream Skin Whitening and Aniti-Aging สวัสดีค่ะ วันนี้นินำไอเท็มนึงมารีวิวให้ชมกัน จริงๆคุณสมบัติของไอเท็มนี้จะเน้นไปที่ความกระจ่างใส แต่ส่วนตัวนิเป็นคนผิวขาวอยู่แล้ว อาจจะไม่เห็นความต่างตรงจุดนี้ เลยอยากจะเน้นรีวิวในส่วนของจุดด่างดำค่ะ รีวิวนี้เป็นในส่วนของ สปอนเซอร์รีวิว นะคะ SMOOTH E WHITE BABYFACE CREAM Skine Whitening and Anti-Aging รุ่นนี้จะทำกล่องออกมาสีขาว มีกิมมิคเป็นสีฟ้าอมเขียวออกแนวน้ำทะเลค่ะ หลอดขนาด 1.OFL.OZ เทียบแล้วก็ยาวประมาณเกือบๆฝ่ามือผู้หญิง ดีไซน์ของกล่องและตัวหลอด ทำออกมาเรียบๆแต่ดูสะอาดตา เปิดฝาออกมาก็จะเป็นหลอดบีบๆ ใช้ง่ายไม่ซับซ้อนอะไรค่ะ เนื้อครีมจะดูข้นๆ สีขาวขุ่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ ลองเกลี่ยดูแล้วจะเป็นเนื้อละเอียดกลางๆซึมเข้าผิวเร็ว ชุ่มชื่นดีเหมือนกัน และไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ มี UV PROTECTION (SRF 15 OR SUN REFLECTION FACTOR ) สารป้องกันแสงแดดโดยใช้หลักการสะท้อนแสง กันได้ทั้ง UVA & UVB แต่ถ้าจะทาจริงๆในแต่ละวัน นิคิดว่าใช้ครีมกันแดดควบคู่ด้วยดีกว่าค่ะ ภาพก่อน และหลังนิทดลองใช้ โดยนิได้ทดลองใช้ประมาณสองอาทิตย์ค่ะ จะเห็นว่าผิวดูเคลียร์ขึ้นเล็กน้อย รอยสิวที่เพิ่งหายใหม่ๆ(เป็นจุดแดงๆ) ดูจางลงเยอะ แต่พวก กระ จุดด่างดำต่างๆยังคงเห็นอยู่ค่ะ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องดูผลในระยะยาวกว่านี้ เพราะพวกฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆรักษาค่อนข้างยาก ถ้าอยากรักษาแบบเร่งด่วนทันใจ น่าจะเป็นพวกเรเซอร์น่าจะไวกว่าค่ะ ให้ 8/10 ส่วนตัวชอบเนื้อสัมผัสและกลิ่นหอมอ่อนๆของผลิตภัณฑ์มากๆ เพราะมันไม่เหนอะผิว ทาแล้วสบายผิวมากๆค่ะ กลิ่นอ่อนๆทำให้รู้สึกสดชื่นดี และยังอ่อนโยนต่อผิว ทำให้โอกาสแพ้มีน้อยค่ะ หักตรงยังเห็นผลไม่ชัดเจนเท่าไหร่ อาจจะต้องทดลองในระยะยาวกว่านี้ค่ะ รีวิวนี้ทำเพื่อให้เป็นตัวสำหรับศึกษา อย่าลืมว่าพื้นฐานผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก่อนจะตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ   Create Date : 04 พฤษภาคม 2555     Last Update : 4 พฤษภาคม 2555 21:37:52 น. Counter : 10772 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Beauty ♥ How To American Girl สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้นิมีฮาวทูมาให้ชมกัน ช่วงนี้นิค่อนข้างติด Pinterest เพราะเป็นแหล่งไอเดียเก๋ๆชั้นยอด ให้แก่งานของนิ(ตอนนี้เรียนปริญญาโทด้านดีไซน์อยู่ค่ะ) แล้วบังเอิญไปเจอภาพสาวมะกันคนนี้ เกิดอยากจะทำฮาวทูสาวน้อยร้อยกระขึ้นมาทันที วันนี้เลยทำให้ชมกันค่ะ เริ่มกันที่ภาพ Before ตามสเต็ป อาหมวยตาตี่ มีกระจางๆเป็นของตัวเองอยู่เหมือนกัน ครั้งนี้นิจะใช้ BB Cream ในการลงเป็นเบสเมคอัพนะคะ ไม่ได้ต้องการการปกปิดอะไรมากมาย เนื่องจากผิวในฮาวทูนี้ จะมีรอยกระอยู่เต็มไปหมดค่ะ ต้องการแค่สีผิวที่ดูสม่ำเสมอขึ้นเท่านั้น ลงแป้งให้ทั่วใบหน้าโดยการใช้แปรงบัฟแทนการลงด้วยฟองน้ำ เพื่อให้ดูบางเบา และเป็นธรรมชาติ ใช้ Pen Eyeliner สีน้ำตาลวาดรอยกระลงไปให้ทั่วบริเวณจมูกและแก้ม ใช้แบบดินสอจะให้ความเบลอที่ดูเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วมือเกลี่ยนิดๆให้ดูกลืนไปกับผิวค่ะ ใช้บลอนเซอร์ลงบริเวณกรอบใบหน้าเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น และเน้นลงใต้โหนกแก้มเพื่อให้ผิวดูแทนๆนิดๆค่ะ ใช้บลัชโทนสีชมพูพีชๆมีวิ้งๆทองๆลงเป็นวงกลงที่พวงแก้ม แล้วเกลี่ยให้เข้ากับบลอนเซอร์ที่ลงไว้ตอนแรก จะช่วยให้ผิวดูบ่มแดดและแทนๆสุขภาพดีค่ะ เขียนคิ้วด้วยสีที่อ่อนกว่าสีผม 1 สเต็ป เน้นเขียนเส้นหนาๆฟุ้งๆ เพื่อให้ดูเป็นเด็กสาววัยใสๆ พร้อมกับคัดดั้งให้ดูโด่งขึ้นแบบสาวมะกัน ใช้โทนสีสว่างที่มีชิมเมอร์สวยๆ ลงให้ทั่วบริเวณตั้งแต่ ขอบตาไปจนถึงรอยพับขอบตา ใช้โทนสีน้ำตาลเนื้อแมทคัดเบ้าตาให้ดูลึกขึ้น โดยลงตั้งแต่รอยพับเปลือกตาขึ้นไปจนเกือบถึงโหนกคิ้วค่ะ ใช้สีน้ำตาลเข้มส่งในช่วงของรอยพับเปลือกตา เพื่อเป็นการตัดเส้นให้เห็นรอยพับเปลือกตาชัดเจนขึ้น สำหรับสาวตาโตที่ตาสองชั้นชัดเจนอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้อาจจะไม่จำเป็นค่ะ แต่นิเป็นคนตาหมวย รอยพับเปลือกตาไม่ชัดเจน ขั้นตอนนี้จึงจำเป็นมากๆ เขียนอายไลน์เนอร์ตามแนวขอบตาของเรา โดจช่วงหางตาเขียนให้เลยแนวขอบตาของเราออกมาเล็กน้อย จะได้ดูตาโตขึ้นนิดนึง และเขียนขอบตาล่างให้เต็มทั้งแนวขอบตาเลยค่ะ จะทำให้ดวงตาเราดูโดดเด่นขึ้น ติดขนตาปลอมที่เป็นเส้นลักษณะสานๆ หรือจะเลือกใช้แบบที่เป็นเรียงเส้นก็ได้ แต่อย่าใช้แบบที่หนาเป็นแพ เพราะจะดูไม่เป็นนธรรมชาติค่ะ ลุ๊คนี้เราเน้นความเป็นธรรมชาติแบบฉบับมะกันสุดๆ ^^ ทาลิปสติกโทนนู๊ดๆแต่อมความเป็นพีชๆเพื่อไม่ให้ดูซีดจนเกินไป เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ Before & After ใบหน้าดูมีมิติแบบฉ่ำวาว มีรอยกระจางๆ ดวงตาดูโตขึ้นเล็กน้อยค่ะ มาดูรูป After กันนะคะ แสงอมบลูไปหน่อยเพราะเปลี่ยนทิศและโลเคชั่นการถ่ายภาพ เหมือนตุ๊กแกดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ไปก่อนแล้ว บับบาย!!!   Create Date : 01 เมษายน 2555     Last Update : 1 เมษายน 2555 13:53:48 น. Counter : 5224 Pageviews.   4 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review Lunasol Three-Dimensional Eye 05 Deep Beige สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน วันนี้นิหยิบไอเท็มที่นิได้มานานหลายเดือนละล่ะ แถมมันมีคอลเลคชั่นที่ใหม่กว่านี้ออกมาแล้วด้วย แต่ไม่ได้พูดถึงมันซักเท่าไหร่ วันนี้มีโอกาสเลยหยิบมารีวิวให้ชมกันค่ะ รีวิวนี้เป็น สปอนเซอร์รีวิว นะคะ Lunasol แบรนด์เรียบหรูค่ะ Lunasol Three-Dimensional เป็นคอลเลคชั่นที่เน้นแสงและเงาค่ะ ซึ่งที่นำมารีวิวในวันนี้เป็นพาเลทอายชาโดว์ค่ะ ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมกับการแพ็คสินค้าของแบรนด์นี้มากๆ เพราะเค้าทำได้แน่นหนาและดูดีมากๆเลย จากภาพจะเห็นว่ามีการนำแผ่นโฟม มาห่อตัวพาเลทอีกชั้นเพื่อกันกระแทกค่ะ แพ็ตเกจจิ้งเรียบแต่ดูดีตามแบบฉบับของ Lunasol ด้านหลังตลับก็จะมีข้อมูลต่างๆของผลิตภัณฑ์ค่ะ แต่เสียดายที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นซะส่วนมาก ทำให้อ่านไม่เข้าใจ เบอร์ที่นินำมารีวิวเป็นเบอร์ 05 Deep Biege ขนาด 4g. และ Made in Japan เปิดตลับออกมาก็จะเห็นเนื้อผลิตภัณ์ค่ะ โทนสีของเบอร์ 05 นี้จะเป็นโทนน้ำตาลเทาค่ะ สังเกตุว่ามีการแบ่งสีของอายชาโดว์ละเอียดมากถึง 8 ช่อง เพราะเป็นคอลเลคชั่นที่เน้นแสงและเงาค่ะ ในพาเลทมีแปรงแถมมาให้ 2 ด้าม แต่มี 4 หัวค่ะ เป็นแบบฟองน้ำ 3 หัว และแปรงขนๆ 1 หัว แต่ส่วนมากนิไม่ใช้แปรงที่แถมมาในพาเลทเท่าไหร่ จะใช้แปรงที่นิมีอยู่แล้วมากกว่า เมนหลักๆของคอลเล็คชั่นนี้คือแสงและเงา เพราะฉะนั้นโทนสีจะไม่แตกต่างกันชัดเจนมาก จะเน้นความเข้มอ่อน และการมีประกายที่แตกต่างกันมากกว่าค่ะ ช่องซ้ายบน จะเป็นตัว Highlight ให้ดวงตาดูมีประกาย L(Left) : กลิตเตอร์จะเห็นชัดเจน เป็นเม็ดๆ ประกายออกทองๆ M(Middle) : จะเนื้อออกชิมเมอร์และผสมกลิตเตอร์นิดๆ R(Right) : เนื้อจะออกแนวซาติน คือกึ่งแมทกึ่งชิมเมอร์ค่ะ ช่องขวาบน และซ้ายล่าง จะเป็นตัวที่ให้สีสัน เนื้อจะเป็นแนวซาติน โทนสีจะออกน้ำตาลเทาๆ ปนทองนิดๆค่ะ ช่องขวาล่าง จะเป็นตัวที่ทำให้เกิดเงา L(Left) : เป็นโทนน้ำตาลเทาเข้ม เนื้อซาตินกึ่งแมทกึ่งชิมเมอร์ M(Middle) : โทนน้ำตาลเทาเข้ม เนื้อซาตินผสมกลิตเตอร์ R(Right) : โทนน้ำตาลเทาเข้มเนื้อซาตินแต่ผสมกลิตเตอร์เยอะมากจนเห็นได้ชัด ลองแต่งตาให้ชม พาเลทนี้ค่อนข้างครอบคลุม ตั้งแต่สไตล์ใสๆไปจนถึงสโมคกี้อายเลย ภาพที่แต่งโดยรวมค่ะ ให้คะแนน 9/10 ถือว่าเป็นพาเลทที่สามารถเป็น Everyday Look ได้สบายๆ โทนสีเรียบๆแต่รายละเอียดเยอะและดูดีมากค่ะ ตินิดนึงตรงที่กลิตเตอร์ที่ค่อนข้างร่วงเล็กน้อย แต่โดยรวมละสวยเรียบๆ ดูผู้ดีมาก รีวิวนี้นิทำเพื่อให้เป็นตัวศึกษาแต่สาวๆ หากใครตัดสินใจจะซื้อ แนะนำว่าให้ไปลองเทสที่เคาน์เตอร์ก่อนดีที่สุดนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^     Create Date : 09 มีนาคม 2555     Last Update : 9 มีนาคม 2555 13:43:57 น. Counter : 4044 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Beauty ♥ Review M.A.C Shop M.A.C Cook M.A.C Kisable Lipcolor #Scan-Delicious สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน วันนี้นิหยิบไอเท็มคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่นิเพิ่งได้มาเมื่อวานนี้เองมารีวิวกัน แต่เพราะชอบสุดๆเลย เพราะคุณภาพมันแจ่มแจ๋วมากจริงๆ รีวิวนี้เป็นไอเท็มที่นิซื้อมาเองนะคะ Customer Review คอลเลคชั่นใหม่สำหรับช่วงซัมเมอร์นี้จาก M.A.C Shop M.A.C Cook M.A.C ตัว Kisable Lipcolor ลิปสติกในรูปแบบคล้ายลิปกลอสค่ะ สีที่นิซื้อมาเป็นสีจี๊ดๆโทน Shocking Pink ค่ะ คอลเลคชั่นนี้โดดเด่นที่แพ็คเกจของกล่องที่จะมีสีสันที่สดใสแสบตา แกะออกมาจากกล่องก็เป็นแพ็คเกจธรรมดาตามแบบฉบับของ M.A.C คือฝาสีดำและตัวบิดี้เป็นสีใสๆให้เห็นเนื้อสีข้างในค่ะ วัสดุทำจากพลาสติกเนื้อแข็ง ทนทาน แข็งแรง ไม่ก๊องแก๊ง ตัวแปรงที่จะปาดริมฝีปาดเราก็เป็นแบบเบสิคที่เหมือนแพ็คเกจของทุกๆแบรนด์ ให้ผิวสัมผัสดี นิ่ม ปลายหัวแปรงจะเรียวๆเพื่อรับกับริมฝีปากได้ดีขึ้น และซอกซอนไปบริเวณมุมริมฝีปากได้ดีขึ้น สีที่นิซื้อมามีชื่อว่า Scan-Selicious เป็นโทนสีชมพูอมม่วงจัดจ้าน มีประกายนิดๆซึ่งเมื่อทาลงไปที่ริมฝีปากแล้ว มองไม่ค่อยเห็นตัวประกายเท่าไหร่ค่ะ เนื้อจะออกแนวซาติน คือกึ่งแมทกึ่งชิมเมอร์ ดูเอาเองละกันว่าพิกเม้นท์แน่นแค่ไหน ตัวนี้หน้าตาคล้ายลิปกลอส แต่มันไม่ใช่ลิปกลอสค่ะ เป็นลิปสติกในรูปแบบแท่งกลอส ขนาด 5g. และ Made in Italy ปาดลงริมฝีปากแล้วตายไปเลยยยย!!! เนื้อแน่น เนียน นิ่ม และสีสวยมากกกกกกกกกกกก ทารอบเดียวจบ ไม่ต้องทาซ้ำเลยค่ะ แต่ก็ติดไม่ทนกลางๆ เวลาทานอะไรก็หายไปเยอะเหมือนกันค่ะ จะเหลือบริเวณขอบริมฝีปากและสีจางๆ เติมนิดๆก็สวยเหมือนเดิม เนื้อไม่เหนียวแบบกลอสค่ะ ตรงนี้ล่ะที่ชอบมากเลย เนื้อกลอสที่เหนียวมากๆ ลมพัดทีผมติดปากตลอดเลย =.,=" ลุ๊คโดยรวมค่ะ สีปากเด่นสุดๆ ฮ่าๆๆ ให้ 10/10 จริงๆน่าจะหักตรงสียังคงหลุดเวลาทานอะไร แต่เอาจริงๆนะ ลิปสติกที่ติดปากแบบไม่หลุดเลยมันไม่มีจริงๆค่ะ หรือถ้ามีก็คงเป็นลิปสติกที่น่ากลัวมาก ไม่รู้ใส่สารอะไรทำให้ติดทนได้ขนาดนั้น ถือว่าเป็นลิปสติกที่เนื้อแบบกลอสแต่แจ่มมากจริงๆค่ะ คุณสมบัติครบถ้วนมาก ทั้งพิกเม้นท์ที่จัดจ้าน สีสันสวยชัดเจน เนื้อเนียนนิ่มเกลี่ยง่าย และที่สำคัญแบรนด์นี้มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก ปลื้ม ปลื้ม ปลื้ม ปลื้ม!!!! รีวิวนี้ให้ได้เพื่อเป็นข้อมูลก่อนเลือกซื้อสินค้าเท่านั้น ก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงินไปกับสินค้าชิ้นใน โปรดไปทดลองเองที่เคาน์เตอร์ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณมากๆที่ติดตามนะคะ ^^     Create Date : 07 มีนาคม 2555     Last Update : 7 มีนาคม 2555 11:58:27 น. Counter : 3339 Pageviews.   6 comment Share Tweet

• purrhouse
• Webmaster - BlogGang

• N i c H a * Hi5
• N i c H a * Jeban
• N i c H a * TheWos
• N i c H a * Exteen
• N i c H a * Multiply
• N i c H a * Twitter
• BlogGang.com