|
Talking : มาพูดคุยๆ ผิวแพ้ง่ายและผิวบอบบางไม่เหมือนกันนะจ๊ะ ต่างกันอย่างไรมาคุยกัน <3
บทความสรุปแถมๆเสริมเพิ่มเติมจากในคลิปนะค๊า 
ผิวแพ้ง่ายกับผิวบอบบางต่างกัน ผิวคุณเป็นแบบไหนลองอ่านดูนะจ๊ะ 
ผิวแพ้ง่าย  คือ การที่ผิวแพ้สารตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งมักจะเกิดจากปัจจัยภายในร่างกายหรือพันธุกรรม ซึ่งง่ายสุดๆสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย คือการเลี่ยงใช้สารที่ตัวเองแพ้เท่านั้นเองจ้า หลายคนมักชอบคิดว่าตัวเองผิวแพ้ง่ายแต่จริงๆแล้วมันเป็นผิวบอบบางมากกว่าเน่อ 
ผิวบอบบาง  คือ ช่วงที่ผิวมีสภาพอ่อนแอเนื่องมาจากหลายๆสิ่ง เช่น เมื่อเจอสิ่งกระตุ้นจากปัจจัยภายนอก จึงทำให้ความต้านทานของผิวต่ำลง ทนต่อการกระตุ้นได้น้อยลง ทำให้ไม่สบายผิวเกิดอาการระคายเคืองได้จ้า ซึ่งไม่ได้เกิดจากการที่ร่างกายเราแพ้สารตัวใดตัวหนึ่งโดยตรง --------------------------------------------------------------------------------------------- ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพผิวที่จะเกิดการบอบบางหรือแพ้ได้ง่าย
- ผู้หญิง มีโอกาสเกิดผิวแพ้ได้มากกว่า ผู้ชาย <<< เพราะผิวผู้หญิงบางกว่า และชอบลอง ชอบเปลี่ยนมากกว่า ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะแพ้ได้ง่ายกว่าจ้า
- 50% มักคิดว่าตัวเอง "ผิวแพ้ง่าย" !!! <<< ทุกคนจะคิดเรามีสภาพผิวแพ้ง่าย โดยไม่ได้สังเกตว่าจริงๆแล้วเราเป็นแค่ผิวบอบบางแต่ขาดการดูแลเอาใจใส่ - 50% ของผู้หญิงที่ผิวแพ้ง่ายมักพบแพทย์เพื่อรับการรักษา <<< แต่ถ้าไม่ปรับการดูแลตัวเองอาการแพ้ก็จะกลับมาเป็นเรื่อยๆจ้า - คนผิวขาว มีโอกาสเกิดผิวแพ้ได้มากกว่า คนผิวเข้ม <<< สาวไทยที่มีผิวน้ำผึ้ง หรือผิวสองสีสบายใจได้เลย ผิวสีเข้มกว่าจะค่อนข้างเกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่าจ้า - คนผิวแห้ง มีโอกาสเกิดผิวแพ้ได้มากกว่า คนผิวมัน <<< การที่เรามีความชุ่มชื่นในผิว น้ำ และ น้ำมันในผิวน้อย ทำให้สารเคมีซึมผิวได้ง่ายคนที่ผิวแห้งกว่าเลยแพ้ง่ายกว่าจ้า
---------------------------------------------------------------------------------------------สาเหตุหลักๆที่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง คือ....
- การใช้เครื่องสำอางเก่า <<< ยิ่งเนื้อคสอ.แยกชั้นแล้วยิ่งเสี่ยง ดังนั้นหมดอายุแล้วอย่าเสียดายทิ้งโลดดดด ตอนเปิดใช้เขียนวันที่ไว้จะดีมากจ้า
- การเปลี่ยนสกินแคร์หรือเครื่องสำอางบ่อยๆ <<< ใครรู้ตัวว่าผิวค่อนข้างบอบบาง ต้องยับยั้งชั่งใจอย่าอยากลองอยากเปลี่ยนจะดีกว่า เพราะการเปลี่ยนของใหม่ ผิวจะต้องเจอกับสารเคมีตัวใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคย เลยเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้จ้า ( นี่เลยคือความเสี่ยงในชีวิตของเราชาวบิวตี้บล็อคเกอร์ 555)
- การสครัป หรือ ขัดถูหน้า <<< อยากบอกว่าการล้างหน้าที่สะอาดนั้น แรงทางกายภาพไม่มีผลนะจ๊ะ คือการขัดถูแรงๆไม่ช่วยให้สะอาดขึ้นเลย ความสะอาดเกิดจากสารทำความสะอาดในตัวล้างหน้าต่างหาก การถูหน้าแรงๆเป็นการทำร้ายผิวทางนึงเลยทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย รวมถึงการสครัปหน้าที่บ่อยจนเกินไปก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อผิว ยิ่งเด็กๆวัยรุ่น ผิวเรายังสามารถผลัดเซลล์ผิวได้ดีตามวงจรผิว 28 วัน การสครัปจึงไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นเท่าไหร่จ้า นานๆทำที ทำเบาๆก็โอเคแล้วจ้ะ - น้ำหอม , สารกันเสีย และ นิเกิ้ล (Nickel) <<< ในสกินแคร์และเครื่องสำอาง สิ่งที่มักก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่ายที่สุดก็คือน้ำหอมและสารกันเสียจ้า ดังนั้นใครรู้ว่าผิวค่อนข้างเซนซิทีฟก็เลี่ยงพวกนี้ซะ เดี๋ยวนี้มักเห็น Paraben Free คือไม่ใส่สารกันเสียที่ชื่อว่า Paraben ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างก่อให้เกิดการแพ้ได้ง่ายจ้า ส่วนนิเกิ้ลนั้นคือโลหะประเภทนึงมักใช้ในการเคลือบวัสดุให้เกิดการแวววาว พบในพวกสร้อย ต่างหู ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผิวระคายเคืองง่ายเน่อ แถมมันยังอยู่ในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงด้วยเช่น โครงเสื้อใน ตะขอเสื้อใน ซึ่งอันนี้ทรายก็เป็น เวลาอากาศร้อนเหงื่อออกตรงตะขอเสือนี่คัน บวมและแดงกันเลยทีเดียว แต่พอกลับบ้านอาบน้ำถอดออกก็หายจ้า แต่ถ้าเกิดการเสียดสีมันก็จะบวมแดงได้ อันนี้เลี่ยงยากต้องทำใจแต่บอกไว้เป็นข้อมูลเนอะ  - การรับประทานอาหารรสเผ็ดร้อน <<< โอ๊ะอันนี้น่าตกใจเพราะเป็นสิ่งที่เราไม่เคยสังเกต การทารอาหารเผ็ดร้อนจะกระตุ้นให้อาการระคายเคืองเกิดมากขึ้นจ้า !!!
---------------------------------------------------------------------------------------------กลไกการเกิดผิวระคายเคือง 
1. โครงสร้างผิวอ่อนแอ <<< ลองจินตนาการผิวเราหน้าตาเหมือนกำแพงก่ออิฐบล็อคดูน๊า ถ้าบล็อคเราเคลื่อน ซีเมนต์ที่ฉาบกร่อน มันก็เกิดช่องกำแพงเราก็ง่อนแง่น ซึ่งมักเกิดขึ้นจากพฤติกรรมต่างๆของเรา เช่นการขัดถูผิวแรงเกินไป การพักผ่อนน้อย ทานน้ำน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือจากสาเหตุหลักๆด้านบนจ้า 2. ปราการผิวที่เป็นเกราะป้องกันผิวลดลง <<< ผิวเราจะมีม่านบาเรียเป็นเกราะป้องกันผิวเรียกว่า Skin barrier เป็นส่วนชั้นนอกที่ปกป้องผิว มีหน้าที่สำคัญสองอย่างคือ ป้องกันร่างกายจากการบุกรุกของเชื้อโรค และป้องกันการสูญเสียน้ำ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ต้องเปิดกว้างมากพอที่จะให้ความอบอุ่น ของอากาศภายนอกและของเหลวบางอย่างผ่านเข้าสู่ชั้นผิวได้ ถ้าผิวชั้นนอกนี้ถูกทำลายน้ำในผิวก็จะระเหยออกได้ง่ายจ้า
3. ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นทำให้น้ำและน้ำมันในผิวลดลง <<< เนื่องมาจากสาเหตุด้านบน
4. สารต่างๆซึมผ่านเข้าไปในผิวได้ง่ายขึ้น <<< เมื่อสารต่างๆซึมลงผิวได้ง่ายเกินไป ขาดตัวกรอง สารที่มักก่อนให้เกิดการระคายเคืองเช่นพวกน้ำหอม สารกันเสีย จึงซึมลงผิวได้มากเกินไปทำให้เกิดการระคายเคืองได้จ้า --------------------------------------------------------------------------------------------- ความต่างของอาการแพ้ และ อาการระคายเคือง 
อาการแพ้  กลไกในการเกิด : ร่างกายสร้างภูมิแพ้ ต่อต้านสารที่เราแพ้เมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารนั้นๆเกิดขึ้นได้กับ : เกิดขึ้นเฉพาะบุลคล แต่ละคนก็แพ้สารแตกต่างกันไปอาการ : ผื่น , ผิวหนังอักเสบ , แดง , บวม , คัน , ตุ่ม , น้ำใสโอกาสที่พบ : พบได้น้อย
อาการแพ้ : คัน >>> แห้ง ( อาการแพ้จะเริ่มคันก่อน พอคัน จะค่อยๆบวมแดง เป็นผื่น แล้วจะจบด้วยอาหารผิวแห้งจ้า )
อาการระคายเคือง  กลไกในการเกิด : ผิวสัมผัสกับสารหรือสภาวะที่กระตุ้นทำให้เกิดการระคายเคืองได้เกิดขึ้นได้กับ : เกิดขึ้นได้กับทุกคน !!!อาการ : แห้งตึง , ผื่นแดง , คันโอกาสที่พบ : พบมากกว่ามากๆๆๆจ้า
อาการระคายเคือง : แห้ง >>> คัน ( อาการระคายเคืองจะเริ่มรู้สึกว่าผิวแห้งตึงก่อน แล้วอาจจะเป็นผื่น บวม แดง สุดท้ายคือจะคันจ้า )---------------------------------------------------------------------------------------------
การเกิดการระคายเคืองพบได้มากสังเกตย๊าก ยาก เพราะอะไร.......
ผิวระคายเคืองมักจะเกิดในช่วงที่ผิวเราอ่อนแอลง และจะต้องมีระยะกระตุ้น หมายความว่าไม่ได้ใช้ปุ๊บจะเกิดการระคายเคืองปั๊บ ซึ่งระยะกระตุ้นนั้นจะสั้น หรือยาว ก็ตอบไม่ได้ บางคนใช้ไปสองชั่วโมง บางคนใช้เป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นปีแล้วค่อยเห็นอาการระคายเคืองก็มี ดังนั้นไม่ได้หมายความว่าครีมหรือคสอ.ที่เราใช้ประจำใช้มาเป็นปีนั้นจะไม่แพ้จ้า !!! ---------------------------------------------------------------------------------------------
การแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดสำหรับอาการแพ้และระคายเคือง
หยุดใช้จ้า !!!  เวลาเราเกิดการแพ้หรือระคายเคืองแต่ไม่รู้ว่าแพ้อะไรจะต้องหยุดใช้ทุกสิ่งอย่าง แล้วค่อยๆกลับมาเริ่มใช้ทีละตัวจะได้รู้ว่าเราแพ้ตัวไหน ซึ่งปกติแล้วการหยุดใช้จะทำให้อาการแพ้หรือระคายเคืองดีขึ้นทันตาโดยไม่ต้องหาหมอ แต่ถ้าหยุดแล้วยังไม่หายก็ควรไปพบคุณหมอ ให้คุณหมอทำ Patch Test ว่าเราแพ้สารอะไรจ้า
---------------------------------------------------------------------------------------------
การทำเลเซอร์จะทำให้ผิวบางลงหรือเปล่า  ทำให้ผิวแพ้หรือระคายเคืองง่ายหรือเปล่า 
คำถามยอดฮิตเลย อิอิ ในการทำเลเซอร์ไม่ได้ทำให้ผิวแพ้ง่ายจ้า แต่หลังการทำเลเซอร์ช่วงแรกๆจะทำให้ผิวเรามีอาการแห้งกว่าปกติ เมื่อผิวแห้งเราจึงเกิดการแพ้ได้ง่ายกว่าตามคำอธิบายเรื่องผิวแห้งด้านบนจ้า ดังนั้นคนผิวแห้งจึงจะไม่ค่อยเหมาะกับการทำเลเซอร์ตัวแรงๆจ้า ผิวจะไม่ได้แห้งตลอดไปมันจะเป็นในช่วงการทำเลเซอร์แรกๆ แต่การทำเลเซอร์มักจะเป็นคอร์สที่ทำต่อเนื่อง ผิวจึงแห้งต่อเนื่องทำให้รู้สึกว่า เมื่อทำเลเซอร์ผิวจะดูบอบบางกว่าปกติจ้า !!! ---------------------------------------------------------------------------------------------
กะเขียนสรุปสั้นๆแต่มีเนื้อหาที่อยากบอกเยอะมว๊ากกกกก เลยออกมายาวหน่อย แหะๆ แต่ทรายเชื่อว่าต้องเป็นประโยชน์แน่นอน เลยอยากให้ได้อ่านกันนะค๊า ขอบคุณทุกคนทีเข้ามาเยี่ยมชมคร๊าบบ 
XOXO 
Create Date : 14 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 15 ตุลาคม 2555 0:18:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2655 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [?]

|
..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!!
---------------------------------------------------------
|
|
| |