อ่านเอามาเล่า

รถบัสกับก้อนหินยักษ์ (เรื่องแปล)

ครั้งหนึ่ง มีคู่รักคู่หนึ่งนั่งรถบัสเข้าไปในเขตชายป่าเขา พวกเขาลงรถ ณ. ที่แห่งหนึ่ง จากนั้นรถบัสก็แล่นไปข้างหน้าต่อ ขณะนั้นเองหินขนาดยักษ์ก็ร่วงลงจากเขากระแทกเอารถบัสตกเหวไป ผู้โดยสารในรถไม่มีใครรอดชีวิต

คู่รักคู่นี้พอทราบเรื่องเข้าก็พูดขึ้นว่า “ถ้าหากว่าเรายังอยู่บนรถคันนั้นก็ดีสินะ”

ผู้คนโดยทั่วไปต้องอยากจะพูดว่า “ยังดีนะที่พวกเราลงจากรถเสียก่อน” แต่คู่รักคู่นี้พูดต่างจากคนทั่วไป คุณคิดว่าเหตุใดพวกเขาจึงพูดเช่นนี้ คุณคิดดูให้ดีแล้วค่อยตอบคำถาม

พยายามคิดดูให้ดีแล้วค่อยตอบ

--------------------------คำตอบก็คือ---------------------------

ถ้าหากพวกเขายังไม่ได้ลงจากรถ รถบัสคันนี้ก็จะไม่เสียเวลาจอดให้พวกเขาลงรถและจะต้องแล่นนผ่านจุดเกิดเหตุก่อนที่หินยักษ์จะกลิ้งลงมา คุณได้คิดถึงจุดนี้หรือไม่ นี่หาใช่เรื่องความไวของสมองหรือเป็นการทดสอบปัญญา แต่เป็นการทดสอบระดับเมตตาจิตที่จมอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจต่างหาก

จงแผ่บุญกุศล หรือช่วยเหลือผู้อื่น แม้เพียงแค่ผ่านทางจิตวิญญาณ

*****




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2559   
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2559 9:14:06 น.   
Counter : 337 Pageviews.  

เรื่องที่ยากที่สุด (นิทานเซนหนึ่งนาที)

ลูกศิษย์ทั้งหลายถามอาจารย์เซนว่า  “ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ”

       อาจารย์เซนตอบลูกศิษย์ว่า”วันนี้พวกเราจะมาเรียนรู้เรื่องง่ายๆ เรื่องหนึ่ง  ให้ทุกคนสลัดแขนไปข้างหน้าให้สุด  แล้วสลัดกลับไปข้างหลังให้สุด”

       พูดจบ  อาจารย์เซนก็ทำท่าให้ดูแล้วบอกว่า  “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ให้ทำอย่างนี้วันละ 300 ครั้ง  พวกเจ้าทำได้ไหม”

       ลูกศิษย์ทั้งหลายถามด้วยความสงสัยว่า”ทำไมต้องทำเรื่องเช่นนี้”

       อาจารย์เซนว่า  “ทำอย่างนี้แล้ว  หลังจากหนึ่งปีพวกเจ้าก็จะรู้ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างไร”

       ลูกศิษย์ทั้งหลายต่างคิดว่า  เรื่องง่ายๆ เช่นนี้ทำไมจะทำไม่ได้

       หนึ่งเดือนผ่านไป  อาจารย์เซนถามเหล่าศิษย์ทั้งหลายว่า ”เรื่องที่ข้าบอกให้พวกเจ้าทำนั้น  มีใครบ้างที่ยืนหยัดทำได้” 

       ศิษย์ส่วนใหญ่บอกด้วยความภาคภูมิว่าทำได้  อาจารย์เซนผงกศรีษะด้วยความพอใจว่า  “ดีมาก”

       ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน  อาจารย์เซนถามอีกว่า  “ตอนนี้มีกี่คนที่ยังยืนหยัดทำต่อ” 

       มีศิษย์เพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่ายังทำต่อ

       หนึ่งปีผ่านไป  อาจารย์เซนถามทุกคนอีกครั้งว่า  “บอกข้าหน่อยสิว่า  การออกกำลังกายที่ง่ายๆ ด้วยการสลัดแขน  ยังมีกี่คนที่ยืนหยัดทำ” 

       ตอนนี้  มีเพียงคนเดียวที่พูดอย่างภาคภูมิใจว่า  “ศิษย์ยังทำอยู่”

       อาจารย์เซนเรียกลูกศิษย์ทั้งหลายมาพร้อมกันและว่า  “ข้าเคยบอกแล้วว่าเมื่อทำเรื่องนี้เสร็จ  พวกเจ้าก็จะรู้ได้ว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ  ตอนนี้ข้าอยากจะบอกพวกเจ้าว่า  ในโลกนี้เรื่องที่ง่ายที่สุดก็มักจะเป็นเรื่องที่ยากที่สุดด้วย  เรื่องที่ยากที่สุดก็เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดด้วยเหมือนกัน 

       “บอกว่ามันง่าย  ก็เพราะว่าขอเพียงแต่ยอมไปทำ  ใครๆ ก็ทำได้  บอกว่ามันยาก  เพราะว่าการที่จะทำอย่างจริงจังและยืนหยัดแน่วแน่นั้น  มีคนเพียงน้อยนิดเท่านั้น”

       ต่อมา  ศิษย์ที่ยืนหยัดจนถึงที่สุดผู้นั้นได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งภารกิจของอาจารย์เซน  มีเพียงเขาเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ

*****




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2559   
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2559 14:31:08 น.   
Counter : 485 Pageviews.  

อิเหนาเป็นเอง (เรื่องแปล)

สำนักอำนวยการแห่งหนึ่งเปิดประชุมอภิปรายในหัวข้อเรื่อง “ห้ามผู้ปฎิบัติงานดื่มเหล้าในที่ทำงาน” การประชุมดำเนินไปอย่างดุเดือดเผ็ดมัน ในที่สุดก็ผ่านมติ “ห้ามสุรา” อย่างเป็นเอกฉันท์ และแล้ว สมาชิกในที่ประชุมต่างยกแก้วเหล้าขึ้นเพื่อเป็นการดื่มฉลองให้กับมติที่ชาญฉลาด

***บ่อยครั้งที่พวกเรามักจะใช้ท่าทีที่เข้มงวดปฏิบัติต่อผู้อื่น แต่มักจะละเลยหรือหย่อนยานต่อตนเอง

*****




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2559   
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2559 8:46:21 น.   
Counter : 390 Pageviews.  

เดิมทีว่างเปล่า (นิทานเซนหนึ่งนาที)

วันหนึ่ง  อาจารย์เซนฝอยิ่นขึ้นบรรยายธรรมบนอาสนะ  ซูตุงพอได้ทราบข่าวรีบรุดมาร่วมฟังธรรม  ที่นั่งถูกจับจองจนเต็มหมดแล้ว  อาจารย์เซนเห็นซูตุงพอจึงพูดว่า

        “ผู้คนนั่งเต็มหมดแล้ว  ไม่มีที่นั่งสำหรับท่านบัณฑิตแล้วล่ะ”

        ซูตุงพอชื่นชอบเซนมาแต่ไหนแต่ไร  รีบโต้คารมอย่างแหลมคมกับท่านอาจารย์เซนว่า

        “ในเมื่อณ.ที่นี้ไม่มีที่นั่ง  ข้าก็จะอาศัยธาตุทั้งสี่ขันธ์ทั้งห้าของท่านอาจารย์เป็นที่นั่งแล้วล่ะ”

        อาจารย์เซนเห็นว่าซูตุงพอจะประลองเซนกับท่าน  จึงพูดว่า

        “ท่านบัณฑิต  ข้ามีคำถามหนึ่งจะถามท่าน  หากท่านตอบได้ล่ะก็  ร่างกายพระแก่ๆของข้านี้ก็จะให้เป็นที่นั่งสำหรับท่าน  หากท่านตอบไม่ได้ล่ะก็  หยกที่ห้อยติดตัวของท่านนั้นก็ทิ้งมันไว้เป็นที่ระลึกในวัดก็แล้วกัน”

        ซูตุงพอทรนงตนว่ามีความสามารถไม่ธรรมดา  มั่นใจว่าจะต้องชนะแน่นอนจึงรับคำอาจารย์  

        อาจารย์เซนฝอยิ่นจึงพูดว่า  “สี่ธาตุเดิมทีล้วนว่างเปล่า  ห้าขันธ์ก็ไม่มีตัวตน  แล้วบัณฑิตจะนั่งลงที่ตรงไหน”

        ซูตุงพอพูดไม่ออกตอบไม่ได้  เพราะว่าอันร่างกายของเรานี้ก่อเกิดมาจากดิน น้ำ ไฟ ลมรวมกันเข้า  ไม่มีอันไหนจริงแท้  ไม่สามารถนั่งลงได้  หยกที่ห้อยติดตัวของซูตุงพอจึงต้องพ่ายให้กับอาจารย์เซนฝอยิ่น  ทิ้งไว้เป็นที่ระลึกในวัดจินซันกระทั่งปัจจุบันนี้

*****




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2559   
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2559 11:49:14 น.   
Counter : 485 Pageviews.  

มึงสิหมู (เรื่องแปล)

นายสามขับรถอยู่บนถนนที่เล็กและแคบกลางเขา ขณะที่กำลังชื่นชมภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไปด้วยอยู่นั้น มีรถบรรทุกสวนมา โชว์เฟอร์หมุนกระจกลงและตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า “หมู”

นายสามยิ่งคิดยิ่งโมโห เขาหมุนกระจกลงแล้วตะโกนด่ากลับไปว่า “มึงสิหมู”

เสียงด่าเพิ่งหลุดปาก รถของเขาก็ชนเข้ากับหมูฝูงหนึ่งที่กำลังเดินข้ามถนน

***อย่าตีความความหวังดีของผู้อื่นอย่างผิดๆ นอกจากจะหยามหมิ่นผู้อื่นแล้ว คนที่เสียเปรียบก็คือคุณเอง

*****




 

Create Date : 31 มกราคม 2559   
Last Update : 31 มกราคม 2559 9:46:18 น.   
Counter : 411 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

Krareinpa
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add Krareinpa's blog to your web]