อ่านเอามาเล่า

เคล็ดลับในการขาย (คัมภีร์)

          เด็กชายสามคนกำลังหางานทำระหว่างปิดภาคเรียนฤดูร้อน  จังหวะดีที่บาทหลวงของพวกเขากำลังหาคนมาช่วยขายคัมภีร์ให้เขา  บาทหลวงจ้างเด็กชายสองคนจากสามคนโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย  แต่สำหรับเด็กชายคนที่สามนั้น  หลังจากที่ลังเลอยู่นานจึงตัดสินใจว่าจ้างเด็ก  สาเหตุเพราะว่าเด็กคนนี้มีอาการติดอ่างอย่างรุนแรง

 

           หลังจากเสร็จการทำงานในวันแรก  พวกเขามาพบปะกันในโบสถ์  บาทหลวงมองดูเด็กชายคนแรกแล้วถามว่า  “เจ้าขายไปได้กี่เล่ม 

 

            เด็กชายคนแรกลุกยืนขึ้นตอบว่า  “35 เล่มครับ”

 

            “เพิ่งจะขายได้ 35 เล่มเท่านั้นหรือ”

 

            จากนั้น  เขามองไปที่เด็กชายคนที่สอง  ถามในคำถามเดียวกัน  เด็กชายคนที่สองตอบว่า  “75 เล่มครับ”

 

            แม้ว่าจะไม่ฝากความหวังอะไรไว้กับเด็กชายคนที่สามแต่อย่างใด    แต่เขายังคงถามคำถามเดียวกัน  เด็กชายคนที่สามพูดติดอ่างว่า  “ผม....ผม....ผมขายได้ 175 เล่ม”  บาทหลวงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก  ถามเขาว่าขายได้มากมายได้อย่างไร  เด็กชายตอบว่า  “ผม....ผม....ผมบอก....บอกพวกเขา....ถ้า....ถ้า....ถ้าหากพวกเขาไม่ซื้อ....ผมก็จะ....ก็จะ....อ่าน....อ่าน....อ่านให้พวกเขาฟัง”

 

***  ลองใช้สมอง  บางทีอาจจะสามารถแปรเปลี่ยนปมด้อยให้เป็นข้อได้เปรียบที่โดดเด่นได้

 

*****

 




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2555   
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 9:14:02 น.   
Counter : 1327 Pageviews.  

ของขวัญที่ประเมินค่ามิได้

          ฉันเป็นคนที่ชอบมอบของขวัญให้ผู้อื่น  และทุกครั้งที่มีคนส่งของขวัญมาให้  เวลาเปิดดูจะรู้สึกว่าช่างมีความสุขเหลือเกิน  วันหนึ่ง  หลานชายตัวน้อยที่ชื่อจัสตินส่งของขวัญมาให้  แต่เป็นเงิน 6 เหรียญ 30 เซ็นต์  หนูน้อยส่งเงินเหล่านี้มาให้ฉันทำไมนะ   ฉันเค้นสมองคิดอยู่สองวันแล้วก็ยังค้นหาเหตุผลที่พึงพอใจไม่ได้  จึงได้โทรศัพท์ไปถามเจ้าตัวน้อย

 

            ฉันถามว่าเพราะเหตุใดจึงส่งเงินมาให้ 6 เหรียญ 30 เซ็นต์

 

          จัสตินตอบว่าที่ผ่านมาฉันมักจะส่งของขวัญที่ดีที่สุดไปให้เขา  เขาจึงอยากมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้กับฉันบ้าง  ดังนั้นเขาจึงนำเงินที่เขามีอยู่ทั้งหมด  6 เหรียญ 30 เซ็นต์  ส่งมาให้ฉัน

 

            หลังจากวางโทรศัพท์  ฉันร้องไห้สะอึ้นอย่างสาใจอยู่พักหนึ่ง  ฉันรู้สึกได้ว่าชาตินี้คงไม่ได้รับของขวัญที่เปี่ยมด้วยรักที่ใสบริสุทธิ์เท่านี้ได้อีก

 

*****

 

           

 




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2555   
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 8:17:28 น.   
Counter : 1295 Pageviews.  

เจรจา

            วันหนึ่ง  ทะเลทรายเจรจากับทะเล

 

            “ข้าแห้งแล้งเกินไปแล้ว  แล้งจนลำธารสักสายก็หาไม่ได้เลย  แต่ท่านกลับมีน้ำมากเกินไปจนกลายเป็นมหาสมุทร”  ทะเลทรายยื่นข้อเสนอว่า  “พวกเราใยจึงไม่มาแลกเปลี่ยนกันเล่า”

 

            “ได้สิ”  ทะเลยินดีและเห็นด้วย  “ข้ายินดีต้อนรับให้ทะเลทรายมาถมทะเล  แต่ข้ามีหาดทรายอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้นข้าต้องการเพียงดินเท่านั้น  ไม่เอาทราย”

 

            “ข้าก็ยินดีที่จะให้ทะเลมาทำให้ทะเลทรายของข้าชุ่มฉ่ำ”  ทะเลทรายบอก  “แต่ว่าเกลือเค็มมากเหลือเกิน  ฉะนั้นแล้ว  ข้าต้องการแต่น้ำ   ไม่ต้องการเกลือ”

 

***  การเจรจาบางครั้งดูเหมือนอยู่ในอุดมคติ  แต่กลับไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้เลย

 

*****

 




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2555   
Last Update : 25 ตุลาคม 2555 8:11:33 น.   
Counter : 1238 Pageviews.  

ชีวิตในกำมือ

ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีชายชราที่มีปัญญาฉลาดหลักแหลมคนหนึ่ง  คนในหมู่บ้านหากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆ ที่แก้ไม่ตก  มักจะมาขอคำชี้แนะจากเขา  วันหนึ่ง  เด็กชายที่ฉลาดและซุกชนคนหนึ่งคิดอยากจะกลั่นแกล้งและทดสอบชายชราผู้นี้  เด็กชายจับนกน้อยมาตัวหนึ่ง  กำมันไว้ในฝ่ามือ  แล้ววิ่งไปหาชายชรา 

 

            “คุณปู่  คุณปู่  ใครๆ ร่ำลือกันว่าคุณปู่เป็นคนที่ฉลาดปราดเปรื่องที่สุด  แต่ผมยังไม่เชื่อ  แต่ถ้าหากคุณปู่สามารถทายว่านกในมือของผมเป็นนกเป็นหรือตายแล้ว  ผมจึงจะเชื่อ”

 

            ชายชราจ้องสังเกตดูแววตาเจ้าเล่ห์ของเด็ก  คิดในใจว่า  หากเขาบอกเด็กว่านกยังเป็นอยู่  เด็กก็จะแอบใช้แรงบีบเจ้านกน้อยตายคามือ  แต่ถ้าบอกว่านกตายแล้ว  เด็กก็จะแบมือออกปล่อยนกบินไป  ชายชราตบไหล่เด็กเบา ๆ  ยิ้มแล้วตอบว่า  “ความเป็นความตายของเจ้านกน้อยตัวนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”

 

            อนาคตและชะตาชีวิตของแต่ละคนก็เหมือนนกน้อยตัวนี้  ล้วนกุมอยู่ในกำมือของคุณเอง  ไม่ว่าจะเรียนต่อก็ดี  จะทำงานก็ดี  จะสร้างธุรกิจก็เช่นเดียวกัน  มีปราชญ์คนหนึ่งกล่าวไว้ว่า  ชีวิตคนก็คือการเลือกที่เรียงร้อยต่อเนื่อง  อนาคตและชะตาชีวิตของแต่ละคน  ล้วนกุมอยู่ในมือของตนเอง  ขอเพียงต่อสู้บากบั่น  ต้องประสบความสำเร็จในที่สุด

 

*****

 

 




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2555   
Last Update : 22 ตุลาคม 2555 8:01:17 น.   
Counter : 1532 Pageviews.  

จิตรกรผู้ชาญฉลาด

          ในสมัยโบราณมีกษัตริย์พระองค์หนึ่ง  เกิดมาก็มีพระพักตร์ที่อัปลักษณ์  นัยน์ตาข้างหนึ่งบอด  ขาข้างหนึ่งเป๋

 

            วันหนึ่ง  กษัตริย์องค์นี้เกิดนึกสนุกขึ้นมา  กลับมีราชโองการให้ระดมจิตรกรทั้งหลายมาวาดภาพให้แก่พระองค์  และมีรับสั่งว่า  หากวาดภาพถูกพระทัยแล้วจะได้รางวัลอย่างงาม  แต่หากวาดแล้วไม่พอพระทัยก็จะถูกตัดหัว

 

            จิตรกรทั่วประเทศถูกระดมให้มารวมตัวกันในที่เดียว  คนทั้งหลายต่างวิพากษ์วิจารณ์กันระงม  ในจำนวนนั้นมีจิตรกรผู้หนึ่งนึกในใจว่า  “บารมีกษัตริย์น่าเกรงขามยิ่ง  ใครจะบังอาจกล้าละเมิด  ไม่ว่าพระองค์จะอัปลักษณ์เพียงใด  ข้ายังคงต้องวาดภาพพระองค์ให้สวยงามจะดีกว่า”  ดังนั้น  เขาถวายภาพวาดให้กับกษัตริย์  บนภาพกษัตริย์ไม่บอดไม่เป๋ไม่อัปลักษณ์  ดูบารมีน่าเกรงขามหาใครเทียบได้  หารู้ไม่ว่าษัตริย์เห็นแล้วเดือดดาลขึ้นมาทันที  ตวาดใส่ว่า  “ไอ้คนถ่อยที่ชอบยกยอปอปั้น  เสแสร้งแกล้งทำ  เจ้าจะต้องเป็นคนถ่อยที่มักใหญ่ใฝ่สูงเป็นแน่  เก็บเจ้าไว้หาประโยชน์อันใดไม่  ลากเอาไปประหาร”  จิตรกรผู้นี้ถูกนำออกไปประหารทันที

 

            จิตกรคนที่สองคิดในใจว่า  “ในเมื่อวาดภาพไม่สมจริงทำให้กัตริย์พิโรธโกรธกริ้ว  ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะวาดภาพตามความเป็นจริง”  จิตรกรคนที่สองจึงนำภาพที่วาดถวายแก่กษัตริย์   บนภาพเป็นกษัตริย์ที่ตาบอดข้างหนึ่ง  ขาเป๋ข้างหนึ่ง  ทั้งแก่ทั้งอัปลักษณ์  ไม่มีราศรีน่าเกรงขามดุจกษัตริย์ที่เป็นผู้ครองนครเลยแม้แต่น้อย  กษัตริย์เห็นแล้วเดือดเป็นไฟ  ตวาดเสียงดังว่า  “บังอาจเขียนหน้าตาของกษัตริย์อัปลักษณ์ได้ถึงเพียงนี้  กล้าลบหลู่บารมีข้า  ช่างเหิมเกริมยิ่งนัก  เอาไว้ทำไมลากออกไปประหาร”  จิตรกรคนที่สองถูกนำออกไปประหาร

 

            เหล่าจิตรกรเห็นดังนั้น  กลัวจนสติแตกใครไหนเลยจะกล้าวาดภาพให้กษัตริย์อีก  แต่ไม่วาดก็ไม่ได้  ขัดราชโองการมีโทษตัดหัว  ขณะที่ทุกคนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี  ท่ามกลางฝูงชนมีคนผู้หนึ่งก้าวเดินออกมา  เขาถวายภาพๆ หนึ่งแก่กษัตริย์ 

 

            กษัตริย์มองดูภาพแล้วชมไม่ขาดปาก  หัวเราะร่าเบิกบานใจยิ่งนัก  แล้วมอบภาพวาดให้เหล่าขุนนางได้ชมกัน

 

            เป็นภาพที่กษัตริย์กำลังล่าสัตว์  เห็นกษัตริย์ยืนขาข้างเดียว  ขาอีกข้างหนึ่งพาดอยู่บนตอไม้  ตาข้างหนึ่งหลับปี๋  อีกข้างหนึ่งเบิ่งโตกำลังเล็งไปที่เป้าหมาย  ภาพๆ นี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ เหล่าขุนนางอุทานไม่ขาดปาก  เหล่าจิตรกรก็ชื่นชมไม่ขาดสายว่าหาใดเทียบได้ยาก  ดังนั้น  กษัตริย์จึงมอบทองคำพันตำลึงให้แก่จิตรกรผู้นี้เป็นรางวัล

 

***ในชีวิตของเรามักจะเผชิญกับปัญหายากลำบากที่คาดคิดไม่ถึงเช่นกัน  บ้างก็เป็นผู้อื่นสร้างปัญหาให้  ในสภาพเช่นนี้  มีแต่ต้องปรับเปลี่ยนและระดมกำลังความคิด  หาวิธีหรือปรับเปลี่ยนมุมมองในการมองปัญหา  ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน  ทั้งไม่บิดเบือนความเป็นจริงและยังสามารถตอบโจทย์ที่น่าพอใจแก่ผู้คน

 

*****

 




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2555   
Last Update : 16 ตุลาคม 2555 8:12:39 น.   
Counter : 1499 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

Krareinpa
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add Krareinpa's blog to your web]