Day 5 ศาลเจ้าพลังมาคุ ชินคันเซ็นครั้งแรก เที่ยวเมืองรอง Kanazawa

วิถีแม่บ้าน ต้องตื่นแต่เช้ามาเดินตลาด
Miyagawa Morning Market เป็นตลาดนัดขนาดย่อมริมแม่น้ำที่ชื่อเดียวกัน เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงช่วงสายๆ 
วันที่ไปเป็นวันธรรมดาแถมมีฝนตกปรอยๆ เดินมาถึงตลาดแล้วเคว้งคว้างมาก ทำไมเงียบ


เดินไปจนสุดอีกทาง มีร้านเปิดไม่ถึง 10 ร้าน มีนักท่องเที่ยวเดินมางงๆคล้ายเราอีก 3-4 กลุ่ม
เอ๊ะ หรือเราจะมาเช้าเกินไปนะ


ตัดสินใจเดินไปสำรวจเมืองทางอื่นก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาตลาดอีกที เผื่อแม่ค้าจะกำลังเดินทางมา ชีวิตต้องมีหวังเสมอ ว่างั้น


เห็นเสาโทริอิสูงเด่นอยู่ริมน้ำ แถวนี้ต้องมีศาลเจ้าแน่ๆ


ตอนนั้น เดินไปแบบไม่มีความรู้ในหัวใดๆ แค่หาที่ฆ่าเวลาเพื่อจะไปตลาดอีกรอบเท่านั้น 
รู้สึกวังเวง ขนลุกประหลาดๆ ตอนเดินเข้าไปที่ศาลเจ้านี้ สัมผัสได้ถึงพลังงานมาคุ น่าเกรงขาม


ตั้งแต่ไปเที่ยวมา เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแบบนี้นะ
แบบว่า จะเข้าไปดีไม่เข้าไปดีวะ 


มาหาข้อมูลทีหลังถึงรู้ชื่อ นี่คือ Sakurayama Hachimangu Shrine
เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในทาคายามะ สร้างขึ้นตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 4 โน้น 
เป็นศาลเจ้าที่เป็นเจ้าภาพใหญ่ของเทศกาลประจำเมืองหรือมัสซึริ เค้ามีพิพิธภัณฑ์เก็บขบวนแห่ไว้ที่นี้ด้วย 
เนี่ย ถ้ารู้ข้อมูลแบบนี้แต่แรกก็ไม่กลัวแล้ว (เหรอ)


จริงๆสามารถเดินขึ้นบันไดไปดูศาลเจ้าด้านในได้อีก แต่เราขนลุกไปหมดแล้ว งึกงักๆตรงนี้ซักพัก เดินกลับดีกว่า ฮ่าาา
ตัดจบง่ายๆซะอย่างนั้น มาคนเดียว ถือคติ trust my gut


กลับมายังตลาดมิยากาวะอีกครั้ง ก็ยังโล่งเหมือนเดิม
สรุปใครจะมาเที่ยวที่นี่ให้คึกคัก ควรมาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ร้านค้าจะตั้งเต็มพื้นที่แบบที่เห็นในรีวิวคนอื่นน่ะ
ถ้ามาวันธรรมดาแบบเรา ก็จะเหงาๆแบบนี้ กะมากินร้านคุกกี้ถ้วยกาแฟ เค้าก็ไม่มาขาย เศร้าเลย


อำลาทาคายามะ ด้วยภาพนี้ 


ถึงเวลาแล้วสินะ ที่ฉันต้องโยกย้าย
นั่ง Hida Express ไปลงโทยามะ ระหว่างทางไม่เป็นป่าเขา ก็เป็นหมู่บ้านชนบทเพาะปลูกอะไรก็ว่าไป




และก็เป็นครั้งแรก ที่ได้นั่งชินคันเซ็น เส้นทาง Toyama-Kanazawa
มาญี่ปุ่น 4 รอบ ไม่เคยได้นั่ง เพราะเราเที่ยวใกล้ๆเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญตั๋วชินคันเซ็นมันแพงมากนะเธอ
ครั้งนี้ด้วย JR pass ที่ซื้อมา ให้โอกาสเปิดประสบการณ์นั่งรถไฟหัวกระสุนระยะสั้นๆ แค่ 20 นาที ก็ต้องลองสิคะ
ที่น่ั่งเหมือนสายการบินโลว์คอสที่ดิชั้นนั่งมาญี่ปุ่นเลยค่ะ


พอถึงที่หมาย ทำไมรู้สึกเวียนหัว ทั้งที่นั่งแค่แป๊บเดียวเอง เมารถไฟชินคันเซ็นงี้

สถานีรถไฟคานาซาว่า สวยมากเลย ตรงทางออกมีสถาปัตยกรรมสุดเท่ คนไทยจะมองว่าเป็นเก้าอี้หวายสานนะ
แต่จริงๆเค้าสร้างเป็นสัญลักษณ์แทนกลองโบราณของญี่ปุ่นแหละ


ผ่านมา 5 วัน เพิ่งได้กินราเมงถ้วยแรก!!
ชอบกินราเมงที่ญี่ปุ่นมาก แต่ละร้านมีความเฉพาะของน้ำซุป เหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวของไทย ที่มีหลายซุปเบสให้เลือก
Ramen Shirasagi ร้านนี้อยู่ในเส้นทางผ่าน ได้รีวิวเรตค่อนข้างดี แต่ซุปมันเค็มไปสำหรับเรานะ เห็นคนอื่นซดซุปกันหมดถ้วย คุณทำได้ไง!


เพื่อนใหม่ระหว่างเดินเที่ยว น้อง"บีสึ"ชิวาว่าทรงกลม
คุณลุงอุ้มน้องมาชมวิวหน้าบ้าน แวะไปเล่นกะน้อง ลุงก็ไว้ใจคนง่ายเกิ้น ยื่นน้องให้เราอุ้ม นี่ไม่กล้ารับกลัวทำลูกเค้าตกพื้น 


Kazuemachi Chaya District เป็นแหล่งสถานบันเทิงเก่าแก่ 1 ใน 3 ของคานาซาว่า
คำว่า chaya หมายถึงร้านสถานบันเทิง เป็นร้านอาหาร โรงน้ำชาที่มีเกอิชารับหน้าที่เด็กเอนคอยต้อนรับแขก มีการแสดงการร่ายรำ เล่นดนตรีให้ดู
ที่นี่ยังมีชายะที่ยังเปิดบริการอยู่จริงๆด้วยนะ อ่านมาเหมือนจะเหลืออยู่ 4 ร้าน แต่ไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วๆไปอย่างเรา


ที่นี่จะเงียบสงบ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว มีสะพานไม้ไว้เดินข้ามแม่น้ำ Asano 


มีตรอกเล็กๆ ดูน่ารักดี เป็นเขตอนุรักษ์อาคารเก่า


เห็นคู่รักชาวญี่ปุ่นใส่ชุดประจำชาติมาถ่ายรูป เลยใช้แผนแลกกันถ่ายรูป
เค้าก็ได้มีรูปคู่สวยๆ ส่วนเราก็ได้รูปเดี่ยวสวยๆมาด้วยเช่นกัน วินวิน มุมนี้เหมือนเป็นฉากในหนังซักเรื่อง


เดินข้ามแม่น้ำมาอีกไม่ไกล ก็มาถึงย่านชายะอีกที่ ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากกว่า
Higashi Chaya District


คึกคักกว่ากันมาก ร้านค้าเปิดเต็ม 2 ข้างทางเลย แต่ไม่มีโรงน้ำชาที่มีเกอิชามาทำงานแล้วนะ


ลักษณะของร้านชายะ ก็จะปิดๆหน่อย มองจากข้างนอกไม่เห็นอะไร


เป็นโซนอาคารเก่าที่อนุรักษ์เอาไว้เช่นกัน


ซอยเล็กซอยน้อยใกล้ๆกัน เป็นอาคารไม้ทั้งหมด


ไปๆมาๆมาโผล่ริมน้ำอาซาโนะอีกแล้ว เมืองนี้คนน้อยกว่าทุกเมืองที่ผ่านมา ถ้าหลุดจากย่านท่องเที่ยวก็คือเงียบฉี่
รู้สึกด้วยอายุที่มากขึ้น เราเหมาะกับการเที่ยวเมืองรองแบบนี้แหละ สบายใจดี 


แวะพักขาที่ร้าน and Kanazawa เลือกร้านนี้เพราะเป็นร้านเดียวที่อ่านชื่อออก ตอนเปิดแมพส์ 555
เอาบ้านเก่ามาปรับปรุงเป็นคาเฟ่ เทรนด์นี้เหมือนกันทั้งญี่ปุ่นและไทยแลนด์


เห็นคนที่มาเที่ยวคานาซาว่า เค้ามักซื้อของเกี่ยวกับทองคำเปลว เพราะที่นี้เป็นแหล่งผลิตเยอะสุดของญี่ปุ่น
อย่างไอศครีมก็ต้องแปะทองคำเปลวหุ้มเอาไว้ เป็นกิมมิคของเมือง
ส่วนเราขอบาย ทำใจไม่ได้จริงๆ คิดว่าถ้ากินเข้าไป เราต้องส่องโถส้วมว่ามีระยิบระยับออกมาด้วยมั้ยแน่ๆ
นี่เลยสั่งเป็นไอศครีมคินาโกะ กับชานมเย็นแบบธรรมดาๆเลย


วิธีเดินทางในตัวเมืองคานาซาว่าของเราคือการเดิน และเดินเท่านั้น แต่ละที่ที่ไปห่างกันไม่เกิน 3 กม. เป็นระยะที่เราเดินไหว
ถ้าใครไม่อยากเดินก็นั่งรถเมล์เอา แต่ที่นี่ไม่มีรถไฟฟ้านะ
กลับมาที่สถานีคานาซาว่าอีกครั้ง พอตกเย็นก็มีคนมานั่งพักผ่อนกันหนาตาขึ้น ชิลมาก


อาหารเย็นวันนี้ ได้มาจากร้านในสถานี เห็นเค้าเปิดขายปุ๊บ คนญี่ปุ่นวิ่งไปรุมหน้าร้าน
เราก็ตามสิ เป็นซูชิห่อใบไม้ หน้าตาเก๋ไก๋


แต่เปิดออกมาก็พบกับความผิดหวัง ถึงว่าทำไมถูกกกก
ปลาบางนิ้ดดดเดียว เป็นข้าวซะเยอะ 555 เหมือนอาหารยุคสงครามอ่ะ พลังงานสูงและพกพาสะดวก


คืนนี้นอนโฮสเทล Blue Hour Kanazawa ที่พักราคาถูกสุดในทริปนี้ ทำเลใกล้สถานีสุดๆ รูปนี้ถ่ายจากที่พักเลย
แต่ไม่อยากแนะนำ เพราะห้องนอนผู้หญิงเหม็นรา อับชื้นมาก ห้องน้ำก็เหม็นมีราดำขึ้น รู้สึกสงสารปอดตัวเอง



Create Date : 31 ตุลาคม 2566
Last Update : 31 ตุลาคม 2566 21:58:37 น. 0 comments
Counter : 606 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.