วันนี้ รูมเมทไม่อยู่ห้อง เราลั่นสัจจะว่า
"
หลังสวดมนต์เสร็จ จะทำกรรมฐาน โดย เดินจงกรม ๓๕ นาที และ นั่งสมาธิ ๓๕ นาที "
ตอนเดินจงกรม จิตคอยแต่วิ่งเล่น แต่ก็พยายามดึงรั้งจิตให้นิ่ง ด้วยการปักจิตไว้ที่ลิ้นปี่ ครบเวลา ๓๕
นาที เราก็ลงนั่งสมาธิต่อ เพียง เริ่มนั่ง รู้สึกเลยว่า จิตกลับดิ่งเร็ว
เหลือเกิน ดีใจจัง
ไม่นานนัก ภาพก็สว่างขึ้น เห็นกลุ่มทหารใส่ยูนิฟอร์มทหาร สีเขียวเข้ม ไม่มีลายพรางใดๆเลย
ใส่หมวกเหล็ก ที่มีตาข่ายครอบหมวกไว้ ภาพที่เห็น มีสีขาวเป็นเส้นๆ ในแนวตั้ง
ขวางภาพอยู่ เราพยายามดู เส้นสีขาว ค่อยจางลงไปเรื่อยๆ จนไม่เหลืออะไรมาบดบังภาพที่เคลื่อนอยู่ตรงหน้า
กลุ่มทหารที่เห็น มีไม่ต่ำกว่า ๑๐ คน เค้ามากันเป็นทีมเลย ในมือถือปืน แต่มีหญ้าสูงถึงเกือบ อก บังพวกเค้า
ไว้ เหล่าทหารกำลังมุ่งหน้าไปทางซ้าย อย่างเร่งรีบ และ ระมัดระวัง
ทุกอย่างเงียบ เราได้ยินเสียงลมพัด กับเสียงที่ทหารกลุ่มนี้แหวกหญ้า
เพื่อเร่งไปไหนซักแห่ง
เหมือนภาพเป็นแบบภาพสไลด์เลย มีอะไรดึงภาพตรงหน้าไปทางขวามืออย่างรวดเร็วจนเรา ไม่ทันตั้งตัว ภาพตรงหน้า
นั่น มองปุบ เห็นเป็นส่วนสีแดงซะส่วนใหญ่
(เหมือนในวัด ในโบถส์ ที่ทาสีแดง ตัดสีทอง แบบนั่น) พอมองดีๆ ก็คือในวัดนั่นเอง มีศาลาตรงกลาง อยู่ในศาลาวัดอีกที เหมือนวัดเก่าแก่ในเพชรบุรีเลย เช่น วัดพิกุลแก้ว
ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ให้นึกถึงบ้านทรงไทยโบราณที่อยุธยาน่ะค่ะ ที่เป็นส่วนที่อยู่กลางบ้านเป็นศาลาไว้ทานข้าว น่ะค่ะ ถ้าอรได้ไปวัดพิกุลแก้ว จะถ่ายภาพมาประกอบไว้ อีกทีค่ะ
พอรู้ว่าเป็นวัด สายตาก็จ้องไปที่ เชิงเทียน ที่ตั้งไว้ ๒ อัน ที่มีร่องรอยของน้ำตาเทียนเหลืออยู่ แล้วเราก็เห็นอะไรหลังเชิงเทียนแว้บๆ นั่นคือ ทหารกลุ่มนั้น กำลัง เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ผ่าน เชิงเทียน นั่นไป ทีละคน
เรานึกในใจ นี่เค้ายังไม่รู้อีกหรือว่า เค้าเหล่านั้น ได้ตายไปแล้ว วิญญานยังไม่ได้ไปไหน ยังคงอยู่ในสงครามตามเดิม
ซึ่ง ป่าตอนแรกที่เห็น แท้จริงปัจจุบันคือวัดไปแล้วนั่นเอง
เราเห็นปุบ ก็ตกกะใจอะ รีบกำหนด เห็นหนอ เห็นหนอ ไปเรื่อยๆ และกลับมา ภาวนา พองหนอ ยุบหนอตามเดิม เราเพียงเอ่ยว่า จงมาอยู่ใกล้ รอรับบุญ กุศล
ที่วันนี้เราจะแผ่ออกไปให้ท่านทหารกล้า ทั้งหลายที่ยังวนเวียนไม่ได้ไปสู่ สุขคติ เพราะห่วงบ้านห่วงเมือง
เราต่างอยู่คนละภพภูมิแล้ว คนละโลกกัน ที่ที่เรายืนอยู่สำหรับอีกภพนึง อาจจะเป็นป่า ในโลกของวิญญาน
แต่ในโลกมนุษย์ เราก็อาจเห็นเป็นเมือง
นรกไม่ได้อยู่ใต้ดิน สวรรค์ไม่ได้อยู่บนฟ้า มนุษย์อยู่บนดิน
แต่ ๓ โลก ได้อยู่ซ้อนทับกัน ทั้ง ๓
โลก บนพื้นดินแห่งนี้นี้ล่ะ
ปกติจะทำกรรมฐานก็จะนึกในใจ เชิญ วิญญาน ที่ต้องการบุญ กุศล มารออยู่ใกล้นะ
ขออนุญาตลุงเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องเรา ว่า ให้เค้าเหล่านั้นสามารถเข้ามาในห้องได้
เมื่อกลับมากำหนด พองหนอ ยุบหนอต่อ
มีผู้หญิง เดินผ่านหน้าเราไปอย่างเร็วมาก เราเห็นเธอเดินผ่าน แต่แบบไม่มีเสียงเดินเลย แบบวินาทีเดียวฟิ้วววววววววว ไปหน้าห้องแล้ว
เธอเดินจากขวามือเราไปทางซ้าย เธอหยุดที่ประตูห้องเหมือนจะออกไป แต่ยังหยุดนิ่ง หันหลังให้เรา ในกรรมฐาน เราหันไปมองเธอคนนั้น หลังจากเธอ ฟิ้วววววววววว ผ่านหน้าเราไปอะ เราพิจารณาเธอทันที เห็นหนอ เห็นหนอ
เธอ ผมสั้นสีดำแบบบ๊อบ ผิวขาวเหลือง ใส่ชุดเกาะอก สีขาว ลายดอกไม้ มีสายเชือกสีขาวผูกที่คอ มองปุบ เราก็ เอ๊ะ คุ้นคุ้น เฮ้ย มันชุดของอิชั้นนี่นา เป็นชุดที่เราซื้อมา เมื่อ ต้นเดือนธันวา แต่ยังไม่เคยใส่เลย เนื่องจากยังไม่มีสถานการณ์ใดๆ ที่เอื้ออำนวยให้เราได้ใส่ชุดนั้นเลย เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีขาว หุ้มส้น เราเลยบอกว่า รอก่อนนะ ครบเวลาจะแผ่เมตตาออกไปให้
กลับมากำหนด พองหนอ ยุบหนอต่อ ไม่นาน เห็นศพเสืออยู่ข้างถนน มีผู้ชายคนนึงกำลังแหล่เนื้อออก แว้บเดียว ผู้ชายคนนั่นก็ คว้าศพเสืออีกตัว มาโยนไว้ข้างๆ กับศพเสือตัวแรก ตอนแรก เราก็กำหนดเลยว่า
"โอ้....เสือ" แต่พอเห็น ศพเสือตัวที่ ๒
ถึงพิจารณาใหม่ สติบอกว่า นั่น สิงโตตัวเมีย (เพราะ มันมีขนสีน้ำตาล ไม่มีลาย
และไม่มีแผงคอ) แหะแหะ สติ ว่าเราซะงั้น เถียงกันมันส์ดี
แล้วก็ยอมสติ
"โอเค นั่นสิงโตตัวเมีย ๒ ตัว" เราบอก เดี๋ยวคุณสิงโตรอก่อนนะ ครบเวลาจะแผ่เมตตาให้จ้า
ใกล้ครบเวลา ครูเวทนาก็มาจนได้
ปวดหลังจัง เราก็กำหนดปวดหนอ ปวดหนอ
ปวดหลังจังหนอ ภาพที่เรียกช่างที่ฟาร์มมาตีงูในห้องน้ำเรา ผุดขึ้นมาอีกแล้ว งูตัวนั้นถูกตีกลางตัว หลังหักและตาย
ตั้งแต่ตอนเห็นศพงูตัวนั้น สติก็บอกเลย ว่าเตรียมรับมือการแก้แค้นเร็วๆนี้
เนื่องจากทำกรรมฐาน เจ้ากรรมนายเวรที่เราก่อขึ้นใหม่จะมาทวงเร็วมาก รู้สึกว่า
งูตายเดือนมกราคม มีนาคมก็ต้องถูกส่งตัวเข้า emergency
room ด้วยอาการ ปวดหลังอย่างที่เรียกว่า เดินไม่ได้เลยทีเดียว สาเหตุเกิดจาก
ตื่นขึ้นมาก้มลงเก็บของที่หล่นที่พื้น แล้วก็ปวดเลย
แต่ยิ่งปวดเราก็ยิ่งเห็นภาพงูตัวนั้น งูในสภาพถูกตีจนหลังหักตาย หมอฉีดมอร์ฟีนระงับอาการปวดเข้าที่หลัง
เราดีขึ้น แต่พอยาหมดฤทธิ์ก็ปวดอีก สาเหตุก็ยังหาไม่เจอจนป่านนี้
บ้างก็ให้ยาคลายกล้ามเนื้อมากิน ตามประสา แต่มีเพียงเราที่รู้ว่ามันคืออะไร โอ้ นอกเรื่องไปเยอะ
คืนนี้เป็นการทำกรรมฐาน ที่ต้องพยายามจำ
ว่า ต้องแผ่ออกไปให้ใครบ้าง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แปลกจัง
วันนี้ทำไมมากันเยอะแยะไปหมด
คิดหนอ คิดหนอ ว๊าก!!!
วันนี้วันโกนนี่นา มิน่าล่ะ โอเคๆ เข้าใจล่ะ