กรรมฐาน > Meditation
Group Blog
 
All Blogs
 

บุญคุณเอเลี่ยน

Free TextEditor


                วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๓
ได้โอกาสที่บอสลางาน ไปทำกรรมฐานที่ห้องทำงานบอส ทำกรรมฐาน ไป ๒ ชั่วโมง
ฟุ้งซ่านอย่างที่หงุดหงิดตัวเองมากๆ จิตดื้อ ไม่นิ่ง จะโทษใครถ้าไม่โทษที่ตัวเอง
คุมจิตไม่อยู่เองนี่  ถ้าได้ทำทุกวันคงไม่เป็นแบบนี้ 
สมน้ำหน้าตัวเอง


                
ด้วยใจที่หงุดหงิดเพราะการทำกรรมฐานเมื่อคืน ทำให้ตั้งใจแน่วแน่ว่า ตี ๕
จะตื่นขึ้นมาทำกรรมฐานอีก  และต้องได้พระกรรมฐาน ! 


                   ตี ๕ 
แล้ว ..............................


      มารร้ายในตัว พูดว่า "ขี้เกียจอะ ง่วง อะ 
ยังอยากเลื้อยอยู่เลย"


      เทวดาในตัวพูดตอบกลับมารร้าย  " 
แต่เธอลั่นสัจจะแล้วนะศศินันท์  "


      มารร้าย  "โอ........   ก็ได้ เฮ้อ" ในที่สุด
ก็ไม่กล้าผิดสัจจะ


              มาถึงออฟฟิส ด้วยเวลาที่สามารถ
ทำกรรรมฐานได้ ๑ ชม. ก่อนที่ใครๆจะมาออฟฟิสซะก่อน


เดินจงกรมวันนี้ ดีกว่าเมื่อคืนมาก
พอครบเวลาก็ลงนั่งสมาธิต่อ



            ช่วงที่นั่ง กำหนด พองหนอ ยุบหนอ
ที่ท้อง ไปตามปกติ ซักพักใหญ่ จิตดิ่งแล้ว แต่ไม่ลึกมาก พอให้แค่รู้ว่า
จิตเป็นสมาธิแล้ว


             หลับตาอยู่แบบนี้ มันก็มืดสนิท
จิตก็จับจดอยู่ที่การหายใจที่ท้อง แต่ เอ............... 
แสงอะไรระยิบระยับเต็มไปหมด เหมือน ดาว แต่ไม่ใช่อะ


             เรากำลังเงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่
ท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่เต็มไปด้วยแสงอะไรซักอย่างบนท้องฟ้า  เราพิจารณา
แสงบนท้องฟ้านั่น มันเป็น ดาวตก ที่เกิดจากการแตกเป็นเสี่ยงๆของอุกกาบาต 
น่ามองจัง  มันแตกกระจาย แบบพลุที่กำลังร่วงลงมาเลย
แต่มันไม่เพียงสวยงามอย่างเดียว  มันมีอันตราย
เรามองตามซากอุกกาบาตที่ติดไฟจากท้องฟ้า  ตกลงพื้น
ใส่ผู้คนที่ต่างวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นเลย  คนเต็มไปหมด แต่มันเป็นตอนกลางคืน
เรามองคนเหล่านั่นไม่ชัดเลย


           กลายเป็นว่า ความสวยงาม จากอุกกาบาต
ที่กำลังตกลงมาจากฟ้าทั่วท้องฟ้า แบบห่าฝน  กลายเป็นหายนะที่กำลังทำลายโลกเราอยู่
เรารู้สึกกลัวขึ้นมากำลังคิดจะหาที่หลบไม่ให้โดน เจ้าอุกกาบาตเหมือนกัน



            ทันใดนั้น ที่มุมซ้ายด้านบนของท้องฟ้า
มี เอเลี่ยนสีม่วงอ่อนออกชมพู ผิวเงาวาว ตัวเล็กๆ เพศนี้ไม่สามารถ identify ได้อะ 
เค้าลอยอยู่ แล้วเอาเครื่องมืออะไรซักอย่างในมือ ชี้ไปทางท้องฟ้า
ที่เต็มไปด้วยอุกกาบาตนั้น  ก็เกิดเป็นช่องมิติ ใหญ่สีดำสนิทขึ้นมา
อุกกาบาตต่างถูกดูดเข้าไปในนั้น หมดเลย.....


            ท้องฟ้ากลับมามืดสนิทตามเดิม
คุณเอเลี่ยน หันหน้ากลับมามองเรา 


คุณเอเลี่ยน


"รู้ไหมว่า
แท้จริงแล้วเราเป็นคนช่วยโลกเอาไว้  เราจะเปิดหลุมมิติ เพื่อดึงเอาอุกกาบาต
ที่จะตกลงมายังโลก "  


เราก็ยังเงียบ


คุณเอเลี่ยน พูดต่อ


" มีเอเลี่ยนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่คิดร้ายกับโลก
จะคอยยิงอุกกาบาตใหญ่ๆ ให้แตก เพื่อเศษซากอุกกาบาต จะได้ตกลงมาทำร้ายมนุษย์  
เราอยากให้เธอน่ะรู้ไว้ ไม่งั้นมนุษย์ไม่อยู่สบายแบบนี้หรอก"


แล้วคุณเอเลี่ยนสีม่วงออกชมพู ผิวเงาแวบๆ
ก็หายไป


เรากำหนด พอง ยุบ ต่อ ถามว่าฟุ้งซ่านไหม
เมื่อวานล่ะใช่ ค่อดๆฟุ้งซ่านเลย  แต่เมื่อเช้านี้ ตี ๕ เนี้ย ไม่ฟุ้งซ่านแน่นอน 


ยังสามารถกำหนด พอง ยุบ ที่ท้องได้ สงบดี จนครบเวลา
ก็แผ่เมตตาตามปกติ



ปล.  เราเล่าตามที่เห็นในกรรมฐาน 
จะฟุ้งซ่านหรือไม่ฟุ้งซ่าน เรารู้ด้วยจิตเลย  โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน
เราไม่เคยเชิญชวนให้ใครเชื่อ หรือ อยากจะเห็นนิมิต  แล้วเพลิดเพลิน  
ถ้าได้เห็นอะไร แสดงว่า มีเหตุและปัจจัยที่ถึงเวลาที่สมควรเห็น
สมควรได้รู้  เพราะที่ทำกรรมฐานนี่ เพื่อ ชดใช้กรรม ให้เบาบาง
และแผ่บุญให้วิญญานที่ขอกุศล เท่านั่นนะค่ะ   เรื่องเอเลี่ยนนี่ไม่มีในหัวเลย post
ไว้เพื่อเตือนความจำตนเองด้วยค่ะ









 

Create Date : 26 มกราคม 2553    
Last Update : 26 มกราคม 2553 9:09:40 น.
Counter : 570 Pageviews.  

น้องลิง ระลึกชาติ

Free TextEditor

น้องลิงระลึกชาติ

เมื่อได้เริ่มทำกรรมฐาน
น้องลิง ก็เริ่มสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ มีอะไรสงสัยก็ถามเจ้ ถามเจ้ ถามเจ้ ตลอด
วันนึงพอรู้ว่าเจ้ระลึกชาติ เธอก็ตั้งมั่นว่า
จะต้องทำกรรมฐานถึงขั้นระลึกชาติให้ได้ นั่นก็คือ การมุ่งทำกรรมฐาน อย่างสม่ำเสมอ
ไม่ได้อธิษฐานขอให้เห็นหรอกนะค่ะ


             
ครั้งแรกที่ทำกรรมฐาน เอมกำลังนั่งสมาธิอยู่ ครอบครัวโบราณที่คุ้นเคย
เจอในฝันมาตลอดแต่เด็กจนโต มายืนตรงหน้า มาครบ ทั้ง พ่อ แม่ และ ลูก
จูงมือกันมาเลย

คนพ่อ "ถ้าเมิงนึกไม่ได้ว่า ทำอะไรกับพวกกรูไว้
พวกกรูจะไม่อโหสิกรรมให้เมิง เด็ดขาด! "

             งานเข้า น้องลิงเต็มๆ
แต่ลิงว่า ไม่ตกใจ เพราะเจอกันมาแต่เด็กจนโต มีครั้งนี้ที่เค้ายอมพูดด้วยน่ะ
ล้วก็แผ่เมตตาหลังทำกรรมฐานเสร็จให้ครอบครัวนี้ตลอด


           
ทำกรรมฐานได้ ๒-๓ เดือน ก็ได้ระลึกชาติจนได้  วันนั้น เอมไปเข้าศีลแปด บวชเนกขัมมะ
ที่วัดอัมพวัน ก็ทำกรรมฐานตามปกติ แล้วเธอก็ได้ระลึกชาติ จนได้
เห็นตนเองเกิดเป็นผู้ชายในสมัยอยุธยา
เป็นผู้ชายฝรั่ง ผิวขาว สูงมากๆ
เป็นทหารรับจ้าง เข้ามารับจ้างรบแต่ไม่รู้  อยู่ฝ่ายไหนนะ

           
นิสัย ค่อนข้างโหด ออกไปทางเลว  เห็นภาพตัวเอง ถือดาบโบราณ  เอาดาบฟันชาวบ้าน คนไทย
ตายไปเยอะเลย  รวมทั้งฆ่าครอบครัวที่ตามจองเวรทุกชาติไป ด้วยความอาฆาตแค้น 
เจ้าชู้อีกด้วย มีสาวเยอะ  หลอกให้สาวรัก สาวหลง  ข่มขืนสาวชาวบ้าน
อีกด้วย

ภาพสุดท้ายคือ เห็นถูกตัวเองถูกฟันตาย
ที่ไทยนี่ล่ะ

            ที่ลิงเล่ามาก็ ได้พิสูจน์กันและกันแล้ว ว่า
กรรมฐานทำให้เราสามารถระลึกชาติได้จริงๆ


          
หลังจากนั้นก็ทำกรรมฐานไปเรื่อยๆ มุ่งชดใช้กรรมให้เบาบางลง  แล้ววันนึง
ครอบครัวที่เอมฆ่าตาย ทั้งครอบครัว ก็มาปรากฏตัวในกรรมฐานอีก
เค้าแต่งชุดเสื้อผ้าสีขาว สว่างไสว หน้าตายิ้มแย้ม  คนพ่อก็พูดว่า  "
อโหสิกรรมให้แล้วนะ"   เค้ามาลา หมดกรรมกันซะที 

            
แต่มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ยังมีอีกมากมาย กรรมเก่าก็หนักแสนหนัก
กรรมที่ทรมานสัตว์ในตอนเด็กก็อีกมากมาย จนเรา อดกลัวแทนไม่ได้
เพราะเริ่มทำกรรมฐานแล้ว สิ่งแรกคือ เรามีบุญเกิดขึ้น เจ้ากรรมจะมาเอาคืน ทันที  
หลายคนต้องยอมเข้าใจตรงนี้นะค่ะ ว่า ยิ่งทำกรรมฐาน แรกๆ 
ยิ่งเจอวิบากกรรมในชีวิตหนักขึ้น  จะทำให้ท้อถึงที่สุดของที่สุดเลย
เพราะเจ้ากรรมนายเวรต้องการ ทดสอบความเพียร ที่จะสร้างกุศลของคุณ  ถ้าผ่านมันไปได้
ยังไม่ย้อท้อในการทำกรรมฐาน  เค้าจะเปิดใจรับกุศลของคุณแน่นอน 


             หลวงพ่อจรัญ ท่านบอกเสมอว่า คนที่ไม่มีบุญ
ยากหนักที่จะได้ทำกรรมฐานได้ ไม่ใช่ทุกคนสามารถจะทำได้  ถ้าลั่นสัจจะว่าจะมาเข้าศีล
ทำกรรมฐานที่วัดก็ขอให้มาให้ได้ บางคนคิดว่า คนเยอะมากก็ไม่ได้สมาธิ ไม่ชอบวุ่นวาย
ไม่ชอบคนเยอะ  ที่จริงคนจะได้สมาธิ คนเยอะแค่ไหน เค้าก็สามารถตัดความกังวล
ความรำคาญใจออกไปได้  กรรมฐษน มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าอยู่กับตัวเราเอง
ไม่สนใจคนรอบข้าง เราจะปฏิบัติได้แน่นอน

             เดี๋ยวจะเล่าเรื่อง
กรรมทรมาน สารพัดสัตว์ ของน้องลิงอีกที  เมื่อกรรมส่งผลแล้ว
ใครก็ต้านแรงกรรมไม่ได้  มันเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย 








 

Create Date : 20 มกราคม 2553    
Last Update : 20 มกราคม 2553 7:35:12 น.
Counter : 2487 Pageviews.  

เสด็จพ่อมาบอกให้ไปวัดอัมพวัน

Free TextEditor

                บ้านเรา มีพี่น้อง ๓ คน มีคนที่สามารถทำกรรมฐานได้ ๒ คน ก็มี เรา
กะ น้องลิง (เอม)  ส่วนพี่สาว ติดเลี้ยงลูก ดูแลพ่อแม่
คนที่จะเอาบุญให้ที่บ้านได้ก็เหลือ ๒ คน นั่นล่ะ  เราเริ่มทำปี ๒๕๔๑  


                  น้องลิง มันเริ่มทำปี ๒๕๔๗ 
สาเหตุนั่นก็เพราะ ความฝัน  ตอนนั่น ลิงมันเรียนที่ ธรรมศาสตร์ ปี ๔   
ในช่วงเดือนตุลาคมก่อนจะถึงวันคล้ายวันเกิด คือ ๒๘ ตุลาคม    ลิงก็ฝันว่า เสด็จพ่อ
ร. ๕ เสด็จมาหา (ซึ่งท่านมาหาเป็นระยะ  เนื่องจากท่านเคยมีบุญช่วย
สมัยตอนเด็กมาก่อน)  ท่านบอกว่า ให้ไปรับขันธ์ ๕ ที่วัดอัมพวัน ก่อนวันเกิด
พร้อมพวงมาลัย ภาพที่เห็นเป็นพวงมาลัยดอกมะลิ สีขาวล้วน
 และตุ้มมาลัยเป็นดอกกุหลาบสีชมพู ถ้าไม่ไปจะเป็นอย่างผู้หญิงคนนี้ 
 ลิงเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่บนตึกแล้วกระโดดตึก ตกลงมาตาย 


             ลิงโทรหาเราแต่เช้า 


ลิง " เจ้ เอมฝัน อย่างนี้อะ  รับขันธ์ ๕ นี่
แบบที่เค้าแต่งขันธ์ ๕ มีดอกไม้ ธูปเทียนอะไรหรือเปล่า?" เพราะลิงเคยแต่ทำยังงั้น
นานมาแล้ว สมัยที่ เสด็จพ่อ เคยมาช่วยไว้


เรา " เดี๋ยวนะ  เดี๋ยวเจ้ ดูหนังสือก่อน
เดี๋ยวโทรกลับ"


เราเดินไปเปิดเอาหนังสือกฏแห่งกรรม ธรรมะปฏิบัติ
ที่หลวงพ่อจรัญ ท่านบรรยายธรรมในช่วงครึ่งเล่มแรก ขึ้นมาอ่าน พลิกไม่กี่หน้า
ก็เห็นคำว่า ขันธ์ ๕ ขึ้นมา  ดีใจเหลือเกิน เร่งอ่าน แล้วโทรบอกเอม


เรา " เอม ขันธ์ ๕ ที่วัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญ
ท่านบอกว่า คือ การปฏิบัติธรรม  สติปัฏฐาน ๔  ซึ่งท่านเสริมว่า
เป็นการให้มาเข้ากรรมฐาน "


ลิง " เจ้แล้ว
พวงมาลัยที่เอมเห็นล่ะ ต้องเอาไปไหว้ไหม"


เรา " พวงมาลัยที่เอมเล่าน่ะ
มันเหมือนพวงมาลัยที่อยู่ใน พระบรมสาทิสลักษณ์  ของเสด็จพ่อเลย
ที่พระองค์ได้ทรงพระราชทาน แด่วัดอัมพวัน เมื่อสมัยพระองค์เสด็จประพาส ทางเรือ
ประวัติที่เล่ามา คือภาพนี้หายไป หลวงพ่อจรัญไปอาบน้ำที่แม่น้ำ
เจอเข้าก็ไม่รู้ว่าอะไร แต่ภาพนี้ก็ไหลกลับมาที่เดิม ท่านเปิดดูจึงรู้ด้วยกรรมฐาน
ว่า นี่เป็นภาพที่เสด็จพ่อ รอ ๕ ท่านประทานแด่วัดอัมพวัน  
ปัจจุบันภาพนี้หลวงพ่อจรัญ ท่านเอามาใส่กรอบตั้งบูชาที่กุฏิของหลวงพ่อ 
เอมไปก็จะเห็นเองว่าเหมือนกันไหม"


เอม " อืม ยังไม่รู้ว่าจะว่างไหมอะ
ดูก่อนนะ"


                
เส้นทางที่เอมไปเรียนก็จะนั่งรถตู้ ไปเรียน ปรากฏว่า รถตู้ยางแตก
ล้อที่แตกก็ตรงกับที่เอมมันนั่งพอดี  เริ่มใจไม่ดีแล้วซิ แต่ก็ยังเฉยๆ


                ผ่านไป อีก ๒ วัน
มันก็เจอเหตุการณ์ซ้ำเดิม รถตู้ยางแตกตรงล้อที่มันนั่งอีกแล้ว   ใจไม่ดีแล้วซิ
คราวนี้  เอมก็โทรมาปรึกษา เราอีก


เอม " เจ้  ๒ ครั้งแล้วนะ  เอมกลัวอะ " 
กลัวจะต้องตาย ถึงจะไม่ใช่โดดตึกตายแบบหญิงคนนั้น แต่ก็คือ ตาย
เหมือนเธอคนนั้นก็ได้นี่เจ้"


เรา "งั้นเอมคงต้องไปทำกรรมฐาน
ที่วัดอัมพวันจริงๆแล้วล่ะ แต่สู้ๆนะ เพราะ จะไปยาก มีอะไรมาขวางเยอะ
เป็นเรื่องปกติของคนที่เริ่มทำกรรมฐาน มารไม่มี บารมีไม่เกิด
มารมาขวางเยอะ"


เอม "แล้วดอกไม้ล่ะเจ้"


เรา " เดี๋ยวไปถึงวัดแล้ว ค่อยให้แม่ชี
(ที่ท่านรับร้อยมาลัย) ทำให้ก็ได้นะ"


จำได้ว่า กว่าจะไปได้ สารพัดปัญหา จนเกือบไม่ได้ไป
แต่ก็ไปจนได้


ด้วยความว่า ลิงเพิ่งเคยมาครั้งแรก
พอลงทะเบียนเสร็จก็พาไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๑๐ แห่ง ที่ต้องไปไหว้
ไปลามาไหว้ทุกครั้ง  พอพาลิงไปกุฏิหลวงพ่อ   พอเห็นภาพวาดของเสด็จพ่อก็อึ้งเลย
แล้วบอกเราว่า


เอม " เจ้ พวงมาลัยที่เห็นในฝัน เหมือนกับ พวงมาลัย
ในภาพวาดนั่นเปี้ยบเลย"


นั่นไง ล่ะ  อึ้งกันหมดเลย ว่าแล้วเชียว
จากนั่นก็พาไปไหว้เสด็จพ่อ รอ ๕ ที่ศาลาทางท่าน้ำ แล้วก็ให้แม่ชีท่าน ร้อยพวงมาลัย
แบบนั่น ให้ เพื่อเอาไปถวายท่าน


              เอมเข้าปฏิบัติกรรมฐาน ๓ วัน
แล้วเอมก็มาอีกหลายครั้ง อยู่ ๓- ๕ -๗- ๙ วันบ้าง แล้วแต่สามารถ พอทำกรรมฐานแล้ว
เจออะไรจะมาคุยกัน  พิสูจน์ด้วยกัน เราพิสูจน์แล้ว ลิงก็พิสูจน์ตาม
อย่างเรื่องระลึกชาติ ลิงก็สามารถเห็นได้ ๑ ชาติแล้ว   ซึ่งเป็นชาติที่สมควรเห็น
เนื่องจาก สร้างกรรมในชาตินั่นมากเหลือเกิน  จึงเพิ่งถึงบางอ้อ ว่า ทำไมแต่เด็กจนโต
จึง ฝันเห็น ดาบโบราณ  เห็นคนเอาดาบนั้นฟันเอมแล้วเจ็บนะ เจ็บมาก  หรือบางที
เอมก็เอาดาบโบราณ ฟันคนอื่นตาย   มีทั้งคนแต่งตัวโบราณมากันทั้งครอบครัว พ่อแม่ลูก
มาด่า มาว่า   มีทั้งผู้หญิงแต่งโบราณ และอีกมากมาย เดี๋ยวเล่าคราวหน้านะค่ะ


              ถ้าไม่ได้เสด็จพ่อ มาช่วยไว้ ป่านนี้
ชะตาคงขาดไปแล้ว ดีที่พอมีบุญ เอมถึงได้มีโอกาสได้ไปทำกรรมฐานที่วัดอัมพวัน
และต่อชีวิตมาถึงทุกวันนี้


             นี่จึงเป็นสาเหตุให้ทำกรรมฐาน  ทั้ง
พี่ ทั้ง น้อง แต่พี่สาวที่ไม่ได้ทำกรรมฐาน เค้าก็มีเซนท์ เช่นกัน
เดี๋ยวจะเล่าในโอกาสหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ทำให้ เรา ๓ คนพี่น้องอึ้งไปตามๆกัน
กับความลับที่พ่อแม่ไม่เคยบอก











 

Create Date : 19 มกราคม 2553    
Last Update : 19 มกราคม 2553 9:54:22 น.
Counter : 2441 Pageviews.  

ผลกรรมที่หนีไม่พ้น ภาค ใช้กรรมคุณงู

Free TextEditor


              ปี ๒๕๕๐ ช่วงกลางปี เราก็ร่าเริง ตามประสา
ออกมายืนรับลมเย็นๆ ตอนย็นๆ ตรงประตูหลังห้องพักที่ฟาร์ม สำนักเทคนิคของซีพี
ออกแบบให้มันมีร่องน้ำเป็นรางยาวติดประตูเลย 


                ระหว่างนั่น สายตาเจ้ากรรม
ก็หันไปจ๊ะเอ๋ ! กะงูตัวดำสนิท ตัวนึง ตัวใหญ่พอสมควร ตัวในรางน้ำ
ศศินันท์ทำไงล่ะค่ะ  ก็กรี๊ดดดดดดดดดดดดด  ลั่นฟาร์มเลย


"งู !  พี่วิทย์ (ห้องพี่ข้างๆ)
งูมันอยู่หลังห้องพี่วิทย์อะค๊า  " 


ด้วยความที่งู ตกกะใจเสียงเรา มันก็พุ่งตัว
เลื้อยเข้าไปในท่อระบายน้ำ ของห้องพัก ห้องนึง ซึ่งเราเข้าใจว่า มันเข้าไปในห้องน้ำ
ห้องพี่ข้างๆ แน่นอน ผ่านท่อระบายน้ำนั่นล่ะ


"ตายแล้ว ! พี่วิทย์ มันเลื้อยเข้าท่อระบายน้ำ
ห้องน้ำพี่ไปแล้ว กรี๊ดดดดดดดดด ! "


(แบบว่า สุดยอด
การผลักดันให้สถานการณ์มันน่าตื่นเต้น) แล้วก็ไม่มีใครโผล่หน้า มาดูเราเลย
ทั้งที่เราแทบจะช็อคตายตรงนั่นแล้ว


ในระหว่างที่ ทุกอย่างยังเงียบสงบ ไม่มีใครผ่านมาเลย
เอ ..............................................


เราก็พิจารณาบางอย่าง  เอ.............
ท่อระบายน้ำห้องนี้  เอ.................


"ต๊ายแล้ว นั่นมันท่อระบายน้ำ
ที่ต่อมาจากห้องน้ำห้องเรานี่นา ช่วยด้วยเจ้าค๊า  งูอยู่ในห้องน้ำอร..."


วินาทีนั่น 
กระโดดเข้าห้องพักแล้วรีบเอื้อมมือไปปิดประตูห้องน้ำไว้ก่อน
กลัวงูจะเลื้อยออกมาจากห้องน้ำ



โทรเรียกใครดีหว่า? โอ้ ขาดสติชั่ววูบ   รู้ล่ะ  
ช่างประจำฟาร์ม และหนุ่มๆ มาดแมน


ช่างและหนุ่มมาดแมนมาถึงห้องเรา พร้อมอาวุธ ในมือ
ท่อนเหล็กยาวๆ ที่หาได้จากโรงช่าง 


เห็นหนอ ทันที นี้เราเรียกเค้ามาฆ่างู หรือนี่ 
ไม่นะ  แค่เอาคุณงูออกไปเท่านั่นอะ อย่าฆ่าเค้านะ


(ได้แต่คิดในใจ ) ลองบอก หนุ่มๆ  ที่กำลังมีสีหน้าวิตกกังวลกลัวงูกัด เค้าคงบอก
เจ้มาทำเองดีไหม แน่ๆ



    เราถอยห่างออกมา เสียง
ตุบตับ ดังลั่นห้องน้ำ พร้อมเสียงกรี๊ด  เอ๊ย! ไม่ใช่   เสียง เฮ๊ย! ของหนุ่มๆ
 เป็นระยะ แล้วทุกอย่างก็เงียบลง
ท่อนเหล็กยาวๆ
โผล่ออกมา ในสภาพที่มีศพงูห้อยมาด้วย  แผลที่กลางตัวงู ชัดเจน
ว่าตายเพราะถูกตีอย่างหนักที่กลางหลัง



       ใจหดหู่ลง
สลดใจที่เป็นสาเหตุให้คุณงู ต้องตาย ไม่ฆ่าด้วยมือตัวเอง ก็เหมือนฆ่าเอง
ถ้าไม่ตะโกน กรี๊ดๆๆ แบบนางร้าย (แหะแหะ ทุเรศ ตัวเอง)
 จนคุณงูตกใจเลื้อยพุ่งเข้าท่อระบายน้ำ ดันจนฝาครอบท่อระบายเปิด
เข้ามาหลบในห้องน้ำ 



รู้หนอ  อีกไม่นาน
เราจะต้องใช้กรรม ที่ใช้คนมาตีงู หลังหักตาย แน่นอน
เพราะทำกรรมฐาน กรรมจะกลับมาเร็วมาก  ทำไงล่ะ ก็ก้มหน้ารับกรรม 
ต่อไป


         เดือน กรกฎาคม
๒๕๕๐ รูมเมทกลับบ้าน อยู่ห้องคนเดียว คืนนั้นนอนดึก ตอนล้มตัวลงนอนรู้สึก เจ็บแปลบๆ
นิดๆ ที่หลังแต่ก็หลับไป
เช้ามาลุกขึ้นเดินแล้วก้มลงเก็บของที่ตกพื้นก็เกิดอาการ
ล้มลงเพราะปวดที่หลังมาก รู้สึกน้ำหนักตัวด้านบน มันแทงเนื้อเยื่อตรงเอว
เหมือนส่วนลำตัวตั้งแต่หัวถึงเอว เป็นคนละส่วนกับ เอวถึงขา หายใจขัดขึ้นมา 
เหนื่อยแตก พยายาม  กระดึบ ๆๆๆๆๆๆๆ  (ในสภาพที่สุดจะพรรณาเลย)


              ไปห้องข้างๆ  
เคาะห้องเพื่อน บอกให้พาไปโรงพยาบาลหน่อย  ให้เพื่อนขับรถเราพาไปส่งโรงพยาบาล
เพื่อนก็วิ่งไปเอารถมารับ แต่เราก็รอแบบขลุกเข่ากับพื้น เอามือเท้าพื้นหญ้าไว้
ทรมานเหลือเกิน 


       รถมาจอดรับแล้ว
แต่ขึ้นไปนั่งไม่ได้ ไม่สามารถยืนตัวตรงได้ ต้องค่อยกระดึบๆ อย่างช้าๆ
หาท่าทางที่ขยับตัวแล้วไม่ปวดขึ้นรถ เพื่อนมันก็สงสาร  แต่มันก็หัวเราะเรา เพราะ
สภาพท่าทาง เรามันทุเรศมากอะ เงอะๆ


        เช้าวันนั้น
หมอส่งตัวเข้า Emergency room ทันที หมอจับๆ ตรงหลังส่วนที่ปวด กดจนน้ำตาไหล
ร้องไห้แบบไม่อายหมอเลย มันปวดเหลือเกิน มันทำให้เราหายใจลำบาก หมอดูอาการท่าไม่ดี
บอกเราว่า
จะฉีดมอร์ฟีนเข้าที่หลัง ทันที 
วินาทีที่เข็มแทงหลังน่ะ  เจ็บเหลือเกิน น้ำตาไหล กัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด 


         มันกลับมาแล้ว ภาพเหตุการณ์วันนั้น 
ภาพคุณงู ถูกตีหลังหักตาย เห็นหนอ เห็นหนอ รู้หนอ  ยอมรับกรรมหนอ นี่ไม่ถึง ๒ เดือน
ก็ได้ใช้คืนแล้วหรือนี่  ถ้าไม่สร้างบุญกรรมฐานไว้ คงกลับมาเอาคืน อีกหลายๆๆๆๆๆๆ ปี
แต่แบบหนักกว่านี้ หลายเท่า


         พ่อแม่ กะน้องลิง เครียดอีกแล้ว 
เจ้เข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว แม่เปรยว่า เป็นอะไรทีนึง ทำไมมันหนักอย่างนี้ ลูกเอ๊ย
แม่เป็นห่วงจัง


          ยัง ยังไม่พอ
ยังไม่สาสม กับกรรมที่ทำกับคุณงู ไว้หรอก  พอหมอให้ยามา ก็กินตามปกติ
มีอาการหลับภายใน ๕ นาทีหลังจากกินยาไปแล้ว ถ้านอนหลับไม่ถึง ๔ ชม.ขึ้นไป
เรามีอาการ เวียนหัว อาเจียน เดินเซไปมา ยังจะคนเมา
จนวันนึงโทรถามเพื่อน ที่เป็นเภสัช เค้าถามเราเรื่องชื่อยาที่กิน 
พอบอกไป เพื่อนก็บอกว่า นั่นน้องๆ มอร์ฟีนเลยนะ คนจะแพ้ยาตัวนี้กันมาก
ทานยาแล้วต้องนอนพักมากกว่า ๔ ชม.ขึ้นไป เพราะยายังออกฤทธิ์อยู่   
หลังจากนั้นทานยาแล้วเกิดตื่นขึ้นมาก็จะพยายามนอนต่อ ให้มันครบๆเวลา


       อาการดีขึ้น 
ไปหาหมอเรื่อยๆ เพราะมีอาการปวดแป้บๆ เป็นระยะ แต่เดือนมกราคม ๒๕๕๑
อาการกลับมาอีกแล้ว  ปวดมาก  กัดฟัน ขับรถไปโรงพยาบาลเอง
เจอพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชน ที่เพชรบุรี ด่า


พยาบาลคนนึงกำลังซักประวัติเรา


 เธอบอกว่า  "หมอเฉพาะทาง ไม่อยู่ จะมาก็บ่าย ๒
จะรอตรวจไหม  "  ดูนาฬิกา ตอนนั้น ๑๐ โมงเช้า


เรา ว่า " คุณหมอมา บ่าย ๒ ตรงไหมค่ะ
จะได้โทรไปลางาน ได้ถูก เพราะครั้งก่อน ที่เคยมา คุณหมอ บอกจะมา บ่าย ๒ แต่ บ่าย ๓
คุณหมอเพิ่งมา"


พยาบาลคนอีกคน เดินเข้ามานั่ง ดึงข้อมูลเราไปดูเอง
เธอ เปิดดู ข้อมูลการรักษาของเราทันที


เธอพูดแบบไม่มองหน้าเราว่า "
มาตั้งแต่ชาติไหนไม่รู้  เป็นปีแล้ว"
ซึ่งจริงแล้วมันคือ เดือนธันวา ปี ๒๕๕๐ แล้วมารักษาเดือน มการาคม ปี
๒๕๕๑



           เราก็หันไปมองหน้าพยาบาลคนนั้น  
ปวดหลังก็ปวด แต่ปากก็เอ่ย ขึ้นมา


"ทำไมคุณถึงพูดจาแบบนี้ค่ะ"


พยาบาลปากเก่ง อึ้งไปทัน  ด้วยสีผิวที่คล้ำของเธอ
ซีดเผือดลง เหมือนไก่ดำถูกต้มทันที  ไม่คิดว่า ไอ้ที่พูดเมื่อกี้เราจะถามกลับ  "อะ
อะ อะไรนะค่ะ ...." (เธอติดอ่างทันที)


เรา "เมื่อกี้ คุณพูดว่า 
มารักษาตั้งแต่ชาติไหนไม่รู้  ที่ดิชั้นถามเรื่องเวลาหมอจะมาตรวจ เพราะ
ครั้งที่แล้ว  หมอมาช้ามาก ถ้าช้าอีก จะได้โทรไปบอกบอสได้ถูก คนเจ็บป่วยนะค่ะ
ปวดหลังก็ปวด แต่กลับได้ยินคำพูดแบบคนอย่างคุณ แบบนี้ "  


น้ำตาไหลอะ  เพราะปวดหลังมาก
เนื่องจากเราพยายามยืนขึ้น ยิ่งยืดตัวตรง ยิ่งเจ็บมาก ต้องเอนตัวไปข้างหน้าเยอะๆ
เพื่อไม่ให้เอวรับน้ำหนักตัวด้านบนมาก


เธอตัดบท หน้ายังซีดแบบไก่ดำต้มตามเดิม "แล้ว แล้ว
แล้ว  จะรอหมอไหม ไหม ไหม ค่ะ หรือ หรือว่า จะตรวจกับหมอไม่เฉพาะทาง ทาง ทาง เลย
ค่ะ ค่ะ " 


เรา "ไม่ตรวจแล้วค่ะ พูดจาแย่ๆแบบนี้" 



      พอมองคนรอบๆ 
ทุกสายตาก็กำลังจ้องมอง เรา ที่กล้าพูดตอกหน้า นางพยายม  เอ๊ย
นางพยาบาลแล้วเราก็กระดึบๆ  อีกนานกว่าจะถึงที่จอดรถ


       
เราย้ายโรงพยาบาลประกันสังคม จากโรงพยาบาลเอกชน เพชรัตน์เพชรบุรี
เป็นโรงพยาบาลของรัฐ  ซึ่งก็คือ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า ทันที  เงิน ๗๕๐ บาท/เดือน
จ่ายให้โรงพยาบาลรัฐ ยังได้บุญกว่า ไอ้โรงพยาบาล เอกชน สุดเฮงซวย ที่เนี้ย


      กรรมจริงๆ 
โดนพยาบาลด่าแล้วต้องลากสังขาร ต่อไปอีกโรงพยาบาลซะด้วย  ปวดหลัง ทรมานสุดๆ 
ในใจก็คิด เอาน่า  ใช้กรรม


         แผนกจำหน่ายผู้ป่วย
ส่งเราตรวจกับหมอเฉพาะทาง ทันที หมอว่า กระดูกโอเคนะ กดๆ คลำๆ ดู วินิจฉัยว่า
กล้ามเนื้อล่ะมั๊ง  ไปทำไรมาหรือเปล่า เราว่าแค่ก้มตัวเท่านั้นค่ะ   


ซึ่งจริงๆ ก็รู้ว่า
สาเหตุที่หมอหาสาเหตุไม่เจอนั่นเป็นเพราะอะไรอยู่แล้ว


         ช่วงนั้น
อาการบรรเทาลงเรื่อยๆ จนไม่มีอาการปวดหลังอีกแล้ว สวดมนต์ทุกวัน ทำกรรมฐาน
ก็แผ่ให้คุณงูตัวนี้ตลอดจ้า
ตอนนี้ยังนอนบนที่นอนรักษาอาการปวดหลังอยู่เพราะไม่รู้จะเอาที่นอนไปโยนไว้ตรงไหนดี 
ก็เลยวางบนฟูกนั่นล่ะตามเดิม


       ดีใจที่ได้ใช้กรรม
คุณงู รู้ว่าเค้าอาฆาตแค้นเรา แต่เรายอมรับกรรมตรงนี้ มันก็จะได้หมดกรรมกันซะที
ไม่อยากต่อกรรมกะใครแล้ว


           ถ้าไม่ใช้เพราะ ทำกรรมฐาน
คงต้องรับกรรมหนักกว่านี้แน่นอน อ้อลืมบอก อีกอย่าง เมื่อหมอหาสาเหตุไม่เจอว่าทำไมเรามีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง
จนแทบเดินไม่ได้เลย หมอก็จ่ายยา บำรุงปลายประสาทมาให้ เพื่อบำรุง dendrite กะ axon
ที่กระแสประสาทอาจทำงานผิดพลาด   



ปล. โปรดใช้วิจารณาญานในการอ่านนะเจ้าค่ะ 
พึงรู้ได้เฉพาะตน นะค่ะ       อย่าเพิ่งเชื่อ ถ้าคุณยังไม่ได้ลงมือพิสูจน์
อรกว่าจะเชื่อน่ะ  ลองดีกะครูอาจารย์มาตลอด อะไรที่ไม่เชื่อ  จะลองพิสูจน์ดู
พอพิสูจน์ก็ต้องก้มลงกราบ ครูอาจารย์เลย
ว่าทุกอย่างที่ท่านให้เราเรียนรู้และเห็นได้เองเฉพาะตน นั้น เป็นจริง
ตามที่ท่านสอนสั่งทุกประการ












 

Create Date : 17 มกราคม 2553    
Last Update : 17 มกราคม 2553 12:54:49 น.
Counter : 660 Pageviews.  

ผลกรรมที่หนีไม่พ้น ภาค ใช้กรรมคุณกุ้งก้ามกราม

Free TextEditor


    เนื่องจากเคยทำเลวไว้เยอะ ที่บาปหนาก็ อาณาติปาตา นี่ล่ะ
ปัจจุบันที่เกรงกลัวต่อบาปมาก เพราะ เคยเลวมาก่อน ถึงได้เกรงกลัวต่อบาป
วันนึงชีวิตมันถึงขีดสุดแล้ว กรรมส่งผล แต่ด้วยที่อาจจะพอมีบุญ หรืออะไรที่หนุนไว้
เหลืออยู่บ้าง  ซึ่งเห็นหนอ ก็บอกว่า  ที่ได้มีโอกาสทำกรรมฐาน เพราะ


๑. บุญที่สวดมนต์  ทำนอง สรภัญญะ  ทุกวัน
จันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่ ป.๖ ถึง ม.๑   (เข้าประกวดการแข่งขัน ชิงถ้วยพระราชทาน
สมเด็จพระเทพ ฯ ซึ่งก็ได้ที่ ๓ ) 


๒. บุญที่ กตัญญู กตเวที พ่อแม่   เชื่อฟังท่าน
ช่วยงานทุกอย่าง ทำอะไรก็จะต้องพ่อแม่มาก่อน


๓. บุญจากอดีตชาติ ที่ทุกชาติ จะอธิษฐานจิต
ทุกชาติว่า ขอให้ได้อยู่ใต้ร่มโพธิ์ของพระศาสนา และได้ปฏิบัติกรรมฐาน
เพิ่มขึ้นทุกชาติไป



          เมื่อทำกรรมฐาน บุญเกิด
เจ้ากรรมก็มารับคืนทันที เจอวิบากกรมหนักๆ  เป็นปกติของคนทำกรรมฐาน 



             คนทำกรรมฐาน  สร้างบุญปุบ
เจ้ากรรมเอาคืนปับ  (มีหนี้ ไม่มีเงินใช้คืน เจ้าหนี้ไม่มาทวง
เพราะรู้ว่าไม่มีเงินให้  พอมีเงิน เจ้าหนี้รีบมาทวงเงินเลย
เพราะรู้ว่ามีเงินแล้ว)  นี่ล่ะ ทำไมยิ่งทำกรรมฐาน  ยิ่งรู้สึกว่า อุปสรรค
ในชีวิตมันเยอะขึ้นจัง   จึงควรรู้เท่าทัน ตรงนี้ 


              คนไม่ทำกรรมฐาน ไม่สร้างบุญ
เจ้ากรรมไม่มาเอาคืน รอส่งแรงกรรมหนักๆ ครั้งเดียว  ให้ล้มทั้งยืนเลย (บางราย
ต้องตายใช้กรรม  แต่ทำกรรมฐาน ก็ลดแรงกรรม ไม่ให้ถึงตายได้)


              แต่เห็นหนอ ก็รู้ว่า  เศษกรรม
ที่ต้องใช้ ยังไงก็หนีไม่พ้น  แต่ด้วยทำกรรมฐาน ใช้กรรมไปบ้างแล้ว
ทำให้เหลือเศษกรรมที่ต้องใช้เจ้ากรรมนายเวร 



  ภาค  กรรมตัดก้านตากุ้งก้ามกราม


                   กุ้งอายุประมาณ ๔ เดือน
 เนื่องจากต้องทำงานทดลอง เพื่อนร่วมงานอีก ๒ คน ไม่อยากลงมือ
แต่ไม่ทำก็ไม่เสร็จงาน เราเลยเป็นคนเดียวที่ลงมือตัดก้านตากุ้งเอง 
เราเอาเครื่องผ่าตัดมากางออก  เอากรรไกรผ่าตัดนี่ล่ะ
ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ แล้วเอาไปรนไฟ ร้อนจัด ลงมือตัดก้านตากุ้งทันที
ตัวกุ้งสั่นทั้งตัวด้วยความเจ็บปวด  เมื่อโดนความร้อนจากกรรไกร
ตัดลงที่ก้านตาซ้าย
จากนั้นนำไปปล่อยลงเลี้ยงต่อ บางตัวตาย  ถ้าทนความเจ็บปวดได้
บางตัวก็รอด ผลคือ ตัวที่รอดมีหนวดกุ้งงอกขึ้นมาแทนที่ตาซ้าย


                 หลังจากนั้น ๕ ปี
(ซึ่งก็ทำกรรมฐานมาได้ หลายปีแล้ว ) เจ้ากรรมมาทวงหนี้กรรมคืน  จากที่ต้องรับกรรม
"ตาข้างซ้ายต้องบอด" ไปตามที่ทำกรรมไว้กับกุ้งก้ามกราม หลายชีวิต  ด้วยการสร้างบุญ
ทำกรรมฐาน แผ่เมตตาให้กุ้งก้ามกรามทั้งหลาย ทำให้ เศษกรรม ที่ต้องรับ ก็คือ


               
ช่วงนั้นรับดูแลข้อมูลเวบไซด์ภายในของฟาร์ม ใช้คอมพิวเตอร์บ่อยมาก ทุกวัน
เช้าจดเย็น  แต่ไปใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิส เช้าวันนึง เจ็บตาซ้าย
เนื่องจากแสงคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิส ปรับค่าไว้สูงมาก (มาค้นพบสาเหตุภายหลัง)
ทำให้เกิดอาการตาอักเสบ เหมือนมีเข็มมาแทงตา เจ็บยิบๆในดวงตาเลย ทรมานจัง 
แต่แค่นี้ยังไม่สะใจเจ้ากรรมนายเวร


               ก็ไปหาหมอ หมอให้ยาหยอดตามา
ซึ่งมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย
ถึงจะเจ็บตาแบบตาซ้ายใช้งานไม่ได้แต่ด้วยความที่งานเร่งด่วน  บอสก็ส่งไปทำข้อมูลต่อ
อีกฟาร์มนึงที่มีสัญญานดาวเทียม และ ที่สำคัญตาขวาเราสามารถทำงานได้  
(บอสดูเกรงใจเราอยู่ แต่งานมันเร่งอะ)   ก็ทนนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อไป แบบนี้
๓ วันติดๆกัน


                อาการดีวันดีคืน แต่ตาหยอดตาหมด
ก็เลยไปโรงพยาบาลอีก หมอเฉพาะทางไม่อยู่ หมออีกคนเลยจ่ายยาหยอดตามาให้
พร้อมยาป้ายตา  วันต่อมาเกิดอาการ ตาอักเสบรุนแรง ตาซ้ายปิดสนิท มีเยื่อขุ่นๆ
เหนียว ปิดตาซ้าย ลืมตาไม่ได้ น้ำตาไหลตลอดเวลา  ทั่วดวงตาเป็นสีแดง
บอสดูท่าไม่ดีแล้ว ให้พัก ไม่มีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้น  ก็กำหนดเวทนา ปวดหนอ
ไปเรื่อยๆ รู้หนอ ปวดหนอ ก็ระลึกกรรมขึ้นมาได้ นี่มันกรรมที่ ตัดก้านตากุ้ง
ตัดก้านตาซ้าย  ก็เอ่ยแผ่เมตตาออกไปและยอมรับกรรม ที่ต้องใช้คืนอยากเต็มใจ 


               พ่อแม่ และน้องลิง เครียดกันไปหมด
เป็นห่วงเรามาก เพราะไม่สามารถมาดูแลได้   ตอนนั้นน้องลิงติดงานที่สนามบิน
ลามาหาไม่ได้เลย  ข้าวน่ะ ไม่มีคนเอามาให้หรอก  ไหวก็เดินไปกินเอง ไม่ไหวก็อดกิน
นอนซมอยู่บนเตียง มีอาการไข้ขึ้นซ้ำด้วย (กรรมเอ๊ยกรรม)  พ่อแม่ก็ปวดใจมากขึ้น 
เราก็ร้องไห้ทุกครั้งที่คุยกะพ่อแม่   มีโอกาส ตาบอดสูงมาก ถอดใจกันหมด
บอสส่งตัวไปโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (เราร้องขอเอง เพราะเป็นโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญ
ด้านดวงตา)  หมอฉีดสีอะไรไม่รู้ใส่ตาซ้าย  หมอว่า มีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อในตาซ้าย
ประมาณนี้และให้คำมั่นที่ว่า หายแน่นอน  ให้หยุดใช้ยาป้ายตา และยาหยอดตา
ที่หมอโรงพยาบาลเอกชนที่เพชรบุรีให้ใช้ก่อนหน้านี้



               ยาหยอดตาที่เราได้มา ครั้งที่ ๒
เป็นตัวยาคนละตัวกับหมอเฉพาะทางให้เรามา  ทำให้เราเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง  รวมกับ
อาการแพ้ยาป้ายตา  ทำให้ตาซ้ายเกือบบอด


              ไม่นาน อาการก็ดีขึ้น พ่อแม่
สบายใจขึ้น  แต่เศษกรรม ยังจะต้องชดใช้เจ้ากรรมนายเวร  ต่อไปอีกหลายปี 
บางครั้งก็ปวดเบ้าตาซ้าย สุดๆ แบบไม่มีสาเหตุ ปวดจนน้ำตาไหล แต่ก็ ภาวนา ปวดหนอ
ไปเรื่อยๆ  เพราะ รู้ว่าต้องรับกรรมส่วนนี้  ทำให้เราไม่ทุกข์ใจ กลับดีใจลึกๆ
(ถึงจะเจ็บเยอะอยู่อะนะ แหะแหะ) ที่ได้ใช้กรรมไปเรื่อยๆ
เจ้ากรรมนายเวรไม่เอาคืนแบบให้   ตาบอด ไปตามกันก็ดีแค่ไหนแล้ว



ปล. โปรดใช้วิจารณาในการอ่านนะค่ะ  
ต้องรู้ได้เฉพาะตน    ปัตจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญู หิ









 

Create Date : 16 มกราคม 2553    
Last Update : 16 มกราคม 2553 15:07:32 น.
Counter : 1770 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

Aorn_N
Location :
เพชรบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Ciao, io sono Aorn. mi piace il molto scuba diving.

เราอร KU 57 , Fisheries 48 ค่ะ เกิด 1978 ค่ะ จะเรียก พี่ เรียก ป้า ก็ตามใจค่ะ อิอิ

ชอบและ สนใจ เป็นพิเศษ กรรมฐาน ปฏิบัติมาตั้งแต่จนปี ๒๕๔๑ ถึง ปัจจุบัน

กีฬาที่ชอบ ดำน้ำ scuba diving , ขี่ม้า

ภาพยนตร์ในใจ Spirited away ( 2001 Japanese animated film written and directed by Hayao Miyazaki)

นักเขียนที่ประทับใจ S.P. Somtow


แวะทักทายได้ที่ http://hatcheryorn.multiply.com

ตาม link ด้านล่างนะค่ะ
New Comments
Friends' blogs
[Add Aorn_N's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.