space
space
space
space

รักมากขึ้นทุกวัน
13/3/2555

เมื่อคืนเป็นคืนแห่งความสุข ปะป๊ากลับมาจากเหมือง เรานั่งดูหนังด้วยกัน นี่น่าจะเป็นช่วงเวลาหลายเดือนเลยมั้ง ที่เราได้นั่งดูหนังด้วยกันสองต่อสองตอนกลางคืนแบบนี้
ย้อนกลับไปเมื่อตอนก่อนมีลูก หลังจากกลับจากที่ทำงานเราจะนั่งดูหนังด้วยกันเกือบทุกคืน ดูๆไปมะม๊าก็จะหลับคาจอไป ปะป๊าก็จะต้องอุ้มไปที่เตียงทุกที ^^’

ตอนนั้นเราทำงานที่เดียวกัน เรียกว่าตัวแทบจะติดกันตลอด 24 ชม. เลย (ยกเว้นตอนเข้าห้องน้ำนี่แหละ ^^’) ปะป๊าเป็นคนชอบดูหนังมากก มะม๊าเป็นคนแทบไม่เคยดูหนังเลย ปะป๊าเลยต้องมาเป็น trainer แนะนำหนังน่าดูให้กับมะม๊า ปะป๊านอกจากจะชอบสะสมหนังที่มีตั้งแต่ vcd, dvd, bluray จนตอนนี้หันมาสะสม bluray 3D แล้ว ปะป๊ายังชอบเครื่องเสียงเอามากๆ ระยะการตั้งลำโพงต้องเป๊ะ ไม่งั้นเสียงเพี้ยน ^^’

หลังจากมีลูก งานปะป๊าก็หนักขึ้น (จริงๆต้องบอกว่างานก้าวหน้ามากขึ้น แต่ก็เหนื่อยขึ้นด้วย) เรียกว่าตั้งแต่ท้องลูกพอร์ช ปะป๊าก็ได้รับข้อเสนองานที่ดีจริงๆ แต่อย่างที่บอก ปะป๊าต้องทำงานหนักขึ้น นอนดึกขึ้น ต้องไปดูหน้างานตอนกลางคืน บางคืนก็ไม่ได้นอน แรกๆมะม๊าไม่ชินเลย ไม่ชินกับการอยู่คนเดียว ไม่ชินกับการทำอะไรคนเดียว มะม๊าแอบโคตรเหงาเลย โดยเฉพาะตอนนั้นท้องลูกพอร์ชด้วย แต่ก็เริ่มปรับตัวกันมาได้ สงสารปะป๊ามากกว่า ร่างกายล้ามาก กลับมาก็ช่วยมะม๊าดูลูกอีก เลยติดนอนน้อย กลายเป็นคนหลับยากเลย

พอท้องลูกฮาเล่ย์ ปะป๊าก็ได้งานเข้าใหม่มาอีก (ลูกทั้งสองคนนี่ส่งเสริมหน้าที่การงานปะป๊าจริงๆ) แน่นอนงานที่เข้ามา ก็ต้องทำให้ปะป๊าเหนื่อยโฮกขึ้นอีก (จนมะม๊าแอบนอยด์ว่าไม่เอาแล้วความก้าวหน้า หรือเงินทอง มะม๊าแค่ขอซื้อเวลาของปะป๊าให้อยู่ด้วยกันแค่นั้น ได้ไหม) งานนี้ปะป๊าต้องไปที่ตจว.ด้วย ไปๆกลับๆอ่ะนะ ไม่ได้ไปตลอด แต่มะม๊าก็อดใจหายไม่ได้อยู่ดี ตะก่อนงานเยอะ กลับดึก แต่ตื่นเช้ามายังได้เจอกัน คราวนี้ต้องห่างกันทีหลายวันๆ แอบเศร้าไม่ได้อีก T_T ทั้งห่วง กังวล ไม่ชินที่ต้องไกลกัน ห่วงเรื่องการเดินทาง ห่วงเรื่องความปลอดภัย กังวลว่าระยะทางจะทำให้เรารู้สึกห่างกันไหม

เมื่อคืนปะป๊ากลับมาจากเหมือง เราเลยได้นั่งดูหนังด้วยกัน ปะป๊าจับมะม๊าไปนั่งตัก แล้วบอกว่ารักหมวยมากขึ้นทุกวัน แม้เราจะไม่ได้มีเวลาหนุงหนิงกันสองคนเหมือนแต่ก่อน แต่กลับรู้สึกยิ่งรักและผูกพันกันมากขึ้น (ฟังแล้วจาร้องไห้อ่ะ T_T) ก็อยากจะบอกว่าประทับใจ และขอบคุณปะป๊าที่ทำงานหนักเพื่อพวกเรา ขอบคุณปะป๊าที่เป็นทั้งสามีและคุณพ่อที่มีคุณภาพมาก รักเฮียมากขึ้นทุกวันเหมือนกัน..




 

Create Date : 20 มีนาคม 2555   
Last Update : 20 มีนาคม 2555 15:14:26 น.   
Counter : 214 Pageviews.  
space
space
Love does not consist of gazing at each other, but looking outward together in the same direction.
quote นี้เป็น quote ที่ฉันชอบมากๆ "ความรักไม่ใช่แค่การนั่งมองตากัน แต่มันคือการที่เราสองคนมองไปในทิศทางเดียวกัน"

ความโรแม๊นซ์ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก แต่การจะคงความรักนี้ให้อยู่กับเราตลอดไปต้องอาศัยเรื่องของทัศนคติในชีวิตของคนทั้งคู่ เราทั้งคู่ต้องมีมุมมองในการใช้ชีวิตไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อตัดสินใจจับมือเดินไปด้วยกันแล้ว เราจะต้องมองชีวิตคู่ไปทางเดียวกัน ไม่ใช่คนนึงจะไปทางซ้าย อีกคนจะไปทางขวา.. สุดท้ายชีวิตคู่มันก็จะไม่ก้าวไปข้างหน้าซักกะที

และเมื่อเรามีความคิดไปในทางเดียวกันแล้ว การใช้ชีวิตคู่ของเรามันก็จะถูกจูงให้ไปใน direction เดียวกันด้วย แม้ว่าในรายละเอียดของการใช้ชีวิตอาจแตกต่างกันอยู่บ้าง ก็อ่ะนะ.. คนสองคน เติบโตมาในครอบครัวที่แตกต่างกัน มีประสบการณ์ในชีวิตที่แตกต่างกัน การจะให้เหมือนกันเลย 100% คงเป็นไปไม่ได้ การปรับตัวมันก็ย่อมต้องมีอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นการปรับตัวก็ไม่ยากกับทั้งสองฝ่ายจนเกินไป อย่างที่เค้าว่าๆพฤติกรรมเราปรับและเปลี่ยนกันได้ แต่ทัศนคตินี้ยากที่จะเปลี่ยน

สำหรับคู่ของฉัน อะไรที่ฉันเรียกว่า "The same direction" ฉันตอบได้เลยว่า "Family-Oriented" ตั้งแต่ที่เราเริ่มคบกัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันชอบในตัวเค้ามากๆเลยก็คือ การให้ความสำคัญกับครอบครัว ซึ่งสำหรับฉันเอง พื้นฐานของฉันก็เป็นแบบนี้เช่นกัน

อะไรในตัวเค้าที่ฉันชอบ

ฉันชอบที่เค้าเป็นคนให้ความสำคัญกับครอบครัว (เวลามีอะไรเรามักคุยกับครอบครัว มากกว่าคุยกับเพื่อน เวลาส่วนใหญ่เราอยู่กับครอบครัวมากที่จะอยู่กับสังคม)

ฉันชอบที่เค้าเป็นคนมีความกตัญญู (อันนี้ประทับใจสุดๆ ฉันว่าฉันกตัญญูแล้วนะ แต่เห็นเค้าปฎิบัติตัวกับป๊าม๊าแล้ว ฉันชิดซ้ายไปเลย)

ฉันชอบที่เค้าเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงมาก (จนบางทีฉันต้องบอกให้เค้าหัดวางลงบ้าง เค้าแบกทุกอย่างอยู่คนเดียว มันจะหนักเกินไปหรือเปล่า)

ฉันชอบที่เค้าเป็นนักสู้ (แหะๆ อันนี้ที่ฉันแตกต่าง ฉันไม่สู้เล้ย ก็อยากให้ลูกมีเลือดนักสู้เหมือนพ่ออ่ะนะ)

ฉันชอบเค้าเป็นคนไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ (อันนี้ก็แตกต่าง ^^' แต่ฉันชอบเค้าเพราะเค้าเป็นแบบนี้แหละ)

ฉันชอบที่เค้าเป็นคนขยัน (แบบไม่ชอบอยู่เฉยเหมือนกัน ^^ เวลาว่างเราชอบหาตังค์ 555 ชอบคุยกันเรื่องธุรกิจ เวลาไปเดินห้าง แทนที่จะคิดว่าซื้ออะไรดี ก็เป็นว่าเราน่าจะทำอะไรดี จะแตกต่างกันแค่ ธุรกิจที่เค้ามองมันเป็นไซส์ใหญ่ๆ ธุรกิจที่ฉันมองเป็นไซส์มินิ)

ส่วนความต่าง เราก็มี แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันเรียกว่า minor point ในชีวิตที่เราสามารถปรับเปลี่ยนกันได้ เช่น

...ฉันขี้เซา เค้าชอบง้างที่จะไม่นอน...
...ฉันชอบอาบน้ำอุ่น เค้าชอบอาบน้ำเย็น...
...ฉันชอบเพลง Project H เค้าชอบเพลงอำพล...
...ฉันเป็น value investor ^^ เค้าเป็น specculator 555...




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 27 กรกฎาคม 2554 17:00:45 น.   
Counter : 104 Pageviews.  
space
space
มุมมองชีวิตคู่ เมื่อวันที่ฉันมีลูก
รักเท่าเดิม แต่ผูกพันมากขึ้น
เพิ่งจะเข้าใจคำว่า "สายใยแห่งรัก" อย่างลึกซึ้งก็คราวนี้แหละ มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ เราเป็นทีมเดียวกัน..พ่อ..แม่..ลูก.. เหมือนเราสามคนจับมือกันเป็นวงกลม แล้วก็เดินไปด้วยกัน อาจมีสะดุดล้มบ้าง อาจมีเดินเฉไปเฉมาบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะไม่ปล่อยมือออกจากกัน No matter what happens, we will always be FAMILY.


กุ๊กกิ๊กน้อยลง แต่ใส่ใจกันมากขึ้น
อ่ะนะ..ตั้งแต่มีลูก ไอ้ความกุ๊กกิ๊กหวานแหววต่างๆอาจน้อยลงไปบ้าง จะมานั่งสวีทมองตากันนานๆก็ใช่ที่ ไอ้ครั้นจะมานั่งทำการ์ด ทำ presentation บอกรักเหมือนแต่ก่อนก็ไม่มีเวลา กลับมาถึงบ้านเราทั้งคู่ก็รีบปลาดไปเล่นกะลูกละ แม้เรื่องกุ๊กกิ๊กจะลดลงไปบ้าง แต่ความใส่ใจในกันและกันกลับมีมากขึ้น

แค่คำถามที่คอยถามกันอยู่ทุกวันอย่าง "เหนื่อยไหม" "เมื่อคืนนอนพอไหม" "ให้ปะป๊าช่วยอะไรไหม" "เดี๋ยวคืนนี้มะม๊านอน เดี๋ยวปะป๊าดูลูกให้" .. คำถามแสดงความใส่ใจในสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ มันเป็นความอบอุ่นที่เข้ามาแทนที่ มันทำให้เรารู้สึกว่าพอแล้ว เราไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว


หวงน้อยลง แต่ห่วงมากขึ้น
จากความรักแบบเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ มันกลายเป็นความรักแบบไม่มีเงื่อนไขมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นความรู้สึก"ห่วง" ห่วงไปสารพ้ดเรื่อง ทำงานหนัก..ก็ห่วง กลับดึก..ก็ห่วง จนจะกลายเป็นขี้กังวลไปเลย ..>_<.. ส่วนที่หวงน้อยลงนี้ ไม่ใช่มองว่ามีลูกแล้วเราเห็นเค้าเป็นของตาย แต่เป็นเพราะเรามีมุมมองของความรักเปลี่ยนไปต่างหาก แทนที่จะมัวแต่มาคิดแต่เรื่องของตัวเอง ก็มองอีกมุมแบบอยากจะทำทุกอย่างให้เค้ามีความสุข อยากให้เค้ามีสุขภาพที่ดี อยากเราทั้งคู่ อยู่ดูความสำเร็จของลูกด้วยกันไปนานๆ

ที่ความคิดเปลี่ยนไปได้แบบนี้ นอกจากการมีลูกแล้ว ยังต้องให้เครดิตสามีฉันด้วยที่เค้าเสมอต้นเสมอปลาย นับแต่วันที่เป็นแฟนกันจนถึงวันนี้ ไม่มีเปลี่ยน


ขี้น้อยใจเหมือนเดิม แต่หายเร็วขึ้น
นิสัยอันนี้แก้ยากหน่อยมันติดตัวมานาน 555 แต่หายเร็วขึ้น พองอนแล้ว สามารถสลัดความรู้สึกนี้ออกได้เร็วขึ้น


ทิฐิน้อยลง มีเหตุผลมากขึ้น
เมื่อก่อนเนี่ยนะ ฟอร์มจัด งอนกันทีไร แทบไม่เคยยอมไปง้อก่อนเลย เด๋วนี้ก็มีเหตุผลมากขึ้น ครั้งไหนเราผิดก็จะเอาเรื่องลูกเข้าไปเนียนๆคุยด้วย 555 นี่ล่ะถือว่าเราง้อละนะ


คาดหวังน้อยลง ปล่อยวางมากขึ้น
แต่ก่อน พูดอะไรแต่ละที ต้องอ้อมภูเขาเก้าลูก แล้วคาดหวังว่าเค้าจะเข้าใจ พอเค้าไม่ทำให้ก็มานั่งน้อยอกน้อยใจ เด๋วนี้ไม่ต้องแล้ว พูดความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น ไม่ต้องให้เค้ามานั่ง "imply" เอาเองว่า ฉันต้องการอะไร เด๋วนี้อยากได้อะไร อยากให้ทำอะไร พูดกันตรงๆเลย จะได้ไม่เสียเวลาไปดูลูกกัน




 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 20 กรกฎาคม 2554 17:26:16 น.   
Counter : 98 Pageviews.  
space
space
"เรา" vs "ฉันและเธอ"
เค้า..มาจากดาว Fact
ฉัน..มาจากดาว Feeling

คนจากดาว Fact ต้องการ “ข้อสรุป” ไม่ต้องอธิบายเยอะ ยิ่งอธิบายเยอะยิ่งงง
คนจากดาว Feeling ไม่ต้องการแค่ “ข้อสรุป” เราต้องการรู้มีที่มาที่ไปของข้อสรุปนั้น ยิ่งอธิบายเยอะ เราจะยิ่งเข้าใจ

อย่างเรื่องจดทะเบียนสมรส ที่ผ่านมา เราไม่เคยพูดถึงที่มาทีไปของความคิดกันเลย ว่าเราตัดสินใจไม่จดเพราะอะไร ฉันได้แต่เก็บความน้อยใจต่างๆไว้

เพราะสำหรับฉัน (ผู้อยู่ในโลกของเทพนิยาย)
ฉันมองว่า การจดทะเบียนคือการได้เป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์ ทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกมั่นคงว่า คนๆนี้ล่ะที่เค้าเลือกมาเป็นครอบครัวแล้วจริงๆ คือรู้สึกว่าเค้าไม่กั๊กแล้ว ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คำว่า “เลิก” จะไม่ใช่ทางเลือกต้นๆ ของการแก้ไขปัญหาแน่นอน แต่เราจะเลือกประคับประคองกันไปให้ตลอดรอดฝั่ง เพราะหลังจากนี้ไป จะมีแต่คำว่า “เรา” ไม่ใช่ “ฉัน” หรือ “เธอ”

อาจเป็นเพราะฉันเห็นตัวอย่างจากคนในบ้านฉันทุกคนที่แต่งงานไป พ่อแม่ลูกก็นามสกุลเดียวกันหมด เรารู้สึกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ลูกไม่ต้องถามว่า ทำไมแม่นามสกุล ไม่เหมือนพ่อ แต่พออยู่แบบไม่จดทะเบียนแล้ว ฉันก็อดคิดไม่ได้ว่า มันยังมีช่องว่างระหว่างกันอยู่ ดังนั้น ฉันจึงอดรู้สึก “ไม่มั่นคง” ไม่ได้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

ผู้หญิงอ่ะนะ ความภูมิใจที่สุดก็คือการที่ได้ประกาศให้ก้องโลกว่า ฉันกับเธอแต่งงานกันแล้วนะ จะทั้งทางสังคม หรือทางกฎหมาย มันก็ถือว่าเป็นความภูมิใจที่ฝ่ายชายให้เกียรติเรา ดังนั้น สำหรับฉัน การที่ฝ่ายชายชวนฝ่ายหญิงไปจดทะเบียน หรือ ขอแต่งงาน มันถือว่าเป็นสิ่งที่เค้าให้เกียรติเรา


สำหรับเค้า (ผู้อยู่ในโลกแห่งความจริง)
เค้ามองว่า การจดทะเบียน ก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไร ทุกอย่างอยู่ที่ความรู้สึกของคนสองคน ถ้าคนสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ต้องเลิกกันอยู่ดี และด้วยตัวเค้าเองที่เป็นนักธุรกิจ มีความเสี่ยงค่อนข้างเยอะ เลยไม่อยากที่จดทะเบียน เพราะหากชีวิตเค้าเกิดพลาดอะไรขึ้นมา ฉันจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนไปด้วย

ถามว่าเมื่อฉันได้รู้ความคิดเค้าแล้ว ฉันโอเคขึ้นไหม.. ก็ดีขึ้นนะ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า เหตุผลที่เค้าเลือกที่จะทำแบบนี้เพราะเค้าปรารถนาดีกับเรา ต้องขอบคุณที่เราได้คุยกัน ขอบคุณที่ทำให้เข้าใจมุมมองของเค้ามากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม..นิยามคำว่า “ครอบครัว” ของฉันก็ยังไม่เปลี่ยนไปจากที่ฉันคิดอยู่ดี ฉันยังอยากที่จะเป็น “เรา” นั่นคือ จะทุกข์จะสุข จะล้มจะลุกจะคลุกจะคลาน ก็คือคนๆเดียวกัน ต่อให้อาจจะต้องลำบากในอนาคต ต่อให้ต้องยุ่งยากในการเปลี่ยนเอกสารสารพัดอย่าง ต่อให้ต้องเสียประโยชน์ในการคิดภาษีเงินได้ ฉันก็ยังอยากที่จะเป็น"เรา"มากกว่าอยู่ดี

My favorite question is “Why”
Your favorite question is “How”




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2554   
Last Update : 12 กรกฎาคม 2554 13:47:31 น.   
Counter : 92 Pageviews.  
space
space
My Valentine Day 2011


Thank you for my Valentine Day..

Thank you for a happy Valentine Day from you last night..

Thank you for your hug this morning..

Thank you for your proposal..

Thank you for such a surprising flower..

Thank you for what you have done for me..

Thank you for making my day special..

Thank you for being such a GREAT husband..




 

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2554   
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2554 18:51:41 น.   
Counter : 89 Pageviews.  
space
space
1  2  3  

ด้วยรักและผูกพัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]






space
space
[Add ด้วยรักและผูกพัน's blog to your web]
space
space
space
space
space