เฉิ่ม

บัติ (เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา) โชเฟอร์ขับแท็กซี่กะดึก ผู้มีรสนิยมเฉพาะตัว ชอบฟังแต่วิทยุช่อง AM ที่มีละครวิทยุและเพลงเก่า ใส่น้ำมันใส่ผมเรียบแปร้ ชอบอมโบตัน และกินต้มเลือดหมูเจ้าประจำทุกคืน บัติเหมือนมนุษย์ที่หลุด พ.ศ. ยืนยิ้มแปร้ท้าทายโลกปัจจุบัน ที่หมุนไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจ เพราะโลก AM ทำให้เขาหลุดไปอยู่ในโลกแห่งความหวังที่สวยงาม โลกที่ทำดีได้ดี โลกที่ไม่ต้องสนใจยุคสมัย แม้ใครจะมองว่าเขา 'เฉิ่ม'
* จนกระทั่งวันที่บัติได้พบและตกหลุมรัก นวล (วรนุช วงษ์สรรค์) หญิงสาวที่มีอาชีพหมอนวด ชายที่หมกมุ่นอยู่แต่ในโลกแห่งความฝัน กับหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้ายอมรับชีวิตจริง จึงเป็นเสมือนสิ่งที่เติมเต็มให้แก่กัน

ความผูกผันของทั้ง 2 ที่ก่อตัวขึ้น มาพร้อมกับบททดสอบของชีวิต ความปรารถนาดี และโลกแห่งความฝันของบัติ ก็ถูกโลกแห่งความจริงสั่นคลอน จนทั้งคู่ต้องพรากจากกัน สุดท้ายปลายทางของทั้งสอง จะลงเอยอย่างไร...???




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2548    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2548 2:46:19 น.
Counter : 588 Pageviews.  

The Grudge +++เอาเงินกูคืนมา+++

ด้วยความที่นึกว่าThe grudge จะเป็นหนังที่น่ากลัว
ระทึก ตอนแรกก็กะว่าจะไปดูอยู่เหมือนกัน แต่เนื่องด้วยความขี้เกียจเลยปล่อยให้มันลาโรงไปแล้วค่อยเช่าDVDดู ...............
.
.
.
.
.
.
.
แต่แล้วเมื่อวานผมได้ไปเช่าThe grudge DVDด้วยแค่30เอง(แปลกแฮะทำไมถูก)ใจก็ไม่ได้คิดอารัย เช่ามานอนดูเลย ..อ่านtitle ไปเรื่อยๆสะดุดกับคำว่า Juon:The grudge เอ๊ะแปลกๆ...พอดูตัวหนังถึงเข้าใจว่า อ่ะพืโธ่เอ๊ย กูโดนซะแล้ว เพราะThe grudge คือ
Ju-on ภาคHollywood ........เซ็งเลยเนื่องด้วยผมไม่ค่อยชอบไอ้เด็กโตชิโอะเท่าไหร่ ดูแล้วมันรู้สึกท้องโหวงๆแปลกๆ ไอ้เราก็นึกว่าหนังผีทั่วๆไป เฮ้อ........เซ็งเลย30บาท

เนื้อเรื่องของThe grudge ผมขอไม่เอ่ยถึงละกันเพราะคิดว่าเพื่อนๆคงจะดูมาแล้วจากju-on




 

Create Date : 01 เมษายน 2548    
Last Update : 1 เมษายน 2548 21:26:54 น.
Counter : 435 Pageviews.  

บุปผาราตรี เฝส2

*เริ่มด้วยการชมภาคแรกจากดีวีดีผ่านจอขนาดยักษ์ที่บ้านหลังหนึ่งย่าน ...เจริญกรุง ประทับใจยิ่งนัก และเมื่อเห็นตัวอย่างภาคนี้จึงคิดไว้เลยว่าไม่พลาดอย่างแน่นอน ก่อนไปสู้ฟึตซ้อมด้วยการเอาวีซีดีภาคหนึ่งมาเปิดดูย้อนอดีตก่อน (เด๋วจะเหมือนริงสอง เข้าไปแล้วจำไรไม่ได้สักอย่าง )

นับว่าเป็นการปูพื้นของตัวเองที่ดีพอสมควร หนังมีความต่อเนื่องจากภาคหนึ่งค่อนข้างมาก ตัวละคอนประกอบหลายต่อหลายตัวล้วนมาจากภาคหนึ่ง รวมไปถึงเรื่องปลีกย่อยต่างๆที่ยังคงนำมาเล่นต่อในภาคนี้ จะมีก็แต่บุปผาที่ไม่ได้เป็นตัวเอกไปซะแล้ว ความแรงของเธอน้อยลงคงเป็นด้วย ความเฮี้ยนที่วาดลวดลายได้อย่างมันหยดแล้วในภาคก่อน ภาคนี้ออกมาก็เลยไม่สดซะและ

เสียงและภาพที่ตัดไปมายังคงสร้างความน่ากลัวได้เหมือนก่อน
ดาราสมทบ+ดารารับเชิญที่ขนกันมาเพียบก็เรียกเสียง "เฮ" ไปได้ไม่แพ้ภาคที่แล้ว (ภาคต่อๆไปคงต้องมีโต๊ะโจ๊กเต็มซอยแน่เลย )


ยุทธเลิศทำหนังเรื่องนี้ด้วยความดื้อดึงขัดใจคนดูที่ไม่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถมีภาคต่อได้ และยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีต่อจากภาคสองไปอีก ตัวของหญิงสาว บุปผา ไม่สามารถ นำมาขายได้อย่างภาคที่แล้ว ความเฮี้ยนและความสยดสยองน่ากลัวไม่สดซะแล้ว เนื้อหาของภาคนี้จึงเน้นไปที่นักแสดงสมทบที่ยกกันมาอย่างมากมายไม่ว่าจะจากภาคที่แล้ว หรือนำมาเพิ่มใหม่ และนี่ก็คือจุดขายของภาคนี้ มุขตลก จากเหล่าบรรดานักแสดง ไม่ว่าจะเป็นมุขต่อเนื่อง หรือมุขใหม่ ก็ยังคงเรียกเสียงฮาได้ ไม่แพ้ภาคที่แล้ว ที่รู้สึกได้ว่าไม่สนุกเท่าภาคก่อนก็คงจะเป็น ความน่ากลัว ความเฮี้ยน ที่แทบไม่หลงเหลืออยู่ของ "ดอกไม้แห่งรัตติกาล" นั่นเอง




 

Create Date : 25 มีนาคม 2548    
Last Update : 25 มีนาคม 2548 17:36:06 น.
Counter : 430 Pageviews.  

Million Dollar Baby : ชีวิตน็อคเอาท์

เอฟ.เอ็กซ์.ทูล เป็นนักเขียนที่กรำสังเวียนมวยมาอย่างโชกโชนก่อนจะออกหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด Rope Burns: Stories from the Corner ซึ่ง คลินต์ อีสต์วูด นำมาทำเป็นหนังเรื่อง Million Dollar Baby

*ทูลทำตำแหน่งคัตแมนมาหลายปี เขาเล่าว่าหน้าที่ของคัตแมนที่คนทั่วไปทราบคือคนที่คอยปฐมพยาบาลนักชกระหว่างพักยก แต่ความจริงสิ่งที่คัตแมนจะต้องทำเพียงอย่างเดียวและทำให้ได้ดีมากที่สุด ก็คือ การห้ามเลือด

คัตแมนไม่ควรสนใจว่า นักชกจะปางตายแค่ไหน หรือควรจะยุติการชกหรือไม่ คติสำคัญในใจคือการชกจำเป็นต้องดำเนินต่อ คัตแมนเพียงห้ามเลือดให้หยุดไหล เพื่อว่าแพทย์ประจำสนามจะได้ไม่เข้ามายุ่ง และเป็นเหตุให้การแข่งขันเป็นโมฆะ
ทูลไม่เคยห่างหายจากเวทีมวย เป็นเหมือนคนที่เมื่อได้คลุกคลีกับอะไรบางอย่างมากๆ เข้า ก็จะได้เรียนรู้ชีวิตจากสิ่งนั้นไปพร้อมๆ กัน กรณีของทูลกับการต่อยมวยนั้นคงรวบรวมไว้มากทีเดียวในหนังสือของเขา ผมไม่มีโอกาสได้อ่าน แต่แค่ได้ดูจาก Million Dollar Baby นี่ก็นับว่ามากอยู่


อีสต์วูดไม่ได้เป็นคนสนใจโปรเจกต์นี้แต่แรก เขาได้อ่านบทดัดแปลงของ พอล แฮกกิส แล้วก็ชอบ โดยพล็อตแล้วมันเป็นเรื่องที่ติดจะซ้ำซากอยู่สักหน่อย เทรนเนอร์ชราได้มีโอกาสพบกับนักชกหญิงที่มีความมุ่งมั่นจะเป็นแชมป์ให้ได้ โดยที่ฝ่ายแรกปฏิเสธที่จะช่วยสอนมาตลอด จนกระทั่งท้ายสุดก็ยอมใจอ่อน

*สิ่งที่ติดใจอีสต์วูดจริงๆ ไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่แฝงอยู่ในรายละเอียดที่เป็นปูมหลังของ แฟรงกี ดันน์ ชายชราคนนั้นมากกว่า เขาเป็นคนที่ไม่เคยผูกสัมพันธ์ (ที่ดี) กับใคร อยู่ตัวคนเดียวเพราะมีเรื่องกับลูกสาว พยายามสำนึกผิดงอนง้อ แต่ก็ไม่เป็นผล นั่นยิ่งทำให้ชายชราปิดตัวเอง ขยันไปโบสถ์ทุกวันตลอด 23 ปี และเหมารวมความผิดพลาดทุกอย่างมาไว้กับตัวจนหมด
การปรากฏตัวขึ้นของ แมกกี ฟิตซ์เจอรัลด์ (ฮิลารี สแวงค์) ทำให้แฟรงกีอดนึกถึงลูกสาวของตัวเองไม่ได้ กลไกการป้องกันตัวเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ก็ไม่นาน เขารับแมกกีเข้ามาในชีวิต และพระเจ้าก็จะเริ่มสอนบทเรียนขั้นต่อไปให้กับเขา
สแครบ (มอร์แกน ฟรีแมน) เป็นตัวละครอีกตัวที่แฟรงกีเข้าใจไปเองว่า ตนทำให้ชีวิตอีกฝ่ายเลวร้ายไปตลอดชีวิต สแครบเคยเป็นนักมวยหมัดเพชฌฆาต แต่การชกครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่บ้าบิ่นอย่างหนัก สแครบก็ต้องเสียลูกนัยน์ตาไปข้างหนึ่ง ซึ่งแฟรงกีเองถือว่ามันมีน้ำหนักเพียงพอให้เขาจะไม่ล้อเล่นกับความเสี่ยงใดๆ อีก แม้สแครบเองจะบอกว่า ทางออกมันไม่อยู่ตรงนั้น
สแครบเล่าว่า เขาชกมาแล้ว 109 นัด และยังอยากจะมีนัดที่ 110 "ถ้ามันจะมีเรื่องมหัศจรรย์ในสังเวียนมวยละก็ คงเป็นความมหัศจรรย์ของการยอมเสี่ยงหมดหน้าตัก เพื่อความฝันโง่ๆ ที่ไม่มีใครเข้าใจนอกจากตัวคุณเองนั่นแหละ"

แล้วแมกกี เด็กสาวจากบ้านนอกที่มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ทำให้ชีวิตของแฟรงกีวนมายังจุดเดิมอีก เธอเองก็คล้ายๆ กับนักมวยหลายคน ที่ยอมฝึกฝนเพื่อความฝันบางอย่าง แมกกีอาจจะเหนือกว่าตรงที่เธอเสียมามากแล้ว และยอมได้ทุกอย่างอย่างคนที่ไม่มีอะไรจะเสียอีก

Million Dollar Baby พูดถึงการออกมายอมรับความเป็นจริงเป็นประเด็นแรก แล้วก็หักมุมไปพูดถึงเรื่องที่เจ็บปวดกว่า- และแน่นอนว่า ต้องยอมรับให้ได้ แต่โดยรวมๆ แล้วมันไม่ได้หนักแน่นเท่ากับการบอกให้คนดูตระหนักถึงสัจธรรมของชีวิต ที่เอาจริงเอาจังอะไรไม่ได้เลย
บทของแฮกกิส และการกำกับของอีสต์วูด กำหนดให้หนังทั้งเรื่องเล่าโดยสแครบ ในรูปของจดหมายที่เขาเขียนถึงเคธีลูกสาวของแฟรงกี เพื่อบอกทุกอย่างว่าพ่อของเธอเป็นคนชนิดไหน คิดและรู้สึกกับชีวิตเช่นไร มันอาจจะไม่เพื่อการยกโทษหรือให้อภัยโดยตรง แต่คล้ายการรำพึงอยู่กลายๆ ว่า ชีวิตมันก็มืดหม่นอย่างนี้นี่เอง และเมื่อถึงที่สุดมันก็คงจะไม่แย่ไปกว่านี้อีกแล้ว
*เหนือสิ่งอื่นใด Million Dollar Baby คือการแสดงศักยภาพอันมีอยู่อย่างเปี่ยมล้นของคลินต์ อีสต์วูด - ในฐานะนักแสดงและคนทำหนัง การเล่าเรื่องหนักแน่นค่อยเป็นค่อยไป อาการซ้ำซากฟูมฟายแทบไม่มีให้เห็นเลย เป็นมุมมองจากคนที่เข้าใจชีวิตอย่างถ่องแท้

ผมดูหนังเข้าชิงออสการ์ของปีนี้ไปแล้ว 4 เรื่อง (ขาด Sideways ไปเรื่องเดียว) และผมชอบ Million Dollar Baby มากที่สุด






 

Create Date : 19 มีนาคม 2548    
Last Update : 19 มีนาคม 2548 18:13:06 น.
Counter : 731 Pageviews.  

SAW หนังชวนแหวะ ที่ผมชอบ

วันนี้ตอนบ่ายๆไปเช่าDVD กะน้องเล็กที่Tsutaya จริงไมได้ไปเช่าหนังที่Tsutayaนานแล้วเนื่องจากบัตรเดิมมันหายประกอบกับขี้เกียจเดินทาง เลยไปเช่าที่VDO EZY แทน ฤกษ์งามยามดีวันนี้เลยไปทำบัตรใหม่ กะว่าจะดูExocist นึกว่าจะมาแล้ว แต่ผิดคาดยังไม่มา เผอิญสายตาเหลือบไปเห็นหนังเรื่องหนึ่งอยากดูอยู่พอดี นั่นคือ "SAW" หนังสยองปนแหวะ แต่เฮาชอบ...........อิอิ
.
.
.
.
เนื้อเรื่องของหนังกล่าวถึงฆาตกรโรคจิตที่ชอบจับเหยื่อมาเล่นเกมส์ท้าความตาย โดยกติกาของเกมส์นั้นฆาตกรจะเป็นผู้กำหนดเอง ใครพลาดต้องตาย เริ่มเรื่องเดินเนื้อเรื่องตึงๆไปนิด มีผลอยไป2-3นาทีตอนช่วงบทสนทนา แต่หนังมาทวีความหวีดตอนเกือบท้ายเรื่อง เป็นอย่างไรลองไปหาชมเอา











 

Create Date : 17 มีนาคม 2548    
Last Update : 17 มีนาคม 2548 20:20:51 น.
Counter : 515 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

ไข่เหลิม
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไข่เหลิม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.