The Departed : Infernal Affairs ฝั่งHollywood

จะมีสักกี่ครั้งครับที่หนังจากฮ่องกงถูกนายทุนHollywood ซื้อพล๊อตเรื่องไปสร้างในver.ใหม่ 'Infernal Affairs' คือคำตอบนั้นครับ

Warner Bros. บริษัทสร้างหนังยักษ์ใหญ่หยิบ สองคนสองคม (Infernal Affairs) หนังทำเงินของผู้กำกับ แอนดรู เลา มาปัดฝุ่นสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นฮอลลิวูด โดยใช้ชื่อเรื่องว่า The Departed กำหนดฉายราวเดือนสิงหาคมนี้ครับ โดยนำแสดงโดย2ดาราแม่เหล็กอย่าง ลีโอนาโด ดีคาปริโอ และ แม็ท เดม่อนต์



“สองคนสองคม” ฉบับใหม่นี้ ยังคงเค้าเรื่องเดิมตามแบบฮ่องกง ว่าด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างตำรวจมือฉมังที่เข้าไปเป็นสายในแก็งค์มาเฟีย และอันธพาลหัวใสที่เข้าไปแฝงตัวในกรมตำรวจ จากฝีมือการกำกับของ มาร์ติน สกอร์เซซี่ โดยได้ ลิโอนาโด ดิคาปริโอ มารับบทที่ เหลียงเฉาเหว่ย เคยแสดงไว้ ร่วมประชันฝีมือกับ แม็ท เดม่อน จาก The Bourne Identity ที่มารับบทของ หลิวเต๋อหัว




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2549 18:34:11 น.
Counter : 432 Pageviews.  

Brokeback Mountain : ชั้นรักนาย ว่ะ

ฤดูร้อน ปี 1963 - แจ็ก ทวิสต์ (เจค กิลเลนฮาล) และ เอนนิส เดล มาร์ (ฮีธ เลดเจอร์) ได้รับการว่าจ้างให้เป็นคนงานในฟาร์มเลี้ยงแกะแห่งหนึ่ง ใกล้เทือกเขาโบร๊กแบ็กในไวโอมิง จากที่ไม่ไว้ใจกันในตอนแรก ทั้งสองกลับกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว และในเวลาต่อมา ความรู้สึกที่มีต่อกันนั้นก็พัฒนากลายเป็นความรัก

เมื่อฤดูร้อนสิ้นสุดลง ทั้งคู่กลับลงมาจากโบร๊กแบ็ก ต่างคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของตนเอง เอนนิสยังคงปักหลักอยู่ที่ไวโอมิง เขาแต่งงานกับ อัลมา (มิแชล วิลเลียมส์) แฟนสาวที่คบกันมานาน และในเวลาต่อมาก็มีลูกด้วยกัน 2 คน ส่วนแจ็กแต่งงานกับ ลูรีน (แอนน์ แฮธาเวย์) สาวสวยประจำเมือง มีลูกกับเธอคนหนึ่ง และรับผิดชอบดูแลธุรกิจให้กับพ่อตาในเท็กซัส ในระหว่างนั้น แจ็กกับเอนนิสตัดสินใจที่จะไม่พบกัน และไม่เก็บสิ่งที่เกิดขึ้นที่โบร๊กแบ็กมาคิดให้วุ่นวายใจ

จนกระทั่ง 4 ปีผ่านไป จู่ๆ แจ็กก็ส่งจดหมายถึงเอนนิสเพื่อแจ้งข่าวว่า เขาจะเดินทางผ่านมาแถวนั้น และจะแวะมาเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า

อย่างไม่คาดคิด - การพบกันครั้งนี้ ทำให้ทั้งแจ็กและเอนนิสตระหนักว่า แท้ที่จริงอีกฝ่ายสำคัญต่อตนมากแค่ไหน และ 4 ปีที่ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้ทำให้ความรักที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นนั้น เปลี่ยนแปรหรือลดน้อยลงเลย...




ไม่ใช่การกล่าวยกยอเกินจริงนัก หากจะยกให้ อั้งลี หรือ หลี่อัน (Hulk, Ride with the Devil, The Ice Storm, The Wedding Banquet, Sense and Sensibility, Crouching Tiger Hidden Dragon, Eat Drink Man Woman) เป็นคนทำหนังที่มี ‘สถิติดีเยี่ยม’ ที่สุดคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์

อั้งลีทำหนังมากว่า 10 ปี มีผลงานกำกับรวมแล้วเพียง 9 เรื่อง (ยังไม่นับ Chosen ตอนหนึ่งในหนังชุด The Hire ของ BMW ซึ่งเป็นหนังสั้น ความยาวเพียง 6 นาที) ทว่าทุกเรื่อง - นับตั้งแต่ Pushing Hands หนังยาวเรื่องแรก จนถึงล่าสุดคือ Brokeback Mountain - ล้วนได้รับคำวิจารณ์ในเกณฑ์บวกทั้งสิ้น กระทั่ง Hulk ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นหนังที่ด้อยที่สุดของอั้งลี ก็ยังไม่อาจพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า มันเป็น ‘หนังห่วย’

5 ปีก่อน อั้งลีทำให้คนทั้งโลกแห่แหน ให้ความสนใจหนังกำลังภายในยกใหญ่ หลังจากที่ทำ Crouching Tiger, Hidden Dragon ได้งดงามเหนือชั้น เก็บกวดรางวัลจากเวทีการประกวดต่างๆ เสียหลายรายการ มาปีนี้ อั้งลีกระตุ้นเร้าความสนใจของผู้ชมอีกครั้งด้วย Brokeback Mountain



Brokeback Mountain ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันของ อี. แอนนี พรูซ์ (E. Annie Proulx) โดย ไดอานา ออสซานา และคู่หูผู้ร่วมเขียนบทกับ แลร์รี แม็กเมอร์ทรี ที่เคยร่วมมือกันเขียนบทหนังและบทละครมาแล้วหลายชิ้น และเคยได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี 1986 จากนิยาย Lonesome Dove

ดนตรีประกอบของหนัง ก็รับผิดชอบโดย กุสตาโว ซานตาโอลาลลา - ไม่นานมานี้ เราเพิ่งได้เห็นฝีมือการประพันธ์เพลงของเขามาหมาดๆ ใน The Motorcycle Diaries ผลงานกำกับของ วอลเตอร์ ซัลเลซ ที่เล่าถึงชีวิตวัยหนุ่มของ เช เกวารา (ซานตาโอลาลลาได้รับรางวัล BAFTA จากงานชิ้นนี้ด้วย) ส่วนงานดังๆ ของเขาก่อนหน้านี้ก็เช่น Amores Perros และ 21 Grams ซึ่งกำกับโดย อเลฮานโด กอนซาเลซ อินาร์ริตู


ผู้ที่กล่าวเช่นนั้นเชื่อว่า Brokeback Mountain จะเป็นเสมือนการเบิกร่องนำทาง ให้หนังซึ่งเล่าถึงความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมีฐานะเป็น ‘หนังด้อยโอกาส’ ในโลกภาพยนตร์กระแสหลัก ได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก ทำให้ผู้ชมที่เคยนึกรังเกียจเดียดฉันท์ได้ตระหนักว่า หนังประเภทนี้ที่ดีเยี่ยมนั้นมีอยู่เหมือนกัน และผู้ชมใน ‘วงกว้าง’ ก็สามารถซาบซึ้งกับมันได้ ไม่จำกัดเพียงเฉพาะกลุ่ม ‘ชายรักชาย’ หรือ ‘หญิงรักหญิง’ เท่านั้น




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2549 16:36:47 น.
Counter : 619 Pageviews.  

Final Destination 3: Cheating Death



หากคุณชอบดูหนังสยองขวัญที่อุดมไปด้วยฉากแอคชั่นกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีน คงตื่นเต้นที่ได้รู้ว่า Final Destination จะกลับมาสร้างความสะพรึงอีกครั้ง หลังกระตุกขวัญผู้ชมและกวาดรายได้ไปเกือบ 200 ล้านดอลล่าร์ฯ จากภาคแรก และภาคสอง และยิ่งภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายปิดตำนานการโกงความตายด้วยแล้ว สาวก FD คงกลับมาเผชิญความตายกันอย่างพร้อมหน้า


เรื่องราวเกิดขึ้น 6 ปี หลังเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อเวนดี้ (แมรี่ อลิซาเบธ วินสตีด) และเพื่อนๆไปเที่ยวสวนสนุกแห่งหนึ่งและขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา The Devil’s Flight อันเลื่องชื่อ เวนดี้เห็นภาพเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าเธอและเพื่อนๆจะประสบอุบัติเหตุตกรถไฟเหาะ จึงบอกให้ทุกคนลงมาก่อนเหตุร้ายนั้นจะเกิดขึ้นจริง มีเพียง 9 คนที่เชื่อเวนดี้และลงจากเครื่องเล่น ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ยังเล่นต่อไปด้วยความคะนอง และแล้ว...ฝันร้ายก็กลายเป็นจริง เมื่อรถไฟเหาะเกิดอุบัติเหตุตกราง และทุกคนก็กระเด็นออกจากที่นั่งลงมาตายสยอง

การโกงความตายครั้งนี้นำมาซึ่งผลลัพธ์สุดสะพรึง เมื่อเพื่อนๆของเวนดี้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์รถไฟเหาะค่อยๆเสียชีวิตอย่างสยดสยองและลึกลับไปทีละคน ราวกับเป็นการลงโทษจากยมทูต เวนดี้และเควิน (ไรอัน เมอร์ริแมน) หนึ่งในเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรมจึงต้องช่วยกันหาทางเอาชีวิตรอดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป











 

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2549 20:32:48 น.
Counter : 641 Pageviews.  

Munich - มิวนิค



แนวหนัง : แอ็คชั่น - ดราม่า
ผู้กำกับ : Steven Spielberg
ทีมนักแสดง :Eric Bana, Daniel Craig, Geoffrey Rush, Mathieu Kassovitz, Ciaran Hinds
ผู้สร้าง : DreamWorks SKG, Universal Pictures
เรท : R
วันที่เข้าฉาย :9 กุมภาพันธ์ 2006

เปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์สั่นสะเทือนขวัญในปี 1972 ระหว่างมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน ด้วยการที่ผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ บุกเข้าไปจับตัวนักกีฬาชาวอิสราเอล และบรรดาพี่เลี้ยง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักกีฬา พร้อมทั้งจับตัวประกันไว้ 11 คน ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกสังหารในเวลาต่อมา



รัฐบาลของอิสราเอล ไม่คิดจะรอการพิจารณาและสืบสวนตามกฏระเบียบของประชาชาติ แผนการตอบโต้ได้ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยการจัดทีมเพื่อแก้แค้นผู้ที่มีส่วนร่วมกับการกระทำครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่มาของประเด็นที่ถูกถกเถียงกันต่อมาจนถึงปัจจุบัน

ซึ่งหัวหน้าทีมที่ถูกเลือกเข้ามาปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ก็คือ อาฟเนอร์ (Eric Bana) ซึ่งเคยเป็นอดีตบอดี้การ์ดของนกยกรัฐมนตรีของอิสราเอลสำหรับลูกทีมที่เหลือประกอบไปด้วยคนหลายเชื้อชาติ ที่มีความสามารถอันหลากหลาย

คาร์ล (Ciarl Hinds) ผู้คอยจัดการทำความสะอาด ภายหลังภารกิจล้างแค้นที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง
สตีฟ (Daniel Craig) ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธปืน
โรเบิร์ต (Mathieu Kassovitz) นักประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิด
ฮานส์ นักปลอมแปลงเอกสารมือฉมัง เพราะทั้งหมดต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม
และอีฟราอิม (Geoffrey Rush) ผู้ที่เป็นตัวประสาน และคอยจัดแจงทุกๆ อย่างให้



การนำเสนอของ Munich ไม่ได้เป็นการโน้มเอียงเข้าหาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นพิเศษ เพราะแม้ว่าจะเปิดตัวด้วยการกระทำอันโหดเหี้ยมจากการสังหารโหดของปาเลสไตน์ แต่ปฏิบัติการล้างแค้นก็ไม่ใช่ว่ากลุ่มคนที่ถูกตามล่าจะเป็นผู้ร้ายแบบเต็มขั้น และบรรดาหลักฐานที่อาฟเนอร์ได้มานั่น ก็ใช่ว่าจะบ่งบอกว่าคนที่ถูกล้างแค้นนั้นเป็นคนที่มีส่วนร่วมกับการลอบสังหารแบบ 100%

ส่วนที่เด่นสูงสุดของหนัง นอกจากฉากการตามล่าล้างแค้นผู้ที่มีส่วนร่วมในการสังหารโหด ที่มิวนิคแล้ว ซึ่งอาจจะออกมาในแนวที่ไม่ได้เร้าอารมณ์สูงสุดแบบหนังเรื่องก่อนๆ ของ Steven Spielberg แต่เน้นไปที่ความเป็นดราม่าทางการเมือง ที่มีการตอบโต้กันแบบเข้มข้น เกี่ยวกับนโยบายการล้างแค้นของประเทศทั้งสอง ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่มีความเข้มข้น และมีโอกาสเข้าไปเยือนเวทีล่ารางวัลอย่างออสการ์ที่จะมีถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ครับ





 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2549    
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2549 18:33:51 น.
Counter : 397 Pageviews.  

Underworld 2 : Underworld Evolution

เรื่องย่อ :



หลังจากการตายของวิคเตอร์ ผู้นำของพวกแวมไพร์ และลูเซียน หัวหน้าของมนุษย์หมาป่า เซลีน แวมไพร์สาวและไมเคิล คนรักของเธอที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ พบว่าพวกเขาต้องคอยหลบหนีจากพวกแวมไพร์ที่ยังเหลือรอดอยู่ซึ่งโทษว่าเหตุหายนะที่เกิ
ดขึ้นเป็นเพราะพวกเขา เซลีนและไมเคิลถูกตามล่าโดยมาร์คัส แวมไพร์อาวุโสที่ทรงอำนาจมากที่สุด เมื่อเขาฟื้นตื่นขึ้นมาในสภาพของการเป็นลูกผสมที่มีพลังของทั้งสายเลือดแวมไพร์และมนุษย์หมาป่า เซลีนและไมเคิลต้องหาทางหลบหนีโดยการเปิดเผยต้นกำเนิดอันเป็นความลับของตระกูลแวมไพร์และมนุษย์หมาป่า แต่มันกลับนำพวกเขาไปสู่ความขัดแย้งกับสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่น่ากลัวที่มีพลังต้นกำเนิดและบริสุทธิ์ที่สุดของวงศ์ตระกูลเหนือธรรมชาติ



เมื่อความพยาบาทระหว่างแวมไพร์และมนุษย์หมาป่า ขยายตัวไปสู่ระดับใหม่ ภาพยนตร์เรื่อง Underworld: Evolution ก็ขยายตัวไปสู่ระดับใหม่เช่นกัน ด้วยการนำเสนอเรื่องราวการเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง ของพลังกระหายเลือด, ความรักต้องห้าม และการแก้แค้นที่ครอบงำไปทั่ว

ด้วยการเปิดโปงความลับที่ถูกเก็บรักษามาเป็นอย่างดี และความตั้งใจอันแสนทรหดของนักรบแวมไพร์ที่ทรยศพรรคพวก การดิ้นรนต่อสู้ที่กินเวลามานานหลายศตวรรษ ระหว่างนักฆ่าที่แสนโหดร้าย ดำเนินมาจนถึงความดุเดือดรุนแรงระดับใหม่ แต่มันเป็นโลภที่ไม่รู้จักพอในอำนาจ ที่นำไปสู่การเปิดเผยถึงต้นกำเนิดของความอาฆาต ระหว่างแวมไพร์และไลแคน




 

Create Date : 26 มกราคม 2549    
Last Update : 26 มกราคม 2549 19:23:40 น.
Counter : 1157 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

ไข่เหลิม
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไข่เหลิม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.