Total bangkok : คนบ้าบอล

ความสุขของคนเรามันอยู่ตรงไหนวะ

เชื่อเหลือเกินว่าหลายต่อหลายคนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ คงกำลังควานหาคำตอบจากคำถามข้างต้นกันชนิดเอาเป็นเอาตาย และน่าแปลกใจที่คำตอบของคำถามที่ฟังดูเหมือนว่าจะง่ายนี้ หลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตก็ยังหาไม่พบ บางคนเสาะหาจากวัตถุ จากคนรอบข้าง บางคนหนักขั้นถึงขนาดจำใจต้องฝากความสุขทั้งหมดในชีวิตของตนเองไว้กับผู้อื่น ประเภทที่เมื่อใครบางคนที่เคยผ่านเข้ามาเดินจากไปก็สิ้นไร้ความหวัง โลกพังทลายใช้ชีวิตลำพังท่ามกลางอวลละอองของความทุกข์ที่รายล้อม ซึ่งแท้จริงแล้วอณูความทุกข์เหล่านั้นตนเองเป็นคนพ่นมันขึ้นมาทั้งสิ้น

ในขณะที่ผู้คนมากมายกำลังดิ้นรนต่อสู้หาความสุขใส่ตัว ทั้งทำงาน หาเงินมากมาย ทั้งวิ่งไล่หามิตรภาพเปราะบาง เปลี่ยนแปลงตนเอง หยิบหน้ากากมาสวม คว้าเปลือกมาใส่ เพียงเพื่อต้องการให้ความสัมพันธ์มันดี โดยหวังใจว่าความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าจะช่วยเติมเต็มชีวิต รังสรรค์ความสุขให้บังเกิดขึ้นแก่ชีวิต แต่เมื่อกลับไปบ้าน ผู้คนเหล่านั้นก็ถอดชุด โยนหน้ากาก ลอกเปลือกออก ถอนหายใจกับความเหนื่อยล้า กับสิ่งที่ได้มา

ความสุขระยะสั้น ความสุขภาวะพึ่งพิง ทั้งพึ่งพิงวัตถุ พึ่งพิงชื่อเสียง ยศ ลาภ ตลอดจนพึ่งพิงผู้อื่น

บนโลกใบเดียวกัน คนกลุ่มเล็กๆ อีกกลุ่มหนึ่งกำลังกระทำสิ่งที่ตรงข้าม พวกเขารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร รู้ว่าความสุขของตัวเองอยู่ที่ไหน และพวกเขาลงมือทำมัน ให้เกิดขึ้นด้วยตัวเอง

ถ้าการคลั่งไคล้สิ่งใดมากๆ จะกลายเป็นสิ่งที่ถูกตราหน้าจากคนวงนอกว่า คือความบ้าบอไร้สาระ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนกลุ่มนี้ทำก็คงเป็นความบ้าบอไร้สาระที่เต็มตื้นไปด้วยความสุขใจ เสียงด่าทอและสายตาที่มองอย่างประหลาดมิอาจทัดทานเทียบเท่ากับความสุขง่ายๆ แต่ปริมาณมากมายที่พวกเขาได้รับมา

ลูกกลมๆ เสน่ห์แห่งเกมกีฬา มิตรภาพบนสนาม รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หยาดเหงื่อ เส้นหัวใจเต้นระรัว ความมุ่งมั่น ชัยชนะ หกล้ม ความผิดหวัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่บนสนามหญ้าเขียวขจีใหญ่โต สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นบนสนามปูนเล็กๆ ใต้ทางด่วน ไม่มีเหรียญรางวัล ไม่มีโล่ ไม่มีการถ่ายทอดสด หรือเทปบันทึกภาพ ภาพต่างๆที่ปรากฏถูกบันทึกลงในหัวใจของผู้ที่ใช้ชีวิตร่วมอยู่ในวันเวลาขณะนี้ เท่านั้น

Total Bangkok เป็นภาพยนตร์สารคดีสั้น ความยาวประมาณ 22 นาที ไม่มีบท ไม่มีสคริปต์ ฝีมือการผลิตร่วมกันของผู้กำกับที่มีผลงานภาพยนตร์ใหญ่ๆ ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย อย่าง “ เป็นเอก รัตนเรือง” กับนักสร้างภาพยนตร์สารคดี รวมไปถึงเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งนิตยสารแหกคอกชื่อดัง a day “ภาสกร ประมูลวงศ์”และ “สันติ แต้พานิช” ผู้มีส่วนร่วมโดยตรงในประสบการณ์สนามปูนกับเป็นเอก และเคยกำกับภาพยนตร์เรียลลิตี้เรื่องแรกของเมืองไทย อย่าง”เสือร้องไห้”มาแล้ว

ตัวภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวของคนกลุ่มเล็กๆที่ คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลเข้ากระแสเลือด เมื่อโลหิตที่พลุกพล่านฉีดย้ำให้ร่างกายทำตามที่หัวใจต้องการ พื้นที่การแสดงออกที่มีคือ สนามปูนใต้ทางด่วนดินแดง กับช่วงเวลามืดค่ำดึกดื่น ท่ามกลางแสงไฟสปอร์ตไลท์ ห้วงเวลาที่ผู้คนมากมายหลับใหล และอ่อนเพลียจากการวิ่งตามหาความสุขจอมปลอม แต่คนกลุ่มนี้ก็กลับกำลังวิ่งไล่ลูกกลมๆ เพื่อผลิตและเพิ่มพูนความสุขที่แท้จริงของตัวเองอยู่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ด้วยความเป็นภาพยนตร์สารคดีสั้น ที่ไม่มีบท จุดเด่นจึงอยู่ที่ความสด ในบทสนทนาที่ลื่นไหล ความต่อเนื่องเกิดจากการที่ผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์เป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกัน และมีความรู้จักสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง จึงทำให้บทสนทนาธรรมดากลายเป็นเสียงประสานขานรับกันของครอบครัวที่ส่งผ่านกระแสสุขให้แทรกซึมสู่กระแสเลือดของคนดูที่เป็นผู้สังเกตการณ์อย่างพวกเราได้อย่างกลมกล่อมละมุนละไม
เสียงบรรยายของเป็นเอกคือสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์ การนำพาผู้ชมให้เข้าสู่โลกที่เขายังไม่เคยเข้าไปสัมผัสในทำนองเชิญชวน และบทสรุปที่ไม่ได้ต้องการให้ใครมาจ่อมจมอยู่ในโลกใบเดียวกัน เพราะทุกคนก็ต่างมีโลกดังกล่าวด้วยกันทุกคน ถือเป็นการตอกย้ำความชัดเจนในเจตนารมณ์ของผู้สร้างได้เป็นอย่างดี

ภาพยนตร์สารคดีสั้นเรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอเรื่องราวที่แปลกใหม่อะไรเลย สิ่งที่ผู้สร้างต้องการจะบอกเป็นสิ่งเดียวกันกับคำบอกกล่าวซ้ำซากที่พวกเราได้ฟังกันมาหลายครั้งหลายหนแล้ว ตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระเจ้าของศาสนาต่างๆ ศาสดา นักบวชของศาสนานั้นๆ นักปราชญ์ ผู้บริหารบ้านเมือง นักธุรกิจ ตลอดจนพ่อค้า แม่ขายคนเดินดินต่าง ก็เคยบอกกล่าวกับเราถึงสิ่งนี้มาตลอด
ความสุขที่หลายต่อหลายคนควาญหา แลกด้วยหยาดเหงื่อ คราบน้ำตา ความกลัว ท้อแท้สิ้นหวัง เดินทางเสาะหาเป็นหมื่นลี้พันไมล์ แล้วก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เสียทีว่าความสุขของตัวเองอยู่ที่ใด

เชื่อเหลือเกินว่าการนำคำบอกเล่าเดิมๆ มาย้ำเตือนใหม่ของเป็นเอกและเพื่อนนี้ น่าจะทำให้ใครต่อหลายคนที่กำลังวิ่งวนไล่งับหางตัวเองอยู่ เหลียวกลับมามองกลุ่มนักฟุตบอลผู้มีความสุขล้นหลามใต้ทางด่วน คนกลุ่มที่ไม่ได้มีเงินทองมากกว่าพวกเรา คนกลุ่มที่ไม่ได้มีชีวิตที่เหนือไปกว่าพวกเราในด้านของการดำรงอยู่ คนธรรมดาๆที่เราเดินสวนกันตามป้ายรถเมล์ แต่คนกลุ่มเล็กๆเหล่านี้กลับล่วงรู้ความลับที่เสมือนเส้นผมบังภูเขาจากการไม่ฝืนธรรมชาติของตนเอง ความลับของความสุข สิ่งที่หลายต่อหลายคนอยากได้



นับตั้งแต่เครดิตสุดท้ายเลื่อนผ่านไป คงจะมีคนจำนวนเพิ่มขึ้นที่รู้ซึ้งถึงการเดินตามหาความสุขที่พวกเราหลงลืมและจงใจละทิ้งธรรมชาติของตนเองไปว่าคืออะไร ต่อไปนี้ถ้ามีใครถามหาถึงความสุข ว่าแท้จริงแล้วมันอยู่ที่ไหนกับผลผลิตจำนวนหนึ่งที่เดินเข้าไปใช้เวลา 22 นาทีกับภาพยนตร์เรื่องนี้ หลายคนคงจะยิ้มและตอบกลับไปได้อย่างง่ายดายว่า “ที่นี่ เดี๋ยวนี้”

หมายเหตุ : ภาพยนตร์สารคดีสั้นเรื่อง Total Bangkok จะเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ลิโด 2 ก่อนภาพยนตร์เรื่อง Driving Lessons ฉาย ตั้งแต่วันที่ 14 – 27 ธันวาคมนี้




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2549    
Last Update : 26 ธันวาคม 2549 3:34:30 น.
Counter : 570 Pageviews.  

james bond OO7 : Q ไม่มีคุณไม่มีBond

Q ถือเป็นตัวละครสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะปรากฎตัวในเจมส์ บอนด์แทบจะทุกตอน Q มีชื่อจริงว่า Major Boothroyd แต่เนื่องจากที่เขาทำงานเป็นหัวหน้าแผนก Q หรือ Q-Branch คนทั่วไปส่วนใหญ่เลยมักจะเรียกเขาว่า Q มากกว่าที่จะเรียกชื่อจริงของเขา

ในแผนก Q จะมีหน้าที่ในการคิดค้นและประดิษฐ์อุปกรณ์ภาคสนามทุกชนิดให้กับสายลับทุกๆคน โดยสิ่งประดิษฐ์จะมีตั้งแต่อุปกรณ์ส่งสัญญาณไปจนถึงวัตถุระเบิดที่สามารถพกพาได้สะดวกรวมถึงมีการปกปิดและแอบซ่อนไปในที่ต่างๆได้ดี นอกจากนั้นในแผนก Q นี้ยังทำหน้าที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารกับสายลับที่ออกปฏิบัติการนอกสถานที่และการต่อเติมอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในรถยนต์ของสายลับและยังรวมถึงช่วยในการตรวจพิสูจน์หลักฐานและการระบุผู้ต้องสงสัยโดยใช้เทคโนโลยีที่ล้ำยุคด้วย

โดยปกติ Q เองจะไม่ค่อยชอบเจมส์ บอนด์ซักเท่าไรเพราะด้วยความที่บอนด์ไม่เคยรักษาอุปกรณ์ที่ยืมจากคิวเลยได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียวและนิสัยส่วนตัวที่คิวคิดว่าบอนด์ดูจะไม่เคยโตสำหรับงานสายลับแบบนี้
แต่ลึกๆแล้ว คิวเองก็ภูมิใจกับอุปกรณ์ที่เขาคิดค้นขึ้นเพื่อคอยช่วยเหลือเจมส์ บอนด์ในเหตุการณ์ต่างๆและยังคอยเป็นห่วงเจมส์ บอนดืทุกครั้ง ถึงแม้ว่าเวลาเจอกันที่ห้องแล็บเวลาบอนดืไปเอาอุปกรณ์ทีไรจะต้องมีการเถียงกันทุกครั้งจนหลายๆครั้งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นอีกเสน่ห์หนึ่งของหนังเรื่องนี้

ผู้ที่เคยมาแสดงในบท Q นี้มีด้วยกันถึง 3 คน ซึ่งต้องบอกได้ว่าทั้ง 3 คนสามารถแสดงได้เหมือนกับ Q ตามนวนิยายที่เอียน เฟลมมิ่งได้เขียนไว้ที่ลักษณะนิสัยของคิวจะออกแนวทำงานตามหน้าที่มากกว่าตามสัญชาตญาณและจะเป็นคนที่ภูมิใจกับสิ่งประดิษฐ์ของตนเองเป็นอย่างมาก ผู้ที่เคยนำแสดงในบท Q ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีดังนี้

1. Peter Burton



Peter Burton นำแสดงเป็น Q ในเจมส์ บอนด์เพียงตอนเดียวคือ Dr.NO แต่สิ่งที่เขานำมาให้เจมส์ บอนด์นั้นมีความสำคัญต่อเจมส์ บอนด์ในอีกหลายๆภาค ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ ปืน Walther PPk ซึ่งกลายมาเป็นปืนประจำตัวของเจมส์ บอนด์ต่อมาอีกหลายๆภาค โดยมาเปลี่ยนอีกทีในตอน The World Is Not Enough ที่เจมส์ บอนด์ที่นำแสดงดดยเพียซ บรอสแนน ได้เปลี่ยนมาใช้ปืน Walther P99 แทน

2. Desmond Llewelyn



Desmond Llewelyn เริ่มแสดงเป็นคิวตั้งแต่เจมส์ บอนด์ตอน From Russia With Love ไปจนถึงเจมส์ บอนด์ตอน The World Is Not Enough รวมทั้งสิ้น 17 ตอน และเป็นคนที่แสดงเป็น Q มากที่สุดซึ่งทำให้เขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเจมส์ บอนด์ไปโดยปริยาย มีเพียงตอนเดียวเท่านั้นที่เขาหายไปคือตอน Live and Let Die แต่ก็มีการฝากของมากับมันนีเพนนี อย่างไรก็ตามแม้ว่าปัจจุบันนี้ Desmond Llewelyn จะเสียชีวิตไปแล้วแต่สิ่งที่เคยได้ทำมาในเจมส์ บอนด์ 17 ตอนยังคงอยู่กับแฟนๆเจมส์ บอนด์ทั่วโลกและเขาก็ได้กลายเป็นบุคคลสำคัญคนนึงของวงการเจมส์ บอนด์

3. John Cleese



John Cleese ดาราตลกผู้ยิ่งใหญ่ได้มารับบทเป็นผู้ช่วยของ Q ที่ชื่อ R ในเจมส์ บอนด์ตอน The World Is Not Enough และได้กลายมาเป็น Q ในตอน Die Another Day เมื่อ Desmond Llewelyn เสียชีวิตลง แต่บทที่ John Cleese ก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากคิวคนเดิมซักเท่าไรและยังคงให้เกียรติคิวคนก่อนๆโดยการกล่าวถึงคิวคนก่อนๆด้วย






 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2549 9:21:41 น.
Counter : 790 Pageviews.  

อั้งลี่เป็นคนไทย, ทุกคนเคยรู้หรือเปล่าครับ

วันประกาศผลรางวัลออสการ์ผมไปกินข้าวแถวสยามติดกับถนนอังรีดูนังต์
ขณะที่เพิ่งทราบว่า อั้งลี่ เป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม
อาม่าเจ้าของร้านสุกี้ที่ผมนั่งทานอยู่บอกว่า
อาม่า : ลื้อรู้ไหม อาเฮียคนนี้แต่ก่อนบ้านอีอยู่แถวนี้แหละ
ผม : จริงเหรอครับอาม่า
ผมถามอย่างไม่ค่อยเชื่อใจ
อาม่า : จริงสิ แต่ก่อนอีเรียนอยู่เตรียมอุดม เวลาอีโดดเรียนมาดูหนังแถวสยาม อียังมาหลบแถวร้านอาม่าบ่อย ๆ
ผม : แล้วเรื่องเป็นไงต่อครับอาม่า
อาม่า : อั้วก็อยากเล่านะ แต่วันนี้ติ่มซัมขายไม่ค่อยออกเลย
และแล้ว ขนมจีบหมู กับซาลาเปาก็วางอยู่ที่โต๊ะผม 2 เข่ง
อาม่า : อาอั้งลี่ อีเป็นเด็กซุกซนนา อีชอบปีนรั้วโรงเรียนออกมาดูหนัง เวลาอีเจออาจารย์ออกมาเดินตรวจ
อีก็จะวิ่งมาหลบแถวหน้าร้านอาม่าสมัยนั้นอีดูหมดเลยนะหนังไทย จีน ฝรั่ง อีจะมาหลบเดินแถวถนนหน้าร้านประจำ
พอหิวอีก็จะมากินกาแฟเขาช่องที่ร้านอั๊ว
ผมมองไปเห็นโลโก้กาแฟเขาช่องแล้วนึกในใจ นี่อาจเป็นที่มาของ BrokebackMountain ก็ได้
อาม่า : สมัยนั้นถนนเส้นนี้ข้างทางยังเป็นหญ้าเขียวขจี อีวิ่งหลบอาจารย์ไปดูหนัง เหมือนจอมยุทธ์ไล่ล่ากัน
ฉากนี้มัน Crouching Tiger, Hidden Dragon
อาม่ายังบอกต่อ
อาม่า : อีวิ่งเร็ว อาจารย์วิ่งตามไม่ทัน นั่งหอบหน้าเขียวบ่อย ๆ
คล้าย ๆ The Incredible Hulk แฮะ
ผม : อาม่าครับ บอกตามตรงผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่อาม่าเล่ามาหรอก อ่านประวัติแกแล้ว ไม่เห็นแกเคยบอกว่าตอนเด็ก ๆ อยู่เมืองไทย
อาม่า : อั๊วมีหลักฐาน!!!!
ผม : ผมขอดูหน่อยได้ไหมครับอาม่า
อาม่า : สั่งเป็ดย่างไหมล่ะ
เป็ดย่างหอมฉุยมาเสริฟทันที
ผม : ไหนละครับหลักฐาน
อาม่าชี้ไปที่ป้ายชื่อถนน....!!!
อาม่า : สมัยนั้นชาวบ้านเห็นอีมาแอบดูหนังแถวถนนเส้นนี้บ่อย ๆ ชาวบ้านเลยเรียกถนนเส้นนี้ว่า ถนนอั้งลี่ดูหนัง ... ปัจจุบันเพี้ยนเป็น
อังรีดูนังต์.....
อยากชวนอาม่าไปเล่นเรื่อง อาม่าเอดม้อน จัง.....
วันทำลายล้าง อาม่า .....




 

Create Date : 13 กันยายน 2549    
Last Update : 13 กันยายน 2549 1:24:39 น.
Counter : 314 Pageviews.  

Scary Movie4








 

Create Date : 06 เมษายน 2549    
Last Update : 6 เมษายน 2549 1:36:25 น.
Counter : 388 Pageviews.  

จาก เคาบอยเกย์ที่Brokeback สู่ พลทหารหัดใหม่ที่อ่าวเปอร์เซีย : Jarhead

ฤดูร้อน ปี 1990 แอนโธนี่ สวอฟฟอร์ด (รับบทโดย เจค จิลเลนฮาล) ทหารเกณฑ์รุ่นที่สามวัย 20 ปี ถูกส่งตัวไปยังทะเลทรายซาอุดิอาระเบีย เพื่อร่วมรบในสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก

ในปี 2003 ความทรงจำของเขาถึงช่วงเวลานั้น ณ สถานที่นั้น ได้กลายมาเป็นหนังสือเบสต์เซลเลอร์เรื่อง Jarhead สวอฟฟอร์ดเขียนเรื่องราวอย่างใกล้ชิด ตรงไปตรงมา และมีอารมณ์ขัน ซึ่งจะได้มาก็จากคนที่เคยผ่านประสบการณ์นั้น มาด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งก็คือบรรดาทหารหนุ่มที่ถูกฝึกมาเพื่อออกรบ และต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่แสนหงุดหงิด ของการต้องรอให้สงครามของพวกเขาเริ่มต้น..

หนังสือของสวอฟฟอร์ด ติดอันดับหนังสือเบสต์เซลเลอร์ของ The New York Times นานเก้าอาทิตย์ และได้รับการยกย่องว่าเป็น “หนังสือคลาสสิก เป็นความทรงจำถึงสงครามอ่าวเปอร์เซียปี 1991 ซึ่งเป็นที่นิยมเหมือนหนังสือดีๆ หลายเล่มที่เขียนถึงชีวิตในกองทัพ ซึ่งเป็นเส้นทางชีวิตอันโลดโผน ที่ชายหนุ่มหลายล้านคนคุ้นเคย แต่แทบไม่เคยถูกเปิดเผย”

มิชิโกะ กากุทานิ แห่ง Times กล่าวไว้ว่า Jarhead คือ “เสียงอันคิดคำนึงซึ่งเข้าถึงทั้งความเป็นชายชาตรีของสังคมทหารเกณฑ์และความโดดเดี่ยวของการต่อสู้ เขาทำให้เราเข้าใจ ถึงศิลปะอันน่าหวั่นเกรง ที่พลแม่นปืนต้องฝึกฝน... เป็นท่วงทำนองแห่งความน่าเบื่อ และความสยดสยองของการเตรียมพร้อมเพื่อโจมตีศัตรู และราคาค่างวดของสงคราม ทั้งทางร่างกายและจิตใจ และความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างทหารด้วยกัน”

นี่คือเรื่องราวที่ไม่เคลือบแฝง ที่บอกเล่าโดยตรงจากปากของเด็กหนุ่มวัย 20 ปี ผู้บอกเล่าถึงสงคราม ที่แตกต่างไปจากสงครามที่หนังสือพิมพ์นำเสนอ หรือที่ออกอากาศทางทีวี นี่คือสงครามจากภาคพื้นที่มาพร้อมภาพของบ่อน้ำมันที่ลุกเป็นไฟ ซึ่งส่งควันดำสู่ท้องฟ้ายามราตรี เหมือนดาวหางที่ตกลงสู่โลกเหนือยอดเขา สงครามอาจเริ่มต้น ชายหนุ่มหลายคนอาจล้มลงกลางภูมิประเทศที่โหดร้าย ผู้มองหาความเพลิดเพลินในเกมส์อเมริกันฟุตบอล สวมหน้ากากกันแก๊สพิษ เฝ้าคอยจดหมายและหนังสือโป๊ พนันขันต่อกับเกมส์กัดแมงป่อง และเมาหัวราน้ำเพื่อฉลองคริสต์มาสที่ห่างไกลจากครอบครัว แต่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายเหมือนนรก บังเกิดเป็นมิตรภาพ ความจงรัก และความไว้วางใจในแบบ “ถ้าไม่ทำก็ตาย”

เจค จิลเลนฮาล (Brokeback Mountain, The Day After Tomorrow) นำทีมนักแสดงที่ยอดเยี่ยม และคว้าบทนำเป็นโทนี่ 'สวอฟฟ์' สวอฟฟอร์ด ผู้เปลี่ยนจากทหารเกณฑ์รุ่นที่ 3 ของตระกูล ด้วยวิสัยทัศน์ต่อความหาญกล้า เพื่อก้าวสู่การเป็นทหารผู้มีประสบการณ์




 

Create Date : 28 มีนาคม 2549    
Last Update : 28 มีนาคม 2549 5:36:24 น.
Counter : 618 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

ไข่เหลิม
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไข่เหลิม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.