โรงภาพยนต์ นครหลวงรามา
พอดีไปแถวบ้านเพื่อนโหน่งในวันฝนฉ่ำจำได้ว่ามีโรงภาพยนต์เก่าทิ้งร้างอยู่เลยแวะเข้าไปกดชัตเตอร์เล่นซะหน่อยตามประสาคนติดบลอก.555โรงภาพยนต์นครหลวงรามานั้นตั้งอยู่ด้านหลังตลาดนครหลวง ซอยจรัลสนิทวงศ์ 29/1 ใกล้ๆกับซอยบุปผาสวรรค์(ซอยจรัลสนิทวงศ์27)ที่เคยเป็นแหล่งรวมของดนตรีลูกทุ่งเมื่อนานโขมาแล้วสภาพและบรรยากาศปัจจุบันของนครหลวงรามาก็เป็นอย่างที่เห็นในรูป โดยเฉพาะในฤดูฝนนี่สุดจะวังเวงหดหู่อย่าบอกใคร(เฉพาะในรูปถ่ายเท่านั้นนะ) ผ่านมาคราวก่อนเห็นมีคณะลิเกมาตั้งแสดงอยู่ใต้โรงหนังแต่ไม่ได้พกกล้องไป วันที่ไปนี้รู้สึกได้ว่านครหลวงรามาสะอาดผิดปกติอาจจะมีโครงการรื้อฟื้นปลุกผีโรงหนังแห่งนี้ หรือว่าจะทุบทิ้งทำอย่างอื่นอันนี้ก็ไม่ทราบได้เท่าที่ค้นหาข้อมูลของโรงหนังนครหลวงรามาในwikipediaนั้นได้มาแค่ว่ามี คุณสุชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์และเจ้าของค่ายมวย "นครหลวงโปรโมชั่น" เป็นเจ้าของ ส่วนสร้างเมื่อไหร่หรือมีเหตุการณ์อะไรในอดีตเช่น "ภาพยนต์เรื่องแรกที่ฉายที่นี่"นั้นก็ไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้ รูปที่สองนี่เป็นโถงที่จองตั๋วหนังมีบันไดขึ้นสองข้างการตกแต่งรวมถึงสไตล์ของตัวอาคารได้อารมณ์Retroพอสมควรเห็นเค้าว่าเมื่อก่อนที่ยังฉายหนังอยู่นั้นนครหลวงรามาใช้ระบบระบายอากาศแบบพัดลมเหล็กตั้งพื้น แถมกลิ่นสะใจคอหนังจริงๆรวมไปถึงอาจจะมีแมวไล่จับหนูในโรงหนังให้ตื่นเต้นบ้างเป็นครั้งคราว..555ตอนแรกว่าจะเดินเข้าไปถ่ายในตัวอาคารให้มากกว่านี้แต่คุ้นๆว่าเคยมีข่าว"เล็ก นครหลวง"โดนจับโยนจากดาดฟ้าโรงหนังตกมาตาย เลยตัดสินใจว่าเอาไว้ก่อนดีกว่า..55 ก็เลยได้มาเท่าที่เห็นอ่ะจ๊ะส่วนซอยบุปผาสวรรค์ ก็ไม่มีอะไรหลงเหลือนอกจากเศษซากอารยธรรมกับศิลปะกราฟิตี้บนซากอาคารซึ่งก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบดูหลายๆมุมกับโรงภาพยนต์นครหลวงรามาในวันฝนฉ่ำละกัน
Samut Sakhon : สมุทรสาคร
นั่งรถไฟไปถ่ายรูปเล่นที่ท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาครอยู่ดีๆเพื่อนโหน่งชวนนั่งรถไฟไปสมุทรสาครเพื่อไปถ่ายรูปเล่นกันโดยชวนไปขึ้นรถไฟจากสถานีวงเวียนใหญ่ไปลงสถานีปลายทางที่มหาชัยจังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ปากแม่น้ำท่าจีนหรือใกล้ๆกับปากอ่าวไทย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการไปลอยอังคารกันบ่อยๆ ค่าเรือประมาณ 1,500 บาท ก็หาได้ไม่ยากนักสำหรับเรือที่จะพาไปที่ปากอ่าว (ตัวเองเคยไปมา 2 ครั้งแล้วก็ได้เรือลำเดิมทั้ง 2 ครั้ง) โดยเดินไปตรงที่จอดรถแล้วลองสอบถามคนแถวนั้นก็ได้ครับจริงๆแล้วการเดินทางไปจังหวัดสมุทรสาครในปัจจุบันนั้นไม่ได้ยากเย็นอะไรนักโดยเฉพาะทางรถยนต์ แต่คราวนี้เพื่อนโหน่งเกิดไอเดียบรรเจิดชวนนั่งรถไฟไปแทน ค่าโดยสารนั้นก็ถูกมากๆ แต่ที่แถมมากับการโดยสารรถไฟไทยอย่างสม่ำเสมอต้นเสมอปลายก็คือ ความร้อน ความไม่สะดวกสบายและความล่าช้า กว่าจะถึงก็เล่นเอาอารมณ์ศิลปินกระเจิดกระเจิงไปตามๆกัน..55ไอ้เราก็ลืมไปว่าการเดินทางโดยรถไฟในประเทศนี้เป็นยังไง ก็เลยถือโอกาศรื้อฟื้นบรรยากาศสมัยนั่งรถไฟไปเรียนมหาลัยแทนซะงั้นส่วนที่กะเอาไว้ว่าจะเก็บภาพถ่ายระหว่างเดินทางนั้นก็ถ่ายมาได้แค่ที่สถานีวงเวียนใหญ่..55 ส่วนข้างล่างนี่เป็นลิงก์จาก Google Maps แสดงสถานีปลายทางซึ่งเดินออกมาหน่อยก็จะเจอตลาดมหาชัยและท่าเรือข้ามไปท่าฉลอมครับดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น หลังจากมาถึงสถานีรถไฟมหาชัยก็เดินไปตลาดหาอะไรกินเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปที่ท่าเรือข้ามฟาก โดยเป้าหมายจะไปข้ามไปท่าฉลอมตามที่มือของเพื่อนโหน่งชี้ไปน่ะเองท่าเรือข้ามฟากก็จะอยู่ตรงหอนาฬิกาที่มีร้านอาหารใหญ่ๆอยู่น่ะครับ นึกถึงเนื้อเพลง"ท่าฉลอม" ขึ้นมาที่ว่า พี่อยู่ไกลถึงท่าฉลอม...พี่มอบชีวิตอุทิศให้สาวมหาชัย แบกความรัก ข้ามทะเลมาให้ ฝ่าลมและคลื่นเท่าไหร่ รักจึงได้ว่ายน้ำข้ามมา จากที่นั่งเรือข้ามฟากมันก็ไม่เห็นจะไกลเลยนี่นะ อยากเห็นจังว่าสมัยก่อนนี่สภาพความเป็นอยู่ที่นี่เป็นยังงัย (ตอนนี้มีแต่เรือเดินสมุทรจอดเต็มไปหมด) เมื่อข้ามไปก็เดินไปเจอกับสถานีรถไฟบ้านแหลมเข้า ดูจากสภาพแล้วน่าจะยกเลิกไปแล้วรึยังไงก็ไม่ทราบ แต่ก็ไม่แน่เพราะรถไฟไทยชอบอนุรักษ์อะไรเก่าๆ55 ก็เลยไม่ต้องไปไหนกันละ เดินถ่ายเศษซากอารยะธรรมกันที่สถานีบ้านแหลมนี่ละกัน ใครมีกล้อง LOMO น่าจะลองมาถ่ายรูปที่นี่เล่นดูนะครับได้อารมณ์ไปอีกแบบ สภาพทั่วๆไปแทบจะเทียบกับฝั่งมหาชัยไม่ได้เลย ลองค้นหาข้อมูลจากวิกิพีเดีย ได้ความว่า "สถานีรถไฟบ้านแหลม เป็นสถานีรถไฟระดับ 4 ของทางรถไฟสายแม่กลอง เป็นสถานีต้นของเส้นทางช่วงบ้านแหลม-แม่กลอง ตั้งอยู่ถนนถวาย ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร" ประมาณนั้น อันที่จริงBlogนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แค่อยากจะลองจัดหน้าBlogดูว่าจะออกมาเป็นยังไง ซึ่งโค้ดในหน้านี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิศดารใช้โค้ดง่ายๆกับการกำหนดขนาดของรูปและเลือกให้รูปอยู่ด้านซ้ายหรือขวาแค่นั้นเองยกตัวอย่างของโค้ดตั้งรูปมือที่ชี้จนมาถึงตรงนี้ก็ประมาณนี้<*a href="URLของLinkรูปแรก"><*img src="URLของรูป" width='150' height='113' border=0 class=bd align="left" hspace="3 vspace="3"><*/a> ข้อความ <*a href="URLของLinkรูปใหญ่รูปกลาง"><*img src="URLของรูป" width='250' height='188' border=0 class=bd align="right" hspace="3" vspace="3"><*/a>ข้อความ<*a href="URLของLinkรูปสุดท้าย"><*img src="URLของรูป" width='150' height='133' border=0 class=bd align="left" hspace="3" vspace="3"><*/a> ข้อความโค้ดตรงนี้ทดลองปรับเองจากโค้ดพื้นฐานก็คงไม่น่าจะใช้ยากอะไร (ขนาดงงๆอย่างผมยังใช้ได้ก็ไม่คงมีอะไรยากแล้วมั้ง..555)ที่เหลือมาดูอารยะธรรมเก่าแก่ของสถานีรถไฟบ้านแหลมก็แล้วกันครับ อ้อ..ใช้กล้องFuji finepix รุ่นแรกๆ ขนาดไฟล์ภาพยังแค่2ล้านเมกกะพิกเซลแค่นั้นเอง โดยปรับContrastสุด ปรับแสงUnderนิดหน่อยครับจบแว้วว..สวัสดี
ศิลปะนูนต่ำที่วัดราชนัดดารามวรวิหาร : Bas-Relief At Wat Ratchanadda
วัดราชนัดดารามวรวิหารเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2389 แต่Blogนี้เอารูปศิลปะแบบนูนต่ำ(Bas-relief)ที่กำลังใกล้จะพังแหล่มิแหล่มาฝากกันโดยประติมากรรมนูนต่ำนี้จะอยู่ด้านหลังโลหะปราสาทนะครับ บริเวณที่เค้าเช่าพระกันเยอะๆน่ะถ่ายเก็บไว้หน่อย เพราะดูไม่ค่อยมีหน่วยงานไหนสนใจเสียดายงานศิลปะแบบนี้นะครับ..จ้าววว..นายยย..
เวียดนาม
tripนี้ เมืองที่ไปหลักๆคือ ฮอยอัน..(อยู่ 2 วัน 2 คืน) นอกนั้นเป็นทางผ่านแบบชะโงกทัวร์..(ฮา) ล่องแม่น้ำ ในเมืองเว้...(ไปตอนหน้าฝน..แต่ฟ้าใสมาก..)แม่น้ำที่เราไปล่องเรือกัน....จำชื่อไม่ได้แร้ว..วว..แวะดูวังเก่าในเมืองเว้ซะหน่อย...(รูปทรงสถาปัตยกรรมคล้ายๆจีน แต่ไม่อลังการงานสร้างขนาดนั้น...)คล้ายๆตำหนักหรืออะไรประมาณนั้น...อยู่ระหว่างทางจากเว้ไปฮอยอัน...ตอนเช้าของฮอยอัน มุมมองบนโรงแรมที่พัก...เมืองนี้น่ารักดีนะบรรยากาศในเมืองฮอยอัน...(มรดกโลกเชียวนะเนี่ย..)แวะไปนั่งดูทะเลซะครึ่งวัน...5555 สะอาดทีเดียว ขยะน้อยมากครับขากลับพักที่เว้อีกคืน..ได้โอกาสท่องราตรี ดูสะพาน 7 สี ก่อนจะกลับไปนอนหลับฝันดี....
แคคตัส.....ต้นไม้สุดรัก-1
escobaria minima ตัวโปรด เล็กๆ...แต่เร้า..ว..ใจ...จ้า...ดอกของ gymnocalycium สวยแบบเรียบๆ....แต่อยู่ทนทีเดียวแคคตัส สุดเท่...ที่ทุกรังต้องมีแน่ๆ...melocactus เจ้าประจำ...เลี้ยงง่ายแต่ทำให้สวยยากอ่ะ....lophophlora friccii ....(เค้าว่า....)คนที่ไม่เคยเห็น...จะรู้สึกแปลกๆไหมนะ...(lopho ทะเล็ด...)