Group Blog
 
All blogs
 

Plank Pose ท่าไม้กระดานที่ใครๆ ก็คิดว่าง่าย ไม่ง่ายนะจ๊ะ



Plank หรือ ท่าไม้กระดาน ท่าที่ทุกคนนึกว่าง่ายๆ แต่ไม่ง่ายนะจ๊ะ ถ้าจะทำให้เป๊ะ ๆ ใช้กล้ามเนื้อได้แบบเต็มกำลัง ถ้าทำได้ถูกเป๊ะ ท่านี้ได้ประโยชน์มากมาย

  1. เสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อแขน หน้าท้อง หลัง ต้นขา และข้อมือ
  2. ช่วยยืดกระดูกสันหลัง

เป็นท่าพื้นฐานที่จะต้องทำบ่อยๆ และถ้าทำได้ดีแล้ว จะไปต่อยอดท่าอื่นๆ ได้ดีขึ้นยิ่งขึ้นด้วย

Alignments ที่ถ้าทำตามนี้จะได้ประโยชน์ต่อร่างกาย กล้ามเนื้อทำงานแบบสุดๆ ของท่านี้ ก็ต้องตามรูปนี้เลย

plank1

  1.  วางมือใต้ไหล่
  2. ไหล่ไม่ห่อ
  3. เกร็งหน้าท้อง
  4. ปูดสะบัก เติมสะบักหลังให้เต็ม
  5. ก้นไม่โด่งหลังไม่แอ่น

ส่ิงที่ beginners ส่วนมากจะทำคือเป็นแบบรูปล่าง ไหล่ห่อ ไม่ปูดสะบัก ไม่เกร็งหน้าท้อง บางคนก็ก้นโด่ง ต้องหมั่นสังเกตุตัวเองในกระจกกันดูนะคะ เปรียบเทียบ Plank แบบเป๊ะๆ กับ plank แบบ เหลวๆ จะเป็นแบบนี้

plank2

common mistakes ที่มักพบใน beginners ก็คือ

  1. ห่อไหล่ แขนไม่ตึง
  2. ไม่ปูดสะบัก หลังแอ่น
  3. ไม่ engage กล้ามเนื้อต้นขา
  4. ก้นโด่ง
  5. ไม่ engage กล้ามเนื้อท้อง ท้องหย่อน

plank3

ถ้าเป็นมือใหม่ก็ไม่ต้องท้อใจไปค่ะ ฝึกให้ถูกต้องบ่อยๆ ร่างกายก็จะจำแบบที่ถูกไปเอง ตอนนี้ยังไม่ถูกก็หมั่นฝึกหน้ากระจก สังเกตุตัวเองบ่อยๆ ค่ะ

ท่านี้เป็นท่าที่ต้องเจอบ่อยๆ และจะสร้างความแข็งแรงไปสู่ Chaturanga ในขั้นตอนต่อไปค่ะ แต่เราจะมาพูดถึง Chaturanga กันในบล๊อกหน้านะคะ

plank4

Original Post at

ttp://beauyogarabbit.com/2015/09/22/plank/




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2559    
Last Update : 13 ธันวาคม 2559 19:57:46 น.
Counter : 1286 Pageviews.  

Standing Forward Fold : Uttanasana ด่านแรกของผู้เริ่มฝึกโยคะสุดตึง (YogaWithBeau)



สิ่งที่ได้ยินเสมอเลย เวลาเราชวนใครฝึกโยคะ โดยเฉพาะ ผู้ชาย นั่นก็คือ

"โอ๊ย ฝึกไม่ได้หรอก ก้มตัวยังแตะนิ้วเท้าไม่ถึงเลย"

นี่คือสิ่งที่ได้ยินเป็นประจำ ที่บอกว่าโดยเฉพาะผู้ชาย ก็เพราะผู้ชายจะมีความตึงมากกว่าผู้หญิงเยอะ โดยเฉพาะคนที่เล่นฟิตเนส

ส่วนมากจะถึงขั้นเลือกที่จะไม่ฝึกไปเลย หรือฝึกไม่กี่ทีรู้สึกว่าตึงมาก ไม่ไหว ท้อใจโบกมือลากันไปก็มีเยอะ

ในความเป็นจริง เพียงแค่หมั่นฝึกซ้อมบ่อยๆ ทำทุกวันๆ วันนึงเราจะพับตัวได้จนสุดอย่างสวยงาม จนตัวเราเองยังตกใจว่าเราพับได้จนได้ อย่างไม่รู้ตัวเลยค่ะ

u3

เหตุใดถึงตึง ถึงก้มไม่ลง ??

ในท่า พับตัวในท่ายืนนี้ กล้ามเนื้อที่ใช้ นั่นก็คือ กล้ามเนื้อกลุ่มต้นขาด้านหลัง หรือ น้องแฮมสตริง (Hamstrings) นี้นี่เอง ดูตามในภาพนี้ค่ะ

Uttanasana

Hamstrings ที่ตึงมากๆ ในบางคน เวลาทำท่าก้มไปข้างหน้า รวมถึงเวลานั่งนานๆ จะทำให้ปวดหลังบางครั้งลามไปถึงหลังช่วงเอว เพราะว่ากล้ามเนื้อ Hamstrings  เกาะกับกระดูกรองนั่ง ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของกระดูกเชิงกราน ถ้า Hamstrings ตึงมาก จะดึงรั้งให้กระดูกเชิงกรานเทไปทางด้านหลัง ทำให้กระดูกสันหลังส่วนเอวสูญเสียความโค้งตามธรรมชาติไป ถ้ายิ่งพยายามก้มตัวต่อไป จะยิ่งทำให้หลังส่วนล่างทำงานมากขึ้นกว่าปกติ  และอาจส่งผลเสียต่อหมอนรองกระดูกด้วย

ดังนั้นการฝึกท่า Uttanasana บ่อยๆ ก็จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อส่วนนี้ได้ แต่ความตึงของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน บางคนฝึกแป๊บเดียวก็พับได้แล้ว บางคนฝึกนานก็ยังพับได้ไม่มาก ต้องค่อยๆ ฝึกไปอย่างถูกต้องค่ะ

สำหรับมือใหม่ ที่เป้าหมายคือ อยากรีบเอาน้ิวไปแตะที่ปลายเท้าได้เร็วๆ แต่ Hamstrings ตึง ก็เลยพับได้ไม่สุด แต่พยายามที่จะเหยียดขาให้ตรง ดังนั้น หลังก็เลยโค้ง และจะออกมาเป็นเหมือนภาพนี้ ซึ่งไม่ดีต่อกระดูกสันหลังเลยนะ ยิ่งทำแบบนี้ไปมาก ๆ ก็จะยิ่งสะสมไปที่กระดูกสันหลัง ทำไปบ่อยๆ จะส่งผลให้หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นได้นะคะ

u2

ทางที่ดี คือ ให้งอเข่าช่วยเล็กน้อย เพื่อชดเชยความตึงของกล้ามเนื้อหลังขา เก็บหลังให้ตรงมากกว่าไว้จะดีกว่า (คงความโค้งตามธรรมชาติของหลังไว้)

u5

เมื่องอเข่ามือถึงพื้นแล้ว ให้เอาหน้าท้องแนบชิดกับต้นขา แล้วค่อยๆ ยืดกล้ามเนื้อหลังขา ดันสะโพกขึ้น ทำเท่าที่ทำได้ วันละนิดวันละหน่อย ตอนเช้าจะเป็นเวลาที่ตึงมากกว่าเวลาอื่นๆ ค่ะ

u4

โดยเฉพาะการก้มพับตัวในการไหว้พระอาทิตย์ หรือ Sun Salutation ทั้งหลาย ที่บางคนจะพับตัวโดยการทำหลังงอ เอามือลงมาแตะพื้นอย่างเร็ว เราว่าทำมากๆ ไม่น่าจะดีกับกระดูกสันหลังระยะยาว ดังนั้นเวลาพับตัว ลองเก็บหลังตรงๆ ไว้ ไม่ว่าจะ  swan dive ลงมา หรือ เป็น Prayer hand ลงมา ก็พยายามเก็บหลังตรงๆ ไว้นะคะ

u6

สิ่งสำคัญที่สุด ยิ่งกว่าการแตะให้ถึงนิ้วเท้า นั่นก็คือ การรู้ลิมิตของตัวเอง ทำเท่าที่ออกมาจาก comfort zone เล็กน้อย พอเท่าที่ยังรู้สึกดีอยู่ อย่าฝืนก้าวข้ามไปจนรู้สึกเจ็บ เพราะยิ่งรั้น ยิ่งดึง กล้ามเนื้อยิ่งต่อต้าน และทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ ดังนั้น ฝึกวันละนิดวันละหน่อย ค่อยๆ ไป วันนึงเราก็จะพับตัวได้มากขึ้นเองค่ะ

Reference:

Leslie Kaminoff & Amy Matthews’ permission from Yoga Anatomy

คอลัมน์ "สุดแค้นแสนตึง" โดย หมอดุล (ทพ. สมดุลย์ หมั่นเพียรการ) จากนิตยสาร Yoga Journal (Aug,SEP 2015)


Original blog :

//beauyogarabbit.com/2015/09/18/uttanasana/




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2559    
Last Update : 13 ธันวาคม 2559 19:54:03 น.
Counter : 1521 Pageviews.  

Yoga with Beau : How to safely do Boat Pose or Navasana โยคะบริหารหน้าท้องกับท่าเรือ

นาวาสนะ (Navasana) หรือ ท่า เรือ (Boat Pose) ที่ดูเหมือนจะเป็นท่าง่ายๆ แต่ท่านี้จริงๆ แล้วไม่ง่ายเลยค่ะ (อย่างน้อยๆ ก็สำหรับเรา) กว่าจะฝึกแล้วยืดขาได้ตรง ใช้เวลานานมาก เรียกได้ว่า ถ้าครูบอกให้ทำท่านี้ เรานี่แทบอยากจะหนีออกไปเข้าห้องน้ำก่อนค่อยกลับมาใหม่เลยทีเดียวค่ะ ฮ่า  เมื่อก่อนแค่ยกขายังยกไม่ขึ้นเลย ทำแล้วหลังงอเป็นกุ้ง ซักพักก็ล้มแผละลงไป ยังใช้กล้ามเนื้อไม่เป็น หน้าท้องไม่แข็งแรง

แต่เมื่อฝึกอย่างถูกวิธี ท่านี้จะมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะกับคนที่อยากมีหน้าท้องแบนราบ มี six- pack ท่านี้เรียกได้ว่าดีกว่าซิทอัพที่อาจจะเป็นอันตรายต่อกระดูกสันหลังและกระดูกต้นคอ มากมายเลยทีเดียวค่ะ วิธีการทำท่านี้อย่างถูกวิธี ดูที่รูปด้านล่างนี้ สาธิตโดยครูทราย (Sign In Yoga Rayong)

b2

b3

วิธีเข้าท่า มี 4 เสต็ป ง่ายๆ  ดังนี้

1. นั่งงอเข่า เอนตัวไปด้านหลัง 45 องศา (ยืดหลังตรง ยืดอกขึ้น)

2. ยกขาขึ้นขนานกับพื้น

3. ยกแขนขึ้นระดับเดียวกับขา ขนานกับพื้น

4. ยืดขาให้ตรงโดยไม่งอหลัง ยืดหลัง ยืดอกให้ตรง ถ้ายืดขาแล้วหลังงอ ให้กลับไปทำที่ step 3

IMG_1162

สำหรับท่านี้ น้ำหนักควรจะกระจายอยู่ระหว่างกระดูกรองนั่งและกระดูกก้นกบ (tailbone) ไม่ควรทิ้งน้ำหนักไปที่กระเบนเหน็บ (Sacrum) มากเกินไป

ใครที่นั่งเหยียดขาตรงมาข้างหน้าแล้วยืดหลังตรงในท่านั่งมุมฉากไม่ได้ใน Dandasana Pose แสดงว่า เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อขาด้านหลัง(Hamstring)ของเรายังดึงรั้งอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำท่าเรือแบบยืดขาตรงไม่ได้ ในกรณีนี้ให้ฝึกแบบงอเข่าช่วยแล้วยืดอกขึ้นแขม่วหน้าท้อง ยืดหลังให้ตรง วิธีนี้จะช่วยทำให้หลังตรงซึ่งจะดีกับกระดูกสันหลังมากกว่า

In this pose the challenge is not the position itself so much as its relationship to gravity. If it were rotated 45 degrees, it would be the work of sitting vertically in Dandasana (which can certainly present its own challenges).

Ideally, the weight in this pose is distributed between the sitting bones and the tailbone. All the weight should not be borne on the sacrum. If Dandasana is a challenge because of shortness in the backs of the legs, that same shortness makes it impossible to support Navasana correctly with the legs straight.

In this case, bending the knees so that the spine can remain neutral is a good option.

(Info from Leslie Kaminoff & Amy Matthews’ permission from Yoga Anatomy)

ท่านี้จะให้ดีต้องหลังตรงนะคะ ถ้าหลังไม่ตรง ไม่ยืดอกขึ้น จะไม่ดีกับกระดูกสันหลังเลยค่ะ ดูรูปด้านล่างนี้จากครูแบงค์ สาธิตการทำที่ปลอดภัย และการทำที่ไม่ปลอดภัยค่ะ

b5

b4

ขอบคุณครูแบงค์ www.facebook.com/yogawithbank ด้วยค่ะ

สำหรับคนที่ยืดขาตรงแล้วหลังงอหรือหลังค่อม ให้ฝึกแบบงอเข่าช่วยแบบนี้จะเบาและแบ่งเบาภาระกล้ามเนื้อต้นขามากกว่าค่ะ

b7

ท่า boat pose นี้ถึงจะเป็นการบริการกล้ามเืนื้อหน้าท้องที่ดี แต่กล้ามเนื้อหน้าท้องจะใช้ในการพยุงร่างกายส่วนบนไม่ให้ล้มกลิ้งลงไปเท่านั้น

การทรงตัวตัวในท่านี้ สิ่งสำคัญคือ การงอของข้อต่อช่วงสะโพก (Hip Flexion) ถ้าช่วงข้อต่อสะโพกยังไม่ยืดหยุ่นดีพอ ก็ยากที่จะทำท่านี้ได้ และการจะยืดขาออกตรง กล้ามเนื้อด้านขาหลัง ก็จะต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอด้วย

การฝึกท่านี้ต้องแขม่วท้อง ยืดหลัง ยืดอก พยายามให้รู้สึกว่า เกร็งหน้าท้องมากๆ ถ้ารู้สึกว่าเจ็บต้นขาบน บริเวณข้อต่อสะโพก (Hip Flexor) ให้งอเข่าลดขาลงมาจะดีกว่าเพราะถ้าทำมากๆ จะเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาได้จ้า (เราเองเลยแหละ ที่ใช้กล้ามเนื้อท้องไม่ค่อยเป็น พอทำผิดมากๆ จะเจ็บต้นขาบนแทน แทนที่จะหน้าท้องแบนราบ กลายเป็นเดินกะเผลกซะงั้น ฮ่า)

hip-pain-hip-flexor

สำหรับคนที่พึ่งฝึกใหม่ๆ กล้ามเนื้อยังไม่แข็งแรง แต่ฝืนที่จะยืดขา ส่วนมากจะลงท้ายด้วยการทำท่านี้ในสภาพด้านล่างนี้ ซึ่งไม่ปลอดภัยต่อนะจ๊ะ ถ้ายืดขาตรงแล้วงอเป็นกุ้งแบบนี้ ให้ฝึกแบบงอเข่าแต่หลังตรง ยืดอก จะได้ประโยชน์จากท่ามากกว่าค่ะ

IMG_1163

ถ้าฝึกแบบขาตรงได้ดีแล้ว ลองฝึกแบบยืดแขนจับนิ้วโป้งเท้าก็ได้ค่ะ Arms Extended Toe Hold สาธิตโดยครูเคต (บน SUP Board ซะด้วยนะ)

b6

มีวีดีโอการฝึกจากครูแบงค์มาฝากทุกๆ คน ให้ลองทำตามกันดูเลยจ้า



สุดท้ายนี้ วิธีที่จะทำให้เห็นผลของการฝึก ก็อยู่ที่ความสม่ำเสมอในการฝึกด้วย หากอยากหน้าท้องแบนราบ ก็ต้องหมั่นฝึกนะจ๊ะ อาจจะทำท่านี้ หายใจลึกๆเป็นธรรมชาติพร้อมกับนับ 1-10 ซักสามเซ็ตเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย3สัปดาห์ รับรองว่า ต้องเห็นผลอย่างแน่นอนค่ะ

Special Thanks :

Kru Sign : Sign in Yoga Rayong

Kru Bank : Yoga with Bank

Kru Kate

Source & Reference:

Leslie Kaminoff & Amy Matthews’ permission from Yoga Anatomy

//www.anahitayoga.com/blog/asana-alignment-anatomy-boat-pose

//yogabycandace.com/blog/2013/6/6/tips-for-navasana

www.sports-injury-info.com




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2558    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2558 21:48:27 น.
Counter : 1182 Pageviews.  

Guide for starting practicing Yoga แนะนำขั้นตอนการเริ่มต้นฝึกโยคะ ในมุมมองของนักเรียน

สวัสดีค่ะ หลังจากบล๊อกที่แล้ว โบว์ได้แนะนำเสื่อโยคะแบบต่างๆ ปรากฏว่า มีคนมากมายที่ถามเข้ามา หลายคนอยากเริ่มต้นฝึก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน หลายคนเริ่มฝึกด้วยตัวเอง แต่ปรากฏว่า ไม่เวิร์ค ก็เลิกฝึกไป วันนี้โบว์จะมาแนะนำถึงประสพการณ์การฝึกโยคะของตัวเอง ในมุมมองของโบว์เอง ในแง่ที่เป็นนักเรียน เพราะเราไม่ได้เป็นครู แต่ก็พอจะเข้าใจว่า ผู้ที่อยากเริ่มต้นฝึกต้องการอะไร ถูกผิดตรงไหน ถ้าครูโยคะผ่านเข้ามาเห็น ก็รบกวนแนะนำได้นะคะ

10959753_10152981022046539_2288957132899628694_n

เริ่มต้นจาก ตัวเราเองเมื่อก่อนชอบเต้นแอโรบิค ไม่ชอบฟิตเนส ไม่ชอบลู่วิ่ง ไม่ชอบปั่นจักรยาน ยกน้ำหนักใดๆ เคยฝึกโยคะตามวีดีโอในyoutube บ้างไรบ้าง ก็ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้จริงจังไรมาก เพราะรู้สึกเหมือนแค่ยืดเส้นยืดสาย ไม่ได้เหนื่อยมากมาย ก็ฝึกๆ เลิกๆ

จนเริ่มมีปัญหาสุขภาพ คือ ปวดท้องน้อย เมื่อยๆ บริเวณที่เคยผ่าซีสต์ หมอสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดพังผืดบริเวณที่เคยผ่าตัด ก็เลยอยากลองฝึกโยคะดูแบบจริงจัง บางทีอาจจะช่วยได้ ที่ระยองเริ่มมีโยคะสตู ก็เลยเริ่มไปฝึกดู

ตอนแรกก็มีท้อบ้าง มีขี้เกียจบ้าง จนคุยกะครูทราย เค้าหุ่นดีมาก กล้ามเนื้อเต็ม เค้าบอกว่า เค้าไม่เล่นกีฬาอย่างอื่นเลย คือ เล่นโยคะอย่างเดียว แล้วกินเยอะ ก็ไม่อ้วน แต่ต้องฝึกทุกวันนะ ถึงจะเริ่มเห็นผลซักสามสี่เดือน ก็เลยกัดฟัน เข้าคลาสเกือบทุกวันเท่าที่ทำได้ เพราะอยากรู้ว่าจะเห็นผลจริงป่าว สรุปว่า เห็นผลจริง กล้ามเนื้อเริ่มมา ร่างกายเราเริ่มดี ยืดหยุ่นดี ท่าที่เราไม่เคยคิดฝันว่าจะทำได้ เราก็เริ่มทำได้ เราแบบ เฮ้ยยยย ตื่นเต้นอ่ะ เชื่อแล้วจริงๆ

ในภาพนี้คือที่เริ่มฝึกมาสามเดือน ถ้าเป็นตัวเราเมื่อปีที่แล้วคงไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าตัวเองจะทำได้เหมือนกัน

10488092_10152868733496539_732891461391487974_n

เอาละ ทีนี้คนที่เริ่มฝึกส่วนมาก คิดยังไงกันน่ะเหรอ ก็คงคิดว่า เรียนกับใครก็เหมือนๆ กัน ฝึกที่ไหนก็เหมือนๆ กัน ชั้นเปิด Youtube ฝึกเองอยู่บ้านก็คงเหมือนๆ กัน อยากจะบอกว่า คิดผิดน่ะ เพราะสิ่งที่สำคัญของโยคะ คือ ลมหายใจ สมาธิ และ การเข้าท่าให้ถูกต้อง ซึ่งบางท่า ที่เราดูว่ามันง่ายๆ แต่เราก็ทำผิดมาตลอดตั้งแต่สมัยไหนๆ พึ่งจะมาทำถูกตอนที่เริ่มฝึกในคลาสเอง เช่นท่า นักรบที่ 2 หรือ Warrior 2 ที่แค่การวางเท้า คือ ส้นเท้าหน้าหลังต้องอยู่แนวเดียวกัน ก็ผิดมาตลอดตั้งแต่ต้นเลย

Yoga_WarriorII_02_300x350

1. สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้น ควรเริ่มฝึกกับครู หรือฝึกที่สูตดิโอ

เวลาใครถามว่า ควรเริ่มต้นยังไง เราจะตอบกับทุกคนเลยว่า คุณควรเริ่มต้นฝึกกับครูที่เก่งๆ แนะนำดีดี มาช่วยเราจัดท่า หรือ alignment ให้ถูกต้อง

ครูที่ดีจะช่วยปรับท่า จัดระเบียบร่างกาย ของเราให้เข้าท่าได้ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้การฝึกโยคะได้ประโยชน์กับร่างกาย

ถามว่า ถ้าเช่นนั้นเราฝึกเองอยู่บ้าน จะทำไม่ได้เลยเหรอ ก็ได้เช่นกัน ถ้าเช่นนั้นการฝึกอยู่บ้าน ก็แนะนำว่า จะต้องมีกระจก หนึ่งบาน และนั่ง google ถึงการวาง asana ท่าต่างๆ ให้ถูกต้อง ทีละท่าๆ เวลา search  ก็หาคำว่า alignment + ชื่อท่า แต่สำหรับมือใหม่มากๆ ก็ยากหน่อย ดังนั้น การฝึกกับครูก่อนซักสิบคลาส จะทำให้เราเป็นเบสิคเบื้องต้น แล้วกลับมาฝึกเองที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นมากกว่า

11412410_10153256003071539_4343987851326336847_n

2. ฝึกแบบค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับใคร และไม่ดูถูกตัวเอง

ครูแทบทุกคนที่ฝึกมา จะเน้นย้ำในคลาสเสมอๆ ว่า ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับใคร โยคะไม่ใช่การแข่งขัน วันนี้เราทำได้แค่นี้ วันนึงเราก็จะทำได้มากขึ้นเอง ไม่ต้องรีบเร่งแข่งขันกับใคร ไม่ต้องเปรียบเทียบกับเพื่อน เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เท่ากัน โยคะต้องใช้เวลาและความอดทน สม่ำเสมอในการฝึกฝน ดังนั้น การที่เพื่อนๆ ในคลาส ทำท่ายากๆ ได้มากกว่าเรา ก็ไม่ต้องท้อใจไปนะคะ คิดซะว่า คนอื่นยังทำได้ ซักวันนึง เราก็ต้องทำได้เช่นกัน จะดีกว่าค่ะ ให้กำลังใจตัวเองนะคะ

สิ่งที่สำคัญสำหรับเราอีกอย่างคือ อย่าดูถูกตัวเอง เราเจอมาเยอะค่ะ คนที่พูดว่า โอ้ย ชั้นทำไม่ได้หรอก เพราะชั้นอ้วน ชั้นไม่เก่ง ชั้นตัวแข็ง นู่น นี่ นั่น แต่ความเป็นจริง คือ ไม่ขยันฝึก หรือไม่พยายามเข้าท่าให้ลึกขึ้น ลองผลักดันตัวเองให้ทำได้มากขึ้น เพราะทัศนคติในแง่ลบต่อตัวเองมากกว่า ดูรูปนี้เป็นตัวอย่างค่ะ (รูปยืมมาจากที่ Sign in studio โพสในหน้าเฟสค่ะ ขอขอบคุณเจ้าของรูปเช่นกันค่ะ)

10941828_1596088620612194_2866373559053170792_n

3. Select the right Teacher

เอาล่ะ มาพูดถึงในแง่ที่เราตัดสินใจจะเรียนกับครู หรือที่สตูดิโอที่ไหนซักแห่งก่อน ถ้าตามสตู ส่วนมากจะมีเสื่อมีอุปกรณ์ มีผ้าเช็ดตัวให้เรายืมใช้อยู่แล้ว ดังนั้นเรามาดูว่าเราควรจะเลือกฝึกกับที่ไหนดี คุณคิดว่าฝึกที่ไหน กับครูคนไหนก็หลักสูตรเดียวกันหมดรึเปล่าคะ คุณคิดผิดอย่างมากค่ะ สตูเดียวกัน แต่ครูคนละคน ประสพการณ์ในแต่ละคลาสนั้นก็ต่างกันแบบสุดขั้วแล้วค่ะ ดังนั้นให้เลือกที่จะฝึกให้ดี เพราะฝึกกับครูที่ดีดี ก็จะพาเราไปในระดับที่สูงๆ ขึ้นได้มากกว่า

เนื่องจากเราเคยฝึกกับครูมาหลายคน หลายที่ แล้วก็เคยไปฝึกกับคนอินเดีย ที่มีเว็บไซต์ เค้ารับสอนแบบ private เราก็ลองจ้างเค้ามา สรุปว่าคลาสนั้นพังค่ะ เราเจ็บตัวมากมาย เหมือนกับฝึกแปลกๆ ไม่ค่อยแนะนำอะไร แม้แต่การหายใจ หลักสูตรแปลกๆ แถมไม่ค่อยมีความปลอดภัย หลังจากคลาสนั้นเราต้องพักการฝึกไปสองสัปดาห์เลย เราเลยตัดสินใจว่า ต่อไปนี้ จะไม่ฝึกกับครูที่ไม่มีใบอณุญาติสากล หรือครูที่ไม่มีที่มาที่ไปอีกแล้ว

เคยฝึกกับบางคลาส ที่เหมือนแค่ให้เราทำตามเค้า โดยที่ไม่เคยมาจัดท่าหรือแนะนำชื่อท่า การเข้าท่าที่ถูกต้องใดๆ คลาสนั้นก็เหมือนไม่ได้อะไรค่ะ บางทีถ้าที่ที่เราเรียนครูสอนแบบนั้น เรียนมานาน แต่ยังไม่ไปถึงไหน ไม่ได้อะไร บางทีก็ควรจะพิจารณาเปลี่ยนที่นะคะ

ใบอณุญาติครูโยคะแบบสากลคืออะไร มีด้วยเหรอ ใช่ค่ะ มีค่ะ เราก็พึ่งทราบหลังจากฝึกโยคะแล้วเช่นกัน ดังนั้น เวลาทุกคนจะไปฝึกที่ไหน ให้ดูก่อนว่า ครูคนนั้นมีใบอณุญาติอะไรนะคะ มีหลายแบบ เช่น RYT ของอเมริกา , British Wheel of Yoga ของอังกฤษ และ บางที่ก็ได้เพียงใบรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่ได้เป็นแบบสากลนะคะ

สำหรับเรา เราจะเลือกฝึกกับครูที่มีใบรับรอง RYT200 มากกว่าค่ะ เพราะเท่าที่ฝึกมาด้วย รู้สึกว่า ดีสุด

ryt

RYT200 คือ ใบรับรองจาก Yoga Alliance จากอเมริกา ว่าครูคนนี้เป็น Registered Yoga Teacher ที่ผ่านการอบรบมา 200 ชั่วโมงตรงตามหลักสูตรของเค้า โดยในหลักสูตรก็จะมีการเรียน Anatomy ของร่างกายจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญแล้ว ดังนั้นครูที่ผ่านการอบรม RYT200 จะช่วยให้เราฝึกได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยกว่าค่ะ

ถ้าไม่รู้ว่าครูคนไหนมีใบอนุญาตอะไร ก็ให้เลือกฝึกกับสถาบัณโยคะที่มีชื่อเสียง เพราะสถาบัณพวกนี้เค้าจะคัดครูที่มีใบอณุญาตถูกต้องมาแล้วทั้งนั้น ไม่เสี่ยงทำให้ตัวเองเสียชื่อหรือนักเรียนบาดเจ็บจากครูที่ฝึกไม่ถูกหลักเป็นแน่ค่ะ อย่างที่กรุงเทพที่ดังๆ ก็มี Absolute Yoga, Lullaby Yoga, Yogasutra เป็นต้นค่ะ

ส่วนตัวเราฝึกที่ระยอง จะขอแนะนำ แล้วก็รีวิว yoga studio ที่ระยองนะคะ เผื่อเพื่อนๆ ที่ระยองใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจที่จะฝึกค่ะ

1. Sign in Yoga Studio

https://www.facebook.com/Signinyoga

10403048_1569447633276293_3599744617276601970_n

ที่นี่พึ่งเปิดใหม่่ค่ะ แต่สอนโดยครูทราย ที่เคยสอนที่ Loft มาก่อน จุดเด่นอยู่ที่ สตูดิโอใหม่ โมเดิร์น ครูสอนแบบเป็นกันเอง น่ารัก mat ที่ที่นี่เตรียมให้ก็เป็นของ Manduka Eko คุณภาพดีมากๆ บางวันก็จะมีครูเคท ครูแสตมป์มาร่วมสอนด้วย ที่นี่ฟีลแบบวัยรุ่น เป็นกันเอง

10857731_10152829575941539_4586231355180708213_n

ครูทราย ค่ะ

11406917_1637284806492575_7003856346790455732_n

จุดแข็งของที่นี่ คือ การที่ครูมีความใกล้ชิดกับนักเรียนมาก ครูจะเข้าใจร่างกายของนักเรียนได้ดี อย่างเช่นเรา มีจุดอ่อนที่หน้าท้องที่ไม่ค่อยจะยอมใช้งาน ครูจะมาช่วยบิลท์การใช้งานหน้าท้องให้ ดังนั้นเราว่าฝึกที่นี่เหมือนจะได้ผลมากสุดในจุดนี้

11265416_10153220780186539_5308814849648592185_n

สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือความเป็นกันเอง บางวันก็อยู่หลังคลาสฝึกต่อ เวลาถามอะไรครูที่นี่ก็จะเต็มใจอยู่ช่วยตอบนักเรียนมากที่สุด บางวันก็อยู่ถ่ายรูปกันหลังคลาสสนุกสนานค่ะ ในรูปนี้คือ ครูทราย ครูเคต เรา และครูแบงค์ที่ใส่ชุดเป็นสไปเดอร์แมนค่ะ

11392960_10153259191611539_3630178344743333815_n

ครูแบงค์ค่ะ ตอนนี้ครูแบงค์ไปประจำอยู่ชีวาศรมแล้ว แต่ก็จะกลับมานาน ๆ ทีค่ะ

11391395_10153263138176539_747089889748199521_n

ตามทิปเรื่องโยคะ จากครูแบงค์ได้ที่บล๊อกของครูแบงค์ค่ะ

www.yogawithbank.com

สถานที่ ที่นี่น่ารักดีค่ะ เราชอบมากๆเลย

10425027_1584526231768433_8190035007608248391_n

2. The Loft Yoga 

https://www.facebook.com/TheLoftYogaStudio

10415705_641873259257182_8031237315075169875_n

เป็นที่แรกๆ ที่เราไปฝึก และฝึกมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะสถานที่ดี จอดรถสะดวก มีคลาสให้เลือกเยอะ วันธรรมดามี 6 คลาส วันเสาร์อาทิตย์ มี 4 คลาส ดังนั้นถ้าใครถามเรา เราก็แนะนำที่นี่หมดค่ะ ราคา drop in ปกติ 350 บาท แต่ถ้าซื้อ 10 ครั้ง หรือ 50 ครั้ง จะถูกลงเหลือประมาณ 200 หรือ 150 บาทค่ะ

ครูผู้ฝึกสอน

ครูตุลย์ ครูตุลย์จะสอน Anatomy ตลอด เน้นจัด alignment และถ้าอยากเล่น inversion พวก headstand, handstand ก็ต้องคลาสครูตุลย์เลยค่ะ

Screen Shot 2015-02-14 at 08.32.27

ครูอ้อย จะเน้น Power Class เราชอบคลาสครูอ้อยมาก เล่นติดต่อกันสามวัน กล้ามขา กล้ามแขนเริ่มมาเลยทีเดียว เหนื่อยได้ใจค่ะ สำหรับคนที่ชอบเล่นหนักๆ ท่ายากไม่เยอะ เน้นใช้พลัง ต้องคลาสครูอ้อยเลยค่ะ

10514760_663963830381458_7337330609340492217_n

ครูมุนิน จะเน้นเรื่องการยืด ความอ่อนตัว ไม่เหนื่อยมากค่ะ

10923240_664859080291933_3889756711627076296_n


แต่ข้อเสียอย่างนึงของที่นี่ก็คือ การเปลี่ยนครูบ่อยนี่แหละค่ะ แต่ก็แล้วแต่คนชอบนะคะ บางคนอาจจะชอบความไม่จำเจ แต่สำหรับเราถ้าฝึกกับครูคนใหม่ก็เหมือนต้องมาปรับตัวกันใหม่ด้วยในบางทีค่ะ


ที่ระยองยังมีอีกที่คือ ครูชัช ที่เค้าว่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแมนดูก้า แต่เราไม่เคยไปนะคะ ว่าจะลองไปดูเหมือนกัน ที่นี่ค่ะ

540491_211357748981193_1032505976_n

สำหรับคนที่ ยังไงก็ไม่สะดวกที่จะไปสตู เรามีคลิป Youtube ที่เราฝึกแล้วคิดว่าโอ มาฝากค่ะ

ผู้ฝึกที่บ้านควรลงทุนเสื่อดีดีซักผืนนะคะ รีวิวบล๊อกที่แล้วเลย อุปกรณ์อีกอย่างที่แนะนำคือ บล๊อกค่ะ

yoga-blocks

คลิปแรกเป็นคลิปแนะนำการไหว้พระอาทิตย์ หรือ sun salutation A ตั้งแต่ง่ายไปจนถึงระดับสูง มีห้าแบบ จาก Sign In Yoga เลือกฝึกในออปชั่นของตัวเองค่ะ เช็ค alignment ของตัวเองกับของในคลิปให้ถูกต้องนะคะ


คลิปต่อมา Yoga with Donna by Yoga Vine

เป็นครูจากออสเตรเลีย สอนเหมือนการเรียนในคลาส Flow ของจริงเลย แต่จะมีท่ายากๆ เยอะหน่อย แนะนำสำหรับคนที่ฝึกอยู่แล้วนะคะ



Fightmaster Yoga with Lesly

คนนี้วีดีโอคุณภาพไม่ค่อยดี แต่ท่า Flow ดี เสียงเพราะ ที่สำคัญคือวีดีโอเยอะมาก อัพใหม่แทบทุกวัน มีระดับ beginner ที่ไม่ยากมาก คือ อันนี้ค่ะ ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูได้นะ มีหลายอันมาก เล่นเปลี่ยนได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ


หวังว่าบล๊อกนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้ข้อมูลว่าควรจะเริ่มฝึกยังไง ฝึกที่ไหน ได้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านค่ะ

10978638_10152982586131539_1336167037270248229_n




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2558    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2558 21:47:03 น.
Counter : 1433 Pageviews.  

Review : Yoga Mat รีวิว เสื่อโยคะ Manduka Lululemon Jason



เคยคิดว่าโยคะเป็นอะไรที่ประหยัดเงินที่สุดแล้ว?? อุปกรณ์อะไรๆ ก็ไม่ต้องใช้ สรุป ผิดจ้า อุปกรณ์โยคะดีดี เป็นอะไรที่แพงมาก โดยเฉพาะเสื่อ ที่สำคัญที่สุด ถ้าแบรนด์ดีดี ก็สามสี่พัน ช๊อก แต่เสื่อดีดี จะพาเราไปสู่สิ่งที่ดีดี จริงๆ นะ เนื่องจากเสื่อที่ดี จะช่วยให้ไม่ลื่น ไม่เกิดอุบัติเหตุ จะทำท่ายากๆ ก็มั่นใจที่จะทำ

เสื่อแบรนด์แพงๆ ก็มีมากมายหลายแบบ ซื้อผิดก็เสียดายตังค์สุดๆ ไปเลย เดี๋ยวเราจะมารีวิวเสื่อแบบต่างๆ หลายๆ แบรนด์ให้ดูกันนะ เพราะหาข้อมูลมาเยอะ อยากจะเอามาแชร์ เผื่อใครจะซื้อเสื่อโยคะ ก็ได้เอาไว้เป็นข้อมูลได้นะจ๊ะ  อิอิ การใช้เสื่อดีดี ก็ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะฝึกท่ายากๆ มากขึ้นจริงๆ

man5

เริ่มแรกโบว์ไปฝึกที่สตู เค้าก็มีเสื่อให้เรายืมใช้ แต่เราสังเกตุเองว่า คนเก่งๆ จะมีเสื่อมาเองกันทั้งนั้นเลย เหมือนเป็นเครื่องบ่งบอกถึงระดับความโปร (ฮ่า) แต่เหตุผลที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อเสื่อเอง ไม่ใช่แค่อยากดูโปร เหตุผลมีดังนี้

1. เสื่อที่สตูส่วนมากจะเป็นของคุณภาพกลางๆ คือ ความหนีบมีน้อย เจ็บมือ ถ้าทำท่า downward facing dog บ่อยๆ จะเจ็บฝ่ามือ

2. ความสะอาดเป็นหลัก คิดดูนะ ว่าเสื่อในสตูน่ะ ผ่านการใช้งานมากี่คน เท้ากี่เท้าที่เหยียบลงไป เหงื่ออีก ถึงจะบอกว่าเอาผ้าเช็ดตัวมาปูแล้วก็สะอาดแล้วก็เถอะ ไม่คิดว่าจะช่วยได้มากเท่าไหร่ แถมผ้าเช็ดตัวมาปู ก็มีความลื่น ไม่หนึบเท่าใช้แมตดีดีแน่นอน  เคยสังเกตุตามสตูส่วนมาก ก็ใช้แค่ เดตตอลผสมน้ำ ใส่กระบอกฉีด เช็ด แล้วก็ตากพัดลม ไม่ก็ผึ่งแดด เท่านั้นเอง เพราะเค้าต้องหมุนเวียนใช้ให้คนเล่นตลอด ไม่มีเวลาทำความสะอาดทุกผืนบ่อยๆ แน่นอน

3. เสื่อดีดี จะพาเราพัฒนาตัวเองไปได้ไกล พอเสื่อที่ใช้มีคุณภาพดี ก็รู้สึกมั่นใจที่จะหัดทำท่ายากๆมากขึ้น เคยลองทำท่ายากๆ บนเสื่อที่ดี กับเสื่อที่ไม่ดี ฟีลมันต่างกันมากนะ บางท่าไม่กล้าทำ เพราะรู้สึกว่ามันลื่น จับไปแล้วไม่มั่นใจ

4. พอใช้เสื่อของตัวเองมากๆ จะเป็นสัมผัสที่คุ้นเคย พื้นผิว กลิ่น เรียกว่า จับไปแล้วมั่นใจ ฝึกบนพื้นผิวที่คุ้นเคย แถมหอบไปฝึกได้ทุกที่

เหตุผลที่กล่าวมา ก็เพียงพอจะสรุปได้ว่า ซื้อเสื่อดีดีของตัวเองใช้กันเถอะ เชื่อเรา

13103497_1217463248278977_1499347732407866405_n

ถ้าใช้เสื่อไม่ดี แล้วทำท่ายากๆ อย่าง Pincha (forearm stand) หรือ Handstand มีสิทธิ์ที่จะไถลลื่นเกิดอุบัติเหตุได้นะ เพื่อนเราเคยแล้ว ศอกไถล ศอกเป็นแผลเลยจ้า

11988520_1108192052539431_5428560325413784585_n

หลังจากฝึกไปได้ระยะหนึ่ง เสื่อผืนแรกที่ซื้อ แน่นอน ยังไม่อยากซื้อของแพงมาก เพราะไม่รู้ว่าจะฝึกนานแค่ไหน เราก็เลยซื้อของที่ผลิตในประเทศ ราคาย่อมเยาว์ แต่เคยลองจับแล้ว ก็คุณภาพโออยู่นะ กับ JAson 990 บาท แถมถุงหิ้วให้ด้วย แถมลายก็สวยนะรุ่นนี้ เชื่อว่าเป็นเสื่อผืนแรกๆ ของคนเล่นโยคะหลายๆคน





 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2558    
Last Update : 13 ธันวาคม 2559 19:52:38 น.
Counter : 2787 Pageviews.  

1  2  

BeauCrazyrabbit
Location :
ระยอง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 59 คน [?]




Beauty Blogger & Japanese Fashion Lover

Fanpage: http://www.facebook.com/beaucrazyrabbit
beaupreeya@gmail.com

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน
Crazyrabbit Blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และ
เพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่
กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add BeauCrazyrabbit's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.