--Work&Travel: Internship USA: Adjustment of Status--

Markswoman
Location :
Virginia Beach, VA United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Would you rather be "smart but ugly" or "dumb but pretty?
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Markswoman's blog to your web]
Links
 

 

Internship~USA#3: ทำใบขับขี่สากล

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า

ใน Internship Application ที่ CCUSA ให้กรอก


มันมีคำถามที่ว่า เรามีใบขับขี่สากลรึเปล่า


ดังนั้น


วันนี้ ฤกษ์งามยามดี


ฟ้าไปทำใบขับขี่สากลมาอ่ะ


ง่าย


และรอแป๊บเดียวมากๆ



เอกสารที่ใช้ ณ เวลานี้ ที่เค้าต้องการจริงๆ


ก็แค่



  • สำเนาใบขับขี่

  • สำเนาบัตร ปชช.

  • แล้วก็สำเนาหน้าแรกของพาสปอร์ต (ไม่ต้องเอ๋อถ่ายไปหมดทั้งเล่มแบบฟ้าอ่ะ)

  • รูปถ่าย สองนิ้ว ไม่ยิ้ม สองรูป

  • ตัง ห้าร้อยห้าบาท จบ


อุส่าเอาสำเนาทะเบียนบ้านไป เค้าเอาออกหง่ะ


...


ขั้นตอนก็คือ 


พาตัวเองไปให้ถึง อาคาร 4 ชั้น 2


กรมการขนส่งทางบก ตรงข้ามสวนจตุจักร



เอาเอกสารที่บอกข้างบน


ไปให้จนท.ที่ทางเข้าของชั้นสอง


เค้าจะเช็คเอกสาร


กดบัตรคิวให้


ไปนั่งรอตามช่องที่เค้าบอก 19-22 อ่ะ


เด่วเค้าก็จะเรียก


ของฟ้า


เดินไปถึงช่อง 19-22 ที่บอก


เค้าก็เรียกพอดี


เรียกไปเซ็นๆ จ่ายๆ


แล้วก็รอ ไม่ถึงห้านาทีอ่ะ


ได้ละ



อเมซิ่งสุดๆ


เป็นสถานที่ราชการที่เจ๋งมาก


ประทับใจอย่างยิ่ง



รวมแล้วไม่ถึงครึ่งชม.


เรียบร้อย


สองคนด้วยนะที่ไปทำ


คือ ฟ้ากะ ไหม



ถ้าเรามีใบขับขี่สากล


มันก็เป็นเรื่องที่ดีอ่ะ จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้


อย่างน้อย


นายจ้างเค้าก็แน่ใจได้ว่าเรามีปัญญาขับรถที่นั่น



พอเสิชๆ


เอกสารเกี่ยวกะการขับรถที่น่าจะได้ใช้ที่เมกา


ก็คือใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ หรือ ที่เราเรียกกันว่า ใบขับขี่สากลนี่ล่ะ (505.-)


กะใบรับรองการมีใบอนุญาตขับรถ(Eng)(25.-)


และ ใบขับขี่ฉบับแปลเป็น Eng (25.-)


(ตอนนี้กรมการขนส่งทางบกเค้าจะไม่ออกเอกสารฉบับนี้ให้คนที่มีใบขับขี่แบบใหม่ ที่เป็นบัตรแข็ง
เพราะในบัตรแข็ง
มีรายละเอียดทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้วไม่มีความจำเป็นจะต้องแปลเป็น Eng)


เอาเป็นว่า เตรียมไว้ให้พร้อมละกัน ก่อนไป


มี ดีกว่าไม่มีอ่ะเนาะ






Free TextEditor




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2551    
Last Update : 28 สิงหาคม 2551 19:22:08 น.
Counter : 764 Pageviews.  

Internship~USA#2: Documentation

Internship USA #2~ Documentation เตรียมเอกสาร!
อีกขั้นตอนของความวุ่นวายของโครงการ internship USA
น่าเบื่อ
แต่ก็ต้องทำ ใช่มั้ยล่ะ
โอเค
ฟ้าว่าเรามาเริ่ม จาก
เอกสาร ทั่วๆไป ที่ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ต้องใช้
ไม่ว่าเอเจนซี่ไหน ก็ขอ คล้ายๆ กัน


  1. Passport ที่มีอายุการใช้งาน นานกว่าอายุของโครงการที่จะไป ในที่นี้ ก็ ควรจะเหลือ อย่างต่ำสุดๆ ก็ปีนึงอ่ะนะ

  2. Transcript ขอทิ้งๆ ขว้างๆไว้เลย สองสามชุด ได้ใช้แน่นอนอ่ะ (ยิ่งคนที่เรียนจบแล้วเนี่ย ขอไว้เหอะ หลายๆชุด จะได้ไม่ต้องไปติดต่อ หลายๆรอบ แต่ถ้าไม่ขี้เกียจ ไม่เบื่อ ที่จะติดต่อหน่วยงานราชการ ก็แล้วแต่อ่ะนะ)

  3. Certificate of Graduation หรือ ภาษาไทย ที่เราเรียกกันว่า “ใบรับรองจบ” นั่นเอง เหมือนเดิมอ่ะ ขอมันไปพร้อมๆกะทรานสคริปท์อ่ะแหละ เน้นว่า หลายๆชุด

  4. Resume or CV* ตอนที่เรียนจบเนี่ย ก็น่าจะมีกันอยู่แล้วอ่ะนะ เอาไว้หาเงินหางาน เน้นมั่กๆ ว่า resume ขอ สไตล์ American นะจ๊ะ

  5. ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ ที่เทียบเท่า TOEFL 213 (CBT) หรือ 550 (PBT) / IELTS 6.0 / TOEIC 760 โดยประมาณนะคะ แต่ละเอเจนซี่ require ไม่เท่ากันค่ะ บางที่ ก็ไม่เอา ผลวัดระดับภาษาเอาซะเลย ฟ้าว่ามันไม่ค่อยดีกะ ผู้เข้าร่วมโครงการเท่าไหร่เลยนะ เพราะว่า ถ้าเค้าไม่สนว่าภาษาคุณระดับไหน แสดงว่า งานที่คุณจะได้ไปทำเนี่ย ก็ไม่สนระดับภาษาของคุณเช่นกัน แปลกันง่ายกว่าเดิม คือ มันอาจจะเป็นงาน physical labor (เข้าใจง่ายกว่าเดิมตรงไหนฟระ -*-) โอเค มันคือ งานที่ใช้แรงงาน ไม่ต้องใช้ภาษาไง เช่น Restaurant Management หรู ดูดี แต่เอาไป งมโข่ง เช็คสต๊อก จัดของ ใน warehouse ของ ร้านอาหาร วันๆ ไม่ต้องพูดกะใครเร๊ยยย (มีความเป็นไปได้สูงมั่ก ขอบอก) ดังนั้น เลือกเอเจนซี่ ที่เค้า วัดระดับภาษานิดนุงละกันน๊ะคร๊ะ

  6. Recommendation Letter ขอไว้ๆ ขอจากอาจารย์ ที่เราซี้ๆหน่อย อาจารย์ที่เราได้เรียนด้วยแล้วได้เอ ยิ่งเป็นอาจารย์ ที่เราเคยทำ Assignment หรือ Project ที่เจ๋งๆ ก็จะดีมั่กๆ เค้าจะได้เขียนชมเรา ดีดี FYI, ฟ้าให้อาจารย์คนไทย ที่เป็น Director ของ Major ที่แสนจะใจดีน่ารัก ซี้กัน เขียนให้คนนึง ส่วนอีกคน ก็ เป็น อาจารย์ชาวสหรัฐ ที่เรียนกะแกแล้วได้ เอ ติดกันสามรอบ สามวิชา (ไหนๆก็ส่งไป US ไง เผื่อคนอ่าน จะ Nationalism นิดนุง ....หึหึ)

  7. Letter of Intent, Cover Letter or Introduction Letter* มันคือ จดหมายแนะนำตัวเรากะนายจ้างนั่นเอง เขียนไปว่า เราเรียนอะไรมา เคยทำอะไรมา เพราะอะไรนายจ้างต้องเลือกเราทำงานกับเค้า เราเหมาะกะงานใน field นี้อย่างไร เรามีประสบการณ์เกี่ยวกะ field นี้ยังไงบ้าง อะไรทำนองนี้

  8. รูปถ่าย* แต่งตัว แต่งหน้าให้ดูดี แล้วไปถ่ายซะ ถ่ายให้หมด ทั้ง 1 นิ้ว 2 นิ้ว หน้ายิ้มหน้าไม่ยิ้ม ถ่าย 2*2 นิ้ว วีซ่า US ฉากขาวไปด้วยเลยทีเดียว จะได้จบๆกันไปอีกเรื่องนึง ไม่ต้องไปร้านถ่ายรูปซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ถ้าสนุกนัก ก็ตามสบายฮ่ะ!




** ขยายความ **

American Style Resume เป็นอย่างไร?

//career.missouri.edu/ISCS/jobsearchstrategies/AMERICAN%20STYLE%20RESUME.ppt

//0704.netclime.net/4_2/000/000/045/aa1/Guidelines_for_writing_American_style_resume.doc


ตาม link สองอันนี้ไปนะคะ อธิบายไว้เคลียร์มั่กๆ

* Personal data ห้ามใส่ รูป น้ำหนัก ส่วนสูง สีผิว สัญชาติ เด็ดขาด**(Discrimination!)

* Career objective เป้าหมายในเรื่องชีวิตการงาน

* Education จบที่ไหน สาขาอะไร จบตั้งแต่เมื่อไหร่

* Work experience

* Volunteer work

* Honors & Activities

* Specialized skills

* References * References are available upon request ก็โอเคค่ะ


เอกสารที่ใช้ในการสมัคร เบื้องต้นเนี่ย
ส่วนใหญ่จะเป็นพวก ใบสมัคร ของแต่ละเอเจนซี่
ทรานสคริป สำเนาพาสปอร์ต
ขั้นตอนหลังจากส่งเอกสารเบื้องต้น
ก็มักจะเป็นการจ่ายตังค่าสมัคร
จ่ายปุ๊บ ก็สัมภาษณ์ วัดระดับการใช้ภาษาอีกรอบ (แต่ละเอเจนซี่ก็แตกต่างกันไปนะจ๊ะ)
อย่าง IEO ก็ ให้ ส่ง resume เป็นอย่างแรกสุด
จากนั้น ก็รอ ร๊อ รอ อย่างเดียวเลย
ซึ่งส่งไปแล้ว และแอบเคือง เพราะ รอนานมาก
รอจนทำเอกสารของ CCUSA เสร็จละ
หึหึ
****อย่าหลงใหลได้ปลื้ม กับงานที่แต่ละเอเจนซี่ โพสไว้ที่หน้าเวบ เพราะ งานที่คุณจะได้ทำ จะดีไม่ดี มันขึ้นอยู่กะดวงชัดๆ ไปทำบุญไว้ให้มากๆ เลี้ยงอาหารหมาแมวจรจัด ไว้ให้เยอะๆ เชื่อเต๊อะ
จบพาร์ทนี้ ดื้อๆละกัน





 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 9:23:20 น.
Counter : 1452 Pageviews.  

Internship~USA#1: Start here!

Internship~USA: Start here!

Agency Selection Process

ฟ้าเริ่ม จาก การ เสิชๆๆๆๆๆ
และเสิชๆๆๆๆๆ
ด้วย key word "internship USA"

เจอ หลาย เอเจนซี่ที่เราสามารถจะเข้าร่วมโครงการนี้ได้

เรื่องราว เรื่องเล่า ทั้งหมดของฟ้า
จะอยู่ในเคส ของ Placement internship program ซึ่งไปได้ สูงสุด 12 เดือนนะคะ
ไม่ใช่ career training หรือ professional career training น๊า

*Placement เนี่ย เอเจนซี่จะเป็นคน match งานให้เราค่ะ แปลกัน บ้านๆ เลยคือ เลือกงานไม่ได้ แต่งานที่ได้ จะ เป็นงานที่ตรงตามสายที่เราจบมาค่ะ


คุณสมบัติ คร่าวๆ ของคนที่จะสามารถเข้าร่วม internship program
เบื้องต้นเลย

ก็คือ

เพิ่งเรียนจบ ไม่เกินหนึ่งปี
หรือ กำลังเรียนปีสี่อยู่ หรือ กำลังจะเรียนจบนั่นเอง
สาขาที่เรียนก็ แตกต่างกันไป แต่ละเอเจนซี่

ฟ้า จบ BBA หรือ บริหาร ธุรกิจ (ภาคภาษาอังกฤษ) ค่ะ

*เอเจนซี่ ที่ฟ้าเลือก คือ CCUSA
เค้า require TOEIC > 760, TOEFL > 550

ฟ้ามี TOEIC = 855
ผ่าน ข้อกำหนด ของเอเจนซี่ค่ะ*

<แต่ละเอเจนจะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครที่แตกต่างกันไปนะคะ
บางที่ก็ไม่ require คะแนนวัดระดับภาษาด้วยซ้ำไปค่ะ>




...
ใช้เวลา ศึกษา รายละเอียด ของแต่ละเอเจนซี่เยอะๆนะคะ
อย่าหลงเชื่อออออออ ง่ายๆ ถามเยอะๆ ถามไปเลย
ถ้าเค้ารำคาญที่จะบอกหรือ อธิบาย ก็อย่าไปเป็นลูกค้าเค้าเลยค่ะ
พึงท่องไว้ ว่าเราเป็นลูกค้า
เอาเงินไปจ่ายเค้าเป็นแสนๆ
เรามีสิทธิ์จะถามข้อข้องใจค่ะ

...

เหตุผล ที่ฟ้าเลือกจะไปกะ CCUSA
อย่างแรก
ฟ้าเคยไป WORK AND TRAVEL กะเค้า เมื่อปี 2006 ค่ะ

อย่างที่สอง
เป็นเรื่อง ของความเชื่อใจ เรื่องเครดิต เรื่องความน่าเชื่อถือค่ะ
ที่เคยเจอมา คือ รายละเอียด ของการทำงาน ของเรา จะชัดเจน ตั้งแต่ก่อน ออกจากไทย
หมายถึง รู้ตำแหน่งงาน job description ดีเทลต่างๆ ชัดเจนตั้งแต่ก่อนไปค่ะ

*บางเอเจน บอกแค่ สถานที่ที่คุณจะต้องไปทำงาน ส่วนได้งานอะไร ตำแหน่งอะไร ให้เราไปวัดดวงกะ HR ที่เมกา ซึ่งฟ้าว่ามันเสี่ยงเกินไปค่ะ

อย่างที่สาม
เป็นเรื่องของ ความ "ใหญ่" ของเส้นค่ะ
เอาเป็นว่า เจอมากะตัวเลยล่ะ
บอกได้แค่ ว่า พี่ๆ ที่ CCUSA รู้จักคนใน สถานฑูตเมกาดีมากกกกกเลยล่ะค่ะ

อย่างที่สี่
เรื่องค่าธรรมเนียม ที่ถูกกว่าที่อื่นเมื่อเปรียบเทียบกัน ชอตต่อชอต (IEO)

กดดูรูปใหญ่ จาก ตารางนี้ละกันค่ะ


จะเห็นได้ว่า นอกจากจะต่างกัน ตรง จำนวนเงินแล้ว
ยังแตกต่างกัน ในเรื่องของ ระยะเวลาจ่ายเงิน
ซึ่ง ฟ้าเนี่ย รับได้ กะ วิธี และ เวลาชำระเงินของCCUSA ค่ะ




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 23:50:02 น.
Counter : 1272 Pageviews.  

1  2  3  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.