Winter in Taiwan @Sun Moon Lake Part 2 ชิวๆกับแรคคูน จากประสบการณ์ในการเที่ยวด้วยตนเองหลายๆที่ เรารู้สึกว่าวิธีที่ดีที่สุดในการทำข้อมูลก็คือ นำแผนการณ์ทั้งหมดลงในสมุดสักเล่มแล้วพกไปด้วยค่ะ เราเคยเห็นเพื่อนๆรอบๆตัวบางคนก็จะทำแพลนไว้ใน Ipad (ซึ่งเพื่อนใกล้ตัวลืมเอาสายชาร์ตไอแพดไป เลยไม่ได้ไปตามแพลน -_-;) หรือบางคนก็ปริ้นท์เป็น A4 ถือไปเป็นปึกๆ (เวลาหาข้อมูลทีปลิวว่อนเลย) วิธีการพกสมุดเล่มบางๆที่มีทั้งข้อมูลแผนที่โรงแรม ตารางเวลาเที่ยว ใบจองโรงแรมต่างๆ ก็เลยทำให้เราเปิดดูได้อย่างง่ายๆค่ะ นอกจากนี้เรายังเหลือที่ว่างๆเอาไว้ สำหรับจดโน๊ตเพิ่ม หรืออย่างที่ไต้หวันจะมีตรายางตามสถานที่ท่องเที่ยวจุดต่างๆ เพื่อให้ปั๊มเป็นที่ระลึกไว้ดูเล่น ก็ดีไปอีกแบบค่ะ ^__^ ถือว่าโชคดีมากค่ะ ที่เราได้เปลี่ยนการจองที่พักมาอยู่แถว Shuishe Visitor Center เพราะจากตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่ค่อนข้างดีทีเดียว
เช้านี้เราได้ทำการซื้อ Pass เพื่อออกเที่ยวค่ะ ซื้อแบบ NTD 330
แต่ก่อนที่จะนั่งเรือนั้น เราก็จัดการเที่ยวรอบๆฝั่งนี้ก่อน ด้วยการเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยค่ะ
หมอกจางๆและควัน สวยจังเลย หนาวด้วย >< เราเดินออกไปตรงท่าได้ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ถ้ามาตอนเช้าๆ คนจะยังไม่เยอะมาก เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก แต่ถ้าสายหน่อย คนจะมาออกันเยอะมากเพื่อขึ้นเรือค่ะ
แอบดูเรือค่อยๆแล่นออกไปจากฝั่ง ถ่ายจากมุมสูงข้างบนก็จะเห็นท่าเรือโดยรวม
เดินไปตามป้ายบอกทางก็จะเจอกับโบสถ์คริสต์ค่ะ
เค้าว่ากันว่าที่ไต้หวันเนี่ย ชื้นแบบขึ้นรากันได้ง่ายๆ ใครซักผ้าแล้วไม่แห้งแป๊บเดียวก็ขึ้นรา เห็นถ้าจะจริง เพราะเราเห็นพวกตะไคร่น้ำเยอะมากเลย แต่ดูไปดูมาก็สวยดีนะ 555 เราก็เดินมาตามทางด้านบนเรื่อยๆค่ะ แอบชอบมุมนี้ ดูสงบแล้วก็ร่มรื่น ให้ความรู้สึกกลิ่นอายแบบสวนสมัยก่อนดีค่ะ ^^
เพลิดเพลินกับดอกไม้ริมทาง
หลังจากเดินเล่นจนพอใจแล้ว ก็ระลึกกันได้ว่า สมควรแก่เวลาที่จะเริ่มเดินทางตาม Loop ของ Sun Moon Lake Pass กันสักทีค่ะ พอตอนที่จะต้องขึ้นเรือแล้ว คณะของเราก็งงกันมากว่าต้องขึ้นลำไหน แล้วก็ไม่มีใครพูดภาษาจีนได้ด้วย เราก็เลยเอาตั๋วเรือโบกไปโบกมา ถามคนที่น่าจะเป็นคนดูแลเรือ เค้าก็ไม่ตอบอะไรเราเดินหนีไป :( สักพัก เฮียแกเดินกลับมา แล้วก็กวักมือเรียกให้ตามไป เย่! รอดแล้ว
การนั่งเรือที่นี่เค้าจะไปจอดรอเราที่ท่า แล้วก็ปล่อยให้เราเข้าวัดไปค่ะ สักพักเดี๋ยวเค้าก็จะมารับ ให้เรามาเจอที่เดิมที่เราลงเรือมา ป้ายแรกก็คือ Xuanguang Temple ตั๋วที่โชว์ด้านล่างนี่เหมือนกับตั๋วที่เราซื้อทุกอย่างเลยนะคะ ต่างกันแค่ของเราเป็นกระดาษแข็ง แต่เพื่อนๆไม่สามารถเซฟรูปนี้ไปปรินท์ใช้ได้นะจ้ะ เดี๋ยวจะโดนเค้าตบเอา (ฮา) พอมาถึงประตูทางเข้าวัด เท่าที่เราสังเกตส่วนใหญ่จะไม่มีวัยรุ่นมาเที่ยวกันเลยสักนิด จะมีแต่ทัวร์กรุ๊ปใหญ่ๆ หรืออากงอาม่ามาเที่ยวมากมาย สงสัยเด็กวัยรุ่นไต้หวันคงอยู่กันแต่ไทเปแน่เลย ระหว่างทางขึ้นวัด ก็มีอาม่ามารำไทเก๊ก (อารมณ์เหมือนสวนลุมบ้านเรา) อยู่ด้านข้าง เราจึงอดไม่ได้ที่จะรีบถ่ายรูปเก็บไว้ อาม่ารำพร้อมเพรียงมาก สงสัยจะนัดกันมาออกกำลังกายกันบ่อยๆ ถัดมาก็เจอคนทาตัวเป็นรูปปั้นค่ะ มีกล่องวางด้านหน้า สำหรับหย่อนเงิน ตอนที่ไม่ขยับนี่เหมือนรูปปั้นสุดๆเลยค่ะ พอไหว์พระเสร็จก็ออกมาทานไข่ตามสเต็ปยอดฮิตค่ะ บางคนก็ซื้อไปเป็นสิบฟอง ฝากลูกฝากหลาน ส่วนเราซื้อกันคนละฟองค่ะ มาที่นี่แล้วคิดถึง Hakone กินไข่ดำที่ญี่ปุ่นมากเลยค่ะ
รสชาติก็เค็มๆหอมๆ เหมือนเค้าเอาไปนึ่งซีอิ๊วรึเปล่าไม่รู้ค่ะ แต่ก็อร่อยดีค่ะ
น้ำทะเลเขียวใสมากเลยค่ะ
พอมาถึงอีกท่านึง ฝั่งนี้ก็มีขายของตลอดทางเลยค่ะ
ที่ไต้หวันมีบริการแมวดำเหมือนญี่ปุ่นด้วยนะคะ
ไต้หวันค่อนข้างจะเป็นอีกที่มีตัวการ์ตูนตามที่ต่างๆเต็มไปหมด
เดินมาพอสมควร ในที่สุดก็มาเจอทางขึ้นกระเช้าแล้วค่ะ
เป็นระยะทางที่ยาวพอสมควร สำหรับการนั่งกระเช้ารอบนี้ รูปใกล้ๆ
วิวที่มองเห็นจากบนกระเช้าค่ะ จากมุมสูงด้านบน เห็นรถคันเล็กนิดเดียวเองค่า
ตอนแรกเรากะว่าวันนี้จะรีบออกจาก Sun Moon Lake เพื่อที่จะไปเช็คอินให้ทัน 15.00 พร้อมกับไปเก็บพิพิธภัณฑ์กู้กงที่ไทเปด้วย เราเลยไม่เข้าที่หมู่บ้านค่ะ (จริงๆแอบงก เพราะต้องเสียเงินเพิ่ม 555+) ดังนั้น เลยมาถ่ายแชะกับทางเข้าด้านหน้า แล้วรีบชิ่งออกมานั่งกระเช้ากลับไป อิอิ
พอนั่งกระเช้ากลับมา จากตรงนี้เราสามารถที่จะนั่งรถบัสกลับไปยัง Shuishe Pier ได้ แต่ทว่ารอรถนานมากกกกก เหมือนว่ารถเพิ่งออกไป แต่รถที่นี่ก็มาตรงเวลาเป๊ะมากค่ะ เราสามารถดูตารางเวลาได้บริเวณป้ายรอรถ
ระหว่างรอ เจอดอกอะไรไม่รู้ค่ะ เป็นพู่ๆสีแดงสวยดี ^^ แวะมาเจิมจ้า อิอิ
โดย: Rosetear วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:20:04:49 น.
|
blueraccoon
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
Link |