airy nothing รวมบันทึกส่วนตัวและผลงานต่างๆ มาร่วมแบ่งปัน
 
 

พระลอร้อยแก้ว ฉบับเยาชน ๗

50. ขบวนทัพของพระลอเคลื่อนพลไป เห็นทุ่งนา ทุ่งหญ้าแต่ไกลผ่านพงอ้อ พงแฝก พงหญ้าแขมหญ้าคาเรื่อยไปถึงป่าดงป่าแดงอันเรี่ยรายไปด้วยหมู่ไม้ต่างๆพระลอทรงชมนกชมไม้งามและนานาสัตว์แล้วรำพึงถึงนางอันเป็นที่รักยามเห็นนกนางแอ่นเคล้าคลึงคู่ ก็นึกถึงยามน้องคลอเคลียพี่ กลิ่นดอกพยอมหอมถูกใจพี่หอมเหมือนกลิ่นน้องคนงาม อันพี่ต้องติดใจ เห็นต้นมะต้องคิดถึงมือน้องที่มาต้องสัมผัสพี่ เมื่อเห็นต้นชมพูพี่รำพึงว่าผ้าสไบบางของน้องมาคลี่อยู่ที่นี่หรืออีกทั้งบางขณะพระลอก็ได้ชมชีวิตป่าอันมีชีวิตชีวา ได้เห็นลิงลอดเล่นตามเถาลางลิงเจ้าลูกลิงลงมาชิงลูกไม้ ลิงลมวิ่งไล่เตลิดกันไปตามลมพัดไหว และลูกลิงไล่ขับกันเลี้ยวลอดตามเถาลางลิงแลทั้งหมดนี้ล้วนพาพระลอให้รำพึงถึงนางอันเป็นที่รัก พี่ทั้งคิดถึงนางทางข้างหลังทั้งห่วงนางทางข้างหน้า จนใจเหมือนจะบ้า ด้วยพี่ร้างแรมจากนางที่รักมา

51. พระลอท่องไปในป่าหลายคืนหลายวันจนถึงขอบชายแดนระหว่างเมืองสรวงกับเมือง

สรอง ไพร่พลจัดตั้งพลับพลาหลวงอย่างงดงามเหล่าเสนามาเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวกันถ้วนหน้า แล้วพระลอทรงมีราชโองการว่า“ท่านทั้งหลายกลับบ้านเรือนไปก่อนเถิด ถึงชายแดนแล้ว ควรส่งไพร่พลคืนสู่บ้านเมือง”เสนาต่างทูลขอตามเสด็จพระลอไปอีกสามสี่วัน พระลอตรัสว่า “ควรกลับในวันรุ่งขึ้นเลยมิเช่นนั้นราชธานีเราจะเปล่าเปลี่ยวอยู่นาน อีกทั้งพระชนนีทรงคอยฟังข่าวอยู่”เสนาทูลว่า ขอตามเสด็จไปจนกว่าจะเสด็จกลับคืนเมือง หากไปแล้วต้องตายยังดีกว่ากลับสู่เมืองสรวงก่อนพระองค์ พระลอตรัสว่า “ข้าห่วงแผ่นดินห่วงพระชนนีบุญเหลือ พวกเจ้ากลับไปดูแลราชการงานเมืองเถิด ข้าขอฝากบ้านเมืองและขอฝากพระมารดากับพระนางลักษณวดีด้วย” เสนามนตรีต่างรับราชโองการใส่เกล้าพระลอตรัสสั่งความอีกว่า “เมื่อพวกเจ้ากลับถึงเมืองสรวงแล้ว ทูลพระชนนีว่าลูกของพระองค์เป็นสุขดี และขอกราบที่บาทพระมารดาด้วย และจงไปทูลพระนางลักษณวดีว่าข้าไม่ได้เจ็บไข้อันใด อย่าได้ร่ำไห้เลย ข้าจักรีบกลับไปหาโดยไว”

52. พระลอให้แบ่งปันคน คนสนิทให้ติดตามไปหนึ่งร้อยคนนอกนั้นให้พาช้างม้าที่เหลือกลับเมืองสรวง ทั้งให้จัดคนไว้คอยฟังข่าวอยู่ทางนี้และตรัสสั่งให้เรียกพระองค์ว่า ขุนด่าน ส่วนพระพี่เลี้ยงแก้ว ขวัญเป็นหมื่นแขวงครั้นแล้วพระลอก็เดินทางถึงประตูป่าชายเมืองสรอง จากนั้นเสด็จผ่านเขตนาเขตบ้านเรือนราษฎร และดงกว้างใหญ่ ระหว่างทาง เมื่อมีชาวป่ามาทักถามพระองค์ก็บอกว่า เป็นขุนด่านจากในเมืองมาเลียบตรวจด่านชายแดนตรวจเสร็จแล้วจะกลับเข้าเมือง ผู้ติดตามทำที่ประทับพักตามทางไปโดยลำดับจนถึงแม่น้ำกาหลง

53. ถึงแม่น้ำกาหลงก็หยุดขบวนและพักช้างไว้ริมฝั่งพระลอตรัสสั่งให้ฟันไม้มาทำแพ แล้วพระองค์ก็เสด็จข้ามแม่น้ำผู้ติดตามถางทางทำที่พักให้สมตามฐานะขุนด่าน พระลอเสด็จสรงแล้วทรงคิดถึงว่าพระมารดาจะทรงร่ำไห้ห่วงหาพระองค์ พลางรำพึงว่า ตัวลูกเจ็บด้วยรักเจ็บด้วยการจำพราก เจ็บเพราะอยากกลับเรือนเหย้าเจ็บเพราะมาคนเดียวสู่แดนของผู้อื่น และยิ่งเจ็บด้วยแม่ต้องมาร้อนใจถึงลูก โอ้หญิงร้อยคนหรือจะเท่าเมียตน เมียพันคน หรือจะเทียบเท่าพระแม่ได้ตัวข้าอย่าไปพบหน้าสองนางเลย คืนกลับไปหาพระแม่บุญเหลือเสียดีกว่าแล้วหันไปตรัสกับพระพี่เลี้ยงว่า “ข้าคิดมิถูกแล้ว วานเจ้าสองคนช่วยคิดทีเถิดบาปอันใดทำให้ข้าต้องมาร้อนใจถึงแม่เช่นนี้” พระพี่เลี้ยงจึงทูลว่า“ข้าบาทเห็นชอบให้พระองค์เสด็จกลับไปครองบ้านเมืองขอทรงโปรดอย่าลอบเข้าเมืองสรองเลย” พระลอตรัสว่า “หากกลับเมืองสรวงคนก็จะกล่าวร้ายได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่ใจขลาดนัก” สองนายจึงทูลว่า“พระองค์เป็นมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ใครเล่าจะอาจเอื้อมตำหนิได้ พระเอย”พระลอตรัสแก่สองนายว่า “เราจักไปสักชั่วเวลา แล้วจึงค่อยคืนกลับเมือง”

54. ด้วยความลังเลพระทัย พระลอจึงทรงลองเสี่ยงน้ำทำนายอนาคตท้าวท่านตรัสว่า “มากูจะเสี่ยงน้ำ ณ แม่น้ำกาหลง หากแม้นกูไปแล้วไม่รอดกลับมาน้ำจงหมุนเวียนวน แต่ถ้าจะได้รอดกลับมา ขอให้กระแสน้ำจงไหลเรื่อยไปเถิดหนา”ครั้นสิ้นคำอธิษฐาน น้ำก็หมุนเวียนวน เห็นกับตาว่าน้ำนั้นแดงดุจเลือดมาย้อมพระลอทรงรันทดทุกข์หนักเหมือนดั่งถูกไม้ใหญ่สักร้อยคนโอบล้มลงทับทรวง

55. พระลอฝืนพระทัยไว้ มิบอกกล่าวให้ใครรู้ทรงขึ้นจากสรงแล้วเสด็จเข้าในพลับพลา ทรงปิดม่านและร่ำไห้อยู่ลำพังพระองค์พลางคร่ำครวญถึงพระชนนีบุญเหลือและชะตากรรมของพระองค์ว่า หากพระแม่สิ้นชีพขอให้ลูกได้เห็นผีแม่ หากลูกตาย ก็ขอให้พระแม่ได้เผาศพลูกหรือว่าลูกจะไม่ได้เผาผีแม่ และแม่จะไม่ได้เผาผีลูกเลย ลูกจะตายก็ตายแต่ปวดร้าวที่ลูกจะไม่ได้เห็นหน้าแม่บังเกิดเกล้า ลูกเป็นกษัตริย์มียศยิ่งฟ้าหรือบาปกรรมทำให้ลูกต้องมาตายอนาถอยู่เดียวดายที่แผ่นดินอื่น พระแม่เอย

56. แม้พระลอเป็นทุกข์เท่าฟ้า แต่ยังแสร้งทำหน้าชื่นทรงเผยม่านออกมาสั่งความว่าให้สองพระพี่เลี้ยงไปสืบดูลู่ทางในเมืองสรองมาให้ถี่ถ้วน นายแก้วนายขวัญจึงออกไปเที่ยวดูลาดเลาจนกระทั่งเข้าไปถึงในอุทยานเมืองสรองได้โดยให้เงินสินบนคนดูแลสวนทั้งสองเที่ยวดูตามประตูเมืองประตูวัง และท่องดูทางทุกที่เตร่ไปตามเขตหมู่เรือนชาวบ้านจนได้รู้ละเอียดทั้งหมด แล้วเดินกลับทางป่าทั้งสองเข้าทูลความและเขียนเส้นทางถวายแด่พระลอโดยถี่ถ้วนทุกประการพระลอตรองแล้วทรงบัญชาว่า ให้ทิ้งช้างสองตัวม้าสี่ตัวและผู้ติดตามเจ็ดสิบคนไว้ที่ด่าน อีกสามสิบคนนั้นให้ตามเสด็จต่อไป




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 20:15:34 น.   
Counter : 592 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับเยาชน ๖

 

42. พระลอทรงมีโองการสั่งขุนนางผู้ใหญ่ผู้จงรักภักดีให้รักษาดูแลเมืองและราษฎรแทนพระองค์ ให้เร่งขจัดศัตรูเมืองและให้ดูแลพระชนนีบุญเหลือเหมือนตอนพระองค์ยังอยู่แล้วตรัสสั่งขุนพลและกองทัพให้เร่งจัดกระบวนทัพทั้งสี่เหล่าให้เสร็จสรรพตามแบบแผนข้าจะออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น

43.ครั้นเมื่อพระลอสั่งความราชการเมืองแก่เหล่าขุนนางเสร็จแล้วก็เสด็จสู่ห้องในเรือนหลวงเพื่อกล่าวประโลมลาพระนางลักษณวดี ผู้ทรงเศร้าตรมใจยิ่งนักน้ำตานั้นเอ่อล้นพระเนตร

พระลอ : เจ้าจงอยู่ดีน้องพี่ พี่จะจากไปอยู่ทางนี้แม่อย่าเศร้า ไม่ช้าพี่จะกลับมาอยู่ร่วมกับเจ้า

พระนางลักษณวดี : พระองค์ละทิ้งข้าบาทไว้ผู้เดียว พระเอยหนทางนั้นไกล มากมายด้วยสัตว์ร้าย ทั้งผีสางจะหลอนหลอก ไปข้างหน้านั้นก็กลัวศัตรูจะทำร้ายทางข้างหลังนี้เล่า พระองค์ก็กลัวน้องจะเสียใจน้องขอหวงห้ามให้ทรงโปรดอยู่ปกเกล้าน้องเถิด ขอพระองค์อย่าไปเลยน้องจากพ่อแม่และพี่น้องมา ด้วยพระองค์ทรงชุบเลี้ยงเป็นข้าปรนนิบัติพระองค์น้องเป็นสุขยิ่งแล้ว พระองค์จะมาจากไปน้องเหมือนหนึ่งสิ้นศีรษะแล้ว

พระลอ :ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง มีแต่บาปบุญที่เที่ยงแท้สองสิ่งนี้คือเงาติดตัวตรึงแน่น สุดแต่กรรมดีกรรมชั่วจะเกื้อหนุนดูแลจากน้องพี่หม่นหมอง ถ้าอยู่พี่ก็อกตรมด้วยไฟรักเผา พี่จำใจต้องจากน้องแต่ในไม่ช้าพี่จะกลับคืนมาคู่น้อง

พระนางลักษณวดี : แม้พระองค์เสด็จไปแล้วได้ครองนางทั้งสองไหนเลยพระองค์จะกลับคืนมาครองเมืองคุ้มเกล้า สองนางจะลองมนตร์มารยากับพระองค์เมื่อเสร็จสมแล้วก็จะปล่อยให้ว้าเหว่เหมือนถูกขังอยู่ในวัง

พระลอ : พี่จำใจจำร้างจากน้องคู่ชีวิตของพี่ยามนตร์ทำให้พี่ต้องจำจากน้องไป ถึงพี่อยู่ก็ไม่อาจร่วมสุขกับน้องได้เลยเจ้าหากมิตายไปจากเจ้า พี่ก็ไม่แคล้วเป็นบ้าเสียคน

พระนางลักษณวดี : พระองค์ทรงเมตตาชุบเลี้ยง เป็นเหมือนบิดามารดา เป็นพระเจ้าให้กราบไหว้ ทั้งเป็นครูให้ยามค่ำเช้า

ตรัสแล้วพระนางก็ซบหน้าบนตักพระเจ้าแผ่นดิน สองแขนกอดรัดจอมกษัตริย์ไว้ หายใจจูบไม่มีอิ่มเอมใจเลยมือกอบธุลีพระบาทมาลูบเกล้าเพื่อเป็นสิริมงคล

พระลอ : พี่จำใจจาก มิใช่จากไปเพราะชังเจ้าถึงจากน้องไปก็ใช่ว่าจะตัดรักได้ เด็ดบัวยังเหลือเยื่อใยนะเจ้าแม้จากไปก็ไม่ลืมน้อง อย่าได้ร้อนใจเลย

พระนางลักษณวดีสุดที่จะทัดทานพระเจ้าแผ่นดินได้ ด้วยสุดบุญแล้วพระนางซบหน้าลงร่ำไห้เหนือพระบาทของพระลอและปล่อยผมลงเช็ดพระบาทพระลอเห็นพระนางลักษณวดีโศกก็ทวีความโศกและพลอยร่วมโศกไปด้วยพระลอเล้าโลมพลางปลอบพลางว่า “อย่าโศกเศร้าเลยเจ้าจะเป็นลางยามพี่เดินทางกลางป่าดงดับทุกข์ดับความข้องขุ่นใจเถิดเจ้า”

44. พระลอเสด็จไปปลอบประโลม สั่งความแก่พระสนมว่า“อยู่ทางนี้พวกเจ้าอย่าได้ระทมร้อนรนใจเลย” ปวงนางสนมรับคำแล้วกราบบังคมที่พระบาทแล้วพากันซบหน้าร่ำไห้สะอึกสะอื้นจนหมดแรง

45. เสียงร้องไห้โหยหวนดังอึงมี่ไปทั้งเรือนหลวงขุนนางน้อยใหญ่ต่างเจ็บช้ำ ราษฎรตามบ้านเรือนต่างร้องไห้ไปตีอกไปด้วยความทุกข์ทั่วกันเมืองจะเย็นเป็นน้ำก็ด้วยน้ำตานี้ละหนาพระลอเห็นชาวเมืองทุกหมู่ทั้งหญิงชายพากันร่ำไห้แล้วพระทัยสั่นไหว กายอ่อนระทวยพระองค์ตรัสว่า “พวกเจ้าอย่าได้ทุกข์โศกนักเลยหนา ทุกข์หนักมักทำให้ป่วยไข้และมักเป็นไข้ที่ทำให้ตายเร็ว”

46. พระลอสั่งความแก่ทุกผู้จนเป็นที่คลายพระทัยแล้วยังมิทันจะบรรทม ก็เห็นแสงจันทร์สว่างดาวที่พร่างพราวคล้อยต่ำด้วยเป็นเวลาใกล้รุ่ง ดาวพระศุกร์ขึ้นสู่ท้องฟ้าไก่ลุกกระพือปีกขัน นกดุเหว่าเริ่มร้อง พระลอเสด็จเข้าที่สรงชำระพระองค์ทรงแต่งองค์งดงาม ทรงสวมมงกุฎแก้ว ทรงถือมงคลพิไชยอาวุธ แล้วทรงเสด็จออกดั่งพญาราชสีห์เยื้องกรายออกจากถ้ำภูเขาแก้ว มินานก็เสด็จถึงประเทียบช้างขุนช้างกับควาญขับนำพญาช้างไชยนุภาพมาเทียบที่เกยพระลอทรงคอช้างแล้วรับสั่งให้เคลื่อนหมู่ไพร่พลยิ่งใหญ่สง่างามไปท่ามกลางเสียงแตรสังข์ วงพิณพาทย์ ฆ้อง ประโคมก้องไปทั่วกรุงพระลองามเปล่งปลั่งดุจดวงเดือน ยามเสด็จก็ดั่งเดือนลอยอยู่บนฟ้าดวงดาวที่เรียงรายเต็มฟ้าก็เหมือนไพร่พลที่ล้อมตามเสด็จ

47. พระลอทอดพระเนตรเรือนรั้วไร่สวนราษฎรพลางรำลึกถึงนางผู้เป็นที่รัก ป่านนี้นางคงคร่ำครวญถึงพี่ แล้วใครจะปลอบประโลมนางเล่าพี่ไปก็ไม่แคล้วจะคิดถึงนางทางนี้ จะกลับก็คิดถึงนางที่อยู่ข้างหน้าจะไปดีหรือไม่ไปดีหนา คิดแล้วยิ่งอ้างว้างสับสน ด้วยห่วงหน้าพะวงหลังคิดถึงนางทางข้างหลังนั้นก็รัก แต่ยามนตร์คาถาของนางทางฝ่ายหน้าก็ขลังนักพระลอตัดใจไม่กลับหลัง แล้วตั้งหน้าเดินทางต่อไป ขบวนไพร่พลเร่งเคลื่อนไปผ่านนาไร่ ไปตามเส้นทางน้อยใหญ่ของถิ่นชนบท จวบจนใกล้ค่ำคนนำทางให้หยุดไพร่พลทำจวนที่พัก พระลอเสด็จประทับที่พลับพลาแล้วเหล่าเสนาก็มาเข้าเฝ้ากันคับคั่ง

48. พระลอประทับอยู่ท่ามกลางหมู่บริพารดวงอาทิตย์ค่อยคล้อยต่ำ ใกล้ค่ำเข้ามาเรื่อยๆลมพัดเฉื่อยพาให้คำนึงถึงพระนางลักษณวดีกับพระสนมกำนัลแลัวยกพระหัตถ์ลูบทรวงพลางรำพึง โอ้ พี่ด่วนร้างลามา ช่างแสนตรอมใจพี่เห็นเดือนแล้วดั่งเห็นหน้าอันงามของน้องนางลักษณวดี เห็นดาวดารดาษเต็มท้องฟ้าเหมือนหมู่สาวสนมมาใฝ่ใจเฝ้า

49. พระลอบรรทมองค์เดียวเปลี่ยวอ้างว้างสองกรกอดอกร่ำไห้น้ำตาตกใน นึกถึงนางจนเหมือนดั่งได้เห็นหน้าถนัดพระลอตรัสถึงสภาพการรอนแรมทางกับสองพระพี่เลี้ยงว่า “เห็น

โรงเรือนตามบ้านชนบทรุงรังเลอะเทอะ ไม่น่าแลดูเลยนะเจ้า”พระพี่เลี้ยงทูลว่า “พระเอย ถึงอาบน้ำขุ่น ยังได้ความเย็นชื่น ปลาหมักไว้ถึงเหม็นยามหิวก็ต้องเคี้ยวกลืน ยามยากไร้เด็ดดอกหญ้ามาแซมผมไปก่อน พระเอยหอมหรือมิหอมก็เอามาทัดดมไปก่อนเถิด” เดือนเพ็ญสาดแสงทั่วท้องฟ้าพระลอบรรทมกอดหมอนไปอย่างเปล่าเปลี่ยว หมองไหม้พระทัย




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 20:12:51 น.   
Counter : 436 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับเยาชน ๕

39. จากนั้นพระนางบุญเหลือไปหาพระลอและตรัสกับพระลอราชเจ้าว่า พ่อเอย ปรานีแม่เถิด แม่ได้ฟังคำลูกว่าใคร่จะไปเที่ยวเล่นตามป่าเขา แต่แม่เดาว่าเจ้ามิได้กล่าวความจริงพ่อกำลังคิดจะทำเป็นอย่างอื่น ลูกบอกความจริงให้แม่ฟังเถิดนะเจ้า พระลอทูลว่าลูกรำพึงคิดถึงเรื่องอื่นอยู่จริง หากบอกความจริง ก็เกรงว่าแม่จะขัดใจลูกพระนางบุญเหลือตรัสว่า แม่จะตามใจลูก พระลอทูลว่าหัวใจของลูกใคร่จะได้ไปเห็นหน้าพระเพื่อน พระแพง แต่ลูกยังไม่สมปรารถนาจึงได้เฝ้าเห็นแต่หน้านางทั้งสอง แม่ของลูกเอย ลูกขอกราบเท้าลาแม่ไปหาสองนางครั้นแล้วลูกจักกลับคืนมาหาแม่ พระนางบุญเหลือตรัสว่า เจ้าไปแล้วเจ้าจะกลับมาเมื่อใดลูกเอย เนื้อไปหาเสือ มีหรือเสือจะปล่อยไว้ฟังคำพูดของเจ้าแล้ว แม่เหลือที่จะคิด ที่คิดได้นั้น ล้วนแต่เรื่องร้อนใจบรรดามุขมนตรีคิดเห็นว่าให้แต่งสารไปถามความกับพระพี่น้อง เพื่อน แพงและจะรับสองนางมาสู่ลูก เรื่องก็จะง่าย ไม่มีอันใดขัดข้อง พระลอทูลว่าความคิดนี้เห็นทีจะทำให้เรื่องเนิ่นนานออกไป หากบิดาของสองนางมิยกให้หนทางของสองเมืองไกลกัน มัวส่งสารกันไปมา เห็นว่าเรื่องจะยากเข้าไปอีก ขอลูกไปเองเถิดเรื่องจะเป็นไปโดยง่ายดายทุกประการ พระนางบุญเหลือรำพันว่า เจ้าไปแล้วนะลูกมีหรือจะได้รอดกลับคืนมา ลูกอย่าไปเลย ยามนตร์ อาคมยากยิ่งจะรักษาได้ ผีก็ร้ายคนก็ร้าย แล้วเจ้าจะรอดได้อย่างไรบ้านเมืองเราโดนอุบาทว์ร้ายแรงเข้าครอบงำนะลูกเอย เขาส่งผีสางศักดิ์สิทธิ์มาข่มแล้วลูกแม่จักรอดหรือพ่อ หากแผ่นดินล่ม ลูกผู้เป็นเจ้าแผ่นดินสิ้นแล้วแม่ก็ตายตามด้วย พระปู่ของสองนางนั้น เราฟันขาดคอช้าง เขาโกรธแค้นอยู่ก็จะหลอกเจ้าไปลงโทษแทนหนา ฉะนี้พ่อจะไปเข้าสู่เงื้อมมือศัตรูหรือ พระลอทูลว่าถึงคราวเคราะห์ จะอยู่ได้ฉันใด พระแม่เอย หากไม่มีกรรม ใครจะมาฆ่าลูกได้หากมีบุญกุศลส่ง ลูกก็จะไปได้ถึงที่แห่งสุข หากบาปส่งผลให้ตกต่ำแล้วจะช่วยได้ฉันใด ถ้าไปถึงแล้ว ถึงคราวเคราะห์ต้องตายก็ดี หรืออยู่บ้านเมืองตนประหนึ่งได้เสวยสุขครองสวรรค์ก็ดี ลูกขอไม่อยู่ ลาพระแม่เจ้าแล้ว ลูกจักไป

40. ได้ฟังฉะนี้แล้วพระนางบุญเหลือก็ทาบตีอกตนร่ำไห้เหมือนดังจะตาย พลางรำพันว่าคำสอนของแม่นั้นหมดสิ้นแล้ว สอนเจ้าไม่ได้อีกแล้ว กรรมของลูกจะหลอนจะล่อเจ้าหรือไรรู้ทั้งรู้ เจ้าก็ยังปล่อยให้ตนเองกลัดกลุ้มมัวหม่นเช่นนี้แม่จำศีลโดยไม่ท้อถอยอยู่เจ็ดวัน ลูกเอย แม่เปิดคลังให้ทานปันผลมากมายเท่าฟ้าเพื่อขอให้ได้ลูกชายที่มีใจเป็นธรรม แม่จึงได้ตั้งท้องเจ้า สุดหัวใจของแม่เอยสิบเดือนแม่อุ้มท้องเจ้า แม่รักษาครรภ์ มิเคยจะละลืมสักน้อยหนึ่งจนกระทั่งเจ้าคลอดออกมา แม่ก็เฝ้าถนอมยามจะอาบจะอุ้มเจ้า แม่ก็เบามือ เฝ้าคอยลูบเลี้ยงรักษาเจ้าอยู่มิเว้นวางแม่ป้อนข้าวเจ้าวันละสามเวลาอยู่เป็นนิตย์ จนลูกรู้จักเสวยเองแม่ไม่เคยให้ใครมาทำผิดแผกต่อเจ้า แม่บรรจงแต่งบรรจงทำของเสวยให้ลูกไม่เคยจะเลินเล่อเลยสักน้อยหนึ่ง ของเสวยของลูกแม่ตรวจตราดูแลเสมอมิเคยวางใจให้ผู้ใดทำแม้เท่ากิ่งก้อย แม่พร่ำเลี้ยงรักษาเจ้ามาแต่น้อยจนลูกเจริญวัยขึ้นครองแผ่นดิน ควรแล้วหรือไร ที่ลูกจะจากไปให้แม่ตรอมใจตายแม่มีชีวิตอยู่นี้ก็หวังได้พึ่งลูกผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดินละหนาเมื่อตายก็หวังฝากผีกับลูกได้ ไฉนลูกจะจากลาอกแม่ไป ถ้าแม่ตายแล้วจะฝากใครเผาผีได้ แม่สิ้นกำลังใจ แม่สุดที่จะห้ามลูกผู้เป็นเจ้าแผ่นดินแล้วแม่สอนเจ้าก็ไม่ฟังแม่ จะไปเสียให้ได้ แม่หนักใจเหลือเกินและสุดที่จะห่วงใยเจ้าทุกข์ครั้งนี้ช่างใหญ่หลวง แม่อยู่ทางนี้คงมีแต่เศร้าโศกร้อนใจไม่มีสบาย ลูกเอย ต้องมาจากแม่ไป โอ้กรรมใดนะพ่อถึงคิดแต่จะจากไปสู่สองนาง แม่อยู่ผู้เดียวมีแต่จะอาลัย ต้องทนเศร้าใจนะลูก มาขอแม่ชมลูกสักน้อยหนึ่งให้คลายใจ ชมแก้ม ชมหน้าผาก ชมริมไรผม ชมปาก ชมตาช่างงามเพริศพริ้งไปทุกที่ ชมหน้างามดั่งดวงเดือนของเจ้า ช่างเป็นขวัญตาเจ้าจอมกษัตริย์ของแม่ช่างงามสง่า ชวนให้จูบแก้มชมใบหู แม่ขอเชยชมลูกให้ทั่วลูกรักของแม่เอ๋ย ปรานีแม่เถิด แม่ขอทูนพรบาทงามดังดอกบัวของลูกไว้เหนือหัวไฉนลูกผู้เป็นเจ้าแผ่นดินจะทัดทานแม่ ขอแม่จูบบาทของลูกผู้มีบุญและสั่งความแก่เจ้าผู้เป็นยอดดวงใจพระลอทูลว่า พระแม่รักลูกจะทูนบาทลูกไว้เหนือหัว ลูกผู้เป็นข้ารับใช้ใต้พระบาทแม่ กลัวจะได้รับบาปพระคุณแม่เลี้ยงมาจนเป็นตัว ทั้งสอนสั่งลูกมา ลูกมิได้แทนคุณพระแม่แม้เท่าเส้นยองใย ด้วยกรรมทำให้จากพระแม่บาปกรรมแต่เก่าก่อนทำให้ต้องจำพรากจากแม่ไป พระคุณแม่มิทันได้ทดแทนกลับมาขัดใจแม่เช่นนี้ ด้วยยามนตร์ที่เขาทำ โน้มน้าวลูกให้ใหลหลง

41.เมื่อนั้นพระชนนีเศร้าสลดพระทัย “เจ้าลอลักษณ์ ลูกรักแม่รักเจ้ายิ่งกว่าดวงตา ยิ่งกว่าตัวเอง รักยิ่งหัว ยิ่งชีวิตแต่นี้เจ้าจะจากแม่จากเมืองไป จารีตของกษัตริย์ทุกประการเจ้าจงจำคำแม่สอนอย่าได้คลาดเคลื่อน เจ้าอย่าประมาท อย่าคบคนไม่มีสัตย์คิดการรอบคอบแล้วจึงทำ คิดทุกคำแล้วจึงพูด อย่าทำให้พลเมืองลำบากไต่สวนราชการเมืองให้ยุติธรรม รักษาแผ่นดินให้ร่มเย็น เอาใจใส่ดูแลทุกกรมเมื่อจะป้องกัน ต้องป้องกันให้มั่น เมื่อจะบีบบังคับ ต้องบีบบังคับให้เป็นอุบายเลือกคนรับใช้ที่ใจซื่อสัตย์ เตือนขุนนางอย่างเที่ยงตรง กล่าวปลุกเร้าคนให้กล้าหาญผลาญทำลายศัตรูบ้านเมือง ลงอาญาราษฎรที่ทำผิด และป้องกันศัตรูอย่าให้กำเริบไม่ถึงเวลาอันควรอย่าทำ ปกครองบ้านเมืองอย่ากดขี่ เข้มงวดจนไพร่ฟ้าเดือดร้อนอย่าทำความชั่วร้ายให้คนข้างหลังสาปแช่ง อย่าประพฤติตนให้คนแช่งด่าประพฤติตนดีทั้งกาย วาจา ใจ และชักชวนให้ผู้อื่นกระทำความดี”แล้วพระนางบุญเหลือก็อำนวยพรแก่พระลอว่าเกียรติยศของเจ้าอย่าได้หดหายตราบเท่าฟ้าสิ้นสลาย เจ้าจงจำคำสอนของแม่สุดที่รักของแม่เอย ความเจริญจงเกิดแก่เจ้าเทอญ ขอให้ลูกจงเจริญ รุ่งเรืองอำนาจทุกข์โศก โรค อันตรายอย่ามากล้ำกลายลูกเลย ศัตรูและคนพาลให้พ่ายแพ้ต่อฤทธิ์เจ้าขอลูกจงครองสุข อย่าได้มีความขุ่นแค้นขัดเคืองอารมณ์ ขอให้เจ้าได้เจอสองนาง เพื่อนแพง ขอลูกอย่าต้องกลเสน่ห์ คำสอนของแม่อย่าได้จางจากใจเจ้าขอให้ลูกได้กลับมาป้องกันบ้านเมืองเรา ขอฝากเทพผู้รักษาแผ่นดิน รักษาอากาศ แม่น้ำและป่า และเทพดาทั้งหลาย ช่วยรักษาลูกของแม่ อย่าให้มีภัยอันตรายแม้นเจ้าได้คืนกลับมาครองแผ่นดิน แม่จะจัดแต่งธงกับฉัตรให้งามเพริศแพร้วจัดเทียนทองกับแก้วระย้าอันงามชื่นตาจัดเป็ดไก่กับบายศรีแก้วไว้แก้บนเทพดาอารักษ์ทุกแห่งหน”เมื่อพระลอได้ฟังพระชนนีแล้วก็ก้มลงกราบรับถ้อยคำสอน ทรงรับพรไว้เหนือเกล้าพระลอปล่อยผมลงเช็ดบาทพระชนนี ทรงยกมือไหว้ลาพระมารดาเหนือศีรษะแล้วเสด็จสู่ท้องพระโรง




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 20:10:55 น.   
Counter : 407 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับเยาชน ๔

 

31. ฝ่ายพระเพื่อน พระแพงไม่เห็นพระลอเสด็จมาก็โหยหาจนพระทัยร้อนรนเป็นไฟ สองราชธิดารำพึงแต่ว่าพระลอจะมาหรือไม่มาและเฝ้าแต่ละห้อยร่ำไห้คอยท่าพระลอราชเจ้า ทนรอไม่ไหวแล้วจึงใช้สองนางพี่เลี้ยงไปถามพระปู่เจ้าว่าไฉนจึงเป็นเช่นนี้ พระปู่เอย ยังอีกกี่วัน พระลอจึงจะมา ปู่เจ้าฯเพ่งญาณแล้วว่าทางฝ่ายโน้นเขาแก้มนตร์อาคมที่ทำไป และจัดมดหมอมาเฝ้ารักษาพระลอไว้ปู่จะลงมือต่อสู้กับเขาเอง เจ้าอย่างเกรงว่าจะช้า สองราชธิดาจักได้เห็นหน้าพระลอพระบาทเจ้าจะมาถึงแน่

32.ปู่เจ้าเรียกบริพารจากทุกทิศทุกที่มาจัดตั้งเป็นกองทัพอันมหึมา แต่งตั้งเจ้าป่าเทวดาอารักษ์ ยักษ์กุมาร ภูตผี ปีศาจเป็นหัวหน้าหมู่ เทพดาผู้เรืองฤทธิตั้งเป็นนายทั้งกองทัพเร่งจับอาวุธ เคลื่อนกันไปดาษดื่นโดยเร็วจนพลิกเอาไม้ไร่ หินผากระเด็นต่างเต้นโลดกันครื้นครั่น กู่ร้องกันอึกทึก ก้องสะเทือนธรณีเมื่อเทียบพลผีเสร็จสรรพแล้ว ปู่เจ้าฯ ให้ทั้งกลทั้งยามนต์ที่จะใช้ทำให้มนตราของฝ่ายโน้นเสื่อมและให้อารักษ์ที่เฝ้ารักษาพ่ายหนีไป ปู่เจ้าฯว่า แล้วกูจะใช้สลาเหินให้ล่องเวหาไปฉุดดึงพระลอมาสู่เรือนของสองราชธิดาจากนั้นไพร่พลของปู่เจ้าฯนับได้โกฏิเคลื่อนไปทางอากาศดังโกลาหลโดยเร่งด่วน

33. มินานไพร่พลทัพผีก็มาถึงเมืองสรวงพลันฝ่ายผีแดนเมืองสรวงก็เร่งร้องเรียกกันมาป้องกันเขตแดนกันเกลื่อนกล่นภูตผีต่างเมืองเข้าตีทันที ผีแดนก็รุกรบแล่นไล่ บ้างหลบ บ้างหลีกหนี มิได้โต้ตีตอบกองทัพผีรบกันเอิกเกริก ไล่ทุ่มไล่แทงกัน ต่างแผดร้องไม่หยุดยั้งทั้งร้องเร่งพลให้เคลื่อนผ่านเข้าไปรุกรานทัพผีปู่เจ้าฯบันดาลให้เกิดไฟควันคละคลุ้มจนมืดมนไปทั่วฟ้าด้วยแรงยาแรงมนต์ของปู่เจ้าฯ ผีแดนยากจะทานทน จึงฝากข่าวแก่ลม ให้รีบลัดไปบอกเทพดาเสื้อเมืองว่าที่เกิดท้องฟ้าเหลืองอุบาทว์ อากาศคลุ้มเป็นควัน ฟ้าผ่ากึกก้อง ใจเมืองดั่งจะคว่ำหัวอกเมืองดั่งจะพัง เทพดาสั่นตระหนก เพราะกลัวฤทธิ์พระปู่เจ้าด้านปู่หมอสิทธิไชยเล็งญาณเห็นว่า ครานี้เกิดความยากเข็ญครั้งใหญ่แล้วเหตุที่เป็นไปดังนี้ แน่ชัดว่าด้วยฤทธิ์เดชผีสางปู่หมอจึงนำความขึ้นกราบทูลพระนางบุญเหลือ

34. ฟังความจากปู่หมอสิทธิไชยว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นเห็นที่จะสิ้นทางป้องกันพระนางบุญเหลือก็ทรงยกสองกรทาบตบพระอุระพลางร่ำไห้ และครวญว่า ใครจะช่วยเจ้าได้ลูกแก้ว จอมใจของแม่เอย แล้วรับสั่งกับปู่หมอว่า ไฉนจึงเป็นดั่งนี้เล่าขอปู่หมอช่วยด้วยเถิด ถ้าปู่ช่วยสำเร็จ จะยกบ้านเมืองให้ปู่ครองครึ่งหนึ่งปู่หมอเพ่งญาณดูแล้วทูลว่า ครั้งนี้พ้นแรงที่จะแก้ไขได้มีผู้ทรงฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์กระทำมาจนเทวดาอารักษ์และผีสางของเราพ่ายหนีและยามนตร์ที่เราทำป้องกันไว้เสื่อมลงพระชนนีบุญเหลือฟังความแล้วทรงโศกเศร้าและพระทัยหม่นไหม้เหลือแสนน้ำพระเนตรนั้นไหลหลั่งเป็นทาง ทรงกันแสงมิรู้กี่คราต่อกี่ครา จนแหบแห้งพระทัย

35. ครั้นเมื่อปู่เจ้าสมิงพรายได้รับสารว่า ผีภายในแล่นออกผีภายนอกแล่นเข้าเมืองสรวงได้แล้ว ก็ส่งสลาเหินให้เดินอากาศไปตกปนอยู่ในพานหมากเสวยของพระลอครั้นพระลอหยิบเสวยเชี่ยนหมากนั้น มินานพระลอราชเจ้าก็เกิดอาการใจจะขาดรอนรอนคิดถึงพระเพื่อน พระแพง จนมิอาจคิดการอื่นใดได้

36. พระลอเข้าเฝ้ากราบแทบบาทพระชนนีทูลว่าอยู่ๆลูกก็ใจอ่อนล้า จะใคร่ขอลาพระแม่เจ้าไปเที่ยวเล่นตามราวป่าพระนางบุญเหลือทรงรำพันว่า ไฉนลูกแม่จึงมาเป็นดังนี้หนอมดหมอบอกว่าสุดกำลังจะรักษาเจ้าแล้ว เขาส่งผีสางมาทำมนตร์มายาซ้ำอีกวันใดเจ้าย่างเท้าออกจากเมือง หัวอกแม่จะเจ็บไข้ จนมิอาจทรงกายอยู่ได้เลยพระลอลาพระชนนีไปเที่ยวป่าไม่ได้ จึงกลับมาระทมทุกข์อยู่ บัดเดี๋ยวนั่งบัดเดี๋ยวนอนอย่างอ่อนใจ ก่นแต่เสวยน้ำตา ใจหวนคะนึงแต่ความรักที่มีต่อพระเพื่อนพระแพง มิได้บรรเทาเลย

37. พระนางลักษณวดีนั่งเฝ้าอยู่แนบใกล้พระลอคอยระมัดระวังพระบาทไว้อย่างเต็มที่ พระสนมกำนัลคอยพัดไกวอยู่ไปมาพระชนนีก็คอยลูบเล้าประโลมขวัญอยู่มิห่าง แต่ถึงอย่างไรพระลอก็มิทรงคลายความเศร้าโศกและแลดูหมองหม่นไปทั้งกายยามหลับก็ละเมอเพ้อหาสองนางเมืองสรอง ด้วยหลงใหลใฝ่ปอง แต่มิอาจสมปรารถนาได้เฝ้าแต่คิดคำนึงหานาง จนใคร่จะกลั้นใจตาย

38. ครั้นเมื่อตื่นบรรทมพระลอทรงขึ้นเฝ้าและอ้อนวอนพระชนนีว่า ลูกจะขอไปเที่ยวชมป่า

เขา ไล่ช้างไล่เนื้อทราย ท่องตามลำน้ำและถ้ำกลางป่าพระนางบุญเหลือฟังแล้วก็ทรงครุ่นคิดวิตกว่า ที่พระลอมาขอไปชมป่าเช่นนี้หากได้ไปแล้ว คงจะไปหาสองนางเพื่อน แพงละหนาลูกมาพูดจาเป็นเล่ห์อ้อนวอนบ่อยๆเช่นนี้ แล้วจะห้ามได้อย่างไรเล่าพระนางบุญเหลือเรียกประชุมโหราจารย์ คณะขุนนางผู้ใหญ่ และปู่หมอสิทธิไชยโหราจารย์ว่า หากจะทัดทานพระเจ้าแผ่นดิน จะทรงฟังละหรือ ปู่หมอสิทธิไชยทูลว่าแม้เทวดามาทัดทาน ก็เห็นจะห้ามปรามไม่อยู่ ขุนนางที่ปรึกษาทูลว่าควรจะส่งสารไปยังพระเจ้าแผ่นดินเมืองสรองเพื่อสืบสาวเรื่องราวดู พระนางบุญเหลือตรัสว่าคำกล่าวนี้ชอบดีแท้ สมควรให้แก้ไขเหตุการณ์ตามนี้




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 20:08:49 น.   
Counter : 447 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับเยาชน ๓

 

21. ฝ่ายพระเพื่อน พระแพงเตรียมแต่งแท่นไว้รับรองพระปู่เจ้านำหมอนอิงหมอนหนุนมาเทียบชิดกัน ติดม่านปักงามแพรวพราว เครื่องหอม ดอกไม้สิ่งมีค่านำมาแทนข้าวตอก ดอกไม้เงิน ดอกไม้ทองอาหารและเครื่องแกล้มต่างๆจัดไว้รับปู่เจ้าฯ ของทั้งมวลนี้สองราชธิดาว่าจัดไว้สำหรับพิธีรับขวัญ ยังมิทันขาดคำ ท้องฟ้าก็พลันมืดครึ้มและดูชุ่มชื้นด้วยละอองฝน สองราชธิดาพากันยกมือขึ้นประนม ด้วยสงสัยว่าชะรอยพระปู่เจ้าของเราจะมาแล้ว พลางแลหาสองนางพี่เลี้ยง แล้วจึงเห็นนางรื่นนางโรยมาแต่ไกล สองนางรีบลงจากช้างมาเข้าเฝ้าพระเพื่อน พระแพงทั้งหมดร่วมกันเชื้อเชิญพระปู่เจ้า โดยโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ถวายธูปเทียนทองแล้วหมอบประนม พลางตั้งจิตกล่าวว่า ขอพระปู่เจ้าเอ็นดูข้าโปรดปรากฏกายให้เห็นด้วยเทอญ

22. ทันใดนั้น พระปู่เจ้าก็สำแดงตนให้เห็นในร่างชายกลางคนผิวพรรณ รูปกายงามสง่า พระเพื่อน พระแพงถวายเครื่องสักการบูชามากมายเมื่อพระปู่เจ้ารับเครื่องบูชาไว้แล้วสองราชธิดาจึงเล่าความทุกข์ยากของนางให้ฟังอย่างถี่ถ้วนและจะขอแทนคุณพระปู่เจ้าด้วยการถวายแก้วมีค่าเก้าชนิด เงิน ทองวัวและกระบือที่เขาประดับทอง หงส์ ห่าน หมู เป็ด ไก่ เหล้า ข้าว แต่พระปู่เจ้าว่าเจ้าอย่าบนบานข้าด้วยข้าวของเลย แค่นับถือบูชาอย่างเดียวก็ดียิ่งแล้วหนาปู่มิใช่เหมือนผีอดอยากเร่ร่อน ต้องมาหากินเครื่องสังเวยโบราณว่าทำบาปมาเลี้ยงท้อง มิอายเขาหรือ ข้านี้เป็นเทพแห่งเขาเขียวผลบุญเสริมส่งให้อยู่ไปชั่วฟ้าดินสิ้นสลาย สร้างบุญกุศลไว้เป็นทุนจะไร้เรื่องร้อนใจ ปู่เห็นสองเจ้าแล้วเมตตานัก ปู่จะช่วยเจ้าทั้งสอง อย่าได้ร้อนใจปู่จะชักพาพระลอมาสู่สองเจ้า อย่าได้ขุ่นหมองเสียจนเป็นไข้เจ้าจงคอยท่าฟังข่าวอยู่ทางนี้ สองราชธิดาไต่ถามพระปู่เจ้าว่า นานเท่าใดหรือพระลอจึงจะมาถึง ปู่เจ้าฯตอบว่า พระลอใช่คนชั่วคนทรามนะเจ้า แต่เป็นเจ้าเหนือหัวเป็นหน่อเนื้อกษัตริย์ผู้มีบุญ หมอผู้เฒ่าที่ทรงคุณอาคมทางเขาก็มีมากจะให้กำหนดเวลาเลยมิได้ดอก หลานเอย ค่อยพยายามไปแล้วมีหรือจะพ้นเราได้ มิช้านานพระลอก็จะมาสู่เราหากเห็นว่าพระลอมาช้า ก็ส่งคนไปเตือนปู่เถิด พระปู่เจ้าลาสองนางแล้วสองนางแลเห็นพระปู่เจ้าหายไปในบัดดลดั่งลมพัด

23. แล่นลิ่วมาถึงที่พำนักแล้ว ปู่เจ้าเอาไม้เลี้ยงไม้ไล่และไม้ไผ่มาสานเป็นลูกลม เขียนรูปพระลอตรงกลาง เขียนพระเพื่อน พระแพงกอดรูปพระลออยู่ข้างละองค์เขียนยันต์มายารายรอบ ปู่เจ้าใช้มนตร์ชุบต้นยางใหญ่ขนาดเจ็ดคนโอบขึ้นมาครั้นปู่เจ้าท่องมนตร์ใส่ต้นยาง พระลอที่อยู่ทางเมืองสรวงนั้นเกิดใจคอมิปกติปู่เจ้าปั่นมือตีแล้วยอดต้นยางก็ค้อมลงมาตั้งติดดิน ปู่เอาลูกลมปักปลายต้นยางชั่วประเดี๋ยวปลายไม้ก็ค่อยเคลื่อนตรงขึ้น ใบไม้ก็หมุนไปมาเกิดลมพัดลูกลมหมุนควะคว้าง ทำให้พระลอบังเกิดจิตใจปั่นป่วนเหมือนลมพัด

24. ทางฝ่ายพระลอ ฝันเห็นพระเพื่อน พระแพงนอนแนบองค์อยู่สองข้าง และร่ำชวนให้ไปสู่เมืองสรอง พระลอบรรทมตื่นพระทัยเต้นสั่นเหมือนถอนสะอื้น หัวอกเปลี่ยวเปล่าระคนโหยหา พระลอมิคลายคืนสติเหล่านางสนมพากันสะกิดดู เห็นพระองค์มิเป็นเช่นเคยจึงนำความผิดปกตินี้ไปกราบทูลพระชนนีบุญเหลือ

25. พระนางบุญเหลือทรงทราบข่าวก็ผ่าวร้อนพระทัยไปหมดรีบเสด็จมาดูอาการพระลอ ทรงเห็นว่าพระลอดูผิดตาไปจึงถามว่า พ่อเป็นอันใดไปหรือ พระองค์ทูลแด่พระแม่เจ้าว่าวันนี้ลูกตัวสั่น ใจป่วนปั่นอย่างกับหมุน และทรงเล่าเรื่องที่ฝันถึงพระเพื่อนพระแพง แล้วว่า ใจลูกไหวหวั่นปั่นป่วนดังจะคว่ำเสียให้ได้ทั้งทุกข์และแสนเศร้าจนมิอาจประมาณ ลูกใคร่จะไปหาเจ้าสองนางหากลูกลาแม่อยู่หัวเจ้า ขอพระแม่โปรดเอ็นดู ให้ลูกไปเถิดพระชนนีฟังแล้วเหมือนดังใจจะสลาย น้ำพระเนตรไหลหลั่งและสะอื้นด้วยอาดูร พลางว่าโอ้ ลูกแก้วของแม่เอย ลูกแม่มาเป็นอะไรเช่นนี้ ราชสมบัติมากมีไม่รู้กี่โกฎิของเราจะเอามารักษาพ่อ

26. พระนางบุญเหลือรับสั่งให้ นายแก้วไปเร่งตามพระโหราจารย์บรรดาแพทย์และหมอภูตมาช่วยกันแก้คุณไสยที่กระทำแก่พระลอ ส่วนนายขวัญให้ไปหาหมู่ขุนมูลนายมาช่วยกันและเรียกให้พรานป่ารีบไปหาสมุนไพรป่ามารักษาด้วย จะสิ้นทรัพย์ทั้งแผ่นดินก็ไม่ว่าขอให้ลูกแม่หายคืนมาเถิด ความพยายามรักษาเป็นไปอย่างถึงขนาดและพร้อมเพรียงมินานพระลอก็สร่างหายจากเจ็บไข้ พระนางบุญเหลือ พระนางลักษณวดี และพระสนมกำนัล ต่างหน้าตาชื่นบานเหล่าขุนนางและไพร่ฟ้า ต่างก็สดชื่นเมื่อพระเจ้าแผ่นดินสร่างหายจากอาการคลุ้มคลั่งและความมัวหมอง

27. พระเพื่อน พระแพงเห็นว่าเรื่องพระลอล่าช้าหัวอกร้อนดั่งไฟ จึงให้คนไปเตือนพระปู่เจ้า ปู่เจ้าฯตอบกลับมาว่ามีหมอเฒ่ามากมายมาช่วยแก้กฤตยาคมที่ทำกับพระลอดังนี้แล้วปู่เจ้าฯจึงทำมนตร์ลงยันต์ซ้ำให้หนักกว่าเก่าคราวนี้ใช้ธงสามชายแทนลูกลม

28. พระลอทรงอาการหนักกว่าเดิม พระองค์เหมือนเห็นพระเพื่อนพระแพงมาเชิญไปสู่เรือนอีกครา จิตใจคล้ายจะฟั่นเฟือน กายสั่นเทาและเอนอ่อนพระนางบุญเหลือทราบความแล้วก็มาร่ำไห้กับพระลูกยาอย่างสลดพระทัยพระนางทรุดกายลงนั่งแลพระพักตร์พระลอ ทรงทาบหัตถ์ลงบนอกแล้วร่ำไห้ พลางว่าลูกแก้วของแม่เอย เจ้าเจ็บไข้ ทุกข์แม่ก็เท่าภูเขา ทุกข์เจ้าบางเบาแม่ก็บรรเทาร้อนรน มาเห็นเจ้าเงียบเหงาหนักกว่าก่อนทุกข์ของแม่ก็ทับทวียิ่งกว่าฟ้าทับดวงใจ หากเจ้าตาย แม่ก็ตายด้วยนะลูกดวงใจของแม่เอย

29. พระนางบุญเหลือรับสั่งให้นายขวัญนายแก้วเร่งขวนขวายหาหมู่หมอทั้งหลายทั่วแผ่นดินมาเร่งรักษาพระลอพระองค์เรียกประชุมมุขมนตรี ทรงเปิดม่านออกตรัสปรึกษาหมู่มนตรีเรื่องที่ยังรักษาพระเจ้าอยู่หัวไม่หายรับสั่งให้สืบหาหมอ เผื่อจะมีที่ดีเหลืออยู่บ้าง สิ่งใดพึงคิดได้อย่าช้าสิ่งใดทำได้ให้เร่งทำเถิด

30. ขุนนางผู้ใหญ่สืบเสาะหาหมอจึงรู้ว่าหมอสิทธิไชยผู้ทรงคุณทางอาคมขลังยิ่ง ขณะนี้ไปอยู่ในป่า จึงเร่งไปรับมาครั้นปู่หมอมาถึงก็ตั้งพิธีบูชาไฟ ให้พระลอหายหลงสรงน้ำมนตร์ทั้งที่พระเกศและพระวรกาย และทำพิธีตั้งมณฑลสามชั้น แถวในให้เทพดารักษาตรงกลางให้ยักษ์ดูแลรักษา ประตูนอกให้ปีศาจอยู่เฝ้าตรงที่เป็นอากาศว่างเปล่าให้เหล่าภูตผีอยู่รักษา แล้วทำพิธีสมโภช เบิกบายศรีทำขวัญพระลอราชเจ้าที่กลับคืนสู่พระองค์เสร็จการนี้แล้ว หมอสิทธิไชยได้รับปูนบำเหน็จรางวัลมากมาย




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 20:05:41 น.   
Counter : 529 Pageviews.  


1  2  3  

Chapter Zero
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
[Add Chapter Zero's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com