airy nothing รวมบันทึกส่วนตัวและผลงานต่างๆ มาร่วมแบ่งปัน
 
พระลอร้อยแก้ว ฉบับเยาชน ๗

50. ขบวนทัพของพระลอเคลื่อนพลไป เห็นทุ่งนา ทุ่งหญ้าแต่ไกลผ่านพงอ้อ พงแฝก พงหญ้าแขมหญ้าคาเรื่อยไปถึงป่าดงป่าแดงอันเรี่ยรายไปด้วยหมู่ไม้ต่างๆพระลอทรงชมนกชมไม้งามและนานาสัตว์แล้วรำพึงถึงนางอันเป็นที่รักยามเห็นนกนางแอ่นเคล้าคลึงคู่ ก็นึกถึงยามน้องคลอเคลียพี่ กลิ่นดอกพยอมหอมถูกใจพี่หอมเหมือนกลิ่นน้องคนงาม อันพี่ต้องติดใจ เห็นต้นมะต้องคิดถึงมือน้องที่มาต้องสัมผัสพี่ เมื่อเห็นต้นชมพูพี่รำพึงว่าผ้าสไบบางของน้องมาคลี่อยู่ที่นี่หรืออีกทั้งบางขณะพระลอก็ได้ชมชีวิตป่าอันมีชีวิตชีวา ได้เห็นลิงลอดเล่นตามเถาลางลิงเจ้าลูกลิงลงมาชิงลูกไม้ ลิงลมวิ่งไล่เตลิดกันไปตามลมพัดไหว และลูกลิงไล่ขับกันเลี้ยวลอดตามเถาลางลิงแลทั้งหมดนี้ล้วนพาพระลอให้รำพึงถึงนางอันเป็นที่รัก พี่ทั้งคิดถึงนางทางข้างหลังทั้งห่วงนางทางข้างหน้า จนใจเหมือนจะบ้า ด้วยพี่ร้างแรมจากนางที่รักมา

51. พระลอท่องไปในป่าหลายคืนหลายวันจนถึงขอบชายแดนระหว่างเมืองสรวงกับเมือง

สรอง ไพร่พลจัดตั้งพลับพลาหลวงอย่างงดงามเหล่าเสนามาเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวกันถ้วนหน้า แล้วพระลอทรงมีราชโองการว่า“ท่านทั้งหลายกลับบ้านเรือนไปก่อนเถิด ถึงชายแดนแล้ว ควรส่งไพร่พลคืนสู่บ้านเมือง”เสนาต่างทูลขอตามเสด็จพระลอไปอีกสามสี่วัน พระลอตรัสว่า “ควรกลับในวันรุ่งขึ้นเลยมิเช่นนั้นราชธานีเราจะเปล่าเปลี่ยวอยู่นาน อีกทั้งพระชนนีทรงคอยฟังข่าวอยู่”เสนาทูลว่า ขอตามเสด็จไปจนกว่าจะเสด็จกลับคืนเมือง หากไปแล้วต้องตายยังดีกว่ากลับสู่เมืองสรวงก่อนพระองค์ พระลอตรัสว่า “ข้าห่วงแผ่นดินห่วงพระชนนีบุญเหลือ พวกเจ้ากลับไปดูแลราชการงานเมืองเถิด ข้าขอฝากบ้านเมืองและขอฝากพระมารดากับพระนางลักษณวดีด้วย” เสนามนตรีต่างรับราชโองการใส่เกล้าพระลอตรัสสั่งความอีกว่า “เมื่อพวกเจ้ากลับถึงเมืองสรวงแล้ว ทูลพระชนนีว่าลูกของพระองค์เป็นสุขดี และขอกราบที่บาทพระมารดาด้วย และจงไปทูลพระนางลักษณวดีว่าข้าไม่ได้เจ็บไข้อันใด อย่าได้ร่ำไห้เลย ข้าจักรีบกลับไปหาโดยไว”

52. พระลอให้แบ่งปันคน คนสนิทให้ติดตามไปหนึ่งร้อยคนนอกนั้นให้พาช้างม้าที่เหลือกลับเมืองสรวง ทั้งให้จัดคนไว้คอยฟังข่าวอยู่ทางนี้และตรัสสั่งให้เรียกพระองค์ว่า ขุนด่าน ส่วนพระพี่เลี้ยงแก้ว ขวัญเป็นหมื่นแขวงครั้นแล้วพระลอก็เดินทางถึงประตูป่าชายเมืองสรอง จากนั้นเสด็จผ่านเขตนาเขตบ้านเรือนราษฎร และดงกว้างใหญ่ ระหว่างทาง เมื่อมีชาวป่ามาทักถามพระองค์ก็บอกว่า เป็นขุนด่านจากในเมืองมาเลียบตรวจด่านชายแดนตรวจเสร็จแล้วจะกลับเข้าเมือง ผู้ติดตามทำที่ประทับพักตามทางไปโดยลำดับจนถึงแม่น้ำกาหลง

53. ถึงแม่น้ำกาหลงก็หยุดขบวนและพักช้างไว้ริมฝั่งพระลอตรัสสั่งให้ฟันไม้มาทำแพ แล้วพระองค์ก็เสด็จข้ามแม่น้ำผู้ติดตามถางทางทำที่พักให้สมตามฐานะขุนด่าน พระลอเสด็จสรงแล้วทรงคิดถึงว่าพระมารดาจะทรงร่ำไห้ห่วงหาพระองค์ พลางรำพึงว่า ตัวลูกเจ็บด้วยรักเจ็บด้วยการจำพราก เจ็บเพราะอยากกลับเรือนเหย้าเจ็บเพราะมาคนเดียวสู่แดนของผู้อื่น และยิ่งเจ็บด้วยแม่ต้องมาร้อนใจถึงลูก โอ้หญิงร้อยคนหรือจะเท่าเมียตน เมียพันคน หรือจะเทียบเท่าพระแม่ได้ตัวข้าอย่าไปพบหน้าสองนางเลย คืนกลับไปหาพระแม่บุญเหลือเสียดีกว่าแล้วหันไปตรัสกับพระพี่เลี้ยงว่า “ข้าคิดมิถูกแล้ว วานเจ้าสองคนช่วยคิดทีเถิดบาปอันใดทำให้ข้าต้องมาร้อนใจถึงแม่เช่นนี้” พระพี่เลี้ยงจึงทูลว่า“ข้าบาทเห็นชอบให้พระองค์เสด็จกลับไปครองบ้านเมืองขอทรงโปรดอย่าลอบเข้าเมืองสรองเลย” พระลอตรัสว่า “หากกลับเมืองสรวงคนก็จะกล่าวร้ายได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่ใจขลาดนัก” สองนายจึงทูลว่า“พระองค์เป็นมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ใครเล่าจะอาจเอื้อมตำหนิได้ พระเอย”พระลอตรัสแก่สองนายว่า “เราจักไปสักชั่วเวลา แล้วจึงค่อยคืนกลับเมือง”

54. ด้วยความลังเลพระทัย พระลอจึงทรงลองเสี่ยงน้ำทำนายอนาคตท้าวท่านตรัสว่า “มากูจะเสี่ยงน้ำ ณ แม่น้ำกาหลง หากแม้นกูไปแล้วไม่รอดกลับมาน้ำจงหมุนเวียนวน แต่ถ้าจะได้รอดกลับมา ขอให้กระแสน้ำจงไหลเรื่อยไปเถิดหนา”ครั้นสิ้นคำอธิษฐาน น้ำก็หมุนเวียนวน เห็นกับตาว่าน้ำนั้นแดงดุจเลือดมาย้อมพระลอทรงรันทดทุกข์หนักเหมือนดั่งถูกไม้ใหญ่สักร้อยคนโอบล้มลงทับทรวง

55. พระลอฝืนพระทัยไว้ มิบอกกล่าวให้ใครรู้ทรงขึ้นจากสรงแล้วเสด็จเข้าในพลับพลา ทรงปิดม่านและร่ำไห้อยู่ลำพังพระองค์พลางคร่ำครวญถึงพระชนนีบุญเหลือและชะตากรรมของพระองค์ว่า หากพระแม่สิ้นชีพขอให้ลูกได้เห็นผีแม่ หากลูกตาย ก็ขอให้พระแม่ได้เผาศพลูกหรือว่าลูกจะไม่ได้เผาผีแม่ และแม่จะไม่ได้เผาผีลูกเลย ลูกจะตายก็ตายแต่ปวดร้าวที่ลูกจะไม่ได้เห็นหน้าแม่บังเกิดเกล้า ลูกเป็นกษัตริย์มียศยิ่งฟ้าหรือบาปกรรมทำให้ลูกต้องมาตายอนาถอยู่เดียวดายที่แผ่นดินอื่น พระแม่เอย

56. แม้พระลอเป็นทุกข์เท่าฟ้า แต่ยังแสร้งทำหน้าชื่นทรงเผยม่านออกมาสั่งความว่าให้สองพระพี่เลี้ยงไปสืบดูลู่ทางในเมืองสรองมาให้ถี่ถ้วน นายแก้วนายขวัญจึงออกไปเที่ยวดูลาดเลาจนกระทั่งเข้าไปถึงในอุทยานเมืองสรองได้โดยให้เงินสินบนคนดูแลสวนทั้งสองเที่ยวดูตามประตูเมืองประตูวัง และท่องดูทางทุกที่เตร่ไปตามเขตหมู่เรือนชาวบ้านจนได้รู้ละเอียดทั้งหมด แล้วเดินกลับทางป่าทั้งสองเข้าทูลความและเขียนเส้นทางถวายแด่พระลอโดยถี่ถ้วนทุกประการพระลอตรองแล้วทรงบัญชาว่า ให้ทิ้งช้างสองตัวม้าสี่ตัวและผู้ติดตามเจ็ดสิบคนไว้ที่ด่าน อีกสามสิบคนนั้นให้ตามเสด็จต่อไป




Create Date : 19 พฤษภาคม 2557
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 20:15:34 น. 0 comments
Counter : 593 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Chapter Zero
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
[Add Chapter Zero's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com