airy nothing รวมบันทึกส่วนตัวและผลงานต่างๆ มาร่วมแบ่งปัน
 
 

พระลอร้อยแก้ว ฉบับย่อ ๑๐

 

99. ข่าวเหตุร้ายแพร่ไปจนถึงเจ้าเมือง พระองค์รีบเสด็จมาเห็นพระธิดากับพระลอยืนสิ้นชีพ เลือดตกอาบทั่วองค์ ก็ทรงร่ำไห้เช็ดน้ำตาไปมาทรงเรียกหาลูกรักและเขยขวัญ แต่เรียกเท่าใดก็ไม่ตอบ จับต้ององค์เท่าใดก็ไม่ไหวติงพระองค์จึงรู้แน่ชัดว่า สามกษัตริย์สิ้นพระชนม์แล้ว

100. ท้าวพิไชยพิษณุกรทำทีเป็นไม่โกรธ และประกาศว่า“สามกษัตริย์ตายตามกันไปสมใจข้าแล้ว ใครที่เป็นผู้อาสามาสังหารให้รีบมารับบำเหน็จรางวัล” ในไม่ช้าทหารเหล่านั้นก็พากันมาพระองค์บัญชาให้ประหารทั้งหมด ส่วนเจ้าย่านั้นไม่ใช่มารดาแท้ๆของพระองค์จึงให้แล่เนื้อจนตายแล้วให้ลากเอาศพไปทิ้งเสีย

101. พระนางดาราวดีรู้ข่าวก็ทรุดองค์ลงซบหน้าร่ำไห้พระนางขึ้นคานหาม ขบวนนางกำนัลร่ำไห้ตามเสด็จ ครั้นถึงวังของพระเพื่อน พระแพงเห็นสามกษัตริย์ พระนางก็ทิ้งร่างลงตีอก “เจ้าโกรธแม่เรื่องใดเล่าเจ้าถึงไม่พูดกับแม่ สิ่งใดผิดใจเจ้าหรือ จึงจากแม่ไปสู่ฟ้าแม่จะไม่ได้เห็นลูกแล้ว ขอตายเสียดีกว่า จะได้ไปเห็นหน้าลูกรักของแม่”

102. ข่าวการสิ้นพระชนม์ของสามกษัตริย์แพร่ไปทั่วบรรดาพระญาติต่างมาร่ำไห้กันระงม เหล่าพระสนมต่างทรุดร่างลงคร่ำครวญจากหมู่นางกำนัลไปจนถึงพลเมืองไม่มีใครเลยจะอดร่ำไห้ได้ ความโศกเศร้าสะท้านสะเทือนไปทั่วจนเหมือนอกของแผ่นดินจะพลิกคว่ำแม้แต่ดวงตะวัน เดือนและดาวก็ดูมืดมัวไปสิ้น

103. ครั้นแล้วด้วยน้ำพระทัยเยี่ยงกษัตริย์ท้าวพิไชยพิษณุกรและพระนางดาราวดีทรงหักพระทัยสร่างคลายการร่ำไห้สองพระองค์ชื่นชมสามกษัตริย์ว่า ทรงยืนตายอย่างสง่างามให้รู้ว่ามีน้ำใจเยี่ยงกษัตริย์แท้ สี่พี่เลี้ยงนั้นก็มีใจหาญกล้ายอมตายก่อนเจ้าอยู่หัวของตนเสียงสรรเสริญของผู้คนดังไปทั่วแผ่นดินได้ยินไปถึงแผ่นฟ้าดั่งจะร้องเรียกสามกษัตริย์บนสวรรค์

104. ท้าวพิไชยพิษณุกรโปรดให้สรงพระศพตราสัง แล้วบรรจุพระศพสามกษัตริย์ลงในโลงทอง และอีกสองโลงสำหรับขุนแก้วกับนางรื่นหมื่นขวัญกับนางโรย ตามจารีตประเพณีทุกประการจากนั้นให้นายช่างประจำราชสำนักจัดทำพระเมรุให้งามวิจิตรแล้วให้คณะทูตนำพระราชสารและบรรณาการไปถวายพระนางบุญเหลือที่มืองสรวง

105. พระนางบุญเหลือได้ฟังพระราชสารก็ไม่อาจทรงกายยืนอยู่ได้ทรงร่ำไห้ว่า “ลูกรัก แม่ห้ามเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่ฟัง หากจะตายด้วยไข้หรือด้วยผีแม่ยังได้รักษาจนเต็มที่ตามใจแม่ แต่เจ้ากลับไปตายที่เมืองอื่น”ครั้นพระนางลักษณวดีกับพระสนมรู้ข่าว ก็เสด็จมาทูลถามพระนางบุญเหลือเมื่อได้ทราบความจริงแล้ว ต่างพากันทาบตีอกร่ำไห้สนั่นไปทั้งวัง

106. มุขมนตรีทูลเตือนพระนางบุญเหลือว่า“ตอนนี้แผ่นดินไร้กษัตริย์ ขอให้ทรงคิดถึงราชการงานเมืองให้จงหนักเถิด”พระนางจึงสั่งให้จัดสิ่งของมีค่าเพื่อนำไปแต่งพระเมรุของพระลอแทนตัวพระองค์ที่ไม่ได้เสด็จไป และให้จัดบรรณาการกับพระราชสารไปถวายพระเจ้าแผ่นดินเมืองสรอง

107. ราชทูตจากเมืองสรวงเข้าถวายทรัพย์สินแต่งพระเมรุราชสารและบรรณาการกับพระเจ้าแผ่นดินเมืองสรอง หลังงานถวายพระเพลิงซึ่งจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติท้าวพิไชยพิษณุกรแบ่งพระธาตุสามกษัตริย์ใส่เครื่องภาชนะ ครึ่งหนึ่งให้เก็บไว้ที่หอพระญาติอีกครึ่งหนึ่งให้ราชทูตรับไว้พระองค์ให้แต่งถนนเพื่อแห่แหนส่งพระธาตุไปจนถึงเมืองสรวง

108.ทางเมืองสรวงก็ตกแต่งทางมารับพระธาตุไปสู่ปราสาทเรือนยอดสำหรับตั้งพระธาตุสามกษัตริย์และจัดแต่งมนเทียรอีกสององค์ ข้างขวาบรรจุธาตุขุนแก้วกับนางรื่น ข้างซ้ายของหมื่นขวัญกับนางโรยทรงทำบุญถวายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เพื่อถวายทานแด่สามกษัตริย์และทรงเปิดคลังทำทานทั่วแผ่นดิน

109.พระนางบุญเหลือโปรดให้สร้างพระสถูปเจดีย์ไว้บรรจุพระธาตุสามกษัตริย์อย่างถาวรและสร้างสถูปซ้ายขวาไว้บรรจุธาตุพี่เลี้ยงทั้งสี่ ฝ่ายเมืองสรอง ท้าวพิไชยพิษณุกรก็โปรดให้ทำดุจเดียวกันทรงส่งสารบอกกำหนดวันแล้วจัดงานบรรจุพระธาตุและทำบุญในวันเดียวกันอย่างยิ่งใหญ่ทั้งสองเมืองจากนั้นสองเมืองต่างส่งสารแสดงไมตรีต่อกันเรื่อยมา

บทส่งท้าย

ขอให้พระลอลิลิตเป็นศรีแก่ปากผู้ที่บรรจงอ่านเปรียบเหมือนดอกไม้ที่ร้อยกรองไว้อย่างเรียบร้อย เพื่อเป็นเครื่องประดับหูในทุกยามและเสมือนกระแจะอันหอมรื่น ได้แตะเพียงน้อยหนึ่งก็ได้แรงใจ




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 21 พฤษภาคม 2557 21:13:33 น.   
Counter : 1143 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับย่อ ๙

 

90. พระเพื่อน พระแพงแอบซ่อนพระลอไว้ เวลาครึ่งเดือนผ่านไปสามกษัตริย์ต่างทรงสำราญในรักที่มีให้แก่กันสองพระธิดาเร้นซ่อนองค์และซุบซิบกันอย่างมีเลศนัย และมีแต่นางรื่น นางโรยที่เข้าไปในเรือนของพระธิดาได้นางกำนัลพากันแอบพูดจาว่า “น่าแปลกใจจริงๆพระธิดากับนางพี่เลี้ยงทำท่ามีเรื่องปิดบัง”จนกระทั่งข่าวแพร่ไปถึงท้าวพิไชยพิษณุกร

91.ท้าวพิไชยพิษณุกรเสด็จมาลอบดูที่เรือนของพระเพื่อน พระแพง เมื่อได้เห็นการลักลอบก็โกรธดั่งฟ้าฟาด แต่พอได้ลอบเห็นพระลอผู้งามโอ่อ่าก็ทรงเริ่มคิดว่า“คงเป็นบุญกุศลที่ส่งให้เขามาพบกัน” และ “พระลอเป็นกษัตริย์ที่มีเมืองขึ้นมากมายได้มาเป็นเขยก็เหมือนได้ฟ้าดินมาอยู่ในเงื้อมมือเรา”

92. ท้าวพิไชยพิษณุกรแสดงตนออกมาให้เห็น พระเพื่อนพระแพงหมอบลงกราบพระบาท พระลอยกมือขึ้นประนมไหว้และทูลว่า“ข้าพระองค์ละทิ้งราชสมบัติมาที่นี่แต่ตัว เพื่อขอฝากตัวเป็นญาติวงศ์เดียวกัน”เมื่อนั้นท้าวท่านก็ยินดีว่าได้พระลอมาเป็นสวามีของพระธิดาสมปรารถนา จึงตรัสว่า“พ่อจะให้ดูวันฤกษ์งามยามดี แล้วจะประกอบพิธีวิวาห์ให้”

93. ข่าวเรื่องพระลอกับพระเพื่อน พระแพงแพร่ไปถึงเจ้าย่าเจ้าย่าเสด็จไปเฝ้าท้าวพิไชยพิษณุกร เพื่อต่อว่าและอ้อนวอนให้เปลี่ยนพระทัย“เจ้าลอเป็นลูกศัตรูผู้ฆ่าพระบิดา แล้วยังลอบมาสบประมาทลูกหลานเราอย่าได้ไว้ชีวิตศัตรูเลย” แต่ไม่ว่าจะอ้อนวอนเท่าใด พระเจ้าแผ่นดินก็ไม่ฟังเจ้าย่าจึงกลับไปด้วยความโกรธแค้น

94. เจ้าย่าเรียกเหล่าทหารผู้ภักดีมาเข้าเฝ้า ทรงโกหกว่า“พระเจ้าอยู่หัวให้ข้าจัดการเรื่องพระลอ พวกเจ้าจงไปสังหารผู้ที่มาดูหมิ่นดูแคลนและจงปกปิดแผนการให้มิดชิด ใครทำให้ความลับรั่วไหล ข้าจะลงโทษให้ถึงชีวิต”พวกทหารรับคำบัญชา และทูลว่า “ขอให้พระนางคอยดูผลงานของเหล่าข้าพระองค์เถิด”

95. ยามดึกสงัด หมู่ทหารยกกันมาล้อมวัง นายแก้วนายขวัญรีบไปทูลพระลอ พระองค์ไม่ได้หวั่นกลัว กลับเร่งไปหยิบอาวุธพระลอปลอบสองพระธิดา “อย่าได้ตกใจ ไม่เป็นอะไรหรอกนะเจ้า”แล้วแย้มยิ้มให้สองนางแสดงน้ำใจจริงว่า “ตัวข้าก็เป็นชาติเชื้อกษัตริย์ ใจไม่ได้ขลาดกลัวตาย”จากนั้นปลดผ้าสไบมาห่มพันเป็นหลายชั้น แล้วมาร่อนดาบเคียงข้างพระลอ

96. นางรื่น นางโรยเห็นดังนั้นก็ชื่นชมในน้ำพระทัยและกล่าวว่า “หากสามกษัตริย์เสด็จสู่ฟ้า ตัวเราจะเป็นข้ารับใช้ผู้ใดขอตายตามไปอยู่ด้วยบนสวรรค์ ยังได้มีเกียรติยศให้คนชม” สองนางแปลงตัวเป็นชายนางรื่นไปตั้งท่าเงื้อง่าดาบอยู่กับนายแก้วทางขวา นางโรยไปอยู่ข้างนายขวัญทางซ้ายพระลอประทับอยู่ตรงกลางโดยมีพระเพื่อน พระแพงแนบเคียงสองข้าง

97. ไม่นานหมู่ทหารก็บุกถึงประตูปราสาทนายแก้วเข้าฟาดฟันดาบ นายขวัญพุ่งแทงดาบสุดตัว พระลอทรงรุกไล่ฟันระหว่างรบกันประชิดติดพัน ศัตรูสาดยิงธนูเข้าใส่ ลูกธนูถูกนายแก้วนายขวัญจนทรุดลงสิ้นใจ นางรื่น นางโรยก็ถูกธนูยิงเข้าใส่สองนางแล่นไปล้มลงทับร่างสองนาย พระพี่เลี้ยงทั้งสี่ตายไปตามกัน

98. พระลอทรงชื่นชมในน้ำใจที่ภักดีกล้าหาญของพระพี่เลี้ยงพระเพื่อน พระแพงร้องว่า “พระเอย อย่าอาลัยที่จะอยู่เลยไม่มีอีกแล้วที่จะได้ตายเช่นนี้” สามกษัตริย์กวัดแกว่งอาวุธอย่างองอาจแต่ศัตรูก็ระดมยิงจนสามกษัตริย์ยืนสิ้นชีพพิงกันอย่างกับว่ายังไม่ตายพวกทหารเห็นดังนั้นแล้วก็กลัวเกรงจนแตกกระเจิงไป




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 21 พฤษภาคม 2557 21:11:02 น.   
Counter : 525 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับย่อ ๘

84. พระเพื่อน พระแพงเสด็จเข้าที่สรง แต่งองค์แล้วเสด็จออกไปทรงช้างสู่สวนขวัญ เมื่อถึงประตูอุทยานมีคานทองมารับเสด็จไปเทียบที่เรือน นางพี่เลี้ยงแล่นเข้าไขประตูนางรื่นรี่เข้าไปปูแท่นบรรทม นางโรยทูลว่า “เจ้าย่าสั่งให้คอยเตือนพระนางให้บรรทมพวกนางกำนัลเป็นพยานได้” แล้วเชิญพระเพื่อน พระแพงเข้าบรรทมส่วนหมู่นางกำนัลให้ไปเดินเล่นชมสวนได้

85. พระเพื่อน พระแพงรู้สึกละอายและไม่กล้าเข้าไปในห้อง“พี่เอย น้องยังไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร วานพี่ช่วยชี้หนทางด้วย” นางรื่นนางโรยหัวเราะแก่กันแล้วทูลว่า “ใครจะสอนได้เล่า วันที่ทรงแรกรักพระลอนั้นใครเล่าสั่งสอนน้อง“ พระลอที่แอบฟังอยู่หลังม่าน กลั้นไว้มิได้ จึงหัวเราะออกมาพระเพื่อน พระแพงตกพระทัยจนสะดุ้ง แล้วพระลอก็เผยม่านออกให้เห็นองค์

86. เมื่อพระเพื่อน พระแพงได้เห็นรูปโฉมของพระลอ ก็ลืมตนและจ้องมองตาไม่กะพริบครั้นสองนางได้สติก็ถึงกับอายซบหน้า ทรงไหว้พระลออยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าฝ่ายพระลอพิศหน้าสองนางแล้วก็ตะลึงลานลืมตนไปเช่นกันนางพี่เลี้ยงทูลเชิญสามกษัตริย์เข้าที่บรรทม จากนั้นออกมานอกห้องปิดประตูแล้วเลี่ยงไปหานายแก้ว นายขวัญที่รออยู่แต่ไกล

87. ถึงเวลาเย็น นางพี่เลี้ยงเข้ามาเตือนว่า “จะค่ำแล้วพระเอย” แล้วทูลเชิญให้เข้าที่สรง จากนั้นยกเครื่องเสวยมาถวายจนถึงเวลาที่ต้องพรากจากกัน สามกษัตริย์ทรงตรอมตรมใจหน้าแนบหน้ากันและน้ำตาค่อยๆหลั่งลงมา ดวงตะวันเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆนางพี่เลี้ยงเตือนอีกว่า “จวนจะค่ำแล้ว หากกลับถึงค่ำต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ”

88. พระเพื่อน พระแพงร่ำไห้ลาพระลอ แล้วค่อยจากไปเมื่อถึงประตูใหญ่ นางรื่นก็ทำเล่ห์กลว่าลืมเครื่องทรงไว้ข้างในห้อง นางรื่นนางโรยกลับไปที่เรือนสวนขวัญเพื่อรับพระลอ แล้วนำพระลอกับนายแก้ว นายขวัญออกจากสวนจากนั้นค่อยลอบพาเข้าไปในเขตเรือนหลวง สองนางพาทั้งหมดไปซ่อนตัวที่เรือนของนางโรย

89. ยามดึกสงัด นางรื่นนางโรยลอบพาพระลอขึ้นเรือนของพระเพื่อน พระแพง ซึ่งทูลเชิญให้พระลอประทับบนแท่นทองสองพระธิดาถวายเครื่องทรง นำเครื่องหอมมาละลายน้ำลูบไล้องค์พระลอ และยกพานหมากกับเครื่องเสวยมาถวายนางรื่น นางโรยทูลลาแล้วปิดประตูให้สามกษัตริย์บรรทมกันภายในห้อง




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 21 พฤษภาคม 2557 21:08:49 น.   
Counter : 418 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับย่อ ๗

 

75. เวลาใกล้รุ่ง นกการ้องเจื้อยแจ้วนางพี่เลี้ยงฟังเสียงกากระพอกร้องก็ทูลพระเพื่อน พระแพงว่า เป็นนิมิตอันดีมันร้องบอกข่าวว่าพระลอเสด็จมาถึงแล้ว สองพระธิดาจึงรับสั่งว่า “สองพี่อย่าได้ช้าเร่งไปสืบข่าวดูเถิดหนา”

76. ตอนรุ่งเช้า พระลอบอกกับคนเฝ้าสวนว่า “ถ้ามีคนถามจงบอกไปว่า พราหมณ์กับชาวบ้านสองคนมาขออาศัยนอน พอเช้าก็ลาไป”แล้วพระลอก็ออกเดินทางโดยมีนายแก้ว นายขวัญคอยสอดส่องระมัดระวังจนเหลียวหลังไปเห็นนางรื่น นางโรย ซึ่งนั่งช้างตามกันมาหยุดที่อุทยาน แล้วสองนายก็เร่งตามพระลอไป

77. นางรื่น นางโรยถามคนเฝ้าสวนว่า “มีผู้มาหาหรือ”เขาก็บอกไปตามที่พระลอสั่งไว้ สองนางถามต่อว่า “รูปโฉมเป็นเช่นไร” คนเฝ้าสวนตอบว่า“คนที่เป็นพราหมณ์นั้นงามไม่มีใครเทียบ”สองนางรู้สึกโกรธตัวเองที่มาคลาดกันไปนิดเดียว เพราะแน่ใจว่าสามคนที่คนเฝ้าสวนกล่าวถึงนั้นคือพระลอกับพี่เลี้ยงทั้งสอง

78. ข้างนายแก้วนายขวัญยังละล้าละลังอยู่จนหันมาต่างแลเห็นกันกับนางรื่น นางโรยสองนางจึงรีบเดินไวเข้าไปใกล้ให้เขาเห็น แต่แล้วก็แกล้งทำให้คลาดกันไปสองนางลงไปแอบรอดูท่าทีในสระน้ำ นายแก้ว นายขวัญทูลพระลอให้ทรงคอยอยู่ก่อนแล้วตามไปดูสองนาง

79. เมื่อใกล้ถึงสระ นายแก้ว นายขวัญพูดกันว่า“เห็นคนเดินอยู่เมื่อกี้ ตอนนี้หายไปไหนเสียแล้ว” แล้วเดินลงสระเมื่อทั้งสองฝ่ายเจอกัน สองนางก็แสร้งถามว่า “สองนายมาจากเมืองใดเข้ามาเล่นน้ำในสระหลวงนี้ได้อย่างไร” สองนายตอบว่า “พี่เดินทางมาจากแดนไกลไม่รู้เลยว่าสระนี้เป็นเขตหวงห้าม” แล้วสองคู่ก็หยอกเย้ากันเหมือนเป็นคู่รัก

80. นางรื่นนางโรยนำแขกแปลกหน้าขึ้นไปบนเรือนของสวนขวัญ สองนางซักถามเพื่อสืบความจริง นายแก้วนายขวัญไม่ทันได้นัดกันจึงตอบอึกๆอักๆ จนในที่สุดต้องยอมรับว่า “เราทั้งสองเป็นพระพี่เลี้ยงตามเสด็จพระลอมาที่นี่” สองนางยินดียิ่งนัก “พี่ไปเชิญเสด็จพระลอมาเถิดแล้วเราจะทูลพระเพื่อน พระแพงให้รีบเสด็จมา

81. นายแก้ว นายขวัญกลับไปทูลพระลอพระองค์เสด็จมาหานางพี่เลี้ยง นางรื่น นางโรยทูลเชิญพระลอให้ประทับที่เรือนสำราญพระลอสั่งความถึงพระเพื่อน พระแพงว่า “หากสองนางมาช้า คงไม่ทันได้เห็นพี่จะขอฝากไว้แต่ร่างให้น้องเผาผี” นางรื่น นางโรยทูลลาแล้วออกมาจากห้องที่ประทับใส่กุญแจประตูและนำลูกกุญแจไปด้วย

82. นางรื่น นางโรยกลับเข้าวัง เห็นพระเพื่อนพระแพงตั้งตาคอยดูทางอยู่ตรงช่องหน้าต่าง เมื่อแลเห็นนางพี่เลี้ยงก็สดชื่นขึ้นมาสองนางรีบเข้ามาทูลว่า “พระลอมาถึงแล้ว ทรงงามดั่งทองโดยแท้”แล้วจึงทูลถ้อยคำที่พระลอฝากมา สองพระธิดาตรัสว่า “หากรีบเร่งไปนักจะเป็นที่ผิดสังเกต ต้องไปทูลเจ้าย่าก่อน แล้วค่อยไปได้ดังใจ”

83. พระเพื่อน พระแพงเข้าเฝ้าเจ้าย่าทรงประทับที่ข้างแท่นและช่วยกันนวดเฟ้นเจ้าย่าเจ้าย่าก็ทรงสอนสั่งหลานด้วยความรักและกำชับนางพี่เลี้ยงให้ดูแลพระธิดาให้ดีเมื่อได้โอกาส พระเพื่อน พระแพงก็เอ่ยขอเจ้าย่าไปเที่ยวเล่นที่สวนขวัญเจ้าย่าตรัสว่า “สองเจ้าไปเที่ยวชมสวนเถิด เวลาเย็นค่อยกลับมา”สองพระธิดากราบทูลลาเจ้าย่ากลับเรือนหลวง




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 21 พฤษภาคม 2557 21:04:19 น.   
Counter : 462 Pageviews.  


พระลอร้อยแก้ว ฉบับย่อ ๖

 

65. พระเพื่อน พระแพงรอคอยพระลออย่างกระวนกระวายครั้นเห็นยังไม่เสด็จมาจึงสั่งพี่เลี้ยงว่า “พี่รื่นพี่โรยช่วยไปบอกพระปู่เจ้าเรื่องที่น้องรออยู่เถิด”นางพี่เลี้ยงทูลว่าได้ไปเตือนมาแล้วท่านว่าพระลอมาถึงแม่น้ำกาหลงด้านเขตแดนเราแล้ว แต่ยังลังเลพระทัยอยู่ท่านว่าจะช่วยชักนำให้พระลอมาถึงโดยเร็ว

66. ปู่เจ้าสมิงพรายร่ายมนตร์เรียกไก่ป่ามาเป็นฝูงปู่เจ้าเลือกไก่ตัวงามแล้วเรียกผีมาลงสิงไก่ พลันมันก็ผงกหัวท่าทีองอาจปู่เจ้าสั่งความแล้วส่งมันไปล่อพระลอ

67. ไก่ปู่เจ้ามาปรากฏถึงที่พระลอประทับอยู่พระองค์เห็นไก่แล้วก็พอพระทัยว่างามจับตา จึงตามไก่ไป เมื่อตามคลาดกันไก่จะอยู่รอท่า หากทรงตามมาช้า มันจะขันเรียก ครั้นจะตามทัน มันก็ค่อยย่างต่อไปจนสุดเขตป่าเรื่อยผ่านเข้าหมู่บ้าน แล้วทันใดไก่ก็หายไปกับตาพระลอทรงสับสนทิศทางและได้คิดว่า “โอ้ กูมาหลงตามไก่ผี”

68. คณะของพระลอบอกแก่กันว่าให้ระวังตัวกันมากขึ้นขณะเดินทางไป พระลอทิ้งคนไว้ตามตำบลต่างๆเป็นระยะๆครั้นแล้วพระลอและผู้ติดตามที่เหลือก็เดินทางมาถึงตำบลแห่งหนึ่งซึ่งมีแต่สวนกับเรือนที่ไร้คนอาศัย

69. คนเฝ้าสวนก็ออกมาเชิญให้พระลอพักที่เรือนในสวน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานของพระเพื่อนพระแพง คนเฝ้าสวนจัดที่นอน สำรับอาหาร และเสื้อผ้าต้อนรับพระลอทรงเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นพราหมณ์ ชื่อว่า เจ้าศรีเกศ ส่วนนายแก้วนายขวัญเป็นชาวบ้านชื่อว่า นายรัตน์ นายราม

70. ยามบ่ายคล้อย พระลอในร่างที่ปลอมเป็นเจ้าศรีเกศอยากจะชมสวนคนเฝ้าสวนก็เชิญให้ไปเที่ยวชม พระลอชมสวนและตรัสว่า “นี่สวนของใครหนอ”คนเฝ้าสวนตอบว่า “สวนของพระเพื่อน พระแพง” ระหว่างเที่ยวชมช่อไม้ ชมนกนานาพันธุ์และชมสระ ไม่ว่าทอดพระเนตรสิ่งใด ก็พาให้คิดถึงสองนางทั้งสิ้น

71. ยามค่ำคืน พระลอทรงขับร้องเพลงถึงสองนางว่า“พี่จากบ้านเมืองมา ยังไม่ได้เห็นหน้าน้องเลย นกเอยช่วยส่งข่าวถึงน้องด้วยว่าพี่มาถึงอุทยานแล้วและช่วยเร่งเชิญน้องมาชมหมู่ไม้เล่นที่สวน” นายแก้ว นายขวัญขับกล่อมเพลงถวายพระลอจึงได้บรรทมหลับ

72. พระลอทรงฝันแล้วตื่นมาเล่าให้สองพี่เลี้ยงฟัง“เราได้สวมสร้อยสังวาลย์ เป็นรูปงูสองตัวเกี่ยวกระหวัดกัน และเราได้กอดสองนางมือขวาของเราเคล้นดอกบัว ส่วนมือซ้ายกอดดอกบัวสายไว้” นายแก้วนายขวัญทำนายฝันให้ว่า “พระองค์จะได้แก้วมีค่าและวันรุ่งขึ้นจะได้ชื่นชมนางทั้งสอง” พระลอได้ฟังเช่นนั้นก็ทรงคลายพระทัยและเข้าบรรทมต่อไป

73. ฝ่ายพระเพื่อน พระแพงทรงวิตกและร่ำไห้เพราะนานแล้วพระลอยังมาไม่ถึง สองนางกระซิบกับพี่เลี้ยงว่า “หากไม่ได้สมใจในรักน้องเห็นทีจะขาดใจตายในวันพรุ่ง” นางพี่เลี้ยงทูลว่า“พระปู่เจ้าสอนให้ดูนิมิตจากนกเพื่อทำนายเหตุ พี่เห็นว่า พระลอจะมาถึงในมิช้านี้”จากนั้นนางรื่น นางโรยขับซอกล่อมพระธิดาทั้งสองให้บรรทมหลับ

74. ทั้งสี่นางต่างก็ฝัน พระเพื่อนฝันว่าได้ดอกฟ้ามาเป็นปิ่นปักที่กลางมุ่นผม พระแพงฝันว่าได้ดาวบนฟ้ามาทัดต่างดอกไม้แซมผมนางรื่นฝันว่า เห็นงูกระหวัดรัดรอบพระธิดา ส่วนนางโรยฝันว่าพระธิดาได้เสวยราชสมบัติยังฟากฟ้า สองนางทำนายฝันว่า“พระลอคงจะมาถึงพรุ่งนี้แน่ล่ะหนา”




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 21 พฤษภาคม 2557 21:01:51 น.   
Counter : 522 Pageviews.  


1  2  

Chapter Zero
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
[Add Chapter Zero's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com