airy nothing รวมบันทึกส่วนตัวและผลงานต่างๆ มาร่วมแบ่งปัน
 
พระลอร้อยแก้ว ฉบับเยาชน ๖

 

42. พระลอทรงมีโองการสั่งขุนนางผู้ใหญ่ผู้จงรักภักดีให้รักษาดูแลเมืองและราษฎรแทนพระองค์ ให้เร่งขจัดศัตรูเมืองและให้ดูแลพระชนนีบุญเหลือเหมือนตอนพระองค์ยังอยู่แล้วตรัสสั่งขุนพลและกองทัพให้เร่งจัดกระบวนทัพทั้งสี่เหล่าให้เสร็จสรรพตามแบบแผนข้าจะออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น

43.ครั้นเมื่อพระลอสั่งความราชการเมืองแก่เหล่าขุนนางเสร็จแล้วก็เสด็จสู่ห้องในเรือนหลวงเพื่อกล่าวประโลมลาพระนางลักษณวดี ผู้ทรงเศร้าตรมใจยิ่งนักน้ำตานั้นเอ่อล้นพระเนตร

พระลอ : เจ้าจงอยู่ดีน้องพี่ พี่จะจากไปอยู่ทางนี้แม่อย่าเศร้า ไม่ช้าพี่จะกลับมาอยู่ร่วมกับเจ้า

พระนางลักษณวดี : พระองค์ละทิ้งข้าบาทไว้ผู้เดียว พระเอยหนทางนั้นไกล มากมายด้วยสัตว์ร้าย ทั้งผีสางจะหลอนหลอก ไปข้างหน้านั้นก็กลัวศัตรูจะทำร้ายทางข้างหลังนี้เล่า พระองค์ก็กลัวน้องจะเสียใจน้องขอหวงห้ามให้ทรงโปรดอยู่ปกเกล้าน้องเถิด ขอพระองค์อย่าไปเลยน้องจากพ่อแม่และพี่น้องมา ด้วยพระองค์ทรงชุบเลี้ยงเป็นข้าปรนนิบัติพระองค์น้องเป็นสุขยิ่งแล้ว พระองค์จะมาจากไปน้องเหมือนหนึ่งสิ้นศีรษะแล้ว

พระลอ :ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง มีแต่บาปบุญที่เที่ยงแท้สองสิ่งนี้คือเงาติดตัวตรึงแน่น สุดแต่กรรมดีกรรมชั่วจะเกื้อหนุนดูแลจากน้องพี่หม่นหมอง ถ้าอยู่พี่ก็อกตรมด้วยไฟรักเผา พี่จำใจต้องจากน้องแต่ในไม่ช้าพี่จะกลับคืนมาคู่น้อง

พระนางลักษณวดี : แม้พระองค์เสด็จไปแล้วได้ครองนางทั้งสองไหนเลยพระองค์จะกลับคืนมาครองเมืองคุ้มเกล้า สองนางจะลองมนตร์มารยากับพระองค์เมื่อเสร็จสมแล้วก็จะปล่อยให้ว้าเหว่เหมือนถูกขังอยู่ในวัง

พระลอ : พี่จำใจจำร้างจากน้องคู่ชีวิตของพี่ยามนตร์ทำให้พี่ต้องจำจากน้องไป ถึงพี่อยู่ก็ไม่อาจร่วมสุขกับน้องได้เลยเจ้าหากมิตายไปจากเจ้า พี่ก็ไม่แคล้วเป็นบ้าเสียคน

พระนางลักษณวดี : พระองค์ทรงเมตตาชุบเลี้ยง เป็นเหมือนบิดามารดา เป็นพระเจ้าให้กราบไหว้ ทั้งเป็นครูให้ยามค่ำเช้า

ตรัสแล้วพระนางก็ซบหน้าบนตักพระเจ้าแผ่นดิน สองแขนกอดรัดจอมกษัตริย์ไว้ หายใจจูบไม่มีอิ่มเอมใจเลยมือกอบธุลีพระบาทมาลูบเกล้าเพื่อเป็นสิริมงคล

พระลอ : พี่จำใจจาก มิใช่จากไปเพราะชังเจ้าถึงจากน้องไปก็ใช่ว่าจะตัดรักได้ เด็ดบัวยังเหลือเยื่อใยนะเจ้าแม้จากไปก็ไม่ลืมน้อง อย่าได้ร้อนใจเลย

พระนางลักษณวดีสุดที่จะทัดทานพระเจ้าแผ่นดินได้ ด้วยสุดบุญแล้วพระนางซบหน้าลงร่ำไห้เหนือพระบาทของพระลอและปล่อยผมลงเช็ดพระบาทพระลอเห็นพระนางลักษณวดีโศกก็ทวีความโศกและพลอยร่วมโศกไปด้วยพระลอเล้าโลมพลางปลอบพลางว่า “อย่าโศกเศร้าเลยเจ้าจะเป็นลางยามพี่เดินทางกลางป่าดงดับทุกข์ดับความข้องขุ่นใจเถิดเจ้า”

44. พระลอเสด็จไปปลอบประโลม สั่งความแก่พระสนมว่า“อยู่ทางนี้พวกเจ้าอย่าได้ระทมร้อนรนใจเลย” ปวงนางสนมรับคำแล้วกราบบังคมที่พระบาทแล้วพากันซบหน้าร่ำไห้สะอึกสะอื้นจนหมดแรง

45. เสียงร้องไห้โหยหวนดังอึงมี่ไปทั้งเรือนหลวงขุนนางน้อยใหญ่ต่างเจ็บช้ำ ราษฎรตามบ้านเรือนต่างร้องไห้ไปตีอกไปด้วยความทุกข์ทั่วกันเมืองจะเย็นเป็นน้ำก็ด้วยน้ำตานี้ละหนาพระลอเห็นชาวเมืองทุกหมู่ทั้งหญิงชายพากันร่ำไห้แล้วพระทัยสั่นไหว กายอ่อนระทวยพระองค์ตรัสว่า “พวกเจ้าอย่าได้ทุกข์โศกนักเลยหนา ทุกข์หนักมักทำให้ป่วยไข้และมักเป็นไข้ที่ทำให้ตายเร็ว”

46. พระลอสั่งความแก่ทุกผู้จนเป็นที่คลายพระทัยแล้วยังมิทันจะบรรทม ก็เห็นแสงจันทร์สว่างดาวที่พร่างพราวคล้อยต่ำด้วยเป็นเวลาใกล้รุ่ง ดาวพระศุกร์ขึ้นสู่ท้องฟ้าไก่ลุกกระพือปีกขัน นกดุเหว่าเริ่มร้อง พระลอเสด็จเข้าที่สรงชำระพระองค์ทรงแต่งองค์งดงาม ทรงสวมมงกุฎแก้ว ทรงถือมงคลพิไชยอาวุธ แล้วทรงเสด็จออกดั่งพญาราชสีห์เยื้องกรายออกจากถ้ำภูเขาแก้ว มินานก็เสด็จถึงประเทียบช้างขุนช้างกับควาญขับนำพญาช้างไชยนุภาพมาเทียบที่เกยพระลอทรงคอช้างแล้วรับสั่งให้เคลื่อนหมู่ไพร่พลยิ่งใหญ่สง่างามไปท่ามกลางเสียงแตรสังข์ วงพิณพาทย์ ฆ้อง ประโคมก้องไปทั่วกรุงพระลองามเปล่งปลั่งดุจดวงเดือน ยามเสด็จก็ดั่งเดือนลอยอยู่บนฟ้าดวงดาวที่เรียงรายเต็มฟ้าก็เหมือนไพร่พลที่ล้อมตามเสด็จ

47. พระลอทอดพระเนตรเรือนรั้วไร่สวนราษฎรพลางรำลึกถึงนางผู้เป็นที่รัก ป่านนี้นางคงคร่ำครวญถึงพี่ แล้วใครจะปลอบประโลมนางเล่าพี่ไปก็ไม่แคล้วจะคิดถึงนางทางนี้ จะกลับก็คิดถึงนางที่อยู่ข้างหน้าจะไปดีหรือไม่ไปดีหนา คิดแล้วยิ่งอ้างว้างสับสน ด้วยห่วงหน้าพะวงหลังคิดถึงนางทางข้างหลังนั้นก็รัก แต่ยามนตร์คาถาของนางทางฝ่ายหน้าก็ขลังนักพระลอตัดใจไม่กลับหลัง แล้วตั้งหน้าเดินทางต่อไป ขบวนไพร่พลเร่งเคลื่อนไปผ่านนาไร่ ไปตามเส้นทางน้อยใหญ่ของถิ่นชนบท จวบจนใกล้ค่ำคนนำทางให้หยุดไพร่พลทำจวนที่พัก พระลอเสด็จประทับที่พลับพลาแล้วเหล่าเสนาก็มาเข้าเฝ้ากันคับคั่ง

48. พระลอประทับอยู่ท่ามกลางหมู่บริพารดวงอาทิตย์ค่อยคล้อยต่ำ ใกล้ค่ำเข้ามาเรื่อยๆลมพัดเฉื่อยพาให้คำนึงถึงพระนางลักษณวดีกับพระสนมกำนัลแลัวยกพระหัตถ์ลูบทรวงพลางรำพึง โอ้ พี่ด่วนร้างลามา ช่างแสนตรอมใจพี่เห็นเดือนแล้วดั่งเห็นหน้าอันงามของน้องนางลักษณวดี เห็นดาวดารดาษเต็มท้องฟ้าเหมือนหมู่สาวสนมมาใฝ่ใจเฝ้า

49. พระลอบรรทมองค์เดียวเปลี่ยวอ้างว้างสองกรกอดอกร่ำไห้น้ำตาตกใน นึกถึงนางจนเหมือนดั่งได้เห็นหน้าถนัดพระลอตรัสถึงสภาพการรอนแรมทางกับสองพระพี่เลี้ยงว่า “เห็น

โรงเรือนตามบ้านชนบทรุงรังเลอะเทอะ ไม่น่าแลดูเลยนะเจ้า”พระพี่เลี้ยงทูลว่า “พระเอย ถึงอาบน้ำขุ่น ยังได้ความเย็นชื่น ปลาหมักไว้ถึงเหม็นยามหิวก็ต้องเคี้ยวกลืน ยามยากไร้เด็ดดอกหญ้ามาแซมผมไปก่อน พระเอยหอมหรือมิหอมก็เอามาทัดดมไปก่อนเถิด” เดือนเพ็ญสาดแสงทั่วท้องฟ้าพระลอบรรทมกอดหมอนไปอย่างเปล่าเปลี่ยว หมองไหม้พระทัย




Create Date : 19 พฤษภาคม 2557
Last Update : 19 พฤษภาคม 2557 20:12:51 น. 0 comments
Counter : 436 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Chapter Zero
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
[Add Chapter Zero's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com