เนิ่นนานมาแล้ว...ที่ไม่ได้มาที่นี่เลย
วันนี้นึกครึ้มอก ครึ้มใจ เข้ามาใน Bloggang
ถามว่าเขินมั้ย ที่ยังมี blog อยู่... เขินบ้างนะ แต่ทำไมล่ะ hi5 เรายังไม่ได้ลบล็อกอินออกไปเล๊ย
วันนี้ได้อ่าน เรื่องราวที่เราเขียนไว้ล่าสุด ก็ตั้งแต่ปี 2551 (โหยย นานแล้วว่ะ)
นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ขึ้นมา บางคน ยังเห็นอยู่บ้าง จาก instragram หรือ facebook
แต่ในขณะเดียวกัน เกือบทุกคน หายไปจากวงจรชีวิตของ blog แห่งนี้ไป
พอกลับมาอ่าน แค่แว๊บเดียว เขินดีจัง ที่ตอนนั้นเราเขียนไปได้ไง แต่ก็ไม่ลบนะ ยังคงอยู่ไว้อย่างนั้นแหละ ถ้ามันยังมี bloggang อยู่ มันก็ยังคงอยู่ ถ้ามันยังมี hotmail ไว้ให้เก็บเมล มันก็ยังคงอยู่
เอาล่ะ เวลาผ่านไป เกือบ ห้าปี ที่ไม่ได้อัพอะไรเลย มาอัพซักหน่อย อัพเดท ชีวิตตัวเอง ที่หายไปจากที่นี่เกือบ ห้าปี
มีอะไรบ้างนะ
ตั้งแต่
51 - เริ่มห่างหายจาก bloggang เริ่มไม่อิน เพราะเบื่อง่าย บางอย่างเหมือนจะอิน แต่เราไม่อินสงสัยเป็นสันดานเสีย ที่แก้ไม่หาย ใจไม่ค่อยทุ่มอะไรเท่าไร ทำไงดีวะกรู... - เริ่มเรียนและเรียนจบในปี52 ประกาศนียบัตรบัณฑิต จากมหาลัยแห่งหนึ่ง ในระหว่างนัั้น สมัครงานอย่างเลื่อนลอยเรื่อยๆ จนยังไม่ได้งาน - จำได้ว่าสมัคร facebook เพราะครูจากAUA ให้สมัครเล่นกัน ปัจจุบันเป็นเพื่อนกันอยู่ แค่ไม่ได้คุยกันเท่านั้นเอง(ไม่เคยคุยมากกว่า เรียนจบก็จบกัน...อู๊ย ใส่ใจคนอื่นจริงกรู) สมัยนั้น อะไรFB งงเว้ย เล่นไม่เป็น hi5 สิแน่จริง เริ่ดจริง
52 - เรียนจบแล้ว ยังลอยไปมาอยู่ ทำงานเป็นไกด์พานักศึกษาป.โทจากอินโดนีเซีย พามาเที่ยวดูงานในไทย แค่3 วัน แต่เอาไปเรียนในเรซูเม่ไว้ด้วยนะ มันก็เริ่ดอยู่ ทำงานกับอาจารย์ของเราเอง นักศึกษาบางท่าน เรายังคุยกันอยู่บ้าง ตามเทศกาล - 15ธันวาคม ปี52 ได้งานทำประจำเป็นครั้งแรกในชีวิต จากพี่ที่เรียนด้วยกันแนะนำมาให้ทำ ถ้าจำไม่ผิดทำงานได้สองวัน วันพฤหัสที่17 มอไซล้มจากการซ้อน ดีนะ ไม่เป็นไรมาก แต่ก็ได้หยุดงานไปด้วยเรยอีก 1 วัน เย็นนั้น โดนพ่อด่าตามระเบียบ เพราะเค้าไม่ให้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ หุหุ
53 - ทำงานไปได้เรื่อยๆ มีพี่ที่สนิทกันในที่ทำงานจากการช่วยเราเรื่องมอไซล้ม ทุกวันนี้(ปี56)ก็ยังคุยกันอยู่ - ทำงานไป ทำงานมา ได้แปดเดือน เดือนสิงหา ก็ลาออก จริงๆนอยด์ไปเอง หาเรื่องออกเอง แต่ที่ไหนได้ บอกชาวบ้านว่า มาเรียนต่อโท จร้า - เรียนไปเรียนมา ปลายปี ได้ทำงานใหม่แร่ะ เริ่มเป็นพนักงาน 16 ธันวาคม กับธนาคารแห่งหนึ่ง
54 - ทำงานไปเรื่อยๆ เปลี่ยนบูททำงานบ้าง(เพราะทำงานเป็นจนท.แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ) เม้าท์มอยกะเพื่อนในบูทบ้าง ขี้เกียจบ้าง ด่าลูกค้าบ้าง นินทาหัวหน้าบ้าง(อันนี้ออกกล้องวงจรปิดด้วย ไม่รู้แอบมีไมค์หรือเปล่า ถ้ามีรู้กันทั้งสำนัก ฮ่าๆๆๆ) จิกกัดหัวหน้าบ้าง นอยด์แตกอยากเปลี่ยนงานบ้าง เป็นงี้ไปเรื่อย ทั้งปี - งอนกับพ่อบ้าง เมื่อช่วงต้นปี ไม่รู้งอนไร สุดท้ายโดนพ่อแหย่ สงสัยมันอยากได้มือถือใหม่เรยพาพ่อไปซื้อ แล้วก็คืนดีกัน ฮ่าๆๆ งี่เง่าดีจริงเรา (อายุ 26 แร่ะ) - เหตุการณ์นี้ ทุกคนคงไม่ลืม น้ำท่วม...ที่บ้าน เริ่มตั้งแต่พี่สาว นอยด์กันมาก เป็นเอามากจริงๆ กลัวน้ำมา แพ็คนู่นนี่นั่น ทุกสิ่งอัน แต่สมาชิกที่เหลือ เรา พ่อกับแม่ ชิลๆอ่ะ ไปซื้อแป้งโดนัท จากวีรสุ มาตีๆ คนๆ ทำกินกันอยู่เรย - ต่อมา น้ำกำลังจะมาแล้ว พ่อเริ่มกังวล นอยด์ๆๆๆๆแร่ะ เรากะแม่ ยังชิล แต่เราชิลกว่า เออ เมิงจะมาก็มาเว้ย - อพยพไปอยู่เมืองจันทบุรี บ้านเกิดพ่อ ไปนอนในสวน พร้อมเอาของอย่างอื่นมาจากบ้านด้วย ช่วงนั้น ลางาน เป็นคนแรกๆของพนักงานประจำบูทแลกเงิน เพราะบอกไปว่าที่บ้านอพยพไปหมดแร่ะ พ่อบอกให้ไป ขอลาซัก 5 วันนะจ๊ะ เราก็เออ เก็บของก็เก็บ อันไหนเก็บได้เก็บก่อน เนื่องจากชิลมากตอนน้ำไม่ท่วม ก็เลยลำบากนิดนึง ตอนย้ายของ - กลับกรุง พร้อมไปอยู่กะอา อาได้คอนโดนแถวช่องสาม คอนโดเล็กๆ แต่ได้ห้องแบบใหญ่สุดของตึก แต่ห้องเราก็ได้นะ เสร็จแล้วชั้นเดียวกะอา แต่คนละปีก ซึ่งรอบข้างยังมีการก่อสร้างห้องอื่นอยู่ โอ้ยอยู่ไม่ได้หรอก ห้องเล็กมาก ชนิดที่ว่าอยู่คนเดียวยังไม่ได้ ญี่ปุ่น สุดๆ แถมฝุ่นเข้าตลอด มีห้อง แต่ไม่อยู่ อยู่กะอา สุดท้ายอยู่ได้หกวัน ขอเจ้าของคืนห้องนั้นไป อยู่ไม่ได้จริงไรจริง อยู่กะอาไปก่อนประมาณอาทิตย์นึง...มั้ง ระหว่างนั้นก็โทรไปรายงานกับหัวหน้าเป็นระยะ ว่าเออ กรูกลับมาแร่ะ จะให้ทำงานที่ไหนเรยมั้ย พร้อมนะ เริ่มงานก่อนหมดวันลา ก็ได้นะ...หัวหน้าก็ว่า ไม่เป็นไรไม่ต้องหรอก...อู๊ยแอบซึ้ง กลับไปดูบ้านบ้าง น้ำท่วมนิดเดียว แค่ตาตุ่ม แต่ที่ซักผ้าท่วม แต่ก็ไม่เข้าบ้าน(อาจเพราะกระสอบทรายกันบ้าง) แม้ว่าจะเป็นบ้านชั้นเดียวก็ตาม โชคดีจริงๆ หลังหมู่บ้านท่วมเล็กน้อยแต่ไม่มากเท่าไร แต่กรูก็ไม่เชื่อว่า เอาอยู่ ของเจ๊นายกหรอก เฮ่อออออ - พ่อแม่ กลับมาอยู่บ้านแร่ะ แม้ว่าจะลำบากหน่อย เพราะกระสอบทรายขวางทาง เราก็เดินทางไปทำงานลำบาก เพราะถ้าเลยจากย้านเราไป เข้าเมือง ไปนิดหน่อย น้ำท่วม ได้ขึ้นรถเมล์ช่วงน้ำท่วม ผ่านรัชดาแบบน้ำท่วม ขึ้นบีทีเอส ช่วงที่มีสะพานให้คนเดีนช่วงน้ำท่วม...ลำบาก แต่ตื่นเต้น แล้วเชิดหน้าขึ้นไปบนบีทีเอสไปทำงาน - ทางด้านการเรียน ช่วงเทอมสอง ประมาณมกราถึงเมษา เริ่มงานใหม่ๆ เวลาทำงานไม่เหมือนชาวบ้าน เลยบุกมาหาอาจารย์ที่สอนว่า ขอเข้าห้องเลทนะ ไม่ก็ไม่มาบ้าง แต่สัญญาว่าจะเก็บการเรียนจากเพื่อน และตามงานเสมอ อาจารย์บอกว่า เออ ครูประทับใจเธออ่ะ มาดักรอครู แล้วย้ายวิชาบังคับอีกวิชา ไปเรียนอีกเซกชั่นนึง เรียนรวมกะเด็กการตลาด และเราหลุดเป็นกลุ่มนอกภาคคนเดียวในห้องนั้น โอ้ยย เขินไม่ค่อยคุยกะใครเรย แต่เพื่อนร่วมคลาส ก็เอาเข้ากลุ่มนะ แม้ว่างานกลุ่มจะแทบไม่มี แต่เราก็แทบไม่ค่อยได้ช่วย แต่ก็เอาข้อมูลมาให้นะเว้ยยย แม้มาพรีเซ้นท์ไม่ได้เพราะวันนั้นต้องทำงานก็ตาม และสลับเวลากับเรียนอีกวิชาบ้างก็ตามเหอะ แต่เทอมสอง กรูรอดช่วงเทอมสาม ประมาณกรกฎา เหมือนเป็นช่วงขี้เกียจ แต่ก็ขี้เกียจจริงๆ ห่วยมากเทอมนั้น แอบอู้งานกลุ่มด้วย( กรู เลวว) เทอมสี่ น้ำท่วม บางวิชา ต้องมาเรียนอัด แต่พรีเซ้นท์เองเต็มที่นะ เอาอาจารย์ที่หน้านิ่งๆ ขำได้อ่ะ เออ เรียนกลยุทธ์ยังขำออก สุดท้าย เอมาครองสองวิชารวด ฉุดเกรดเทอมสามกลับมาได้ คืนฟอร์มเข้าเกณฑ์
55 - ยังทำงานที่เดิม ทะเลาะกะหัวหน้า เบื่อมาก พาลลงเฟซบุค มีย้อนเขาไปบ้าง มีครั้งนึง ยอมรับว่ามาสายมาก จนทำให้ระบบรถเงินเสีย แต่นางก็เอาเรื่องค่าปรับมาขู่เรา เออ อยากได้นักเอาไปเด๋วไปจ่ายให้ที่สำนักงานใหญ่ นางก็ถามทำไมพูดกันแบบนี้ คือ เฮ้ย กรูไม่อยากสายหรอกนะ แต่วันนั้นตัดสินใจจอดรถที่มหาลัยจะขึ้นรถไฟฟ้า แล้วตอนเย็นมาเรียน ถ้าจอดที่บีทีเอส ก็ไม่สายแร่ะ แต่เราก็ผิดที่ไม่ได้โทรบอกนางด้วย แล้วพี่อีกคนที่เป็นผู้ช่วยหัวหน้า ก็มีประมาณขึ้นสเตตัส เม้าท์กรูผ่านทางFB แม้ไม่ระบุชื่อ แต่ก็รู้ว่าเป็นเรา เหมือนเป็นชะงักติดหลัง ก็เออ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากะทีมหัวหน้า ไม่ดีแล้วนับจากปลายเดือนมกราเป็นต้นมา - พี่ที่เคยเรียน ประกาศนียบัตรบัณฑิต มาชวนทำงานที่หนึ่ง เทียบเงินเดือนก็โอเคกว่า โบนัสดีกว่า แต่ที่ดีที่สุด คือหยุดเสาร์อาทิตย์ เออ เราก็ค่อยยังชั่วได้หยุดเหมือนชาวบ้าน ปรึกษาที่บ้าน จริงๆเหมือนพ่อยังอยากให้ทำธนาคารอยู๋(เค้าทำธนาคารมาก่อนเกษียณ) แต่เราใจไปแร่ะ ไม่อยากอยู่บูทแลกเงินแล้ว อยากก้าวหน้า อยากทำงานอย่างอื่นดู โอเค ประสานงานเคยทำมาก่อนตอนที่ทำงานแรก แต่ก็อยาก สุดท้ายเปลี่ยนงาน พี่เค้าว่า แกต้องรอรับโบนัสก่อนนะ ผลงานเรา มากน้อย รอก่อน พอโบนัสออก เราก็เดินทางมาทำงานที่ใหม่เรย(คือ ตอนเค้ารับเรา งง มาก สัมภาษณ์งานปุ๊บ 10 นาทีต่อมา โทรรับปั๊บ กรูงง แต่ขอเค้าก่อนว่ายังไม่ตกลงปลงใจนะ คุยกะที่บ้านก่อน) พอเซ็นสัญญาวันที่30 มีนาเริ่มงาน 16 เมษา(ได้หยุดเพิ่มจากสงกรานต์สองวัน เลยทำงาน 18 เมษา) บ่ายวันที่30 มีนา โทรขอลาออกกับบอสก่อน แล้วเข้าสำนักงานใหญ่ เจ๊หัวหน้าทำปรบมือแปะๆ ดีใจด้วยได้งานใหม่(จริงๆนางคงรู้ว่าเราอยากออกนานแร่ะ ตอนนั้นแบงค์เปิดรับตำแหน่งอื่นก็ไปสมัครภายในนางก็เห็ฯเราตอนไปฟังเค้าชี้แจงพอดี แถมพอสัมภาษณ์ กรูไม่ผ่านซะงั้น แต่ไม่เป็ฯไรผ่านมาถึงรอบรองสุดท้ายก็ดีแล้ว ที่สำคัญผ่านข้อสอบEQด้วย) หัวหน้านางถามว่ามาเพื่อลาออกเลยเหรอ ป่าวหรอก ไปเซ็นสัญญามาแล้วมาลาออก นางอึ้งไปเล็กน้อย หุหุ ไปๆมาๆ ก็ทำงานถึงวันที่ห้าเมษา แต่สาม กับ สี่ เมษา เราได้หยุดนะ แต่ก็ทำทำไปเถอะ เอาไงก็ได้ ทำส่งท้ายไม่ว่ากัน - เริ่มงานที่ใหม่ แม้จะงงบ้าง มึนบ้าง โดนพี่บ่นบ้าง ก็สู้ๆ เอาวะ สู้เว้ยยยยยย ในเมื่อเลือกมาแล้ว สู้ต่อไป - เรียนจบโท ตอนช่วงพฤษภา 55 ล่าช้าไปหนึ่งเดือนเพราะน้ำท่วม ช่างมัน เพื่อนๆยังติดต่อสม่ำเสมอ และเป็นประจำ - happy life และได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ผอมลงประมาณสี่กิโล ดีจัง หลังลดได้สิบกิโลตั้งแต่51 แล้วก็เพิ่มเอาเป็นเท่าเดิม ตอนทำงานธนาคาร(แม้ว่าจะไม่เผละเหมือนก่อนออกกำลังกายก็เถอะ แต่ก็อ้วนอยู่ดี) ทุกวันนี้ก็ออกกำลังกายด้วยความสะใจต่อไป
56 - ปีใหม่ ปีนี้ เพราะนึกครึ้ม เลยเปิดbloggang ดู และมาอัพเดท หลังจากหายไปถึงห้าปี ให้ตัวเอง
เผื่อเปิดอีก อาจจะได้มีเขินบ้างไรบ้าง...อีกครั้ง
แล้วพบกันใหม่ ยามเราว่างๆ และไม่นอยด์ ไม่เวิ่นเว้อ ไม่มึน นะ
ก็บ่นกันไป นะเรา...^0^
ปล. สังเกตว่า ปี54 ปี55 เราระลึกได้มากดีจริง แหม เพิ่งผ่านไปไม่นานนี่นา
Create Date : 08 มกราคม 2556 |
|
1 comments |
Last Update : 8 มกราคม 2556 23:34:23 น. |
Counter : 3181 Pageviews. |
|
|
|