<<
กุมภาพันธ์ 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
19 กุมภาพันธ์ 2566
 

XX3MyYdiary - Reverse 1 XX

บรรยากาศวันออดิชั่น ทั้งน่ากลัวทั้งน่าตื่นเต้น สามถูกจัดให้ไปนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ผมเห็นเขานั่งบีบมือตัวเอง เขย่าขาแทบจะตลอดเวลา เขาเป็นแบบนี้ทุกทีเวลาตื่นเต้นมากๆ ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ผมเองก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน วันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของผมแล้ว ถ้าผมยังทำไม่ได้ ผมก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียนจริงจัง ตามที่ตกลงกับป๊าม๊าไว้ ผมไม่ได้ไม่อยากเรียนหนังสือ แต่ผมมีความสุขที่สุดเวลาได้ร้องเพลง ได้ขึ้นเวที ผมรู้สึกทุกครั้งว่าเวทีคือพื้นที่ของผม ผมอยากมีโอกาสได้อยู่บนนั้น ได้มองลงมาเห็นคนถือป้ายชื่อผม ได้ยินเสียงกรี๊ด ได้อยู่ท่ามกลางคนที่ส่งเสียงร้องเพลงของผม เวลาเหล่านั้นเคยเป็นของผม  แต่ตอนนี้  มันไม่อยู่แล้ว  ผมถึงได้มาตามหาโอกาสที่นี่ แต่ถ้าวันนี้ โอกาสไม่ใช่ของผม ความฝันของผมก็คงไม่มีวันเป็นจริงอีกแล้ว

ในที่สุดก็ถึงคิวผม ขาผมสั่นไปหมด ตอนก้าวเข้าไปในห้องที่มีแต่แสงสีแดงส่องมาที่ผม กรรมการอยู่บนที่นั่งที่ดูเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ กรรมการบอกให้ผมแสดงสิ่งที่ผมเตรียมมา ให้ผมหันซ้าย หันขวา ยิ้ม เดินเหมือนเดินแบบ ให้ผมเสยผมเปิดหน้าผาก

แล้วกรรมการก็บอกผมว่า

ไลน์เต้นดีนะ แต่มันมีแต่แรง ไม่มีเสน่ห์เลย แรพดีนะ แต่ร้องไม่แข็งแรงเลย รู้ตัวมั้ยว่า ปากห้อยเวลายิ้ม

จากที่ผมพยายามยิ้ม ผมเริ่มยิ้มไม่ออก กรรมการถามผมว่า ทำไมอยากเป็นศิลปิน ผมยืดอกตอบว่า มันเป็นอย่างเดียวที่ผมอยากเป็น ตั้งแต่ผมเริ่มต้นเรียนเต้น ผมก็ไม่เคยคิดถึงอาชีพอื่นอีกเลย

ผมออกจากห้องออดิชั่น ไปรอข้างนอก สามมองตามผม สายตาเขาไม่มั่นใจเลย ผมอยากไปอยู่ข้างๆ ให้กำลังใจเขา แต่ทำไม่ได้ มีอีกหลายคนกว่าจะถึงคิวของสาม ผมไปหาที่นั่งกินกาแฟรอให้สามเสร็จ ค่อยโทร.บอกให้ม๊ามารับ คิดถึงคอมเม้นท์ของกรรมการ สงสัยที่ผมเรียนมาตั้งเกือบสิบปี ที่ครูชม เพื่อนชมว่าผมเก่ง คงหมดสิ้นกันวันนี้

น้ำนิ่งเดินผ่านผมไป แล้วเดินย้อนกลับมาหา มานั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ ผม เขามองมือตัวเอง แล้วจู่ๆ ก็ถามว่า เรียกแท็กซี่ที่ไหนพี่ ผมหันไปถามว่าอะไรของมึงวะ น้ำนิ่งตอบนิ่งๆ ว่า แอบที่บ้านมา ไม่มีรถ ต้องกลับแท็กซี่ ผมอยากได้งานที่นี่ พี่อยากอยู่วงเดียวกับผมมั้ย ผมหันไปมองเขาเต็มตา น้ำนิ่งผิวขาวพอๆ กับผม แต่ผิวใสยังกับกินหลอดไฟเข้าไป ผมถามว่า ทำไมกูต้องอยากด้วยวะ น้ำนิ่งตอบนิ่งๆ เหมือนเดิมว่า ไม่รู้สิ ผมชอบพี่ ชอบเพื่อนพี่ด้วย ผมกลับแล้วนะ เจอกัน Bro แล้วเขาก็เดินออกไป ไม่ถามชื่อผม ไม่ขอเบอร์ ไม่แลกไลน์ แล้วเขามั่นใจยังไงว่าจะได้เจอผมกับสามอีก

ผมวนกลับมาคิดเรื่องตัวเอง ผมเรียนเต้นมา 9 ปี เรียนร้องเพลงมา 5 ปี เรียนเปียโน 3 ปี แล้วก็เริ่มหัดแต่งแรพมาได้สักปีเดียว พ่อไม่ว่าอะไรที่ม๊าสนับสนุนให้ผมเรียนทุกอย่าง จ่ายค่าเรียนให้ผมไม่เคยบ่น แค่บอกว่า ถ้าผมพยายามแล้วมันยังไม่ใช่ ผมก็ควรลดสิ่งนี้ลงมาเป็นแค่งานอดิเรก แล้วก็ไปตั้งใจเรียนสิ่งที่ผมจะเอาไปใช้ทำงานสร้างรายได้ไว้ดูแลตัวเอง

สามโทร.ถามว่าผมอยู่ไหน แล้วตามออกมาหา หน้าเขาดูแย่แบบไม่พยายามเก็บอาการ เหงื่อซึมจนเห็นเป็นหยดอยู่ตรงขมับ ผมส่งทิชชูให้สามซับหน้า ส่งแก้วน้ำเย็นให้เขาดื่ม สามบอกว่ากรรมการคอมเม้นท์ซะเสียความมั่นใจหมดเลย แล้วก็ถามว่าของผมเป็นไงบ้าง ผมเอนหลังพิงเก้าอี้ พาดแขนไปตามไหล่สาม บอกเขาว่า เหมือนที่เรียนมาหลายปีเป็น 0 เลย สามไถลตัวลงนอนพิงแขนผม พูดเหนื่อยๆ ว่า ไม่ได้ทั้ง 2 คนก็ดีนะ ยังหาเวลาไปเรียนไปซ้อมด้วยกันได้ ผมหันไปมองสาม เขาดูเซ้งมาก ผมขยับมือไปโอบไหล่เขา บอกเขาว่า ยังไม่ต้องบอกแม่มารับมั้ย ไปกินพิซซากันก่อน

สามหัวเราะแล้ว พูดว่ามึงยอมอดมา 2 เดือนเพื่อวันนี้เลยนะ ผมหัวเราะตอบ บอกว่า เออ วันนี้ก็ได้ทำแล้วไง ไปฉลองกันดีกว่า

สามลุกขึ้น ดึงมือผมให้ลุกตาม เราไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ทั้งที่เรากินไม่เหมือนกัน ผมพยายามระวังเรื่องอาหาร ส่วนสามกินแต่ของอร่อยตามใจชอบ แต่สามไม่เคยบ่น ชวนไปกินที่ไหน เขาก็ไปด้วยตลอด

สามจะถ่ายเซลฟี่กับผม บอกว่า ถ่ายไว้ก่อน เดี๋ยวมึงเป็นศิลปินแล้ว กูไม่ได้ถ่ายด้วย ผมกดมือถือสามลง พูดกับเขาว่า ไม่ต้องถ่ายเลย มึงอ่ะต้องเป็นศิลปินพร้อมกู ห้ามเบี้ยว

อีกหลายวันกว่าจะถึงวันประกาศผล ผมอยากอ่านหนังสือ แต่ไม่มีสมาธิเลย ผมนึกถึงตัวเองตอนมีโอกาสได้ออกเพลงกับค่ายเพลง ได้ขึ้นเวทีไปแสดงต่อหน้าคนหลายร้อยหลายพัน เพลงผมไม่ดังพอจะให้ใครจำผมได้ แต่ผมจำความรู้สึกทุกอย่างได้ จำภาพที่ผมมองลงมาจากบนเวทีได้ติดตา ผมอยากได้กลับไปรู้สึกแบบนั้นอีก อยากกลับไปเห็นภาพนั้นอีก แล้วผมจะทำให้ดีกว่าที่เคยทำ ผมจะไม่ทำพลาดกับโอกาสที่ผมได้อีกแล้ว ขอแค่โอกาสนั้นเป็นของผม และสามด้วย ผมรู้ว่าเรารู้สึกเหมือนกัน

สามโทร.มาชวนผมไปเที่ยวทะเล เพื่อนเขาชวน เขาอยากให้ผมไปด้วย ผมกำลังจะปฏิเสธ ผมไม่ชอบไปเจอคนเยอะๆ ไม่ชอบไปไหนกับคนที่ผมไม่รู้จัก แต่สามบอกว่าเพื่อนกลุ่มนี้ผมรู้จักทุกคน เคยเรียนเต้นด้วยกัน แต่พวกนั้นเลิกเรียนไปหมดแล้ว สามบอกอีกว่า ไปด้วยกันเถอะ อยู่บ้านว่างๆ ก็เซ็ง

สามก็เหมือนผม ไม่ชอบแดด ไม่ชอบร้อน แต่ดันชอบทะเล ถ้าอยู่ที่ทะเล ก็อยู่กลางแจ้งได้ทั้งวัน เล่นน้ำ เล่นปาจาน ก็หมดไปหลายชั่วโมง เราไปเล่นเรือกล้วย เราตกน้ำฝั่งเดียวกัน เราโผล่ขึ้นมาเจอกัน สามแก้มแดงจัด ไม่รู้เพราะแดดหรือเพราะผม

กินข้าวเย็นเสร็จ พวกเพื่อนชวนกันไปกินเหล้า ผมไม่ไปด้วย บอกว่าไม่อยากโดนจับ ส่วนสามบอกว่าขี้เกียจ พวกนั้นพูดไม่เกรงใจว่า เชิญลูกแหง่อนามัยอยู่ด้วยกันไปแล้วกัน

สามชวนผมไปแช่จากุซซี่หน้าบ้าน ต่างจังหวัดที่ไม่มีแสงไฟมาแข่ง แสงดาวก็สว่างสวยจนผมมองไม่เบื่อ สามหาเรื่องมาคุยได้ไม่หยุด ผมฟังไปเรื่อยๆ ถามเขาบ้าง เถียงเขาบ้าง ลมเย็นพัดมาเบาๆ ไม่มีเสียงสาม รอบตัวก็เงียบยังกับผมไม่ได้อยู่ในโลก สามพูดจนตัวเองหลับ ผมขยับเข้าไปใกล้ น้ำลายซึมอยู่ที่มุมปาก ผมเช็ดให้ สามก็ยังไม่ตื่น ผมท้าวศอกมองเขาอยู่อย่างนั้น คิดเรื่อยๆ ว่า สามเป็นคนขี้ตกใจ ถ้าผมจูบเขา....

สามลืมตาขึ้นมาถามว่า หน้ากูยังไม่หายเลอะรึไง มองอยู่ได้ แล้วก็ลุกขึ้นจากสระ ผมทิ้งตัวด้วยความเสียดาย สามเห็นผมไม่ตามไป ก็เดินกลับมา ยื่นมือให้ผม พูดกับผมว่า มาซิเพื่อน เดี๋ยวเลย 4 ทุ่มมึงไม่ได้นอน เดี๋ยวก็หงุดหงิดอีก

ผมกำลังจะหลับ แต่สามยังตื่นอยู่ ห้องแคบๆ ไม่เหมือนสระน้ำโล่งๆ โทนเสียงต่ำของสาม ตอนนี้เหมือนมีแมลงวันร้อยตัวบินอยู่ข้างหู ผมรำคาญจนต้องลุกขึ้นมาดุให้เขาเงียบ ไม่งั้นก็ออกไปพูดข้างนอก สามทำคอย่น หยุดพูด แต่เขาอยู่เงียบๆ ได้ไม่ถึง 5 นาที ก็เริ่มร้องเพลง แล้วก็ไม่ยอมออกจากห้อง

อยากจะบ้าตาย ทำไมผมต้องชอบคนกวนประสาทคนนี้ พูดทำไมว่าถ้ามึงทนไม่ไหว กูไปนอนห้องอื่น

ผมเลยต้องทนฟังไปเงียบๆ จนหลับไปเอง

แล้วสามก็ไม่ตื่นตามเคย  ผมออกไปกินอาหารช้า  พวกเพื่อนจะไปหาคาเฟ่นั่งชิวถ่ายรูป  แล้วก็จะกลับบ้าน ผมเลยบอกให้แยกกันกลับ  ไปปลุกสามตอนนี้  เดี๋ยวงอแงใส่ผมอีก

ผมเอา Wish List ของตัวเองมานั่งดู  ถ้าผมได้เซ็นสัญญา  ผมจะมีเงินเดือน  มีอุปกรณ์ทำเพลงตั้งหลายอย่างที่ผมอยากได้  ถ้าซื้อไปเดือนละอย่าง  กว่าจะได้ครบ  ก็คงเกือบปี  แต่ถ้าออดิชั่นไม่ผ่าน  มันอาจกลายเป็นหลายปีก็ได้

สามตื่นมาตอนใกล้เที่ยง  เขาไม่สนใจจะกินข้าว  ชวนผมไปว่ายน้ำในสระ  ผมบอกว่าไม่เอา  ร้อน  แต่สามบอกว่า ตอนนี้แหละดี  ไม่มีคน  เดี๋ยวกูทาครีมกันแดดให้มึงทั้งตัวเลย  มา มาเร็วๆ  แล้วก็ลากให้ผมลุกจนผมแทบจะหัวทิ่ม

ขัดใจก็งอน  ตามใจก็เอาแต่ใจตัวเอง  ทำไมผมต้องมาชอบคนแบบนี้ด้วยวะเนี่ย




Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2566
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2566 21:06:53 น. 0 comments
Counter : 346 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com