<<
มีนาคม 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
10 มีนาคม 2566
 

XX3MyYdiary - Reverse 2 สาม

ผมรู้จัก XX  ตั้งแต่อายุ 12  ผมเจอเขาครั้งแรกตอนเข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัดค่ายเดียวกันกับเขา  ผมต้องไปเรียนร้องเพลงอยู่ตั้งปี  กว่าจะได้รับคัดเลือกเข้ามา  เพราะออดิชั่นครั้งแรกแล้วไม่ผ่าน  มันยากมากกว่าจะเข้าได้  แต่พอเข้าได้แล้ว  อะไรมันก็ง่ายไปหมด  ผมได้ออกซิงเกิ้ล  มีงานแทบทุกวัน  เพลงผมขึ้นแท่นเป็นเพลงร้อยล้านวิว  แต่พอค่ายปิดตัวลง  ทุกอย่างที่เคยเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ  เป็นสิ่งที่ผมต้องได้อยู่แล้ว  ก็หายไปหมด  ผมต้องเผชิญหน้ากับความจริงว่า  ผมไม่ใช่นักร้องดังอย่างที่ผมเคยเข้าใจ  คนนอก dom แทบไม่มีใครรู้ว่าผมเคยเป็นศิลปิน  ถ้าผมอยากได้งาน  ผมต้องดิ้นรนไปหาแคสท์งานเอง  ซึ่งผมแทบไม่เคยต้องทำเลย  ก่อนหน้านี้  ส่วนใหญ่ที่ผมต้องทำคือ  รับทราบว่าต้องทำงานอะไร  ที่ไหน  เมื่อไหร่  ไม่เคยต้องหาเอง  และก็ ไม่เคยได้เลือกด้วย

โชคดีที่ตอนนั้น  xx ไม่ได้หายไปด้วย  เขายังเป็นเพื่อนที่ดีของผม  ดีจนบางทีผมก็อยากให้เขาเป็นมากกว่าเพื่อน

xx รอผมอยู่แล้ว  ผมกับเขามาสมัครออดิชั่นที่นี่  เราผ่านเข้ารอบมาจนถึงรอบสุดท้ายแล้ว  xx บอกว่างานนี้งานสุดท้ายของเขาแล้ว  ถ้ายังไม่ได้อีก  พ่อจะให้กลับไปตั้งใจเรียนอย่างเดียวแล้ว  ผมไม่อยากได้ยินแบบนี้เลย  ผมถาม xx ว่า  แล้วถ้าไม่ได้  จะยังไปซ้อมร้องซ้อมเต้นด้วยกันเหมือนเดิมมั้ย  เขาตอบว่า  คงเรียน  แต่คงไม่ไปซ้อมแล้ว  เสียงเขาเนือยๆ  แต่แล้วเขาก็ยิ้มให้ผม  บอกว่า  ถามทำไม กลัวอะไรวะ  มึงอ่ะ  ตั้งใจทำดีๆ  จะได้ผ่านพร้อมกูไง  xx มองตาผมจริงจัง  พูดต่อว่า  แล้วเป็นศิลปินวงเดียวกับกูด้วย

เขาจับมือผมแน่น  พูดเบาๆกับผมว่า  ที่นี่คือที่ของเรานะ  ที่ของเรา  เต็มที่นะเว้ย  แล้วเขาก็แยกไปนั่งที่ตัวเอง  ผมนั่งมองมือตัวเอง  พยายามทำสมาธิ  ทบทวนสิ่งที่ตัวเองเตรียมมา  มีเสียงเรียกชื่อ xx  เข้าไปในห้อง  พักใหญ่ๆเขาก็ออกมา  สีหน้าเขาไม่ค่อยดี  แต่ก็ยังหันมายิ้มให้ผม  ก่อนออกไปด้านนอก  ผมรู้ว่าเขาจะรออยู่  เขาไม่เคยทิ้งผม  เขาจะคอยเป็นกำลังใจให้ผม

บรรยากาศในห้องออดิชั่น  น่ากลัวกว่าที่ผมคิดไว้อีก  ขึ้นเวทีแสดงต่อหน้าคนเป็นพัน  ผมยังไม่ตัวเย็น  มือสั่นขนาดนี้  1 ในคณะกรรมการเป็นครูที่เคยสอนผมตอนอยู่ค่ายเก่า  แต่ครูมองผมด้วยสายตาเย็นเฉียบ  เหมือนคนไม่เคยรู้จัก  สั่งให้ผมเริ่มร้องเพลง  ผมตั้งใจทำตามที่ซ้อมมาอย่างเต็มที่  แต่คอมเม้นท์ที่ผมได้คือ  เนื้อเสียงดี  ทักษะการเต้นก็โอเคนะ  แต่ไม่เข้ากับบุคลิกเลย  รูปร่างหน้าตาใช้ได้  แต่ดูไม่มั่นใจตัวเอง  กรรมการบอกให้ผมลองเดินให้ดูอีกรอบ  แล้วถามผมว่า  รู้สึกรึเปล่าว่าเดินไม่เต็มเท้า  มันทำให้บุคลิกเสีย  แล้วก็ให้ผมออกจากห้อง

ผมโทร.หา xx  เขารอผมอยู่ที่ร้านกาแฟ  เห็นหน้าผม  เขาก็ยื่นทิชชูกับน้ำเย็นให้  ผมรับมาแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างเขา  xx พาดแขนมาตามพนักเก้าอี้  ผมเลื่อนตัวลงพิงแขนเขา  ผมมีเพื่อนเยอะ  แต่ก็มีแต่เขา  ที่เต็มใจให้ผมอ้อน  รู้ว่าผมอยากได้กำลังใจ  ใส่ใจดูแลผมตลอด  คอมเม้นท์ของเราออกมาไม่ดีทั้งคู่จนผมไม่หวังแล้วว่าจะได้  อาการผมคงชัดมาก  xx  บอกผมว่า  อย่าเพิ่งโทร.ให้แม่มารับเลย  ไปกินพิซซากันก่อนดีกว่า  ผมหัวเราะขำเขา  ผมรู้ว่าเขาชอบกินพิซซามาก  แต่ไม่ค่อยยอมกินเพราะห่วงเรื่องสุขภาพ  แล้ววันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรน่าฉลองเลย  แต่เขาบอกว่า ก็ฉลองที่ได้ทำแล้วไง

ตอนรอพิซซา  ผมขอเขาถ่ายเซลฟี  แต่ xx ไม่ยอม  บอกผมให้รอถ่ายตอนเป็นศิลปินพร้อมกัน

เขามองตาผมจริงจังจนผมต้องหลบ  ไม่อยากให้เขาเห็นว่าผมเขิน  ทั้งที่ผมอยากเขินให้เขาเห็น

ตอนนี้ยังปิดเทอมอยู่  ผมมีเวลาว่างเยอะจนเบื่อ  ผมเคยทำงานทุกวันจนถ้ามีวันว่าง  ก็แทบจะเหมือนขึ้นสวรรค์  แต่ตอนนี้พอมีเวลาว่างมากๆ  ผมกลับเพิ่งรู้สึกว่า  ผมชอบวันว่าง  แต่ผมรักวันทำงาน  ผมอยากได้เซ็นสัญญา  ยิ่งถ้าได้เข้าค่ายเพลงพร้อม xx ด้วย  ก็คงจะยิ่งดีมากๆ

ผมอยากไปเที่ยวกับ xx  แต่ชวนไปกันแค่ 2 คน  เขาคงไม่ไป  ถึง xx จะดีกับผม  แต่เขาก็เป็นคนใส่ใจคนรอบตัวอยู่แล้ว  ถ้าที่เขาทำให้ผม  เพราะผมเป็นคนพิเศษ  xx ก็คงมีคนพิเศษเยอะจนจำได้ไม่หมด  แต่ผมก็อยากให้เขาไปกับผม  ผมก็เลยไปชวนเพื่อนคนอื่นก่อน  แล้วค่อยไปชวนเขา  เพื่อนที่ชวนไปก็ต้องเป็นคนที่ xx รู้จักทุกคน  เพราะเขาไม่ชอบไปไหนกับคนไม่รู้จัก  ตอนผมชวนไปเที่ยว  xx  ถามก่อนเลยว่าไปกับใคร  ตกลงไปด้วยกันแล้ว  ถึงได้ถามว่า  ไปทะเลที่ไหน

ผมแอบคิดเขินๆว่า  สำหรับ xx  ที่ไหนคงไม่สำคัญเท่า  กับใคร  แล้วก็ต้องรีบปลุกให้ตัวเองตื่น  ตอนนี้  ใครมาชวนไปเที่ยว  xx ก็คงไปหมด  ดีกว่านั่งรอฟังผลออดิชั่นอยู่บ้านเฉยๆ

แดดก็แผด  ลมก็แรง  แต่พวกเราก็เล่นกลางแจ้งกันตั้งแต่ตอนไปถึง  xx  หัวเราะผม  แต่ก็ส่งมือให้ผมจับ  ดึงให้ผมลุกขึ้นจากทราย  แล้วก็ไปเล่นกันต่อ  ตอนตกเรือกล้วย  แล้วโผล่ขึ้นมาเจอเขา  ใจผมสั่น  หน้าผมร้อน  ใกล้กว่านี้อีกแค่ 2-3 นิ้ว  ผมก็จูบเขาได้แล้ว  xx หัวเราะ  สบตา  ไม่หลบตา  เขาคงไม่รู้สึกอะไร  มีแต่ผมที่เขินจนต้องหันไปทางอื่น  เสียงเพื่อนตะโกนลงมาจากบนเรือว่า จะมองกันอีกนานมั้ยมึง  เดี๋ยวก็ท้องหรอก  พวกมึงไม่ขึ้น  พวกกูทิ้งนะเว้ย

ผมเล่นจนหมดแรง  กินข้าวเสร็จผมก็อยากหลับแล้ว  แต่พวกเพื่อนชวนกันไปเที่ยวผับ  เหลือแค่ผมกับ xx ที่ไม่อยากไป  รีสอร์ทวันธรรมดาที่แทบไม่มีคนมาเที่ยว  เงียบสนิทไม่มีเสียงรบกวน  ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาว ผมชวน xx มานอนแช่จากุซซี่หน้าบ้าน  เขาเดินมาถึงสระก็ถอดเสื้อออก  ผมลืมตัวจ้องเขาจนเขาถามว่าเป็นอะไร  ถามต่ออีกว่า  ใส่เสื้อแช่น้ำ  สบายตรงไหน  ทำไมไม่ถอด  ผมก็เลยต้องถอดเสื้อตามเขา

ผมเอนตัวพิงขอบสระ  ดูดาวไปด้วย  คุยกับ xx ไปด้วย  ผมรู้ที่เขาไม่ปฏิเสธ  เพราะเขาก็ชอบดูดาวเหมือนกัน  ผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้  มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่มีนิ้วมาแตะที่มุมปาก  ผมไม่ได้ลืมตา  แต่ก็รู้สึกได้ว่าเขาอยู่ใกล้มาก  หัวใจผมเต้นแรงอีกแล้ว  เขาแค่อยู่ใกล้  ไม่ได้คิดอะไรกับผม  ทำไมผมต้องรู้สึกขนาดนี้  ผมกำลังจะเก็บอาการไม่ไหว  ก็เลยลืมตามาถามเขาว่า  หน้ากูยังไม่หายเลอะรึไง  แล้วก็รีบลุกขึ้นจากสระ  xx ไม่ได้ตามมา  ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไร  ผมก็ไม่อยากให้มาใส่ใจผมแบบนี้  แต่ผมกลัวผี  ก็เลยต้องเดินกลับไปเรียกให้เขาเข้าห้องมาพร้อมกัน

ผมหงุดหงิด  หมั่นไส้  ผมรู้ว่า xx  ชอบนอนเป็นเวลา  4 ทุ่มก็ง่วงแล้ว  เขาทำท่าจะหลับ  ผมก็แกล้งทำเสียงดังจนเขาลุกขึ้นมาดุให้ผมเงียบ  ไม่งั้นก็ไปทำเสียงดังข้างนอก  ผมหมั่นไส้จนอยากแกล้งเขา  ผมหยุดทำเสียงได้ไม่ถึง 5 นาที  ผมก็เริ่มร้องเพลง  xx  ลุกมาดุผมอีก  ผมบอกเขาว่า  ถ้ามึงทนไม่ไหว กูไปนอนห้องอื่นก็ได้

xx โวยคำหยาบออกมาคำหนึ่ง  แล้วก็กลับไปนอน  ตอนที่ผมขึ้นเตียงไปนอนข้างๆ  เขาก็หลับไปแล้ว  ผมขยับเข้าไปมองเขาใกล้ๆ  เวลาไม่บ่น xx ก็น่ารัก  ปากเป็นรูปกระจับ  น่าจูบเป็นบ้า  คิดได้แค่นั้น  ผมก็รีบหันหลังให้เขา  xx เคยเล่าว่า เคยบอกรักผู้หญิงกลางโรงอาหาร  แล้วจู่ๆ  ผมก็อยากร้องไห้  ถอยกลับมานอนที่ตัวเอง  ช่างเถอะ  ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รับรักเขา  แล้วผมก็ไม่เคยเห็นเขาสนิทกับผู้หญิงเลยสักคน  ผมอาจจะมีความหวังก็ได้

ผมตื่นมาเกือบเที่ยงแล้ว  xx นั่งดูมือถืออยู่หน้าบ้าน  เขาบอกว่าเพื่อนกลับกันหมดแล้ว  เขาอยากไปนั่งชิวที่คาเฟ่  ไม่มีใครรอผม  มีแต่ xx  ผมชวน xx ไปว่ายน้ำที่สระ  เขาโวยวายไม่ยอมไป  บอกว่าร้อน  แต่ผมไม่ยอม  บอกเขาว่า  เดี๋ยวกูทาครีมกันแดดให้มึงทั้งตัวเลย  เขายังร้องไม่เอาๆ  แต่ก็ปล่อยให้ผมลากเขากลับเข้าห้องมาเปลี่ยนเสื้อ

ที่สระว่ายน้ำไม่มีใครเลย  เหมือนโลกนี้มีแต่เรา  มีแต่เสียงหัวเราะของเรา  แดดแรง  แก้มเขาแดง  หน้าผมก็คงแดง  ผมอยากให้เราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานๆ

เรากินข้าวเสร็จแล้ว  กำลังเดินกลับห้อง  ตอนที่แม่ของเรา 2 คนโทร.มา  เราหันมามองหน้ากัน  แล้วก็โดดกอดกัน  ค้านเลื่อนเวลาประกาศผล  เรา 2 คนได้รับเลือก  ค่ายนัดพวกเราไปคุยเรื่องเซ็นสัญญาพรุ่งนี้  อาทิตย์หน้าจะได้เริ่มทำงาน  เราบอกแม่พร้อมกันว่า ตกลงครับ

xx ยิ้ม  ผมก็ยิ้ม  เราจะได้เป็นศิลปินค่ายเดียวกันแล้ว  ผมบอกเขาว่า  ทำได้แล้วนะมึง  เขายิ้ม  ตอบรับว่า อือ  แต่ยังมีอีกอย่าง  เขาหันมามองตาผมจริงจัง  เราต้องทำให้เขาเห็นว่าเราควรได้อยู่วงเดียวกัน  มึงว่า  เราจะทำได้มั้ย

ต้องได้สิ  ผมตอบเขา




Create Date : 10 มีนาคม 2566
Last Update : 10 มีนาคม 2566 21:16:01 น. 0 comments
Counter : 418 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com