การ์ตูนเวปเกาหลีที่ร้อนแรงบนโลกออนไลน์ ภาค ๒
---ต่อ---- นะจ๊ะ เราจะได้เข้าเรื่องอย่างจริงจังกันสักที เรื่องเวปตูน หิหิ
ขอออกตัว หัว เครื่องใน ก่อนเลยว่าบ้าการ์ตูนมาตั้งกะเด็กจนโต เวลแรกๆจะเป็นการตามเก็บขายหัวเราะ สาวดอกไม้ฯ หนูหิ่น ปังปอนด์ ฯลฯ พอเริ่มมีประสบการณ์ก็ข้ามมาการ์ตูนญี่ปุ่นเลย และติดงอมแงม สลับกับเกมส์มาตั้งแต่ตอนนั้น รู้สึก BOOM เล่มแรกที่ซื้อเป็นหน้าปกเรื่อง Hikaru no Go เป็นบ้าเป็นหลังขนาดซื้อโกะมาเล่นตาม แต่... ก็อย่างว่าอะนะสมองไม่ถึง = = อ่านเอาดีกว่า
ตั้งแต่เล็กจนโตคุ้นเคยแต่กับการ์ตูนญี่ปุ่น กับการ์ตูนจีนแนวกำลังภายใน ไม่เคยรู้เลยว่าเกาหลีก็มีกะเขาด้วย (อันที่จริงตอนเด็กๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีประเทศชื่อเกาหลี ... ) จนกระทั่งได้อ่านเรื่อง Yongbi หรือ มังกรฟ้าป่วนยุทธภพ แล้วก็พวกแร็คนาร็อก ซึ่งเรื่องมังกรฟ้าฯนี่แทบจะทำให้โกรธสยามไปเลยทีเดียวที่ออกมาแค่หกเล่มแล้วค้างงงงงงงงง แล้วแบบมันสนุกมากกกกก คือมันสนุกมากกกก คือเข้าใจไหมว่ามันสนุก ... อะแฮ่ม ช่างเถอะ เอาเป็นว่าขัดใจมาก เคยส่งเมลล์ไปถามทางสำนักพิมพ์เรื่องเล่มต่อแต่ก็ไร้วี่แวว แต่จำได้ว่าช่วงนั้นมีบล็อคบล็อคนึงเอา Raw เรื่องนี้เป็นภาษาจีนมาลงจนครบ 23 เล่ม ของภาคแรก แล้วก็เลยงมไปงมมาจนได้ภาคสองมาด้วย ก็ฟินเล็กน้อยที่ได้เห็นภาพถึงจะอ่านไม่ออกสักตัวก็ตาม (ตอนนี้มีคนเอามาแปลเป็นอังกฤษแล้วนะถึงประมาณเล่ม 13-14 เห็นจะได้)
สุดหล่อพร้อมปี้หลงอิม้าโรคจิต
พอเริ่มเข้ามัธยมช่วงนั้นการ์ตูนที่ออกในไทยอิฉันตามอ่านจนแทบจะเรียกได้ว่าเกิน ร้อยละ 70 มีร้านเช่าการ์ตูนเป็นบ้านหลังที่สอง(เช้าเข้าร้านเช่าก่อนเข้าโรงเรียน เย็นเข้าร้านเช่าก่อนกลับบ้าน) อ่านเยอะมากจนช่วงหนึ่งเล่นเนทแล้วมีคนพูดถึงพวกการ์ตูนดังๆตอนล่าสุด(ของพวกจัมป์) แล้วมาเทียบกับพวกบูมหรือซีคิดส์แล้วพบว่ามันนำไปอีกแฮะ อะไรกัน มาได้เยี่ยงไร ก็เลยตามๆเขาไป ตอนนั้นเวปการ์ตูนแปลอังกฤษยังมีแค่ Onemanga.com แต่พอพบแล้วก็สวรรค์มากๆ เพราะมันไม่ใช่แค่การ์ตูนที่เราตามในไทย แต่การ์ตูนหลายเรื่องที่ไม่มีในไทยแล้วดูน่าสนุกก็มีเยอะ .... ตอนนั้นภาษาก็ยังอ่อนด๋อยอาศัยดูรูปแล้วเปิดคำศัพท์เอา ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็ขอให้ได้อ่านเหอะฟะ (จำได้ช่วงนั้นตามอ่าน Eyeshield21 จนสำราญใจมากๆ)
ทีนี้พอพูดถึงการ์ตูนเวปสิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกผิดลึกๆในใจว่าเราแอบอ่านของเขาโดยไม่จ่ายตังค์ (โดยมีอิตัวมีเขาแย้งว่าก็ที่ไทยไม่มีขายนี่นา) แต่พอมันติดแล้วก็ยากที่จะหักห้าม (ช่วง ม.ต้นนี่อาการหนัก ติดทั้งการ์ตูนแล้วเกมส์ ช่วงนั้นก็ TSonline)
พอนานๆเข้า จากเวปที่มีนับหัวได้ จากบางเรื่องที่ต้องเอาออกมาจะ IRC (ซึ่งจนถึงทุกวันนี้อิฉันก็ยังใช้ไม่เป็นอยู่ดี) ทุกวันนี้มีเวปที่เป็นโฮสต์รับการ์ตูนอยู่เยอะมาก ชนิดแล้วแต่จะหา จะเลือกอ่าน
แล้ววววว ..... ทำไมฉานยังไม่เข้าเรื่องเกาหลีสักทีฟะ ทำไมพูดมากปากเปียกเรื่อยเปื่อยแบบเน้ -*-
ก็ เอาล่ะนะ ทีนี้ ช่วงประมาณ 4 ปี ก่อน มันเริ่มมีการ์ตูนที่เป็นสีๆ คือลงสีเสร็จทุกช่องเข้ามาปรากฏ (เพราะปกติการ์ตูนสแกนทั่วไปก็ขาวดำชิมิ) จำได้ว่าเรื่องแรกที่เห็นคือเรือง Trace
Trace by Nasty Cat
บอกตรงๆว่าหนแรกที่กดเข้าไปอ่านรู้สึกว่า "อะไรฟะ ทำไมหน้านึงมันยาวขนาดนี้" คืออันที่จริง หน้านึงก็คือตอนนึงเลย สโครลกันสนุกมาก ประมาณนี้
เนื่องจากเป็นของแปลกใหม่ และความที่ค่อนข้างชอบยึดติดกับอะไรเก่าๆ ตอนนั้นเลยไม่คิดที่จะอ่านเรื่องนี้เลย และไม่สนใจที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าทำไมมันถึงมีรูปแบบอย่างนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งมาสะดุดกับ Manhwa (Manga ของเกาหลี) เรื่องนึงที่ชื่อว่า Noblesse (ซึ่งอยู่ในบล็อคที่เขียนไว้เมื่อเกือบสามปีที่แล้ว) แล้วตกหลุมรักกับเนื้อเรื่องมาก ชนิดว่าอ่านกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว
ไรเซลนิม กับการเปิดตัวที่เรียกเลือดมากๆ แฟนเกิร์ลตายหยังเขียด
และจากเรื่อง Noblesse นี่เองที่ทำให้เราเริ่มจะหันมาสนใจพวกเวปตูนส์ เริ่มทำความรู้จักกับมัน เนื่องจากตอนนั้นที่โนเบลสเริ่มถูกแปลเป็นอังกฤษ ตัว Raw มันได้ไปค่อนข้างไกล พอตามอ่านอังกฤษจนหมด ก็เลยเริ่มตามหา Raw ซึ่งหาง่ายมากๆ เพราะมันคือเวป comic.naver.com/webtoon/weekday.nhn เข้าไปก็ตกใจค่ะ เพราะเกาหลีล้วนๆ เราก็เกาเหลาเดามั่วจิ้มผิดจิ้มถูก ลองผิดลองถูกจนรู้ว่าการ์ตูนที่เห็นนั่นมันแบ่งตามวัน (อันที่จริงถ้าฉลาดหน่อยก็น่าจะเอะใจจาก weekday.nhn ละนะ แต่อย่างที่บอก ว่าค่อนข้างซื่อบื้อ) ก็ประมาณได้ว่า การ์ตูนเรื่องนึงจะออกอาทิตย์ละตอน เหมือนพวกนารุโตะ บลีช ทำนองนั้น แต่พวกนี้จะออกบนเวป แล้วพออ่านๆไป เราก็จะเริ่มจับจุดได้ว่า ตอนใหม่จะออก ทุกๆ 3 ทุ่มโดยประมาณ กล่าวคือ ถ้าเป็นการ์ตูนของวันอาทิตย์ พอสักคืนวันเสาร์ตอน 3 ทุ่ม ตอนใหม่ของการ์ตูนในวันอาทิตย์ก็จะถูกอัพเดทละ (สามทุ่มบ้านเราประมาณห้าทุ่มเกาหลีใช่ปะหว่า) หน้าที่หลักคือตาม Raw ค่ะ 55555
แต่ถ้าจะพูดว่าการ์ตูนเวปเกาหลีเริ่มมาร้อนแรงบนโลกออนไลน์เมื่อไหร่ ก็อาจจะสักเมื่อปีที่ผ่านมามากกว่า คือระหว่างสี่ปีที่ผ่านมานี่ก็มีเวปตูนส์ถูกแปลลงเวปโฮสต์ หรือพวกกรุ๊ปสแกนต่างๆอยู่เรื่อยๆ แต่มันยังไม่บูมเท่าตอนนี้ แต่ก่อนเรื่องที่ดังมากๆสุดๆของเวปตูนส์เกาหลีก็เห็นจะหนีไม่พ้น Noblesse ซึ่งมีครั้งหนึ่งที่คนรอตอนแปล กดรีเฟรชกันจนหน้าเวปของกรุ๊ปที่สแกน egsacns.com ถึงกับล่ม (ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในพวกนั้น 555) ยิ่งช่วงพีคๆสุดๆของโนเบลสจะอยู่ราวๆ ตอนที่ 185-200 เรียกว่านับเวลารอวันอังคารเลยล่ะค่ะ ไรเซลกับแฟรงกี้ แอร๊ย
ภาพของเรื่องโนเบลสนี่โชโจแต่เนื้อเรื่องนี่โชเน็นชัดๆ (เราโดนหลอกมาแล้ว เลยไม่ยอมเปิดอ่านอยู่ตั้งนาน)
เรื่องต่อมาที่ดังอยู่ในอันดับต้นๆหายใจรดต้นคอกะโนเบลส(ในความรู้สึกเรา) คือเรื่อง Tower of God โดย SIU 25th Baam หรือ Jyu Viole Grace สุดที่รัก (รักม่างทุกเรื่อง 55)
เรื่องหอคอยแห่งพระเจ้านี่ตอนแรกๆที่มีบทนำมาก็ยังงงๆ แล้วก็ไม่ถูกใจกับลายเส้น (เรื่องมากเนาะ) เพราะเรื่องนี้แรกๆเลยลายเส้นจะไม่เนี้ยบ คือยังดูผิดเพี้ยนอยู่หลายๆส่วน แต่นั่นก็ถือว่าเป็นสเน่ห์อย่างนึงของการ์ตูนเรื่องนี้ แต่ที่เด่นสุดก็เห็นจะเป็นเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ อ่านเจอว่ามีคนเปรียบว่าเหมือนฮันเตอร์xฮันเตอร์ของเกาหลี อืมมม มันก็คล้ายอยู่นะ ถ้ามันไม่มีพล็อตพลิกในซีซั่นที่สอง
Jyu Viole Grace the Slayer Candidate
เรื่องต่อไปที่จะพูดถึง เอาเป็นว่าหนนี้จะพูดถึงสามอันดับแรกในใจเราละกันนะ เรื่องที่เข้ามาเป็นอันดับสามก็คือเรื่อง Kubera หรือ One Last God Kubera โดย Currygom
ภาพรวมตัวละครหลัก นางเอกคุเบร่าคือสาวหัวเขียวเสื้อเหลืองนะจ๊ะ
คุเบร่าเป็นการ์ตูนที่อ่านๆไปแล้วเราจะเริ่มรู้สึกแปลกใจกับฉากและตัวละครว่าทั้งหมดแล้วเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนฐานของเทพแห่งศาสนาฮินดู โดย Kubera อันที่จริงแล้วก็คือท้าวกุเวร เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง(แต่นางเอกของเราไม่ใช่เทพนะจ๊ะ แค่มีชื่อของเทพ แต่แค่นั้นก็เทพละ เอ่อออ พิมพ์เองอ่านแล้วมึนเอง) หัวเขียวชุดเขียวนั่นคือ Gandharva หรือคนธรรพ์ ชุดแดงหัวขาวนั่นคือ Maruna แห่งเผ่า Garuda เดาว่าคือชื่อมาร จากเผ่าครุฑ ส่วนส้มแป๊ดชัดเจนนั่ก็คือ Agni หรือ อัคนี เทพเจ้าแห่งไฟ
ดูๆไปแล้วเป็นอะไรที่เราไม่คุ้นเคยเลย เพราะภาพความจำของเทพอินเดียหลายๆองค์ฝังหัวมานาน เหอๆ
สำหรับเรื่องนี้แล้วส่วนใหญ่จะเป็นแนวตลกโปกฮา บ้าบอ นางเอกเข้าข่ายมีแต่นมไม่มีสมอง คือนางบื้อมาก แต่แข็งแรงมาก อย่างที่บอกว่าส่วนใหญ่มันตลก แต่พล็อตจริงๆของเรื่องแล้วซีเรียสและเศร้ามาก โดยคอนเซ็ปที่ว่า "เรื่องนี้ไม่มีคนผิด มีแต่เหยื่อ" คือหลักๆแล้วจะเป็นการสู้รบของ Asura หรือ อสูรกับมนุษย์ คือต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเองที่หาเรามองฝั่งไหนก็จะหาฝั่งที่ผิดไม่เจอ มันจึงเป็นอะไรที่เจ็บปวดชิงๆ
ภาพส่งท้าย แฟนเซฮร์วิซเอาใจตัวเองเพราะเป็นติ่งคุเบร่าXคุเบร่า (คนกะเทพ)
ไว้ภาคสามจะมาต่อเรื่องอื่นๆนะจ๊ะ :D
Create Date : 11 มกราคม 2557 | | |
Last Update : 12 มกราคม 2557 1:27:32 น. |
Counter : 5590 Pageviews. |
| |
|
|
|