ความเชื่อเปลี่ยนคนให้เป็นควาย
ความเชื่อเปลี่ยนคนให้เป็นควาย 3 ตุลาคม 2555
ความเชื่อเปลี่ยนคนให้เป็นควาย วันนี้เจอเพื่อนที่เพิ่งกลับจากการเจรจาด้านการศึกษาที่เวียดนามมา เพื่อนเล่าว่าระบบการศึกษาของเวียดนามพัฒนาไปมาก เค้าลงทุนด้านการศึกษาอย่างดี อาจารย์ผู้สอนในสถาบันการศึกษาในระดับเทียบเท่าอาชีวศึกษาบ้านเราจบปริญญาโทปริญญาเอกจากต่างประเทศทั้งนั้น ซึ่งการพัฒนาประเทศโดยการลงทุนด้านการศึกษาอย่างสูงเช่นนี้ ประสบความสำเร็จมาแล้วในการสร้างชาติสมัยใหม่ของเกาหลีใต้ และเชื่อว่าเวียดนามจะพัฒนาแซงหน้าประเทศไทยได้อย่างแน่นอนในวันหนึ่งในอีกไม่ช้านาน เหมือนอีกหลายประเทศที่เคยด้อยพัฒนากว่าประเทศไทย แต่สุดท้ายก็ล้ำหน้าประเทศของเราไปหมด ปัญหาอยู่ที่อะไร ผมว่าหลายๆท่านที่ศึกษาการเมืองมาเป็นอย่างดี คงจะทราบว่าระบบพหุอำนาจทางการเมืองนั้น มันก็เหมือนการขังเสือหลายๆตัวเอาไว้ในถ้ำเดียวกันนะครับ รังแต่จะนำความพินาจมาให้ เหตุนี้เองการพัฒนาประเทศของเราจึงเดินหน้าสองก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวมาโดยตลอด ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้นั้น ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจกับปัญหาเสียก่อน แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ??? คนไทยส่วนใหญ่นั้นไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าระบบพหุอำนาจของเราเป็นเช่นไรและขัดขวางการพัฒนาประเทศได้อย่างไร ความดำมืดนี้เองกลายเป็นหลุมดำที่ฉุดกระชากประเทศไทยสู่หุบเหวแห่งความตกต่ำ แล้วเราจะทำเช่นไรกับหลุมดำนั้น เอาไฟส่องให้ทุกคนได้เห็นอย่างนั้นหรือ ถึงแม้ว่าแสงสว่างจะขจัดความไม่รู้ทั้งมวลได้ แต่อาจไม่สามารถใช้ได้กับคนไทย เพราะความไม่รู้ไม่ใช่ปัญหาเดียวของคนไทย แต่ปัญหาใหญ่อีกข้อหนึ่งก็คือ ความเชื่อ คนไทยไม่นิยมเสพความรู้ ไม่ชอบคิดมาก ไตร่ตรองแล้วปวดหัว จึงมีวัฒนธรรมแบบ เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย เกิดขึ้นในบ้านเรา เราเลือกที่จะ เชื่อ สิ่งที่เราอยากจะเชื่อ ไม่ใช่เลือก เพราะ สิ่งนี้เองก่อปัญหามากมายกับสังคมไทย ช่วงนี้ข่าวดังด้านการเสริมความงามกับหมอเถื่อนหมอกระเป๋ากำลังโด่งดัง หลังพริตตี้นางหนึ่งเสียชีวิตเพราะหมอเถื่อน เมื่อวานนี้รายการเปิดโปงก็นำเรื่องราวพวกนี้มานำเสมอ ดูแล้วก็รันทดใจ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่ผู้มารับบริการไม่รู้ว่ากำลังเล่นกับหมอเถื่อน แต่ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า ถูก ทั้งๆที่เราก็ต่างรู้กันอยู่ว่า ผู้ทำเช่นนั้นได้ต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่เราก็ไม่ได้ใช่ความรู้นั้นมาใช้ในการตัดสินเลือก แต่ใช่ความเชื่อของเราเองมาตัดสิน สำหรับเรื่องความงามนั้น การฉีดซิลิโคลนถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเมื่อฉีดเข้าไปแล้วก่อปัญหามากมาย และลงเอยด้วย เน่า ตัดทิ้ง ผ่าออก ผีเน่า ทั้งสิ้น คนไทยต่างก็ทราบดี แต่ก็ยังจะฉีด สมัยผมสอนหนังสือได้ยินเด็กผู้ชายคุยกันว่าจะฉีดซิลิโคลนขยายขนาดอวัยวะเพศ เราก็เป็นห่วงพยายามบอกเค้าว่าสุดท้ายแล้วจะก่อปัญหาและอาจลงเอยด้วยการตัดมันทิ้งในที่สุด ผมถามเด็กๆว่าเคยเห็นที่เขาลงข่าวหนังสือพิมพ์หรือออกทีวีเตือนเรื่องนี้บ้างไหม แต่คำตอบที่ได้จากเด็กๆก็คือ อาจารย์ไม่รู้อะไรที่เป็นความจริง และพวกเค้าไม่เชื่อผมสักนิด ทั้งๆที่เป็นครูสอนพวกเค้า และเด็กๆต่างก็รู้ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่... ความรู้ไม่ช่วยอะไร เครื่องสำอางก็เป็นอีกตัวอย่างของปัญหานี้ ปัจจุบันมีเครื่องสำอางผลิตออกมายี่ห้อใหม่ๆแทบจะทุกวัน และสาวๆก็ชอบซื้อมากมาย ที่สำนักงานผมก็ชอบกันจริงๆ และผมก็ไม่เคยเห็นว่ามันจะมี อย. เลยแม้แต่ชนิดเดียว แต่ก็ขายดิบขายดีเป็นที่นิยม ด้วยเหตุผลว่าใช้ได้ผลดีกว่าเครื่องสำอางแพงๆที่ขายกันในห้างเสียอีก คำถามหนึ่งก็คือเครื่องสำอางยี่ห้อดังๆแพงๆ เขามีทั้งแล๊บวิจัยของเค้าเอง มีทุนมหาศาลทำไมเขาถึงทำสินคุณภาพดีสู้ของถูกๆพวกนั้นไม่ได้ คำตอบมีทางเดียวครับ คือ สินค้าไม่ผ่าน อย.พวกนั้นใช้สารต้องห้ามที่เป็นอันตราย ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง และจากที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ คำถามคือสาวๆเหล่านั้นรู้หรือไม่ คำตอบที่น่าแปลกใจก็คือ รู้ คนไทยต่าง รู้ แต่ความรู้นั้นไม่ได้ทำให้เราตระหนักได้ สิ่งที่ขัดขวางกระบวนการคิดนี้คือ ความเชื่อ เรามักมีธงอยู่ในใจแล้วทั้งสิ้น เราเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เราอยากจะเชื่อเท่านั้น ส่วนความรู้อื่นๆที่ได้เสพมา แต่ไม่โดนใจของเรา ก็มักจะปล่อยมันผ่านหูผ่านตาไปเฉยๆไม่ได้เก็บมาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลยแม้แต่นิดเดียว เหตุนี้เองไม่ว่าเราจะเอาสปอร์ตไรท์ใหญ่เท่าโลกส่องไปยังหลุมดำต้นตอปัญหาต่างๆของบ้านเมืองของเรา จนสามารถมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในความมืดดำเหล่านั้น ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะ ความรู้ จะสร้างปฏิกิริยาต่อสมองของคนที่มีปัญญาเท่านั้น ไม่ทำปฏิกิริยากับขี้เลื่อย
Create Date : 04 ตุลาคม 2555
Last Update : 4 ตุลาคม 2555 9:00:59 น.
5 comments
Counter : 1754 Pageviews.
โดย: Anglo วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:10:48:03 น.
โดย: Anglo วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:11:04:22 น.
โดย: PS IP: 87.237.226.26 วันที่: 4 ตุลาคม 2555 เวลา:17:56:13 น.
โดย: คนบนเขา IP: 119.42.95.19 วันที่: 14 ตุลาคม 2555 เวลา:15:11:11 น.
โดย: nainokkamin วันที่: 15 ตุลาคม 2555 เวลา:9:08:30 น.
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
บางคนแย่กว่า ออกร่วมขบวนออกไปต่อสู้ เสียเลือดเสียเนื้อเสียชีวิต เพื่อนักการเมือง ซึ่งเขาไม่ได้มาดูดำดูดีเวลาคุณบาดเจ็บ พิการหรือเสียชีวิต
เขากลับเอาประเด็นของคุณมาเป็นการเมืองทำลายฝ่ายตรงข้าม ผลประโยชน์ค่าสินไหมที่เขาเอามาให้มันไม่ได้มาเพราะเขารักคุณอย่างจริงใจ เหมือนอย่างคนในครอบครัว หรือเพื่อนฝูง และมันก็ไม่ได้คุ้มกับชีวิตและความสูญเสียเลยด้วยซ้ำ จะสีไหนๆก็ไทยด้วยกัน เลือดสีเดียวกัน