ที่สุดแห่งชีวิตของคนเรา... ก็เท่านี้
** พระสวด ** "กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา…" พระสวดไป ใจยังวุ่นวาย รับรู้ไม่ได้ว่าสวดอะไร คงสวดให้ผู้ตายฟัง เรานั่งเฉย ๆ ก็พอ .. ฟังพระสวดเพื่อมารยาท คงพลาดอานิสงฆ์ ใจคงไม่เข้าใจ ถ้าฟังไป ภาวนาไป ใจคงเห็นความจริง ว่าที่นอนนิ่ง ๆ นั่นมิใช่ใคร .. คนเคยมีหัวใจเช่นเรา วันนี้เป็นโอกาสเขา "พรุ่งนี้อาจเป็นโอกาสเรา"
** เคาะโลง ** เสียงเคาะโลง มีเสียงพูดเบา ๆ จากผู้เคาะว่า "รับศีลนะ ทานข้าวนะ ฟังพระสวดนะ" ทำไปเพื่ออะไร .. เพียงเพราะแค่เคยทำตามกันมา หรือว่า .. "เคาะประชดคนเป็น" ในยามมีชีวิตอยู่ เตือนแค่ไหน .. ก็ดูเหมือนไม่สนใจกับสิ่งเหล่านี้ ในยามนี้ เตือนไปก็คงไร้ความหมาย คนตายจะไปรับรู้อะไร .. เคาะเตือนคนเป็น ให้เห็นถึงความจริงว่า .. "สิ่งที่ดีเร่งขวนขวาย" วัวควาย ช้างม้า ยามมันมรณายังมีประโยชน์ได้ มนุษย์นี่สิ...เน่าเปื่อยสูญเปล่าไป ดีชั่วที่ทำไว้เท่านั้นส่องให้โลกเห็น...
** อาหารหน้าโลง ** ชีวิตใครบางคน ถ้าไม่ตาย .. ก็คงไม่มีใครให้ความสนใจมากมายเช่นนี้ อาหาร ผลไม้นานาชนิด จัดเรียงรายหน้าโลง สิ่งใดที่ผู้ตายชอบ แพงแค่ไหนก็แสวงหามา เพื่อเป็นเครื่องเซ่นแด่ดวงวิญญาณ .. ถ้าเหตุการณ์เช่นนี้ .. เกิดขึ้นในยามที่ผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ เราคงได้เห็นสีหน้ายินดี และได้รับคำขอบใจ อาหารก็จะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับด้วย .. แต่เวลานี้… อาหารทุกๆอย่างยังคงอยู่สภาพเดิม บุคคลที่จะรับวัตถุสิ่งของจากเรา ขณะนี้เขาไม่รับรู้อะไรแล้ว .. หรือว่าทำไป.. เพียงเพื่อสนองความรู้สึกเรา ในยามมีชีวิต.. ถ้าเราแสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กัน คงจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าเหตุการณ์ .. "อาหารหน้าโลง" เป็นแน่ ..
** ชุดสีดำ ** ในยามสูญเสียญาติมิตรหรือบุคคลอันเป็นที่รัก คงไม่มีใครดีใจ .. คิดจะพกพาความสุขและรอยยิ้มมาหรอกนะ.. สีดำ…เป็นสีแห่งความทุกข์ โลกให้ความหมายไว้เช่นนั้น ในยามมีงานศพ เรามักพบแต่คนใส่ชุดสีดำ บ่งบอกว่า "กำลังไว้ทุกข์" .. ความจริงแล้ว.. ความทุกข์ของคน ใช่ว่าจะมีเรื่องความตายสิ่งเดียวนั้นหาได้ไม่ "การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย" สิ่งเหล่านี้คือความทุกข์ทั้งสิ้น .. การใส่ชุดสีดำมางานศพ เพื่อบอกว่าเป็นการไว้ทุกข์ เป็นการทำตามประเพณี .. แต่ถ้าจะให้ดีต้องไว้ทุกข์ด้วยใจ เพ่งถึงสภาวะความพลัดพราก ความไม่แน่นอน และบอกตัวเองว่า .. เหตุการณ์เช่นนี้ .. วันใดวันหนึ่งก็ต้องเกิดขึ้นกับเรา ..
** ทอดผ้าบังสุกุล ** เสียงพระบริกรรม ในขณะพิจารณาผ้าบังสุกุล.. "อะนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน อุปปัชชิตตะวา นิรุชฌันติเตสัง วูปะสะโม สุโข" แปลความว่า… "ร่างกายนี้หนอ ไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีการเกิดขึ้น..ตั้งอยู่ และแตกสลายไป..เป็นธรรมดา" การพิจารณาร่างกายให้เห็นเป็นธรรมดา นั่นแหละหนา คือ "ความสงบสุข" บทพิจารณาบทนี้ถ้ามีในใจใคร .. แม้สิ้นลมหายใจไป .. ก็ไม่จำเป็นที่จะให้พระรูปใด ต้องมาพิจารณา แต่…ดูเหมือนว่าคนไม่กล้าพิจารณา เพราะกลัวว่า .. "จะตายไว"
** ดอกไม้จันทน์ ** ดอกไม้จันทน์ที่เหล่าญาติมิตรวางไว้ เพื่อไว้อาลัยกับการจากไปของบุคคลที่ตนรัก บางคนวางลงทั้งน้ำตา ในใจบ่นว่า .. "ไม่น่าเลย" บางคนวางลงพร้อมเสียงร้องไห้ ในใจบ่นว่า .. "ทำไมต้องตายด้วย" บางคนวางลงด้วยความสลดใจ ในใจบ่นว่า .. "เราก็จะเป็นเช่นคุณ" บางคนวางลงพร้อมใจสงบนิ่ง ภายในใจ .. "ไม่ได้คิดอะไรเลย" ดอกไม้จันทน์ดอกนั้น ไม่คู่กับตัวฉันในวันนี้ แต่…จะคู่กับฉัน ในวันที่ฉันสิ้นลมหายใจ...
** เหรียญบาทในปากผี ** การกระทำที่เกิดจากความคิดและหวังให้ผู้ตายได้มีเงินใช้ จึงปรากฏเหรียญบาทในปากผี มนุษย์ผู้มีสติปัญญา มองเห็นว่า… นี่แหละหนามนุษย์ .. ในที่สุด.. แม้เงินที่ใส่ไว้ในปาก ก็ไม่อาจเอาไปได้ แต่…ทำไมหนอชีวิตทั้งชีวิต .. จึงบ้าแต่กับคำว่า “เงิน” อยู่ตลอดเวลา "เงิน" คือพระเจ้า.. ที่สามารถดลบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ "เงิน" ไม่อาจดลบันดาลให้มนุษย์.. พบแสงสว่างแห่งความจริงที่ว่า... "ชีวิต คือ ความทุกข์" เพราะ "เงิน" .. เป็นสิ่งที่โกหกมนุษย์อยู่ตลอดเวลาว่า ... "ชีวิต คือ ความสุข"
** ดูหน้า…ครั้งสุดท้าย ** ต่างอยากเห็นหน้าว่า.. เวลานี้เจ้าเป็นเช่นไร พอเปิดโลงออกมา ทุกคนต่างเมินหน้าหนี ถึงจะสวยงามดังเทพี ก็คงไม่มีใครสนใจ.. ดูหน้าศพแล้วย้อนดูหน้าเรา คนมีชีวิตเขลาหรือไม่หนอ พยายามเสริมแต่งตามคำยอ เพื่อลวงล่อให้คนชม... แท้ที่จริงเห็นความจริงไหมว่า ..สวยสักปานใด พอเปิดโลงไปทำไมคนต้องเมินหน้าหนี "ความสวย คงแพ้ความดี" พึงทำให้มีดีจะสวยตลอดกาล ...
** กลิ่นศพ ** ในสมัยยังมีชีวิตอยู่ เจ้าสู้แสวงหาเครื่องสำอางที่มีราคา เพียงเพื่อว่า…ให้ร่างกายข้าสวยสดงดงาม มาบัดนี้…เพียงสิ้นลมไม่กี่นาที กลิ่นที่ดีก็สูญสิ้นไป คนเคยชมเจ้าว่า…งามสง่า กลิ่นกายาเจ้าแสนหอม คนเคยยื้อแย่งและรุมตอม มาบัดนี้… จ้างก็ไม่ยอมเข้าชิดกายา แถมยังบ่นว่า…เจ้าช่างเหม็นจัง คิดบ้างเถอะว่า อย่าบ้าไปกับสังขาร อย่าหลอกตัวเองเลยนงคราญ อีกไม่นานก็จะทุเรศสิ้นดี.. เพียรสร้างตัวให้มีแต่ความดี กลิ่นเจ้านี้ก็จะหอมมั่นคง ชั่วนิจนิรันดร์... โดยไม่มีวันจืดจาง
** เมรุ ** "เมรุมาศสวยบาดตา รู้ไหมว่าเอาไว้ทำอะไร" ชีวิตก็แค่นี้ .. ถ้าไม่ฝังก็เผา เราเคยเดินขึ้นเมรุเพื่อวางดอกไม้จันทน์.. นับครั้งไม่ถ้วน วางดอกไม้ลงปลงใจไม่ได้ว่า "เราก็จะเป็นเช่นเขา" เดินลงจากเมรุ .. เริ่มคิดถึงโครงการเรื่องงานและเรื่องเงิน คิดเพลินจนลืมคิดว่า... "คนเราไม่พ้นเมรุ"
** ไฟ ** ไม่กี่นาที ..ร่างกายนี้ที่ไร้วิญญาณ ก็ถูกไฟเผาผลาญจนเป็นเถ้าถ่านโดยสิ้นเชิง แต่นั่นไฟมันเผาตอนตายแล้ว ในตอนที่มีชีวิตอยู่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า .. "มนุษย์ที่ยังไม่พ้นจากกิเลสตัณหา ย่อมถูกกระแสแห่ง.. ไฟโทสะ ไฟโมหะ ไฟโลภะ เผาอยู่ตลอดเวลา" ยอมไม่ได้ ให้อภัยไม่ได้ รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก จมปลักกับกระแสแห่งโลกีย์ จนใครๆก็เตือนไม่ได้ ปรารถนาจนนอนไม่หลับ ดูซิ…ตอนนี้ถูกเผาแค่ไหน น่าสงสารใจดวงนี้จัง ...
** กระดูก ** สัปเหร่อ บรรจงเก็บกระดูกใส่ถาด เพื่อนำไปเก็บไว้ มองดูไม่เห็นอะไร คงเห็นเพียง .. "เศษกระดูก" ชีวิตคนเรา... กระดูกจะมีค่าก็ต่อเมื่อ ชีวิตทั้งชีวิตเป็นคนดี ถ้าไร้ซึ่งความดี.. กระดูกกองนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับกระดูกของสัตว์ บางครั้งยังสู้กระดูกสัตว์ไม่ได้.. เห็นกระดูกในถาด.. อาจเห็นธรรมในใจได้ถ้าคิดเป็น ไม่สักแต่เห็นแค่ว่า.. นั่นคือกระดูกคน..
** ที่เก็บกระดูก ** ยามมีชีวิตอยู่ .. ใครๆก็รู้ว่าที่อยู่เจ้าใหญ่โต มาบัดนี้ .. ที่อยู่เจ้าช่างคับแคบเหลือเกิน แสวงหา กอบโกย คดโกง ต่อสู้ เพียงเพื่อให้ได้มาทุกวิถีทาง ในที่สุดแห่งชีวิต ... "ก็…แค่นี้" ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม..
** ฝากไว้สะกิดใจ ** คนที่ไม่เคยบอกความจริงกับชีวิตตัวเองว่า .. "เดี๋ยวก็ตาย" เป็นคนที่น่าเป็นห่วงยิ่งนัก .. คนที่ไม่ยอมรับความจริงบนความจริง ที่ปรากฏกับชีวิต เป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลก ...
** ที่มา ----->>> เมล์ฟอร์เวิร์ด
Create Date : 03 พฤษภาคม 2551
Last Update : 18 ธันวาคม 2555 6:18:11 น.
20 comments
Counter : 1437 Pageviews.
โดย: หน่อยอิง วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:31:02 น.
โดย: veeda วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:09:13 น.
โดย: เด็กโคราช ณ ดูไบ (meephrom ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:15:15 น.
โดย: เด็กโคราช ณ ดูไบ (meephrom ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:37:09 น.
โดย: veeda วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:55:30 น.
โดย: arijinjan (arijinjan ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:38:27 น.
โดย: veeda วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:37:27 น.
โดย: bestphuket วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:26:50 น.
โดย: veeda วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:04:31 น.
โดย: veeda วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:58:53 น.
โดย: veeda วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:08:53 น.
Location :
Thailand Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [? ]
**..นิสัยส่วนตั๊ว..ส่วนตัว..** ตามใจตัวเองที่ซู๊ดดดด... รักแมวเป็นชีวิตจิตใจ อารมณ์ดีเหลือหลาย (แต่ถ้าร้ายขึ้นมาละก็ให้อยู่ห่างๆนะจ๊ะ) ความเครียดไม่เคยย่างกรายมาในชีวิต .. ติดจะบ้าๆ ... (อย่างหลังต้องทำใจกันหน่อยนะ อิอิ)**..คติ "ทำ" ประจำใจ..** Before you speak, listen Before you write, think Before you spend, earn Before you invest, investigate Before you quite, try Before you retire, save Before you die, give
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31