.. ภาษาเยอรมันแบบไทยๆ...เป็นแบบไหนน๊าาาาาาา
อันว่าภาษาเยอรมันนั้นมีหลากหลายสำเนียงด้วยกัน ทุกท้องถิ่นก็จะมีภาษาประจำถิ่นซึ่งมีสำเนียงแตกต่างกันออกไป (เหมือนเมืองไทยเรานั่นแหละ) สำเนียงที่ใช้เป็นภาษากลางเรียกว่า.. Hochdeutsch (โฮก-ด๊อยช์) ผู้ที่เข้าเรียนภาษาเยอรมันในโรงเรียนสอนภาษา (Sprachkurs / ช-ปราก-ควร์ส) ในโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ (Volkshochschule / โฟล์คส์-โฮก-ชู-เล่ะ) หรือในมหาวิทยาลัย (Universität / อู-นิ-แวร์-สิ-เทท) ก็จะได้เรียนภาษาเยอรมันที่ใช้เป็นภาษากลางอยู่แล้ว ภาษาประจำถิ่นหรือที่เรียกกันว่าภาษาแสลง.. (Mundart / มุนด์-อาร์ท) จะมีมากมายหลายสำเนียงมาก ยกตัวอย่างในภาคใหญ่ๆก็จะมีดังนี้ ภาคเหนือจะมีสำเนียงที่เรียกว่า.. Plattdeutsch (พลัท-ด๊อยช์) ภาคใต้จะมีสำเนียงที่เรียกว่า.. Schwäbisch (ช-เว-บิช) / Bayerisch (ไบ-แย่ะ-หริช) ภาคตะวันออกจะมีสำเนียงที่เรียกว่า.. Sächsisch (แซ็ค-สิช) ภาคตะวันตกก็จะมีสำเนียงที่เรียกว่า.. Hessisch (เฮส-สิช) เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมีภาษาเยอรมันสำเนียงสวิสและสำเนียงออสเตรียอีกด้วย ส่วนสำเนียงสุดท้ายเป็นสำเนียงที่เราตั้งชื่อขึ้นมาเอง นั่นก็คือ..สำเนียงแบบไทยๆ .. อิ อิ อิ ภาษาเยอรมันสำเนียงแบบไทยๆเป็นอย่างไร มาเริ่มต้นกันแบบอนุบาลเลยก็แล้วกัน.. เริ่มตั้งแต่หัดอ่าน A B C กันเลย จากประสบการณ์ในการเรียนภาษาเยอรมันของเราเองนั้น ครูผู้สอนจะไม่เริ่มต้นสอนด้วยการให้เรียนรู้ตัวอักษร A B C ก่อนแต่อย่างใด (ทีแรกนึกว่าจะสอนแบบที่เราเคยเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนซะอีก.. อิ อิ) แต่จะเริ่มต้นด้วยการให้อ่าน/เขียนและทำแบบฝึกหัดจากในหนังสือเรียนเลย พูดง่ายๆก็คือ..เข้าห้องเรียนปุ๊บคุณก็จะต้องเปิดหนังสือเรียนอ่านได้ปั๊บ ใครจะรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่อง เข้าใจหรือไม่เข้าใจไม่รู้ละ ครูมีหน้าที่สอน ก็จะอธิบายไปเรื่อยๆ ไม่มีการมานั่งจ้ำจี้จ้ำไชหรืออธิบายให้เข้าใจเป็นรายบุคคล สอนจบในแต่ละบทก็จะให้แบบฝึกหัดมาทำเป็นการบ้านทุกวันอีกด้วย คนต่างชาติที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาก่อนแล้วก็จะค่อยยังชั่วหน่อย เพราะถึงแม้ว่าตอนที่ไปเริ่มเรียนแรกๆนั้นจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังอ่านออกเขียนได้..(ถึงจะแปลไม่ออกก็เถอะ.. ฮิๆ) แต่คนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาก่อนเลยนั้นจะเรียนได้ค่อนข้างช้า เพราะทั้งพูด อ่าน ฟัง และเขียนไม่ได้ ตอนเริ่มเรียนใหม่ๆจึงพากันถอดใจไปซะก่อนเป็นส่วนใหญ่ (สมัยนี้รัฐบาลมีการบังคับให้เรียน คงจะถอดใจไม่เรียนกันไม่ได้แล้ว) คนต่างชาติที่ไปเริ่มเรียนภาษาเยอรมันใหม่ๆถึงได้พากันบ่นนักบ่นหนาว่า.. ภาษาเยอรมัน..ยากมากกกกก ที่ว่ายากก็เพราะ..คำต่างๆในภาษาเยอรมันมีการเปลี่ยนรูปเมื่อนำมาใช้ มีการผันคำกิริยา มีการผันคำนำหน้านาม มีการเปลี่ยนรูปของประโยคเมื่อมีคำเชื่อมประโยค มีการเปลี่ยนรูปคำนามเมื่ออยู่ในรูปของพหูพจน์ คำสรรพนามที่ใช้เรียกสัตว์/สิ่งของ ก็มีเพศเหมือนกับคำสรรพนามที่ใช้เรียกคน ฯลฯ การใช้คำต่างๆ..ส่วนใหญ่ก็จะมีหลักการให้จำง่ายๆ แต่มันจะยากก็ตรงที่ทุกหลักการนั้นมักจะมีข้อยกเว้นเสมอ.. วิธีเดียวที่จะช่วยให้เรียนภาษาเยอรมันได้ง่ายขึ้นก็คือ.. เวลาท่องจำคำศัพท์จะต้องท่องควบคู่กับคำนำหน้านามด้วยเสมอ ยกตัวอย่างเช่น คำว่า.. Die Katze (ดี คัท-เซ่ะ) แปลว่า แมว เวลาท่องคำศัพท์ก็อย่าท่องเฉพาะแค่คำว่า Katze เพียงอย่างเดียว แต่ให้ท่องคำนำหน้านามไปพร้อมเลยว่า.. Die Katze คำนำหน้านามมีความสำคัญที่สุดในการผันคำ เพราะฉนั้นจำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่า.. ถ้าเพียงแค่คุณจำคำนำหน้านามไม่ได้ .. คุณก็จะผันอะไรต่อไปอีกไม่ได้เลย มาเข้าเรื่องการเรียนรู้ตัวอักษรในภาษาเยอรมันกัน .. ว่าตัวไหนอ่านออกเสียงว่ายังไงและตรงกับตัวอักษรไทยตัวไหน เราจะพยายามเทียบเสียงในภาษาไทยให้ได้ใกล้เคียงกับเสียงในภาษาเยอรมันที่สุด เพราะเท่าที่เห็นผ่านๆตาในอินเตอร์เน็ตนั้น เวลามีการเทียบเสียงคำอ่านจากภาษาเยอรมันเป็นไทย ส่วนใหญ่มักจะเขียนเทียบเสียงตามตัวอักษรเยอรมันไปเลย ซึ่งถ้าคนที่ยังไม่มีความรู้ภาษาเยอรมันไปอ่าน ก็อาจจะออกเสียงผิดได้ ยกตัวอย่าง เช่นคำว่า.. habe (ฮา-เบ่ะ) เป็นคำกริยา แปลว่า มี ที่เห็นเทียบเสียงกันก็จะเทียบคำอ่านว่า.. ฮา-เบ หรือไม่ก็.. ฮา-เบ่อะ คนที่ยังไม่มีความรู้ภาษาเยอรมันก็จะออกเสียงเป็น ฮา-เบ หรือ ฮา-เบ่อะ ไปด้วย ตัว E ในภาษาเยอรมันอ่านออกเสียงว่า.. เอ ก็จริง แต่เมื่อมันถูกเขียนให้เป็นตัวที่อยู่ท้ายสุดของคำ มันจะต้องออกเสียงสั้นเท่านั้น และถึงแม้ว่าเสียง..เบ่อะ จะคล้ายกับเสียง..เบ่ะ มากก็ตาม แต่ในเมื่อตัว E ไม่ได้ออกเสียงเป็น..เออ การอ่านว่า..เบ่อะ จึงถือว่าไม่ถูกต้อง การออกเสียงว่า..เบ่ะ จึงน่าจะถูกต้องและใกล้เคียงกับสำเนียงของคนเยอรมันที่สุด.. ยังมีคำบางคำที่ออกเสียงแบบก้ำกึ่ง ซึ่งไม่สามารถเขียนเป็นภาษาไทยออกมาตรงๆได้ก็มี เช่นคำว่า Tor(ทอร์) จะออกเสียงก้ำกึ่งกันระหว่าง โอ กับ อัว ก็เลยต้องเขียนคำอ่านเป็นภาษาไทยว่า..ทอร์ เวลาอ่านก็ทำปากห่อๆเพื่อให้เกิดเสียง อัว ตวัดตามท้ายด้วยก็แล้วกัน มาดูการเทียบเสียงตัวอักษรเยอรมัน/ไทยกันเลย.. ตัวอักษรในภาษาเยอรมันมี 26 ตัว มีสระ 5 ตัว + สระที่เรียกว่า Umlaut (อุม-เลาท์) อีก 3 ตัว*** ในวงเล็บคือคำที่ใช้ท่องจำเพื่อย้ำให้ผู้ฟังได้ยินให้ชัดๆ ว่าตัวอักษรที่ผู้พูดๆไปนั้นหมายถึงตัวอักษรตัวใด *** A อ่านว่า อา เทียบกับตัวอักษรไทย - สระ อา [A wie Anton - อา วี อันโทน] B อ่านว่า เบ เทียบกับตัวอักษรไทย - บ.ใบไม้ [B wie Berta - เบ วี แบร์ท่า] C อ่านว่า เซ เทียบกับตัวอักษรไทย - ค. ควาย, ซ. โซ่ [C wie Cesar - เซ วี เซซ่าร์ ] D อ่านว่า เด เทียบกับตัวอักษรไทย - ด. เด็ก [D wie Dora - เด วี โดร่า] E อ่านว่า เอ เทียบกับตัวอักษรไทย - สระ เอ [E wie Emil - เอ วี เอมิล] F อ่านว่า เอฟ เทียบกับตัวอักษรไทย - ฟ. ฟัน [F wie Friedrich - เอฟ วี ฟรีดหริค] G อ่านว่า เก เทียบกับตัวอักษรไทย - ก. ไก่ [G wie Gustaf - เก วี กุสทัฟ] H อ่านว่า ฮา เทียบกับตัวอักษรไทย - ฮ. นกฮูก [H wie Heinrich - ฮา วี ไฮน์หริค] I อ่านว่า อี เทียบกับตัวอักษรไทย - สระ อิ [I wie Ida - อี วี อีด้า] J อ่านว่า ยด เทียบกับตัวอักษรไทย - ย. ยักษ์ [J wie Jerusalem - ยด วี เยรูซาเล็ม] K อ่านว่า คา เทียบกับตัวอักษรไทย - ค. ควาย [K wie Konrad - คา วี คอนหราด] L อ่านว่า แอล เทียบกับตัวอักษรไทย - ล. ลิง [L wie Ludwig - แอล วี ลู้ดหวิก] M อ่านว่า เอ็ม เทียบกับตัวอักษรไทย - ม. ม้า [M wie Marta - เอ็ม วี มาร์ทา] N อ่านว่า เอ็น เทียบกับตัวอักษรไทย - น. หนู [N wie Nordpol - เอ็น วี นอร์ดโพล] O อ่านว่า โอ เทียบกับตัวอักษรไทย - สระ โอ [O wie Otto - โอ วี โอ๊ทโท่ ] P อ่านว่า เพ เทียบกับตัวอักษรไทย - พ. พาน [P wie Paula - เพ วี เพาล่า] Q อ่านว่า คู เทียบกับตัวอักษรไทย - ค. ควาย [Q wie Quelle - คู วี เควลเล่ะ] R อ่านว่า แอร เทียบกับตัวอักษรไทย - ร. เรือ [R wie Richard - แอร วี ริชั่ด] S อ่านว่า เอส เทียบกับตัวอักษรไทย - ส. เสือ [S wie Siegfried - เอส วี สิ๊กฟรีด] T อ่านว่า เท เทียบกับตัวอักษรไทย - ท. ทหาร [T wie Teodor - เท วี เทโอดอร์ ] U อ่านว่า อู เทียบกับตัวอักษรไทย - สระ อุ, สระ อู [U wie Ulrich - อู วี อุลหริค] V อ่านว่า เฟา เทียบกับตัวอักษรไทย - ฟ ฟัน [V wie Victor - เฟา วี วิคท่อร์ ] W อ่านว่า เว เทียบกับตัวอักษรไทย - ว แหวน [W wie Wilhelm - เว วี วิลเฮล์ม] X อ่านว่า อิ๊กซ์ เทียบกับตัวอักษรไทย - ซ โซ่ [ X wie Xanthippe - อิ๊กซ์ วี ซันทิพเพ่ะ] Y อ่านว่า อิ๊พซีลอน เทียบกับตัวอักษรไทย - สระ อิ [Y wie Ypsilon - อิ๊พซีลอน วี อิ๊พซีลอน] Z อ่านว่า แซ่ต เทียบกับตัวอักษรไทย - ซ โซ่ [Z wie Zeppelin - แซ่ต วี เซ็พเพ-ลิน ] Ch เทียบกับตัวอักษรไทย - ค ควาย / ช ช้าง Sch เทียบกับตัวอักษรไทย - ช ช้าง Ng เทียบกับตัวอักษรไทย - ง งู Pf เทียบกับตัวอักษรไทย - ฟ ฟัน สระในภาษาเยอรมันมี 5 ตัว คือA อ่านว่า อา - สระ อา E อ่านว่า เอ - สระ เอ I อ่านว่า อี - สระ อิ O อ่านว่า โอ - สระ โอ U อ่านว่า อู - สระ อุ / สระ อูมีสระที่เรียกว่า Umlaut (อุม-เลาท์) อีก 3 ตัว คือÄ อ่านว่า แอ เทียบได้กับ - สระ แอ Ö อ่านว่า เออ เทียบได้กับ - สระ เออ Ü อ่านว่า อือ เทียบได้กับ - สระ อือนอกจากนี้การนำเอาสระสองตัวมาเขียนติดกัน ก็จะสะกดออกเสียงเป็นสระด้วย(แต่ไม่นับเป็นสระ) เช่นau เทียบได้กับเสียง - เอา เช่น Auto (เอาโท่) แปลว่า รถยนต์ ei เทียบได้กับเสียง - ไอ เช่น Weiss (ไว้ส์) แปลว่า สีขาว ie เทียบได้กับเสียง - อี เช่น Wiese (วีเซ่ะ) แปลว่า สนามหญ้า eu เทียบได้กับเสียง - ออย เช่น Neu (นอย) แปลว่า ใหม่ äu เทียบได้กับเสียง - ออย เช่น Käufer (ค้อยแฟ่ะ) แปลว่า ผู้ซื้อ เมื่อรู้แล้วว่าตัวอักษรตัวไหนของเยอรมันตรงกับตัวอักษรตัวไหนของไทย สระตัวไหนของเยอรมันตรงกับสระตัวไหนของไทย มันก็จะช่วยให้อ่านและเขียนภาษาเยอรมันได้ง่ายและถูกต้องขึ้น ไม่เชื่อก็ลองฝึกกันดูได้เลย.. ส่งท้ายกันด้วยเรื่องของตัวควบกล้ำ คนไทยส่วนใหญ่มักจะออกเสียงตัวควบกล้ำ ร เรือ เป็น ล ลิง แถมบางคนไม่ออกเสียงตัวควบกล้ำทั้ง ร เรือ และ ล ลิง เลยก็มี แบบนี้เอามาใช้กับภาษาเยอรมันไม่ได้เด็ดขาดนะจ๊ะ.. การออกเสียงตัวควบกล้ำเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับภาษาเยอรมัน ร เรือ จะต้องออกเสียงเป็น ร เรือ ให้ชัด ล ลิง ก็จะต้องออกเสียงเป็น ล ลิง ให้ชัด โดยเฉพาะตัว ล ลิง นั้นถึงแม้ว่าจะวางอยู่เป็นหลักที่สามของคำก็ต้องดัดลิ้นออกเสียงด้วย เช่น คำว่า Volk อ่านว่า.. โฟล์ค (แปลว่า ประชาชน, พลเมือง) คนไทยบางคนออกเสียงเป็น โฟ้ค เฉยๆก็มี หรือคำที่มีตัว ร เรือ เป็นตัวควบกล้ำ ถ้าไปออกเสียงเพี้ยนจาก ร เรือ เป็น ล ลิง หรือไม่ออกเสียงตัวควบกล้ำเลยละก็ จากคำๆหนึ่งจะกลายเป็นอีกคำหนึ่งไปทันที เช่น คำว่า Gras อ่านว่า.. กร้าส (แปลว่า หญ้า) ถ้าไปออกเสียงตัวกล้ำจาก ร เรือ เป็น ล ลิง ก็จะกลายเป็นคำว่า Glas อ่านว่า..กล้าส ที่แปลว่า แก้ว ไปเลย และถ้าไม่ออกเสียงตัวควบกล้ำเลยก็จะกลายเป็นคำว่า Gas อ่านว่า..ก๊าส ที่แปลว่า เชื้อเพลิง ไปเลย ...ขอให้สนุกกับการเรียนรู้ภาษาเยอรมันแบบไทยๆกันทุกคนจ้า...
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 21 พฤษภาคม 2561 0:09:28 น.
3 comments
Counter : 8684 Pageviews.
โดย: weissbier วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:1:29:28 น.
โดย: radiergummi วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:48:44 น.
โดย: asita วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:16:54 น.
Location :
Thailand Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [? ]
**..นิสัยส่วนตั๊ว..ส่วนตัว..** ตามใจตัวเองที่ซู๊ดดดด... รักแมวเป็นชีวิตจิตใจ อารมณ์ดีเหลือหลาย (แต่ถ้าร้ายขึ้นมาละก็ให้อยู่ห่างๆนะจ๊ะ) ความเครียดไม่เคยย่างกรายมาในชีวิต .. ติดจะบ้าๆ ... (อย่างหลังต้องทำใจกันหน่อยนะ อิอิ)**..คติ "ทำ" ประจำใจ..** Before you speak, listen Before you write, think Before you spend, earn Before you invest, investigate Before you quite, try Before you retire, save Before you die, give
1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29