|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ขี่แพข้ามน้ำ...ที่เขื่อนศรีนครินทร์
ยังไม่จบครับ......ภาพถ่ายจากการท่องเที่ยว ทั้งก่อนและตอนปีใหม่ยังเหลืออยู่อีกเยอะแน่ะ ลุงกะนำมาลงบล็อกให้คนเบื่อชมกันไปเลย หรือว่าเบื่อๆกันไปตั้งนานแล้วนะเนี่ย...บอกๆกันบ้างนะครับ อย่าได้เกรงใจไปเลย เพราะมากเกินบางทีก็เบื่อได้เหมือนกัน
บล็อกนี้ลุงขอนำภาพถ่ายตามรายทางระหว่างเดินทางกลับบ้าน หลังจากได้เที่ยวชมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นไปแล้ว เป็นภาพตามเส้นทางข้ามน้ำข้ามแพขนานยนต์ ณ อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จะมีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษหรือไม่อันนี้ต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ อาจไม่ถูกใจใครสักคนเลยก็เป็นไปได้ แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ทางด้านข้อมูลเส้นทางของคนที่ยังไม่เคยผ่านทางได้บ้างแหละนะ...
เมื่ออำลาอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ออกมา ก็ไม่ย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิมที่ฝุ่นกระจายอีกแล้ว ไม่ใช่กลัวฝุ่นหรอกครับ ลุงนั่งในรถที่มีแอร์เย็นฉ่ำฝุ่นไม่สามารถทำอะไรลุงได้ แต่ที่เปลี่ยนเส้นทางก็เพราะว่า อยากเปลี่ยนบรรยากาศระหว่างทางบ้างน่ะครับ จึงเลือกทางข้ามแพขนานยนต์ ซึ่งท่าแพอยู่ห่างอุทยานฯแค่ 8 กม.โดยประมาณ ระหว่างทางจะผ่านไปตามป่าไผ่เหลืองๆแลดูโปร่งโล่งตา แต่บางช่วงก็ยังเขียวขจีมีเรือนยอดโค้งเข้าหากัน ดูคล้ายซุ้มประตูสวยงามน่าเดินชม

วกซ้ายวนขวาอยู่ครู่ใหญ่ๆลุงก็ถึงท่าแพขนานยนต์ พอโผล่พรวดลงไปก็เห็นทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กๆเตร็ดเตร่ชมน้ำชมวิวอยู่หลายรายแน่ะ เดาว่าพวกเขาคงรอคอยเรือแพข้ามฝั่งแหละครับ

ลุงเองก็ต้องรอคอยแพอยู่ครึ่งค่อนชั่วโมงเช่นกัน ระหว่างรอแพข้ามฝากก็สั่งอาหารมากินเพิ่มพลังกันก่อน อิ่มหนำดีแล้วก็เดินถ่ายภาพแถวๆบริเวณนั้นตามประสาคนถือกล้องนิ่งๆไม่เป็น ห่านคู่นี้จึงปรากฏภาพในกล้องของลุงตามที่เห็นนี่แหละ

ห่านอย่างเดียวซะที่ไหน เป็ดคู่นี้ก็โดนด้วย หุหุ เที่ยวว่ายน้ำไปๆมาดีนัก จับใส่กล้องซะเลย อ้วนน่ากินซะด้วยสิ แต่อย่าเลยครับ ปล่อยประดับไว้กับแผ่นน้ำที่ท่าแพขนานยนต์นั่นดีแล้ว

ที่ไหนมีแม่น้ำมีอ่างน้ำกว้างใหญ่ ที่นั่นมักจะมีเรืออยู่เสมอ อิอิ จะจริงมั้ยเนี่ย...การสัญจรทางเรืออย่างเราๆท่านๆซึ่งนานที่จะใช้กันสักครั้งหนึ่ง ลุงคิดว่ามันให้อรรถรสของการเดินทางได้ไม่น้อยเลยนะครับ ได้รับลมเย็นๆ ละอองน้ำเย็นๆ ร่าเริงได้ไม่ยากนัก แต่หากเอาเรือขนาดนี้ข้ามอ่างเก็บน้ำที่กว้างไกลเช่นนี้ ยามผจญคลื่นสาดซัดละลอกแล้วละลอกเล่าไม่รู้จะเสียววาบ ๆ กันสักแค่ไหนเหมือนกันนะ

แดดแรงแสงจ้าเอาเรื่องเลย แสบตาเมื่อมองดู นี่ถ้าเราปรับกล้องให้ค่า F แคบๆเข้าไว้ ทั้งปรับความเร็วชัดเตอร์ให้สูงๆเพื่อได้ภาพแบบมืดๆสักหน่อย แล้วเก็บภาพแสงระยิบระยับในน้ำนั่น น่าจะได้ดาวพราวตามาชมได้บ้างอยู่หรอก ลุงจึงลองกดมาดูภาพสองภาพ หุหุ ก็พอจะมีดาวตามต้องการอยู่หลายดวงเหมือนกันนะเนี่ย แม้นว่าจะมองไม่ค่อยชัดเจนนักก็ตาม

อิอิ ห้อมาแล้ว ๆ สิ่งที่รอคอย เห็นอยู่ใกล้ๆแค่นี้แหละ แต่กว่าจะเทียบฝั่งได้ตั้ง 10 กว่านาทีแน่ะครับ

แพลำหนึ่งบรรจุรถได้ประมาณ 10 คัน ค่ารถข้ามแพ คันละ.......จำไม่ได้แฮะ เพราะคนจ่ายสตางค์ไม่ใช่ลุง แต่คงประมาณ เกือบๆ 200 บาทแหละครับ นอกจากที่จอดรถแล้วแพยังมีที่นั่งให้ด้วยนะครับ แหมดีจังเลย เพราะกว่าจะข้ามไปถึงอีกฝั่งใน 1 ชั่วโมงข้างหน้า เราก็มีที่นั่งให้รับลมชมวิวกันเพลินตาเพลินอารมณ์อยู่ไม่น้อยที่เดียว

บ้ายบ่ายเด้อคับ...ท่าแพฯและอุทยานฯ ไม่แน่นา สักวันเราอาจย้อนกลับไปเยือนเธออีกก็ได้ เพราะชักอยากจะลองเดินชมแนวป่าไผ่ที่ดูเหลืองอร่ามในยามหน้าหนาวอยู่เหมือนกันแหละนะ

ชมโน่นชมนี่กระทั่งใกล้ถึงฝั่งด้านตัวอำเภอศรีสวัสดิ์ แนวเกาะเล็กเกาะน้อยก็เห็นได้ชัดเจนนัยน์ตา ลุงเก็บภาพมาสองภาพเพื่อมาต่อเข้าด้วยกัน ทำเป็นพาโนรามาให้ชมกันครับ อิอิ อาจดูเล็กไปหน่อยแต่ภาพก็ดูกว้างนะคุณนะ

ชาวบ้านที่นี่ล้างรถกันสบายแฮะ ไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้อน้ำสักบาทเดียวก็ว่าได้ ก็แล้วแต่วาสนาของใครของมัน คนเมืองเรื่องน้ำต้องซื้อหา คนชนบทบ้านป่าน้ำท่าไม่ค่อยจะได้จ่ายเงินกันมากนัก คนเมืองอาจโชคดีในบางเรื่อง คนบ้านป่าดงดอยอาจด้อยโอกาสบางอย่าง ก็ว่ากันไปครับ

ขึ้นจากแพเรียบร้อย คนอื่นๆมุ่งไปลงข้ามแพแห่งที่สองกันต่อ แพที่สองใช้เวลาข้ามแค่ 15 นาทีเท่านั้นครับ รถส่วนใหญ่หรือแทบทุกคันก็ว่าได้ จะไปลงแพที่ว่านั่น เพราะว่าลัดทางและย่นเวลาได้ตั้งเยอะ ส่วนลุงเป็นนักนิยมชมทัศนียภาพริมทาง ติดนิสัยผจญภัยเล็กๆ เส้นทางที่นานๆครั้งรถจะผ่านมาสักคัน เพราะคนส่วนใหญ่นำรถไปข้ามแพกันเสียหมดอย่างที่ว่านั่นแหละ ลุงจึงโดดเดี่ยวไปตามเส้นทางลาดชันแถมคดโค้งเปลี่ยวเหงาแต่เพียงลำพังรถคันเดียว คน 4 คน เอิ๊กๆ บางช่วงจึงวังเวงวูบวาบเอาเหมือนกันแหละครับ

แต่สองข้างทางทิวทัศน์สวยน่าชมไม่น้อยเลยนะ ถ้ามีรถมีเพื่อนร่วมทางไปสักคันสองคัน จอดเที่ยวจอดชมได้หลายๆที่แหละครับ

วกวนไปตามริมขอบอ่างน้ำอยู่ร่วมชั่วโมงกว่าๆก็แวะเข้าชมเขื่อนศรีนครินทร์ที่คนไปเที่ยวกันหนาตา จอดรถลงชมลงถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันบนสันเขื่อนก็มีมาก หุหุ ลุงก็ทำตามพวกเขาด้วยเหมือนกัน

สมัยลุงเด็กๆยากนักที่จะได้เที่ยวป่าเที่ยวเขาไกลบ้านเช่นนี้ เพราะขาดปัจจัยหลักทั้งไม่สะดวกเรื่องพาหนะ ต่างกับเด็กยุคนี้ที่ไปไหนๆได้สะดวกสบาย จึงไม่แปลกเลยที่สถานที่ท่องเที่ยวตามป่าตามเขาตามเขื่อนทั้งเด็กเล็กเด็กใหญ่เดินกันขวักไขว่ไปทั่ว

อิอิ หยุดอิจฉาความมีโอกาสของเด็กแล้วหันไปถ่ายภาพต่อดีกว่า ขืนบ่นมากความลูกหลานอาจจะรำคาญเอาได้ง่ายๆ
ภาพที่เห็นนี่เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ ผลิตกระแสไฟฟ้าเต็มที่ได้ถึง 720 เมกะวัตต์ แน่ะครับ หากสนใจโรงไฟฟ้าแบบสูบกลับละก็ ลองค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทดูนะ ลุงไม่มีความรู้เรื่องนี้ครับ รู้แค่ว่าเป็นโรงไฟฟ้าแบบสูบกลับเท่านั้นเอง ไว้ว่างๆลุงกะจะหาความรู้เอามาเพิ่มรอยหยักให้สมองอีกสักรายการหนึ่งด้วย

นี่เป็นด้านข้างทางหน้าเขื่อนซึ่งเขาจะวางทุ่นแสดงเขตหวงห้ามเอาไว้ ห้ามคนหรืออื่นใดเข้าไปบริเวณนั้นเด็ดขาด เพราะจุดนี่เป็นจุดที่กระแสน้ำไหลลงสู้ระบบกระบวนการผลิตไฟฟ้านั่นเอง

บริเวณศาลาชมวิว

นี่ก็ด้วย

ภาพกว้างๆของทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำหน้าเขื่อนครับผม

ปิดท้ายกับภาพแบบพาโนรามาอีกแหละ เป็นภาพช่วงท้ายเขื่อนแห่งนี้ ที่นี่เท่าที่สังเกตดู ระบบของโรงไฟฟ้าแบบสูบน้ำกลับจะอยู่ด้านข้างครับ ซึ่งถ้าเรายืนบนสันเขื่อนให้ตรงกับตำแหน่งลำน้ำ แล้วมองลงไปก็เห็นระบบท่อน้ำอยู่ทางด้านขวามือ แต่สำหรับภาพนี้ลุงยืนบันทึกภาพจากขอบสันเขื่อนด้านซ้ายของลำน้ำ จึงมองเห็นแนวสันเขื่อนที่มุมภาพได้นิดหน่อย
ติชมกันได้นะ ...สวัสดีครับ...

Create Date : 20 มกราคม 2551 |
Last Update : 21 มกราคม 2551 21:56:36 น. |
|
28 comments
|
Counter : 8872 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ทากลูกหมู วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:22:21:06 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:22:38:19 น. |
|
|
|
โดย: เนระพูสี วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:22:44:55 น. |
|
|
|
โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:7:38:13 น. |
|
|
|
โดย: NongAngsila วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:7:57:32 น. |
|
|
|
โดย: นกน้ำ IP: 58.136.52.85 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:10:34:51 น. |
|
|
|
โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:14:09:05 น. |
|
|
|
โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:14:11:11 น. |
|
|
|
โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:20:15:51 น. |
|
|
|
โดย: เนระพูสี วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:20:57:28 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:21:30:52 น. |
|
|
|
โดย: เนระพูสี วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:6:54:22 น. |
|
|
|
โดย: นกแห้ว วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:13:14:02 น. |
|
|
|
โดย: เขาพนม วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:21:35:37 น. |
|
|
|
โดย: เนระพูสี วันที่: 23 มกราคม 2551 เวลา:23:02:34 น. |
|
|
|
โดย: เนระพูสี วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:6:44:14 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:17:02:28 น. |
|
|
|
โดย: อนันตลัย วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:19:42:14 น. |
|
|
|
โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:20:37:18 น. |
|
|
|
โดย: เนระพูสี วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:21:31:04 น. |
|
|
|
โดย: BeCoffee วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:23:16:31 น. |
|
|
|
โดย: ปางหวัน วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:21:57:11 น. |
|
|
|
โดย: เขาพนม IP: 125.25.193.161 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:23:22:28 น. |
|
|
|
โดย: ชิงดวง วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:23:36:58 น. |
|
|
|
โดย: thaigirl21 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:0:43:01 น. |
|
|
|
โดย: อนันตลัย วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:11:10:11 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:13:04:14 น. |
|
|
|
|
|
|
ภาพถ่ายเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของภาพ
ห้ามนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ชมภาพเพิ่มเติมขอเชิญที่
www.Kaopanom.com







********************

cursor
|
|
|
|
|
|
|
ภาพแสงจับประกายน้ำน่ารักจังลุงเขา