บุญกุศล ความดี ความชั่วเมื่อเห็นผู้อื่นเขาทำความดีตนก็ควรกล้าทำความดีเช่นเขาเมื่อพบความบกพร่องของคนอื่นควรถือเป็นเครื่องสอนตนเองมิให้กระทำเช่นนั้นความสุภาพอ่อนโยนเป็นรากฐานของความดีจงให้เพื่อนของเจ้าพบความดีในตัวของเจ้าเองโดยไม่ต้องเอาความดีออกอวดเขาความดีนั้นเป็นผลแห่งการปฏิบัติของตนเองมิใช่ตกลงมาจากฟ้า เช่น ฝน หรือหิมะแม้เด็กสามขวบจะรู้จักความดีความชั่วแต่หากจะทำความดีกันจริงๆ แล้วแม้คนแก่วัยแปดสิบก็ยังทำได้ยากแม้เราจะช่วยเหลือผู้อื่นแต่จงอย่าคาดหวังว่าจะได้รับการขอบคุณกลับในวันหลังการทำความดีในจุดที่คนอื่นมองไม่เห็นนี่แหละถึงจะเป็นคุณค่าที่แท้จริงของคนคนหนึ่งการทำดี "มันดีอยู่ในตัวแล้วขณะที่ทำ"ส่วนการทำชั่วนั้น "มันก็ชั่วอยู่ในตัวแล้วขณะที่ทำ"จงไปเที่ยวบอกบุญกับคนขี้เหนียว ที่ไม่เคยทำบุญจงบำเพ็ญทาน แต่ไม่ยึดติดในลักษณะของทานจงทำบุญกุศล แต่ไม่ผูกพันและหวังผลตอบแทนกุศลนั้นเป็นสิ่งที่ต้องแสวงหาภายในจิตเดิมแท้และเป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากโปรยทานการถวายภัตตาหาร ฯลฯ และอื่นๆเราต้องรู้จักแยกให้เห็นความแตกต่างระหว่างความปีติอิ่มใจกับตัวกุศลแท้ความรู้อันสงบนิ่งเปี่ยมด้วยปัญญาอันว่างไพศาลนี่คือบุญกุศลอันแท้จริงที่อยู่เหนือโลกยากที่บุคคลสามัญจะค้นพบสำหรับการกระทำชนิดที่เป็นบุญกุศลแท้จริงแล้วจะต้องเต็มเปี่ยมอยู่ด้วยปัญญาบริสุทธิ์จะต้องสมบูรณ์และเป็นโลกุตตระการสร้างความดีและความชั่วทั้งสองอย่างนี้เนื่องมาจากความยึดมั่นถือมั่นต่อรูปธรรมผู้ที่ยึดมั่นในรูปธรรม ซึ่งทำความชั่วจะต้องทนรับการเกิดแล้วเกิดอีกด้วยประการต่างๆ อย่างไม่จำเป็นส่วนผู้ที่ยึดมั่นในรูปธรรม ซึ่งทำความดีก็ทำตัวเองให้ตกลงไปเป็นทาสของความพยายามมันจะเกิดความรู้สึกว่าตนเป็นผู้ขาดแคลนอยู่เสมอเท่าเทียมกันอย่างไม่มีที่มุ่งหมาย"จงทำความดีบ้างโดยไม่ต้องให้ผู้อื่นรู้แต่ถ้าทำความชั่วไว้ก็จงอย่าปิดบัง"(ที่มา : หนังสืออภิมหามงคลธรรม หน้า ๒๑๘)