|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อถึงเวลาที่ฉันต้องขับรถในเมืองแขกกาตาร์
ตั้งแต่มาอยู่นี่ก็ไม่เคยคิดว่าอยากจะขับรถที่นี่เลย เพราะไม่ชอบนิสัยคนขับรถที่นี่ แต่เมื่อคุณเฮียแกเกิดต้องเปลี่ยนงาน ทำให้ไม่สามารถไปส่งเราทำงาน กับส่งน้องจิณณ์ไปเนอร์สเซอรี่ในตอนเช้าได้ ครั้นจะจ้างรถให้มารับส่งเรากับน้องจิณณ์ทั้งเช้าทั้งบ่ายก็แพงเอาการ เพราะทุกวันนี้แค่ขาบ่ายเที่ยวเดียว ก็ตกเดือนละเจ็ดร้อยเรียล (เจ็ดพันบาทโดยประมาณ) เข้าไปแล้ว ถ้าสองเที่ยวก็ง่ายๆคูณสอง เงินจำนวนนี้สามารถไปผ่อนซื้อรถเก๋งได้สบาย ไหนๆก็ต้องอยู่กาตาร์ต่อไปอีก (ไม่รู้กี่ปี) ก็เลยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่เราต้องขับรถเองซะแล้ว
จะขับรถได้ก็ต้องมีใบขับขี่ เนื่องด้วยประเทศสารขัณฑ์อย่างไทยแลนด์ ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ ก็ต้องไปสอบ แต่ครั้นจะเดินดุ่ยๆไปสอบโอกาสผ่านก็ยากส์มากๆๆ (จากที่ได้ฟังมาหลายคนแล้ว) เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าทำไมมันถึงยาก ก็ต้องไปเรียนขับรถ จะได้ผ่านง่ายหน่อย
ก่อนอื่นก็ไปวัดสายตามาก่อน จะทำที่ traffic dept หรือจะทำที่ร้านแว่นที่เค้าสามารถออกใบ eye test for driving license เราเลือกอย่างหลัง ไปที่ลูลู่ สะดวกดีไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จแล้ว แต่ต้องเตรียมรูปถ่ายไปด้วย
สำหรับคนที่มีใบขับขี่ไทยอยู่แล้ว สามารถไปขอคุณตำรวจว่า ฉันขอเรียนหลักสูตรเร่งรัด 12 ชั่วโมง (ปกติ 40ชั่วโมง) ซึ่งแน่นอนค่าเรียนก็ต่างกัน อย่าง 12 ชั่วโมงนี่ตก QR 1,200 QR 1,350 ขึ้นอยู่กับชนิดรถว่าเกียร์ธรรมดา ออโต้ เทรนเนอร์หญิงก็จะแพงกว่าอีกนิด
ดังนั้นก่อนจะไปสมัคร 12 ชั่วโมงได้ต้องได้รับอนุญาตจาก traffic department ของที่นี่ซะก่อน กว่าเราจะได้มาทำเอาเซ็งไปเรย คือเคยโทรไปถามที่โรงเรียนสอนขับรถ เค้าก็บอกว่าให้แปลใบขับขี่ไทยเป็นภาษาอังกฤษแล้วเอาไปรับรองที่สถานทูต แต่คราวที่กลับไปไทยล่าสุดได้ถือโอกาสไปเปลี่ยนใบขับขี่เป็นแบบใหม่ที่มีภาษาอังกฤษกำกับด้วย ไอ้เราก็คิดว่ามันน่าจะใช้ได้แล้วไม่ต้องไปแปลอะไรอีก
พอถึงวันที่จะไปสมัครเรียน เราดันไปช่วงกลางคืน (คือช่วงถือศีลอด ที่นี่เวลาทำงานของบริษัทหรือร้านค้า ที่ทำงานสองกะ เค้าจะปิดช่วงบ่ายแล้วมาเปิดตอนค่ำทุ่มสองทุ่ม) ไปถึงเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนก็เอาใบขับขี่เราไปดูแล้วบอกว่าต้องไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ (แม่ม...มันยังตอบเหมือนเดิมเรย ไม่เบิ่งตาดูเรยว่ามันมีภาษาอังกฤษอยู่แล้ว) พอเราบอกเค้าว่าก็นี่ไงมีภาษาอังกฤษกำกับไว้หมดแล้ว ทำไมยังต้องแปลอีก เค้าก็เลยบอกว่าก็ลองไปให้ตำรวจที่ traffic dept ดูแล้วกัน แต่ต้องมาพรุ่งนี้เช้านะ เจ็ดโมง ......โชคยังดีอยู่บ้าง พอดีเจอนักการ ชาวตากาล๊อก ก็ถามเค้าว่า traffic dept office อยู่ไหน เค้าก็ชี้ให้ดูแล้วบอกว่าออฟฟิศเค้าเปิดประมาณแปดโมงครึ่ง ไม่ต้องรีบมาแต่เช้าหรอก ...... (ที่นี่ทุกโรงเรียนสอนขับรถจะมี traffic dept office อยู่ในบริเวณโรงเรียนเลย เป็นของคู่กัน)
วันรุ่งขึ้นเราไปถึงแปดโมงเช้า คนยืนรอกันเต็มเลยแปลว่า คุณตำรวยังไม่มา ประมาณแปดโมงกว่าๆ คุณตำรวจกาตารี่ ก็ขี่แลนด์ครุยเซอร์เข้ามา (อันที่จริงต้องเริ่มงานเจ็ดโมงอะนะ) มาสายแล้วยังอู้อีก ...... พอพี่แกเข้าไปออฟฟิศเสร็จก็จัดแจงล๊อกประตูซะไม่ยอมให้ใครเข้าซะงั้น....กว่าจะได้ฤกษ์เปิดประตูออฟฟิศปาไปเกือบเก้าโมงนู่น ....เจริญเจรงๆ
พอเราเข้าไปยื่นเอกสารว่าจะมาขอ approval สำหรับหลักสูตรขับรถระยะสั้น คุณตำรวจก็เอาเอกสารไปดูแล้วบอกว่าต้องแปลใบขับขี่เป็นภาษาอาหรับ........แม่มมมมม....ไม่เห็นมีใครเคยเอ่ยถึงเลยว่าต้องแปลเป็นภาษาอาราบิคด้วย เสียเวลาจริงๆ รอเกือบสองชั่วโมง
คืนนั้นเลยต้องเอาใบขับขี่ไปแปลเป็นภาษาอาราบิค (แล้วที่นี่ก็แปลกนะ ร้านแปลนี่เป็นของหายาก ถามใครก็มีแต่คนพูดถึงร้าน asia translation ที่อยู่ตรง sofitel) แปลแป๊บเดียวเพราะเค้ามี format อยู่แล้ว พอวันรุ่งขึ้นก็ต้องเอาไปประทับตรารับรองที่สถานทูตไทย
พอคุณตำรวจเห็นคำแปลใบขับขี่เป็นภาษาอาราบิคเป็นที่พอใจแล้ว he ก็ประทับตราให้เรียบร้อยโรงเรียนแขก จ่ายตังค์ค่าเรียนปุ๊บ คืนวันรุ่งขึ้นก็เริ่มเทรนได้ ช่วงถือศีลอดเค้าไม่มีเทรนตอนบ่าย เริ่มหนึ่งทุ่ม แต่เนื่องจากเราอยากเริ่มเรียนเร็วๆก็เลยเอาเวลาไหนก็ได้ที่ได้เริ่มเรียนทันที ....เลยเป็นสามทุ่มถึงสี่ทุ่มของทุกวันยกเว้นวันศุกร์ รร.หยุด
พอวันแรกที่เทรนก็ถึงบางอ้อเลยว่าทำไมถ้าไม่มาเรียนถึงสอบผ่านยากนัก ก็คนที่ขับรถมานานๆก็ขับตามใจฉัน จนลืมไปแล้วว่าวิธีจับพวงมาลัย วิธีสาวพวงมาลัยที่ถูกต้องมันเป็นไง เทรนเนอร์เค้าจะบอกให้ว่าเวลาสอบ road test ตำรวจเค้าจะดูอะไรบ้าง ตั้งแต่ขึ้นรถมานั่งหลังพวงมาลัย วิธีจับวิธีสาวพวงมาลัย ก็มีคะแนน หรือเวลาจะเลี้ยวต้องแบบช้าๆ เลี้ยวเร็วโดนหักคะแนน เวลาจะเลี้ยวต้องมองกระจกไหนกี่ครั้ง ฯลฯ tips เยอะแยะเราก็ต้องจำไว้ มาเห็นในใบตอนวันสอบ ตำรวจแกจะ ติ๊กถูกประมาณสิบสองข้อ แต่อ่านไม่ออกเพราะเป็นภาษาอาราบิค เลยไม่รู้รายละเอียดว่าเค้าดูอะไรบ้าง
นอกจากนั้นก็มีเทรนเรื่อง parking ที่เราไปเรียนเค้ามีสองแบบ (แล้วก็สอบสองแบบนี้เท่านั้น) แบบแรกเค้าเรียกว่า L parking คือเลี้ยวขวาขึ้นทางชัน แล้วถอยกลับลงมา แค่ไม่ให้ชนเสาก็เป็นพอ กับอีกแบบเค้าเรียก pocket parking คือจดรถเข้าซอง ที่นี่เค้าใช้หน้ารถเข้า parking นี่ไม่ยาก เพราะมันมีเสา มีเส้นให้สังเกตจุดอยู่แล้ว ว่าเลี้ยวตรงไหนจะไม่ชนเสา นอกจากนั้นก็ต้องจำพวกเครื่องหมายจราจรว่าแต่ละอันเรียกว่าอะไร ไม่ต้องไปยืนอธิบาย แค่จำ short description ก็พอ
หลังจากเทรนมาสิบสองชั่วโมง (ภายในสิบวัน) ก็ถึงวันสอบ ........แม่เจ้า....แม่ม....นัดสอบตอนตีสี่.............แบบเมาขี้ตามาสอบเรยแหละ ที่นี่เค้าสอบที่โรงเรียนสอนขับรถ ไม่ใช่อย่าบ้านเราที่ไปสอบที่กรมการขนส่ง
อีกแล้ว... นัดตีสี่ แต่ตำรวจมาเกือบตีห้า.........พอตำรวจมาถึงเข้าประจำที่ ก็เรียกคนที่สอบเดินเข้าไปทีละคน แล้วตำรวจก็จิ้มบนแผ่นป้ายว่าอันนี้เรียกว่าอะไร ตำรวจคนแรกท่าทางใจดี ถามสามสี่อันก็เสร็จ แต่ของเราดันไปสอบกับตำรวจที่มีเคราแบบพวกเคร่งศาสนา เราโดนถามไปเป็นสิบกว่าสัญลักษณ์ ...แบบว่าอีกนิดก็หมดแผ่นกระดานแล้วอะ
พอสอบทฤษฏีเสร็จก็นั่งรอ เค้าจะเรียกชื่อคนที่ผ่านทฤษฏี ให้ไปรอสอบ parking ใครโดนเรียกท้ายๆก็หนุกหนานเล็กน้อย ตรงที่ต้องไปคอยแย่งรถกัน เพราะจำนวนรถที่เค้ามาจอดรอไว้สำหรับสอบ parking มีน้อยกว่าจำนวนผู้เข้าสอบ พวกที่ยืนรอรถก็ต้องคอยแย่งรถจากคนที่สอบเสร็จแล้วกันเอาเองเพราะไม่มีคนจัดคิว แต่ก็ไม่ถึงขนาดตบตี แต่มันดูแบบว่ามั่วดีแท้ จุดที่สอบ parking ทั้งสองแบบก็มีตำรวจยืนดูอยู่ ถ้าใครชนเสาล้ม ก็โดนตำรวจไล่ให้ลงจากรถ....แบบว่ากลับบ้านไปได้เลย
พอสอบ parking เสร็จก็รออีกแล้ว เค้าจะเรียกชื่อทีละคนให้ขึ้นรถบัส วันนี้มีสามบัส แต่ละบัสก็มีรถเก๋งสำหรับสอบไปเป็นคู่กัน เค้าก็จะเลือกผู้โชคดีที่จะได้ขับเป็นคนแรกออกจากโรงเรียน (ขอบอกว่าคนแรกกับคนสุดท้ายที่ต้องขับกลับโรงเรียนนี่เสี่ยงสุด เพราะต้องอยู่ในรถกับตำรวจนาน ถ้าทำพลาดไปก็ตกเรย) road test ที่นี่เค้าไปสอบในถนนเล็กตามหมู่บ้าน แล้วก็สอบแค่คนละสองนาทีโดยประมาณ จะว่าง่ายก็ง่ายนะ ถ้าทำตามที่เทรนเนอร์เค้าไกด์มาให้ เราเจอคุณตำรวจที่มีเคราอีกแล้ว พอสอบเสร็จซึ่งก็ไม่รู้ผลหรอก ต้องกลับมารอฟังผลที่โรงเรียน กว่าจะรู้ผลก็ปาไปเกือบเก้าโมง เวลารอนี่มันทรมานจริงๆ ทั้งง่วงทั้งหิวข้าว หิวน้ำ แต่ก็กินไม่ได้เพราะเป็นช่วงถือศีลอด
ใครที่ผ่านเค้าก็จะเรียกให้ไปจ่ายตังค์ QR 250 สำหรับใบขับขี่ที่มีอายุ 5 ปี ซึ่งรอรับใบขับขี่ได้เลย
และแล้วภาระกิจในสองอาทิตย์ที่ผ่านมาช่วงกลางคืน (นอกเหนือจากติดเกมส์ในเฟสบุ๊ค....ฮ่าๆๆ) ก็ได้สำเร็จลง แบบว่าช่วงที่ผ่านมา เฮียต้องเป็นพ่อลูกอ่อน ดูเจ้าจิณณ์แทนช่วงที่เราไป รร.สอนขับรถ ก็เอาไปรอที่ โรงเรียนนั่นแหละ เพราะแค่วันละชั่วโมงเอง แต่ก็ทรมานเค้าเหมือนกัน แบบว่าง่วงแต่ไม่ยอมนอนเพราะตื่นตาเห็นคนเยอะๆ
ตอนนี้ได้ใบขับขี่มานอนกอดแล้ว แต่คงจะเริ่มขับเองจริง ช่วงปลายเดือนหลังจาก Eid Holiday เลยคิดว่าเอามาเล่าให้ฟังดีกว่าเผื่อว่ามีใครที่กำลังจะไปสอบใบขับขี่จะได้เตรียมตัวถูก
Create Date : 16 กันยายน 2552 |
|
14 comments |
Last Update : 16 กันยายน 2552 9:42:38 น. |
Counter : 6340 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: granny IP: 61.91.84.14 16 กันยายน 2552 12:52:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ANGEL_CS 16 กันยายน 2552 15:54:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนลิลลี่ 16 กันยายน 2552 21:29:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: may^o^ 17 กันยายน 2552 0:02:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: sprite IP: 125.25.8.103 21 ตุลาคม 2552 20:05:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: tawangel 18 พฤศจิกายน 2552 22:44:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: parawee IP: 83.109.149.14 13 กุมภาพันธ์ 2554 19:16:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|