~* เกยาริณี *~
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
14 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
ตอนที่ 16 "เป็น Gay Guide นำสามชายไทยแท้ ทัวร์แบร์ลิน" องก์ 1

หลาย ๆ ท่านถามเกย่าว่า หลังโบกมือบ๊าย บาย ลานายมูรัต ที่สนามบิน เทเก้ลแล้ว ช่วงเวลาหลังจากนั้น
เกย่ามีกิ๊กใหม่บ้างไหม ถ้ามี เป็น ชาติไหน พันธุ์ไหน อาชาเยอรมัน หรือ ลา ล่อ ขนาดเล็กกว่า จากประเทศอื่น ๆ แหม มันก็มีผ่านเข้ามาบ้างประปรายล่ะนะ แต่ประเภทที่ถูกใจตากรรมการจริง ๆ น่ะ ไม่ค่อยจะมีฮ่ะ

เกย่าใช้เวลายามว่างแบกเป้ท่องเที่ยวรอบยุโรปเสียมากกว่า เพราะอะไรน่ะเหรอฮะ ก็ เพราะว่าแบร์ลินเป็นศูนย์กลาง แหล่งมั่วสุม เอ๊ย ชุมนุมของสายการบินราคาประหยัดน่ะสิ

ถ้าหากจัดตารางเดินทางดี ๆ จองตั๋วล่วงหน้า (ที่คืนไม่ได้) สักหนึ่งเดือน ราคาไปกลับ ภายในขอบเขตทวีปยุโรปจุดหมายที่ไหนก็ได้ (ที่นกเหล็กบินไปถึง) อาจจะไม่ถึง 20 ยูโร ก็ได้นะฮะ และโดยมาก ราคาตั๋วราว 50 ยูโร ก็ถือว่าแพงไป สำหรับเกย่าผู้ซึ่งมีร่มไม้ชายคาอยู่ในแบร์ลิน แต่บินไปเก็บ….มาแล้วกว่าค่อนยุโรป

สายการบินราคาประหยัดมีอยู่เยอะแยะ ว่ากันไปตั้งแต่ แอร์แบร์ลิน อีซี่เจ็ท ฮาแพ็คลอยด์ เจอมั่นวิง
คอนดอร์ ดีบ้าแอร์ เจอมาเนียร์เอ็กซเพรส และอีกมากมาย หลากหลายสัญชาติฮ่ะ (นับเฉพาะที่บินออก-บินเข้าแบร์ลินนะฮะ ถ้ารวมเมืองใหญ่อื่น ๆ ด้วย ก็จะมีหลายสายการบินกว่านี้)

นอกจากจะใช้วิธีบินไปกับนางฟ้า และเทวดาบนเครื่องบินแล้ว เหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ในแบร์ลิน ก็ยังสามารถเดินทางไปเที่ยวแบบประหยัดค่าพาหนะ โดยใช้วิธี Mitfahrt (ติดรถไปกับคนขับ โดยจ่ายค่าตอบแทนเล็กน้อย) ซึ่งถูกกฏหมาย หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ Trampen (โบกรถ ซึ่งผิดกฏหมาย) โดยมาก เกย่าจะใช้บริการของ Mitfahrt มากกว่า เพราะมีเวบไซต์ให้บริการเพียบพร้อม คลิกเข้าไปดู จุดหมายปลายทางที่ต้องการไป ตรวจดูวันเวลา ว่า ณ วันดังกล่าว มีผู้เดินทางคนไหนจะขับรถไป หรือผ่านเส้นทางนั้นบ้าง

เค้าจะประกาศหาผู้ร่วมทาง (Mitfahrer) โดยบอกหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ หรืออีเมล์ ให้เรียบร้อย ถ้าหากไม่เจออย่างที่ต้องการ เราก็ฝากข้อความประกาศหาคนขับ (Fahrer) ได้เลยนะฮะ คนขับจะติดต่อเรากลับมาเอง (ถ้าดวงสมพงศ์กันนะ) การเดินทางโดยอาศัยติดรถไปด้วยอย่างถูกกฏหมายนี้ มีความปลอดภัยค่อนข้างเชื่อถือได้ เพราะคนขับ และผู้ร่วมทางจะต้องลงทะเบียนกับทางเวบไซต์สื่อกลาง โดยบอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองอย่างละเอียด

การเดินทางด้วยวิธีนี้ เราจะชำระค่าโดยสาร เป็นการช่วยเหลือค่าน้ำมันแก่คนขับ เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น อย่างเช่น ราคามาตรฐาน จากแบร์ลิน ไปเวียนนา ก็จะตกราว 40 ยูโร เป็นต้นแต่จากประสบการณ์ของเกย่า คนขับหลาย ๆ คน ก็คิดราคาต่ำกว่านี้มาก หรืออาจจะไม่เก็บเลย โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถคนเดียว และต้องการจะหาเพื่อนคุยไประหว่างทาง แก้เหงาแก้ง่วงเท่านั้น

สาธยาย ยั่วน้ำลายมาให้ยาวยืด เปล่าฮ่ะ เกย่าไม่ได้มีแผนจะหลอกล่อหนุ่มหน้าจืดที่ไหน มาเป็นเพื่อนร่วมทางหรอกฮ่ะ อืม แต่จะว่าไป หนุ่มสไตล์เมโทรเซ็กช่วลนี่ก็น่าสนใจนะ เผื่อเวลาไปยืนโบกรถ คนขับจะได้เข้าใจผิด คิดว่าเป็นสาวห้าวทะมัดทะแมง มายืนตะแบงล่อตะเข้ คริ คริ

วันนี้วันดีเป็นศรีวัน จะอัญเชิญเหล่าชาวไทยทั้งผอง
โดยเฉพาะหนุ่มหล่อที่น่ามอง เที่ยวบ้านน้องเกย่าโฉมสะคราญ (แอร๊ยยย)

จากตอนที่ 15 ที่ย้อนสภาพกลับไปเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง ช่างแสนอึดอัดใจยิ่งนัก ใครจะมารักมาชอบมาจีบ น้องเกย่า ก็กรุณารับน้องหนู อย่างที่คุณพ่อลูกชายคุณปู่ สร้างมา (ผิดแบบ) หน่อยนะฮะ จะให้เกย่ามาเก๊กแมนอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้หาคู่ขา เอ๊ย คู่ตุนาหงัน ได้ง่ายขึ้น หรือให้ไปเล่นเวทเสริมกล้ามให้บึกบึน เพื่อการนี้ เห็นที น้องเกย่าจะลงแดงตาย ก่อนที่ร่างกายสมชาย ไม่เข็มกลัด (แต่เข็มใหญ่กว่านั้น) จะทันปรากฏให้เห็นนะฮะ

เนื่องจากชอบท่องเที่ยว เป็นบัก hum น้อยตุรัดตุเหร่ ไปทุกตรอกซอกซอย และอารมณ์ช่างฝอยหอยจ้อที่มีติดตัวอยู่เป็นนิจ ทำให้น้องเกย่าเจรจาธุรกิจ เอ๊ย มีมิ่งมิตรชายต่างชาติอยู่มากมาย แทบจะทุกหัวมุมเมืองเขตนคราสารขัณฑ์ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปเจอหน้ากัน เพื่อชวนไปบรรเลงเพลงฟันดาบแต่อย่างใดนะฮะ กิจกรรมยามว่าง อย่างหนึ่งของน้องเกย่า ที่ทำเป็นประจำ ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยว ก็คือการเข้าห้องแชทเป็นสรณะ

จะไปสวีเดน ก็ไปแชทห้องสวีเดน ส่วนห้องสเปน ก็เก็บเอาไว้ก่อน การที่เราไปแชทกะคนท้องถิ่นพื้นเพของประเทศ และเมืองนั้น ๆ ที่เราจะบุกบั่นไปฝากรอยเท้าเอาไว้ บางทีก็ให้อะไร ดี ๆ เด็ด ๆ กว่าคู่มือโลนลี่แพลนเน็ทซะอีก

โครงการอันซีนไทยแลนด์กำลังดัง ฝั่งทางยุโรปนี้ ก็มีสถานที่อันซีนมากมาย ที่ไม่ได้อยู่ในหนังสือคู่มือนักเดินทางฉบับไหน ๆ เราจะหาข้อมูลได้ก็จาก หนุ่ม ๆ ท้องถิ่นนี่ละฮะ (เกย่าชอบปลอมตัวเป็นสาวไปแชท อุ๊ย มีหนุ่ม ๆ มามะรุมมะตุ้ม ให้ข้อมูลเพียบเลยฮ่ะ ตบท้ายด้วยการยื่นข้อเสนอชวนไปดินเน่อร์ใต้แสงเทียนอีกตะหาก แต่ถึงจะมีราชรถมาลาก เกย่าก็มิไปหรอกฮ่ะ ก็เกย่าไม่ใช่อย่างที่หนุ่ม ๆ คิดไว้นี่นา)

ยกตัวอย่างใกล้ตัว เกย่านี่จะว่าไปก็ถือเป็นเจ้าบ้าน ของมหานครแบร์ลินได้นะฮะ เพราะอยู่มาหลายปีแล้ว แต่เวลามีคณะทัวร์จากเมืองไทยแวะมาที่นี่ ส่วนใหญ่ก็เห็นไปออถ่ายรูปกันอยู่หน้าประตูบรานเดนบวร์ก หรือไม่ก็อาคารรัฐสภา บางกรุ๊ปทัวร์ก็พาไปจุดเช็คพ้อยท์ชาลี ซึ่งในอดีต เป็นจุดผ่านแดนระหว่าง แบร์ลินตะวันตกเขตภายใต้การดูแลของสหรัฐอเมริกา กับเขตตะวันออกของสหภาพโซเวียต (แบร์ลินตะวันตกนั้น แบ่งการดูแลโดยสามชาติพันธมิตรประชาธิปไตย คือ ด้านเหนือ ฝรั่งเศส ถัดลงมา อังกฤษ และด้านใต้คือสหรัฐอเมริกา)

แต่กลับมีนักท่องเที่ยวเพียงไม่มาก ที่คิดจะไปชมมหาพิพิธภัณฑ์ของแบร์ลิน (ข้อมูลล่าสุด แบร์ลินมีพิพิธภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 130 แห่ง) และพิพิธภัณฑ์ที่จัดว่าเป็นเพชรน้ำเอกของเยอรมัน ซึ่งมีชื่อเสียงรองลงมา จากพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ ของฝรั่งเศส และพิพิธภัณฑ์บริติชมิวเซียมของอังกฤษเท่านั้น ก็ตั้งอยู่ในแบร์ลิน และระยะทางเดินเท้า ก็ไม่ถึง 10 นาที จากประตูบรานเดนบวร์ก

เกาะกลางลำน้ำสะ-ปรี (Spree) ทั้งเกาะ ที่เรียกกันว่า เกาะพิพิธภัณฑ์ (Museumsinsel) ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่อาคารสุดยอดแห่งพิพิธภัณฑ์ ของเยอรมัน อันจะกลายเป็นอาณาจักรพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโครงการบูรณะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2011 นั้น เกย่าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยละเลยไปได้อย่างไร หลายคนที่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ อเล็กซานเดอร์ ซึ่งนำแสดงโดย โคลิน ฟาร์เรล และ แองเจลิน่า โจลี่
(เกย่าปิ๊ง นาย Jared Leto ที่แสดงเป็นขุนพล Hephaistion คนสนิท และคู่ขาของโคลินมากที่ซู้ดดด)

ผู้ชมหลายท่านตะลึงกับความงดงามของมหานครสีฟ้าเทอร์คอยแห่งอาณาจักรบาบิโลเนีย ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ ในฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ประตูอิชทาร์ของแท้แสนงดงาม อายุ 2600 ปี ที่ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เดินทางมาดูแบบศึกษาข้อมูลนั้น อยู่ที่พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน ระยะเพียงไม่กี่ร้อยเก้าเดินถึงจากประตูบรานเดนบวร์กที่ท่าน ๆ แห่แหนไปกดชัตเตอร์ถ่ายรูปกัน

เกย่ายอมรับว่าหงุดหงิดใจเป็นบางครั้ง เมื่อเห็นฝรั่งมังค่า อุตส่าห์บินมาจากทวีปอันไกลโพ้น เพียงเพื่อจะมาเยือนยลพิพิธภัณฑ์อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ในขณะที่กรุ๊ปทัวร์คนไทย หรือจีน กลับไปให้ความสนใจละลายทรัพย์ในกระเป๋ากับย่านช้อปปิ้งแถวถนนคูดัม (Kudamm) เสียมากกว่า จริงอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า KaDeWe
(Kaufhaus des Westens) ของแบร์ลิน เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด ในยุโรปภาคพื้นทวีป เฉพาะพื้นที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นแหล่งอาหารการกินนั้น ก็มีขนมปังให้เลือกกว่า 300 ชนิด เนยแข็งอีกกว่า 1300 ชนิด

แต่การไปจับจ่ายในสถานที่หรูหราอย่างนั้น คุ้มค่าหรือเปล่า เมื่อเราคิดว่า สินค้าซึ่งวางจำหน่ายอยู่ที่นั่น ก็สามารถหาซื้อได้จากแหล่งอื่น ในราคาย่อมเยากว่า ไม่รู้สินะ บางทีอาจเพราะเกย่า ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยก็ได้ เลยไม่เข้าใจว่า ทำไมคนถึงไปช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่แพงกว่าในห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่แถวสยาม ทั้ง ๆ ที่คุณภาพสินค้าก็ไม่ได้เลิศเลอมากมายไปกว่าร้านดอยคำ

ตายแระ บ่นกระปอดกระแปด เป็นรถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทไม่ติด เพราะหัวเทียนบอดเลยนะยะ สรุปว่าวันนี้จะมาเล่าเรื่องอะไรกันแน่ละเนี่ย มีหนุ่มคนหนึ่งเคยบอกเกย่าว่า เกย่าเป็นพวกสุดโต่ง คือ ไม่นิยมพวกสีเทา จะดำจะขาว ก็เอามันสักอย่าง แต่เกย่าว่าไม่ใช่นะ เกย่าเป็นประเภทนาฬิกาลูกตุ้มต่างหากล่ะ บางทีก็ขวา บางเพลาก็ซ้าย แต่ตรงกลางนี่ ไม่ค่อยถนัดถนี่นะฮะ

บรรยายถึงกลุ่มทัวร์ฟุ้งเฟ้อที่ได้พบได้เห็นมากับตาในหลาย ๆ เมืองของยุโรป แล้ว หลาย ๆ ท่านคงจะคิดเห็นเหมือนกัน แต่ประสบการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ คิดว่าหาดูได้ค่อนข้างยาก เลยเอามาฝากเป็นพิเศษ
ใครเคยประสบพบพานเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน ก็มาแบ่งปันกันได้นะฮะ

La lee lu nur der Mann im Mond schaut zu,,,,,,, เสียงเพลงกล่อมเด็ก ซึ่งเกย่าเลือกมาเป็น
สัญญาณเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ ดังขึ้นเขย่าประสาท บังคับให้เปลือกตาเปิดออก ในยามสาย ราว 10 โมงของวันอาทิตย์ ต้นเดือนธันวาคม ใครกันอีกฟะ…. นึกเจ็บใจตัวเองที่อุตส่าห์ชักสายโทรศัพท์บ้านออก เพื่อจะได้นอนหลับสบาย ๆ และตื่นตอนบ่ายได้ในวันอาทิตย์ แต่ดันลืมปิดโทรศัพท์มือถือซะได้ ในใจคิดว่าเป็นรามิน่า ซึ่งถ้าเป็นจริงขึ้นมา เกย่าก็แค่ส่งเสียงด่าไปสักสองสามคำ แล้วนอนต่อได้

เกย่า……ฮัลโหล…… พูดไม่ค่อยเต็มเสียงนัก เพราะง่วงและหงุดหงิด

คนปลายสาย….. เออ เกย่าเหรอ (เสียงสดใสมาก)

เกย่า….. อุ๊ย ตาย ชะนีโทรมา ใครหว่า เวลาง่วง ๆ ความจำก็จะเบลออย่างนี้ล่ะฮะ

คนปลายสาย …นี่พี่ เจด้า เอง ยังนอนอยู่เหรอ

เกย่า….. (นึกในใจ เออเซ่ะ ) แต่ตอบไป ….. หวัดดีฮะ พี่เจด้า มีอะไรฮะ

คนปลายสาย ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นพี่เจด้า…. เกย่าจำได้ไหม เรื่องที่เคยคุยให้ฟัง เรื่องเพื่อนของพี่จีน่า

ที่มาดูงานที่แบร์ลินน่ะ (พี่เจด้า มีพี่สาวชื่อพี่จีน่า และน้องสาวคือพี่จานี่)

เกย่า…อ๋อฮะ ที่บอกว่าเป็นผู้ชายสามคน อายุเยอะแล้วและไม่หล่อเลย ที่พี่จีน่าเคยบอกไว้ว่าจะให้เกย่านำ

เที่ยวแบร์ลินให้ใช่ไหมฮะ (พี่จีน่าให้เบอร์โทรโรงแรมที่พักของสามหนุ่ม (ไม่น้อย) มาตั้งแต่สองวันก่อน ซึ่ง
เกย่าก็โทรไปแล้ว แต่ไม่เจอตัว เลยไม่ได้สนใจอะไรอีก ช่วงนั้นงานเยอะด้วย อยากนอนอย่างเดียว)

พี่เจด้า… ใช่ ๆ ตอนนี้ เค้าทั้งสามอยู่ที่สถานีรถไฟน่ะ เตรียมจะเดินทางมาหาพี่จีน่ากัน

เกย่า… ก็ดีนี่ฮะ (ในใจคิดว่า จะได้วางหูซะที ตาจะปิดแล้ว)

พี่เจด้า…เค้าซื้อตั๋วกันไม่เป็นอะ เกย่าไปช่วยดูหน่อยได้ไหม

เกย่า…(ในใจ…….อ๊ายยยยยยส์ อะไรกันยะ อายุอานามเท่าไรกันแล้ว ซื้อตั๋วไม่เป็น อะเฟร่ดมั่กมากค่า—สามพยางค์หลังนี้ ยืมพี่นาธภาคนาธาวดีมาใช้ฮะ)

พี่เจด้า ซึ่งไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดในใจของเกย่า ก็อธิบายต่อ คือเค้าโทรมาหาพี่จีน่า แล้วพี่จีน่า ก็โทรมาหาพี่เจด้า ให้พี่เจด้าโทรมาบอกน้อง จีย่า เอ๊ย เกย่า….. ชักสับสนฮ่ะ ว่า ทำไมค่าตั๋วที่คนขายบอกมันแพงจัง
(ระยะทางจากแบร์ลินไปเมืองที่พี่น้องสามจอจาน อยู่กันนี่ประมาณ 400 กิโลเมตรนะฮะ)
เค้าบอกราคาพี่จีน่า แล้วพี่จีน่าก็โทรมาบอกราคาพี่เจด้า พี่เจด้าเลยโทรมาบอกน้องเกย่าน่ะ ว่า ราคาค่าตั๋วตั้ง 360 ยูโรแน่ะ

เกย่า…จะบ้าเหรอพี่เจด้า ราคาขนาดนั้น บินไปนิวยอร์คได้แล้วนะ ถึงตั๋วรถไฟในเยอรมันจะแพงกระอักเลือดยังไง ราคาที่ชายไทยทั้งสามคนซึ่งเป็นเพื่อนของพี่จีน่า ซึ่งเป็นพี่สาวของพี่เจด้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพี่จานี่ (อีกที)
บอกมา ก็เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

พี่เจด้า…นั่นน่ะสิ พี่ก็ว่างั้นล่ะ ว่าแต่เกย่าไปช่วยพวกเค้าหน่อยได้ไหมล่ะ

เกย่า… (ในใจ ดังกว่าเก่า …แอร๊ยยยยยยยส์ ไรกันยะ) แต่ตอบไป….เกย่าไม่รู้ว่าพวกเค้าอยู่ที่ไหนกันนี่นา

พี่เจด้า…พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่ไม่เคยไปแบร์ลิน ( เกย่าถึงจะอยู่แบร์ลิน ก็ไม่รู้เช่นกันค่าาา)
เอางี้ เกย่าโทรไปหาพี่จีน่านะ แล้วคุยกะพี่จีน่าละกัน (อ้าว… ได้ที หนีแว้บเลยแฮะ พี่เจด้าของชั้น)

ตู้ดดด……ตู๊ดดด……. สัญญาณเรียกโทรศัพท์ที่เกย่าโทรไปหาพี่จีน่า ปกติเกย่าจะไม่ชอบโทรไปบ้านนี้ เพราะโทรศัพท์มักจะว่างเป็นนิรันดร์ แต่ไม่มีคนธรรพ์ หรือกินนร กินนรี นางใดมารับสาย ไม่รู้ไปเที่ยวซาฟารีหิมพานต์โซนไหนกันหมด
เฮ้ย ไม่มีคนรับสายเฟ้ย ดี ๆ ตูจะได้ไปนอนต่อ ….. วิญญาณมืดในใจเริ่มลิงโลด

ฮัลโหล… เสียงพี่จีน่าพูดมาตามสาย ก่อนที่เกย่าจะวางหูเพียงเสี้ยววินาที แอร๊ยยย อะไรกันเนี่ย ฟ้าบันดาล หรือสวรรค์แกล้งคะ

เกย่า… หวัดดีพี่จีน่า ตกลงเพื่อนพี่อยู่ที่ไหนกันอะ

พี่จีน่า… เออ เกย่าเหรอ ดีใจจัง ช่วยเพื่อนพี่หน่อยนะ ไปหาเค้าที่สถานีรถไฟหน่อย เอาบุญนะน้องนะ

เกย่า…แล้วเค้าอยู่สถานีรถไฟที่ไหนกันล่ะฮะ (เริ่มหงุดหงิดอีกแล้ว สถานีรถไฟที่แบร์ลิน ก็มีมาก พอ ๆ กะหัวลำโพง สามเสน และหลักสี่ล่ะ แล้วบุญจะเอามาทำไมให้มันหนักมิทราบ)

พี่จีน่า…เค้าก็บอกพี่มานะ แต่พี่จำไม่ได้แล้ว (แอร๊ยยย แล้วจะให้หนูไปหาที่สวรรค์พรหมยมยักษ์ชั้นไหนล่ะคะ)

เกย่า.. แล้วจะให้ทำไงล่ะพี่

พี่จีน่า…เออ เดี๋ยวเค้าก็คงจะโทรมาหาพี่อีกที เค้าไปแลกเหรียญกันอยู่ เค้าบอกว่าโทรศัพท์กินเหรียญเร็วมากเลย โทรมาสามสี่รอบแล้วเนี่ย คุยไม่ทันเสร็จ เหรียญก็หมดทุกที

เกย่า… เค้าโทรเข้ามือถือ หรือบ้านล่ะฮะ

พี่จีน่า… มือถือสิ พี่มีมือถือแล้ว (เสียงภูมิใจด้วยนะฮะ)

เกย่า… อกแบน ๆ ของนังแป้นจะแตก พี่จีน่า โทรเข้าบ้านน่ะ นาทีละ 10 เซ็นต์ แต่โทรเข้ามือถือน่ะ 69 เซ็นต์เลยนะ(ยะหล่อน)

พี่จีน่า…อ้าวเหรอ พี่คิดว่ามันพอ ๆ กัน เหมือนโปรโมชั่นเมืองไทย (พี่จีน่า เพิ่งมาเยอรมันไม่นานฮะ)

เกย่า…เอางี้ เดี๋ยวพอเพื่อนพี่จีน่า โทรมาอีกที พี่จีน่าก็ให้เบอร์เกย่าไปละกัน ให้เค้าโทรหาเกย่าโดยตรงดีกว่า (ชั้นเหนื่อยกะ ระบบบอกต่อเป็นทอด ๆ นี่เต็มทีแล้ว)

สิบห้านาทีผ่านไป เสียงโทรศัพท์ในห้องเกย่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เสียงผู้ชาย…..สวัสดีครับ เพื่อนของจีน่าใช่ไหมครับ

เกย่า…(อุ๊ยตาย ว้ายกรี๊ด เป็นแมงจักจั่น กระสันดีดปีก อย่ามาเพิ่มรุ่นหนูนะก๊ะ หนูน่ะอ่อนกว่า เจ๊จีน่า ตั้งครึ่งรอบนะยะลุง) อยู่ที่ไหนกันฮะ
เสียงผู้ชาย…อยู่ที่สถานีรถไฟฮะ

เกย่า …พี่เจด้าก็โทรมาบอกผมแล้ว ว่าพี่จีน่าโทรมาบอกพี่เจด้า ว่าคุณทั้งสามโทรมาบอกพี่จีน่า ว่าอยู่ที่สถานีรถไฟกัน แต่สถานีไหนล่ะ (ก๊ะ) เกย่าแอ๊บแมนด้วยนะ กลัวชายแท้จะประหวั่นพรั่นพรึง

เสียงผู้ชาย…สถานีใหญ่ ๆ น่ะฮะ

เกย่า…อยากจะถามเหลือเกิน ว่า อยู่สถานีหัวลำโพง หรือเล้าไก่ที่ไหนเหรอฮะ ไอ้ใหญ่ ๆ เนี่ย ชั้นจะตรัสรู้ได้ไงว่าอยู่แห่งหนตำบลไหนกัน (อุ๊ย โทษที ลืมไปฮ่ะ แบร์ลินไม่มีตำบล เพราะเราไม่นิยมการปกครองบริหารส่วนภูมิภาค)

เกย่า…มีตั๋วรถไฟหรือยังฮะ เห็นบอกว่าราคา 360 ยูโร

เสียงผู้ชาย… ยังไม่ซื้อฮะ แพงเกินไป แต่ว่าไปถามพนักงาน เค้าก็ปริ๊นท์แผ่นรายละเอียดการเดินทางให้มา

เกย่า…(ในใจ…อ้าว ก็สื่อสารกะพนักงานรู้เรื่องนี่นา แล้วจะให้ดิชั้นช่วยอะไรล่ะก๊ะ)

เสียงผู้ชาย…คือไม่เข้าใจว่าทำไมมันแพงขนาดนี้นะ

เกย่า … โอเค ช่วยดูในแผ่นที่เค้าให้มาหน่อย มันจะระบุ สถานีที่พวกคุณอยู่กัน บอกเกย่าหน่อยฮะว่า สถานีอะไร

เสียงผู้ชาย…… โซโล…. โซลอก อิ๊ส

เกย่า… อะไรนะฮะ ฟังไม่ถนัด (นึกในใจ…ชั้นไม่เคยได้ยินชื่ออย่างนี้เลยนี่นา เค้าอยู่ที่แบร์ลินกันแน่เหรอ)

เสียงผู้ชาย…เดี๋ยวฮะ อ่านยากจัง ซู ลอก อิ๊ส เฮอร์ อืม…. ซู ลอกี้ ซะเคิ้ก อาร์ท….

เกย่า… (ในใจ….สถานีไหนฟะเนี่ย ชื่อยังกะภาษารัสเซีย) เอ่อ รบกวนสะกดดีกว่าฮะ ทีละตัว

เสียงผู้ชาย…ที่อ่านไป ไม่ถูกต้องเหรอ

เกย่า… ไม่ทราบเหมือนกันฮะ แต่สถานีชื่อนี้ไม่เคยได้ยิน รบกวนสะกดดีกว่าฮะ (ชักเริ่มฉุน)

เสียงผู้ชาย.. Z-O-O

เกย่า… โอเคฮะ พอแล้ว ผมรู้แล้วว่าพวกคุณอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมไปหา รออยู่ในแมคโดนัลด์ละกันครับ

เสียงผู้ชาย…แมคโดนัลด์ที่ไหน ไม่เห็นมี

เกย่า…ที่สถานี โซโลกิสแชร์การ์เต้น (Zoologischer garten) มีแมคโดนัลด์อยู่สาขาเดียวล่ะฮะ

เสียงผู้ชาย… แต่พวกเราไม่เห็นนี่

เกย่า…ก็ถามคนแถวนั้นล่ะกันฮะ ถ้าไม่มีใครพูดอังกฤษด้วย ก็บอกไปว่า โว อิ๊สท์ แมคโดนัลด์ เดี๋ยวเค้าก็ชี้ให้คุณเองล่ะ ไม่ยากหรอก

เสียงผู้ชาย…โอเค

เกย่าต้องใช้เวลาในการเดินทางหนึ่งชั่วโมงเต็ม จึงจะไปถึงที่นั่นนะฮะ พอผลักประตูเข้าไปก็เจอชายสามคน สีหน้าบอกบุญไม่ค่อยรับ ยืนอยู่ที่โต๊ะ ที่จัดไว้สำหรับผู้ยืนรับประทาน (ไม่เคยเห็นโต๊ะแบบนี้ที่ไทยนะ หรือว่าเกย่าอาจจะตกข่าวไปก็ได้)

ที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะนั่น คือชายไทยแท้สามคน แท้มาก ๆ ฮะ ผิวพรรณวรรณฉวี บ่งบอกมั่กมาก คนแรกริมซ้ายสุด ผมหยักศก อืม...จะว่าไปมันก็ไม่ใช่หยักศกนะ หยิกหย็องกะหรอดเลยแหละ หน้าตาอวบอูม แบบจีนไหหลำ เอ๊ะ ไหนบอกว่า ผิวไทยแท้ไง สีผิวน่ะใช่ฮ่า แต่ดวงตาตี๋ ๆ บ่ใจ้เด้อค่า

คนที่สองตรงกลาง ผมก็หยิกเหมือนกัน แต่ไม่หย็องขนาดคนแรก ตรงบริเวณหน้าผาก มีรอยเถิกขึ้นไปบ้างแล้ว เจ้าของตีฝีหวี (อย่าอ่านเพี้ยนนะฮะ) มาปิดร่องรอยเสียดิบดี จนเกย่าก็ตีความไม่ถนัดว่า พี่แกเป็นประเภท ทุ่งหมาหลง ดงช้างข้าม ง่ามเทโพ ชะโดตีแปลง แร้งกระพือปีก ฉีกขวานฟาด หรือ ราชครึงเครา กันแน่ จะว่าไปพูดถึงหนุ่มไทยผมน้อยนี่ก็ให้อาภัพนะ ถ้าเป็นฝรั่งก็ว่าไปอย่าง เพราะกรณีการถอยห่างของเซลล์สร้างเส้นผมตามวัย มีให้เห็นกันทั่ว โป๊งเหน่ง สะท้อนแสงละลานตา จัดเป็นเรื่องปกติ

แต่สำหรับชายไทยนี่เกิดเคราะห์หามยามร้าย มีเหตุให้น้องผมบนหัว เกิดอาการเข้าข่าย หลุดร่วงโรยรา ไม่ว่าจะเข้าชนิด ล้าน เลี่ยน เตียน โล่ง เหน่ง เหม่ง ใส ลื่น ลูกมะอึก หรือ นกตะกรุม ก็เป็นสาเหตุให้อับอาย ต้องหาทางมาปกปิดกันนะฮะ ดารานักร้อง วัยโรยราแต่หน้ายังใสบางคน เปลี่ยนทรงผมเป็นหน้าม้า อ้างว่าสาเหตุมาจากแฟชั่น เกาหลี ญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่ความจริง เป็นเพราะจำต้องปกปิดรัศมี จากนัยนาที่สาม กลางหน้าผาก ตะหาก

คนที่สาม ริมขวาสุด หะแรกที่เห็น เพียงด้านข้าง นึกว่านายแบบฮะ สะพายกล้องดิจิตัล ตัวเก่ง มาดเท่ห์เจ๋งเป้งเหลือเกิน พอท่านชายหันหน้ามา คะเนอายุก็รู้ได้ว่า อ่อนเยาว์กว่าสองคนแรก ผมของนายคนนี้ก็หยิกอีกนั่นล่ะ แต่น้อยกว่าพี่ท่านคนที่สอง สรุปว่า ชายไทยทั้งสาม ยืนเรียงลดหลั่นกัน ตามความหยิกหยักของเส้นผมฮ่ะ

การแต่งตัวของคนทั้งสามก็ปกปิดมิดชิดนะฮะ ถึงแม้พี่คนกลางที่ท่าทางอาวุโสกว่าเพื่อน ผ้าพันคอจะลาย
เหมือนผ้าขะม้าไปหน่อย แต่ก็ยังน้อยกว่าเสื้อโค้ทตัวหนาเตอะ สีสันสดใส เหมือนลามะธิเบตที่พี่ท่านสวมใส่อยู่ชั้นนอกสุด เกย่าเองนั้น แต่งตัวไปเต็มยศสะกดลมหนาวเช่นเดียวกัน เพราะอากาศต้นธันวาคม ทั้งหนาวทั้งแฉะ ลมก็พัดแรง เรียกว่าอุณหภูมิตามเทอร์โมมิเตอร์ และตามความรู้สึกต่างกันไม่ต่ำกว่า 5 องศาเลยล่ะ

โดยแจ็คเกตของเกย่านั้น เป็นแจ็กเกตสำหรับเล่นสกีฮะ ตัวเดียวเอาอยู่ ไม่ต้องรองพุลลี่ไว้ข้างใต้ แต่ถึงอากาศที่นี่จะหนาวจับจิตยังไง เกย่าก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่ค่อยมีใครใส่กางเกงลองจอห์นกันเลย นาน ๆ ไปเกย่าก็ติดนิสัยนี้ของคนเยอรมัน คือต่อให้ติดลบยี่สิบ เกย่าก็นุ่งแค่ยีนส์ชั้นเดียว

เกย่าว่า รองเท้านั้นสำคัญกว่ามาก เวลาอากาศหนาว ๆ พื้นปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะ ถ้ารองเท้าของเราสูงพอ อุ่นและนุ่มสบาย ลมหนาว ๆ ก็ไม่ระคายผิวกางเกงยีนส์เข้ามาสักเท่าไร ในทางกลับกัน ต่อให้เราใส่ลองจอห์นสามสี่ชั้น ถ้ารองเท้าเราพื้นบางเฉียบ เวลาสาวเท้าเดินไปบนพื้นเย็นเยียบถึงขีดสุดเนี่ย พื้นฝ่าเท้าเปล่าเปลือย ที่มีเพียงถุงเท้าห่อหุ้ม และรองเท้าไม่หนาอีกหนึ่งชั้น

มันไม่ได้ช่วยกั้นอะไรจากอาการเท้าแช่แข็ง ซึ่งเจ็บปวดแสบปวดร้อนรุนแรง ยิ่งกว่ามดคันไฟมารุมกัดอีกนะฮะ ยิ่งถ้าหนาวมาก ๆ แล้วเท้าเย็นเฉียบเนี่ย บางคนถึงกับช็อคไปเลยก็มี เกย่าเจอกับตัวเองมาแล้ว ตอนออกไปนอกบ้าน อุณหภูมิ 4-5 องศา เลยชะล่าใจ ใส่รองเท้าหนังธรรมดา พอเที่ยงคืน เดินจากสถานีรถไฟกลับมาบ้าน ระยะทางก็ไม่ใช่น้อย ๆ ร่วมหนึ่งกิโลเมตร อุณหภูมิกลับถลำดำดิ่งลงไปติดลบเจ็ด คุณ ๆ เอ๋ย เกย่าเดินไป หายใจก็ไม่ออก หัว หู จมูกปาก ไม่รู้อยู่ตรงไหนหมด

เท้าก็เจ็บยังกะเดินลุยไฟไม่มีเจ้าคุ้มครอง ระยะทางหนึ่งกิโลเมตร ราวกับร้อยโยชน์ก็ไม่ปาน ซมซานไปถึงประตูบ้านได้ นึกขอบคุณสวรรค์ เพราะถ้าต้องทนเดินฝ่าฟันลมหนาว ในขณะที่เท้าแช่แข็งอย่างนั้นไปอีกไม่ถึง 5 นาที เกย่าก็คงช็อคตาย ลาโลกาศิวิไลซ์ ไปเดินทอดน่อง บนปุยเมฆนุ่ม ๆ ของเมืองแมนแดนฟ้า ก่อนเวลาอันควรแน่ ๆ ฮ่ะ

เกย่าเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าชายไทยทั้งสาม ไม่ลืมเก๊กหน้าแมน (เมื่อยกรามไปโม้ด) ก่อนจะกระพุ่มมือไหว้แล้วกล่าวสวัสดี ด้วยน้ำเสียงที่ตั้งใจกดให้ทุ้มต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้

เกย่า….สวัสดีครับ ขอโทษด้วยที่ให้รอนาน เพราะรถไฟวิ่งเป็นเวลาตรงเผง จะเร่งคนขับให้ขับไวกว่านี้ก็ไม่ได้

ชายหนุ่มทั้งสาม กล่าวสวัสดีตอบ แทบจะพร้อม ๆ กัน จำได้ว่า คนที่ยกมือรับไหว้จากเกย่า มีเพียงคนเดียว คือพี่คนที่หน้าตาเหมือนจีนไหหลำ
จากนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เกย่าก็บอกให้พวกเขาถอดเสื้อผ้า เอ๊ย แนะนำชื่อของตัวเอง

พี่คนหน้าจีนไหหลำ….. ผมชื่อติ่งครับ

พี่คนที่เส้นผมถดถอย….. ผมปุ่นครับ

กระทาชายคนสุดท้าย นายคนที่คิดว่าตัวเองแสนเท่ห์นักหนา…. ผมชื่อด้นฮะ

เกย่า…อะไรนะฮะ ชื่อดุ้นเหรอ (จินตนาการตามเร็วราวสายฟ้าแล่บ)

กระทาชายคนสุดท้าย นายคนที่คิดว่าตัวเองแสนเท่ห์นักหนา….. ด้นครับ ไม่ใช่ดุ้น ย้ำชัดถ้อยชัดคำ

เกย่า…โอเค ฮะ คุณ ติ่ง คุณปุ่น คุณด้น (เกย่ายังไม่อยากนับญาติฮะ เพราะผิวพรรณแตกต่างกันเกินไป เลยเรียกคุณดีกว่า)สรุปว่า จะขึ้นรถไฟไปหา พี่จีน่า ซึ่งเป็นพี่สาวของพี่เจด้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพี่จานี่ ใช่ไหมครับ เกย่าถาม เพราะคิดว่า พาไปซื้อตั๋ว ส่งขึ้นรถไฟให้เสร็จ ๆ จะได้หมดภาระ กลับไปนอนต่อเสียที

หลังจากเกย่าขอดูรายละเอียดในแผ่นกระดาษที่พนักงานขายตํ๋วให้คนทั้งสามมา เกย่าก็ถึงบางอ้อว่า
360 ยูโร นั้นคือราคาค่าเดินทางไป-กลับ ของผู้โดยสารสามคน แต่เป็นการเดินทางด้วยรถไฟหวานเย็น คือจอดทุกสถานี และจะต้องเปลี่ยนรถไฟถึง 6 ขบวน (โฮะ ๆ ตายแน่ งานไหน ๆ พี่ไทยก็เมาเอ๋ย)

หลังจากฟังคำอรรถาธิบายถึงการผจญภัย สุดขอบชานชาลา ล่าขบวนรถไฟทั้งหกแล้ว คณะตติยบุรุษสยาม ก็มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบว่า ไม่ไปฮ่ะ อยู่เที่ยวในแบร์ลินนี่ล่ะ

เกย่า… โอเคฮะ งั้นโชคดีนะฮะ ยินดีที่ได้รู้จัก ว่าแล้วก็เตรียมหมุนตัวกลับ ด้วยลีลานางพญาสง่างาม เพราะยามนี้ไม่จำเป็นต้องเก๊กแมนต่อไปให้เมื่อยตุ้ม ขณะที่หมุนตัวได้ครึ่งวงพระจันทร์เสี้ยว เสียงแหบเครืออุปมาดังคมเคียวยามเกี่ยวต้นข้าวแห้งกรอบก็ดังขึ้น

เดี๋ยวสิครับ อย่าเพิ่งไป ช่วยพาพวกเราเที่ยวชมเมืองหน่อยได้ไหมครับ …. คุณปุ่นคนที่เส้นผมถดถอยเอ่ยปาก

ใช่ฮะ พวกเราว่าง ๆ อยู่ไม่มีอะไรจะทำ ไม่รู้จะไปที่ไหนด้วย มืดแปดด้านเลย ….. คุณติ่งหน้าจีนไหหลำสำทับอีกคน

กระนั้น เกย่าก็ยังทำหน้ากระอักกระอ่วนใจอยู่

ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารถรา ค่าอาหารฮะ พวกเรารับผิดชอบเอง…. คุณด้น เอ่ยออกมาเป็นคนสุดท้าย

เกย่า….อ๋าย ได๋ค้ะ กระหยิ่มยิ้มย่องตอบไป ว่า โอเคครับ
(ทว่า….เกย่าหารู้ไม่ว่า พวกเรารับผิดชอบเอง ที่หลุดออกมาจากปากคุณด้นตอนนั้น ในกาลต่อมาหมายถึงอะไร)

หลวมตัวตกลงว่าจะเป็นไกด์นำทัวร์เที่ยวแบร์ลินให้แล้ว เกย่าก็ไม่รอช้า บอกสามหนุ่มไทยให้รูดซิบติดกระดุม เสื้อผ้าให้รัดกุม เตรียมไปเผชิญลมหนาว เคล้าสายฝนเม็ดเล็กบางเบาด้านนอก สายฝนหน้าหนาวนี่มันเล็กมาก ๆ จนแทบจะเป็นละอองไอน้ำเลยนะฮะจะว่าไป

จะมีหิมะตกไหม อยากเห็นหิมะ คุณด้นพูดขึ้น

คิดว่าไม่นะ ถ้าเกิดโชคดี (แต่สำหรับเกย่า แล้วถือเป็นโชคร้ายมากกว่า) ก็อาจจะได้เห็นหิมะปนฝน (Schneeregen) น่ะ เกย่าตอบ

เกย่าเดินนำสามหนุ่มไปลงสถานีรถไฟใต้ดิน Zoo ระหว่างเดินไป ก็ชี้ไม้ ชี้มืออธิบายสถานที่ไปด้วย ท่านชายทั้งสามตื่นตาตื่นใจกับ สถานที่มาก ต่างก็ควักกล้องถ่ายรูปดิจิตัลออกมาบันทึกภาพกัน ไม่หยุดหย่อน

คุณด้นนั้น ถึงกับ อัดวีดีโอ คำพูดของเกย่า เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ไว้อย่างละเอียด เปล่าฮ่ะ เค้าไม่ได้อัดเสียงเกย่าหรอก คือ หลังจากเกย่าพูดจบ คุณชายเธอถึงจะกดปุ่มเริ่มบันทึก แล้วอัดเสียงตัวเองที่พูดซ้ำ
เกย่าลงไปน่ะ เชอะ เสียงเกย่า ไม่เพราะตรงไหนยะ

คุณติ่งบ่นออกมาเบา ๆ ว่าหิวข้าว คุณด้นเลยเย้าว่า มาเยอรมันทั้งทีจะกินข้าวได้ไง คุณปุ่น เลยถามเกย่าว่า แถว ๆ นี้มีร้านอาหารน่ากินไหม เพราะพวกเค้าไม่อยากกินแมคโดนัลด์ มิน่า เห็นรอเกย่าในร้านแมคตั้งชั่วโมงหนึ่ง แต่ไม่ได้สั่งกระทั่งน้ำเปล่าสักจอก

คุณด้นบอกว่า อยากจะกินอาหารดี ๆ สักมื้อในเยอรมัน งบประมาณไม่เกี่ยง เพราะเบิกบริษัทได้อยู่แล้ว นึกถึงก็ให้อิจฉาผู้ที่ทำงานแถบโครงการอีสเทอร์นซีบอร์ดเสียจริงเชียว

ได้ยินแต่ละคนบอกว่าหิว เกย่าเลยเปลี่ยนใจ เบรคกึก ณ ปากทางบันไดลงรถไฟใต้ดิน แล้วพาข้ามถนนตรงไปยังร้านอาหารจีนใกล้ ๆ แทน ร้านอาหารจีนในยุโรปจะตกแต่งประดับประดากันหรูหรามากนะฮะ เมนูเด่นดังยอดนิยมประจำทุกร้านก็ไม่แคล้วเป็ดทอดทั้งหลายแหล่ ผัดอะไร ๆ ราดข้าวก็จะใส่เป็ดทอดเป็นของหลัก ผสมผเสปนเปในน้ำซอสแป้งมันข้นเขละขละ ดูหน้าตาแล้วก็คล้ายกับกระเพาะปลาเป็ดทอด หรือ ราดหน้ายอดผักเป็ดทอด สามหนุ่มแว่บแรกที่เห็นสภาพอันโอ่โถงโอ่อ่าของร้านอาหารจีนก็ร้องว้าว แล้วเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อยากจะรับประทานที่นี่ เพราะไม่เยอรมันพอ จะไม่เยอรมันได้ไงกันคู้ณ ที่เมืองจีนแท้ ๆ น่ะ อาหารจมอยู่ในซอสแป้งมันเหนอะหนืดหยึดหยึยเนี่ย เค้ามีในเมนูที่ไหนกันเล่า

ในเมื่อสามหนุ่มรวมพลังกันว่า อยากกินอาหารเยอรมัน และเน้นว่าขอให้เป็นจานเด็ดของแบร์ลินด้วย เกย่าโปรดช่วยพาไปหน่อยจะได้ไหม ใช้เวลานึกอยู่ไม่ถึงอึดใจ เกย่าก็คิดว่าจะพาสามหนุ่มไปลิ้มลองไส้กรอกแกง
(Currywurst) ซึ่งเป็นไส้กรอกที่ผสมผง ก-ะ-ห-รี่ เสิร์ฟมาพร้อมมันฝรั่งทอดชิ้นโต และราดซอสมะเขือเทศเข้มข้น หรือมายองเนส เคียงด้วยหอมสับนึ่งกลิ่นหึ่ง (แต่อร่อยมาก) ร้านที่ดังที่สุดในแบร์ลินอยู่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟใต้ดิน Mehringdamm ชื่อร้าน Curry 36 คนซื้อจะต่อคิวยาวมาก ๆ แต่รสชาติวิไลของไส้กรอกชนิดบรรจุไส้หมูแท้ ผิวกรอบเด้งดึ๋งดั๋ง อย่างที่หากินที่ไหนไม่ได้ในโลกนี้ นอกจากในเยอรมันเท่านั้น ก็คุ้มค่ากับการรอคอยมิใช่หรือ

เปลี่ยนรถไฟใต้ดินกันสองครั้ง เราก็มาถึงยังจุดหมาย ร้านจำหน่ายไส้กรอกร้อน ๆ กลิ่นหอมกรุ่น กระตุ้นน้ำลายสอที่อร่อยที่สุดในแบร์ลิน

ยังไม่จบนะฺฮะ ไปตามลุ้นกันต่อได้ที่องก์ 2


Create Date : 14 มีนาคม 2549
Last Update : 16 มีนาคม 2549 18:20:43 น. 9 comments
Counter : 1052 Pageviews.

 
หนุกจัง ฮาดี ติดเรทนิด ๆ ด้วย ยังไม่เคยไปเบอร์ลินเลย


โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด วันที่: 14 มีนาคม 2549 เวลา:18:12:03 น.  

 


เขียนตลกดีค่ะ นึกภาพผู้ชาย 3 คนนั้นออกเลยนะนั่น แถมขำคนขายตีมือดังเพี๊ยะ กำลังอ่านเพลินๆ ตกใจค่ะ ..ตกใจ !

แต่ว่า...ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคนที่เงินเดือนเหยียบแสนอย่างที่คุณเกย่าว่านี่ งกชะมัดแถมนิสัยแย่จัง คุณเกย่าอดทนจริงๆเลยค่ะขอโหวตอีกทีค่ะ "ไอ้หน้าอึ่งอ่าง หาคู่วางไข่ไม่ได้" เจ็บจริงๆนะนั่น


โดย: PANDIN วันที่: 15 มีนาคม 2549 เวลา:2:27:17 น.  

 
เขียนอ่านง่ายและอ่านสนุกด้วยค่ะ จะไล่อ่านให้ครบทุกตอน ยังงัยก็มาอัพเดทเรื่องราวบ่อย ๆ นะคะ


โดย: ohchan IP: 210.1.17.163 วันที่: 16 มีนาคม 2549 เวลา:13:51:17 น.  

 
ตอนนี้มันส์มั๊กมากกกกกค่ะ

แวะมาทักทายก่อนนอน goodnight นะคะ


โดย: Be_dazzling วันที่: 16 มีนาคม 2549 เวลา:17:11:35 น.  

 
อ่านเป็นรอบที่สิบเก้า
ชอบตอนนี้มากที่ซู้ด
จะรอหนังสือ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นะ


โดย: dusida IP: 203.156.36.139 วันที่: 8 เมษายน 2549 เวลา:10:38:37 น.  

 
คุณเกย่าเขียนได้สนุกมากๆค่ะ อ่านไปหัวเราะไป


โดย: จอย(ลัดดา) IP: 62.178.219.125 วันที่: 1 กันยายน 2549 เวลา:1:24:02 น.  

 
ชอบมากคะ เพราะมีเพื่อนที่เค็มกว่านี้อีกค่ะ แถมมาแว้งกัดเราอีกคะะ พูดแล้วเจ็บใจ


โดย: คนเคยโดน IP: 165.21.154.14 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:21:11:03 น.  

 
อ่านแล้วทำให้เปลี่ยนใจอยากไปเที่ยวเบอร์ลินเลยคะ ที่ว่าเปลี่ยนใจ เพราะก่อนหน้าไม่ชอบเยอร์มัน โดยเฉพาะเบอร์ลินนี่แหละคะ อย่าเพิ่งด่านะ เขามีเหตุผลคะ แต่ยาวขอไม่พูดแล้วกันนะคะ สรุปว่าเจอตำรวจดุยังกะหมา ไม่ใช่หมาธรรมดานะคะ หมาบ้าด้วย ไม่มีน้ำใจและเหตุผล จนนึกเกลียดมันและพาลจะไม่ขอไปเหยียบบ้านเมืองมันอีกนะคะ แต่หลังจากอ่านเรื่องนี้แล้วอาจเปลี่ยนใจก็ได้คะ ขอบคุณคะ นุ๊กหนุกคะ


โดย: เทียนไข IP: 85.28.73.245 วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:19:12:55 น.  

 
mmm


โดย: ii IP: 83.198.150.51 วันที่: 26 ธันวาคม 2549 เวลา:20:41:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เกย่า
Location :
BERLIN, Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เกย่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.