ค่ายกักกันเอาชวิตซ์ (Auschwitz Concentration Camp) รอยแผลและความทรงจำ ตอน 1

         อนุสรณ์และพิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาชวิตซ์-เบียเคเนา (Auschwitz -Birkenau Concentration Camp) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ ในอดีตเป็นที่ตั้งของค่ายกักกันและเป็นพื้นที่สังหารชาวยิวและนักโทษชาติต่างๆ ร่วมกว่า 1.5 ล้านชีวิต สถานที่นี้เป็น 1 ใน 5 มรดกโลกในประเทศโปแลนด์ที่องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่เป็นมรดกโลกที่แสดงถึงความโหดเหี้ยมของมนุษย์อย่างคาดไม่ถึงว่าจะสามารถทำทารุณเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ถึงขนาดนี้ 
        ค่ายกักกันเอาชวิตซ์ (Auschwitz Concentration Camp) เป็นค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในเรื่องการสังหารโหดชาวยิวมากที่สุด ตั้งอยู่ในเมืองออชวิซิม (Oświęcim) เป็นเมืองชนบทห่างจากเมืองคราคูฟ (Kraków) เมืองหลวงเก่าของประเทศโปแลนด์ไปทางตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร ค่ายนี้เดิมเป็นค่ายกักกันนักโทษการเมืองของโปแลนด์ ต่อมากองกำลังทหารนาซีเข้ายึดโปแลนด์ได้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เปลี่ยนค่ายนี้ ดัดแปลงเป็นค่ายกักกันนักโทษ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวยิวจากหลายๆ ประเทศในยุโรป สถานที่นี้เป็นที่รู้จักกันดีของชาวโลกในฐานะที่เป็นสถานที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวของผู้นำเยอรมัน “ฮิตเลอร์” (Adolf Hitler)  ค่ายกักกันของทหารนาซีไม่ได้มีเฉพาะที่นี่ หากแต่มีมีกระจายอยู่หลายที่ในยุโรป รวมถึงโปแลนด์ และเยอรมัน  ซึ่งแต่ละแห่งก็มีประวัติอันน่าสลดหดหู่ไม่ต่างกัน



 
        ค่ายกักกันเอาชวิตซ์ (Auschwitz)  ที่มาชมในวันนี้ สถานที่แบ่งเป็นสองส่วนที่แยกจากกัน คือค่ายเอาชวิตซ์  1 (Auschwitz I) ที่เป็นค่ายหลัก และค่ายเบียร์เคเนา (Birkenau) หรือค่ายเอาชวิตซ์  2 (Auschwitz II) ที่สร้างขึ้นมาในภายหลัง หรืออาจเรียกอีกชื่อว่าค่ายเอาชวิตซ์ 2-เบียร์เคเนา (Auschwitz II-Birkenau) ซึ่งทั้งสองค่ายห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร โดยจะมีรถบัสบริการให้นั่งไปมาระหว่างค่ายทั้งสองได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 



          เรามาชมค่ายเอาชวิตซ์ 2-เบียร์เคเนา (Auschwitz II-Birkenau) กันก่อน เพื่อให้เห็นภาพการขนส่งนักโทษมายังค่ายเเห่งนี้  ภาพค่ายเอาชวิตซ์ 2-เบียร์เคเนา (Auschwitz II-Birkenau) ดูคุ้นตาจากฉากของภาพยนต์ฮอลลีวูด Schindler’s list  เป็นอาคารอิฐสีส้มที่มีทางรถไฟลอดผ่านเข้าไป  ภายในพื้นที่ค่ายส่วนใหญ่ถูกทำลายไปมากโดยทหารนาซี เมื่อแพ้สงครามเพื่อทำลายหลักฐาน ส่วนที่เหลืออยู่ได้รับการบูรณะและรักษาไว้อย่างดี ตัวอาคารทั้งหมดทำด้วยไม้ ลักษณะค่ายเป็นอาคารเหมือนโรงไม้ปิดทึบไม่มีหน้าต่าง สร้างเรียงรายอยู่ในที่ราบกว้าง   มันเป็นคอกม้าเดิมนำมาดัดแปลงเป็นโรงนอนนักโทษ


   
 
 
           ค่ายเอาชวิตซ์ 2-เบียร์เคเนา (Auschwitz II-Birkenau)  สถานที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายไปมาก จากการทำลายหลักฐานของทหารนาซี หลังจากที่ถูกทหารโซเวียตเข้าโจมตีตอนสิ้นสุดสงคราม สถานที่แห่งนี้จะมีให้ดูสภาพของโรงนอนเดิมๆ จัดให้ดูไม่กี่หลัง ตัวอาคารเดิมเป็นคอกม้าเดิมนำมาดัดแปลงเป็นโรงนอน ไม่มีหน้าต่าง หรือช่องระบายอากาศ เวลาอากาศร้อนก็ร้อนจนไม่มีอากาศหายใจ เวลาอากาศหนาวที่อุณหภูมิมักถึงติดลบ ตัวอาคารก็ไม่ได้ช่วยให้อุ่นขึ้น





         ในเรือนนอนมีเตียงไม้ 3 ชั้นตั้งอยู่เรียงชิดกัน นักโทษต้องนอนด้วยกันชั้นละหลายคน เรียกว่าอยู่กันอย่างแออัดมากใครที่อ่อนแอป่วยก็ตายไป ไกด์เล่าว่ามีนักโทษบางคนที่คลอดลูกในเรือนนอนนี้ใช้หมอนปิดหน้าลูกให้ตายเพื่อจะได้ไม่ต้องพบกับความทรมานหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือทดลองทางวิทยาศาสตร์ของทหารนาซี ทุกวันเวลาตีสามนักโทษต้องมาเข้าแถวเพื่อรอแจกงานในชุดบางๆ ที่เหมือนชุดนอนลายทางเท่านั้น เมื่อคิดว่าในฤดูหนาวอุณหภูมิติดลบรวมทั้งทุ่งโล่งลมคงพัดแรง นักโทษจะหนาวทรมานขนาดไหน นักโทษบางส่วนจะถูกนำไปทำงานที่โรงงานของนาซีภายนอกค่าย ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีโรงงานที่เปิดทำการอยู่แต่ไกด์ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเป็นโรงงานอะไร เป็นการทำงานแลกอาหารกินกันตายเท่านั้น



            อาคารต่อมาที่เราเข้าไปดูเป็นอาคารส้วม ภายในที่เป็นส้วมคือคอนกรีตที่ก่อเป็นแท่นสี่เหลี่ยม 3 แถว แต่ละแถวมีฝาคอนกรีตเจาะเป็นรูกลมๆ วางพาด ไกด์เล่าว่านักโทษจะได้นั่งบนส้วมคนละ 5 วินาที ถ้าเกินนั้นอาจถูกยิง มีนักโทษบางส่วนทำหน้าที่ตักของเสียไปร่อนเอาของมีค่าที่นักโทษชาวยิวอาจกลืนลงท้องไปก่อนถูกจับ นักโทษพวกนี้ทำงานสกปรกแต่ไม่ลำบากได้อาบน้ำเพื่อความสะอาด ผู้คุมไม่ค่อยเข้ามายุ่ง แต่ต่อมาทหารนาซีใช้วิธีเทของเสียไปรวมที่เดียวแล้วร่อนเองจะได้ไม่โดนเม้มโดยนักโทษด้วยกัน 



           ตู้รถไฟที่ใช้ “ขน” คนมาที่ค่ายกักกันแห่งนี้ คันที่นำมาแสดงให้ดูที่ค่าย Birkenau นี้เป็นคันจริงที่นำมาจากเยอรมันทาสีใหม่ จะเป็นตู้รถไฟที่ใช้ขนสัตว์นำมาใช้งาน ไม่มีช่องหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศใดๆ ผู้คนจำนวนมากจะเบียดเสียดยัดเยียดกันในตู้รถไฟ จนมาถึงมาสู่ค่ายนรกแห่งนี้ มีหลายคนที่ตายในระหว่างเดินทางเพราะขาดอากาศหายใจ ส่วนที่เหลือรอดชีวิตก็จะถูกส่งเข้าค่ายกักกันแห่งนี้



             ส่วนคนที่รอดชีวิตจะถูกนำมาที่ลานใคัดสรร คนที่มาถึงการแยกฝั่งชายหญิงและเด็ก คงเป็นที่สุดท้ายที่ครอบครัวได้เห็นหน้ากันหลายคนถึงแม้จะเหนื่อยล้าจากการถูก “ขน” มาจากบ้านเกิดเมืองนอน ยังมีสีหน้าแห่งความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าเพราะโดนหลอกว่าจะถูกมายังที่ๆ ดีกว่า แต่หารู้ไม่ว่า พวกเขาแทบจะไม่มีอนาคตเหลืออยู่เลย 

          ขั้นตอนในการคัดสรรของที่นี่เป็นเหมือนด่านแรกของทางเดินสู่ประตูนรก ไม่ว่าจะชี้ไปซ้ายหรือขวา มีแค่ทางเลือกที่ว่า จะตายช้าหรือตายเร็วเท่านั้น โดยผู้ทำการเลือกคือ หมอ Josef Mengele ผู้ได้รับสมยานามว่าเป็น  “Angel of Death” โดยจะคัดผู้หญิง เด็ก คนชรา และคนที่ดูแล้วว่าไม่สามารถใช้งานได้ออกไปอีกแถวเพื่อกำจัด (ฆ่า)  จากนั้นคนที่ไม่มีประโยชน์จะถูกพาไป “อาบน้ำ” ถอดเสื้อผ้า โกนผม และเรียงแถวเข้าห้อง “อาบน้ำ” ซึ่งมันก็คือการจัดฉากพาไปรมแก๊สนั่นเอง ส่วนคนที่เหลือ ก็ถูกพาเข้าค่าย


 
           ที่เล่ามาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ไม่ใช่เรื่องเล่าแต่เป็นข้อมูลที่ได้รับการบรรยายจากไกด์ท้องถิ่น และเอกสารอ้างอิงต่างๆ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เกิดขึ้นที่นี่ ชีวิตนักโทษในแต่ละวันเป็นอย่างไรบ้าง เรามาติดตามกันในบล็อกต่อๆ ไปครับ 




      
              บรรยากาศที่นี่ดูเงียบและวังเวง  ไม่มีเสียงหัวเราะ ผู้มาเยี่ยมชมทุกคนให้เกียรติสถานที่ ตั้งใจในการรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ และไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณของผู้ที่สูญเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1) บันทึกการเดินทางยุโรปตะวันออก 2562 ของหมอเอ๋ย (นาวาเอกหญิง กัญญรัตน์ อุปนิสากร)
2) 
https://pantip.com/topic/30763839


Create Date : 30 มีนาคม 2563
Last Update : 7 เมษายน 2563 15:26:00 น. 0 comments
Counter : 1651 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

camel_27
 
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




[Add camel_27's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com