ขอเป็นแดจังกึมที่ Kayageum

สถานที่เกิดเหตุ: Kayageum
ที่ตั้ง: ชั้น 2 โรงแรม Pathumwan Princess
หมายเลขติดต่อ: 02-216-3700 ต่อ 20230
ข้อมูลเพิ่มเติม: //www.pprincess.com/restaurant/kayageum.aspx
วันที่เกิดเหตุ: วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เวลา 11:30 น.
ส่วนลดค่าเสียหาย: มา 2 จ่าย 1




ขอแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนว่า Blog นี้ไม่ได้เป็นการ review ร้านอาหาร แต่เป็นเพียงการจดบันทึกข้อมูลเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ (Memory Diary Blog) ของบีบี้ที่มีต่อร้านอาหารที่เคยไปกินมา ข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดจึงเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของบีบี้ที่เกิดขึ้นในวันที่เกิดเหตุเท่านั้น




อารัมภบท
ด้วยความที่บีบี้อยากจะกินอาหารเกาหลี แต่ทุกครั้งที่ไปกินที่ร้านอาหารเกาหลีก็เกิดค่าเสียหายหลายร้อยบาทโดยที่สั่งหมูคาลบี้ไม่กี่ชุดเท่านั้นเอง เหมือนฟ้าจะดลบันดาลให้บีบี้ได้กินเมื่อบีบี้ได้รับใบแนบจากสลิปบัตรเครดิต ซึ่งมีโปรโมชั่นห้องอาหารเกาหลี Kayageum พอดี ว่าแล้วก็เลยโทรจองโต๊ะสำหรับสุดสัปดาห์นี้ซึ่งเว้นว่างจากการกินบุฟเฟต์ตั้งแต่วันจันทร์เลย




แม้วันนี้บีบี้ต้องมาทำงานตอนเช้า แต่ก็รีบออกจากที่ทำงานเพราะนัดคนที่บ้านไว้ (แบบว่ากลัวต้องให้รอ) ที่ทางเชื่อม BTS ชั้น 2 ฝั่ง Tokyu ซึ่งเราสามารถเดินผ่านมาบุญครองไปยังชั้น 2 ของโรงแรมได้เลย




ไปถึงก็เป็นกลุ่มแรกอีกเช่นเคย ระหว่างรอเตาย่างกับหม้อชาบู บีบี้ก็ขอถ่ายจาน ช้อนและตะเกียบเป็นการลองกล้องไปพลางๆ (ที่นี่สามารถให้เตาย่างได้ 2 เตาเนื่องจากคนที่บ้านมี 2 กลุ่มคือกลุ่มที่กินเนื้อวัวกับกลุ่มที่ไม่มีเนื้อวัว)





จากนั้นก็ขอเดินสำรวจอาหารในวันนี้หน่อย บีบี้ถ่ายมาแค่ซุ้มอาหารสำหรับชาบูกับซุ้มอาหารย่างเท่านั้น (ส่วนที่เป็นอาหารที่ทำเสร็จแล้วกับซุ้มของหวานไม่ได้ถ่ายมาให้ดู)





บีบี้เลยตักเครื่องเคียงและน้ำจิ้มมาประดับโต๊ะก่อนเลย มีกิมจิ 3 แบบ คือกิมจิผักกาดขาว กิมจิผักกาดเขียวและกิมจิหัวไชเท้า และผักดอง รวมถึงถั่วงอกดองและกระเทียมดองซอส ส่วนน้ำจิ้มก็มี 4 แบบ คือ น้ำจิ้มพริกเกาหลี น้ำจิ้มเต้าเจียว น้ำจิ้มซอสเกาหลีและน้ำจิ้มซีฟู้ด (อย่างหลังบีบี้ไม่ได้ตักมา)




เพิ่งสังเกตว่าที่โต๊ะมีบัตรหมายเลขโต๊ะซึ่งเมื่อถามคุณบริกรจึงทราบว่ามันเอาไว้ใช้สั่งข้าวยำเกาหลีและซีฟู้ดย่าง บีบี้เลยขอลองข้าวยำเกาหลีก่อนเลยซึ่งมีให้เลือกใส่เนื้อวัว เนื้อไก่และเนื้อหมู (บีบี้เลือกสั่งเนื้อวัวและเนื้อหมูรวม) เห็นแล้วก็น่ากินแต่รสชาติธรรมดา




จากนั้นก็เดินไปตักอาหารทะเลเพื่อนำไปให้คุณพ่อครัวย่างให้ ซึ่งมีกุ้ง ปู หอยนางรมและหอยแมลงภู่ (อาหารจานนี้กินแค่ครั้งเดียวเพราะกินลำบากมาก กลัวแกะกุ้งแกะปูแล้วจะเลอะเทอะ)




บีบี้ขอซูมกุ้งย่างแบบใกล้ๆ





และแล้วก็ถึงเวลาของอาหารย่าง โดยเริ่มต้นจากเนื้อก่อน โดยมีเนื้อวัวหมัก เนื้อหมูหมักและเนื้อไก่หมัก เนื้อแต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่ประมาณวางได้แค่ 2 ชิ้นต่อ 1 เตาเท่านั้นเอง ไม่เหมือนเนื้อในร้านหมูกระทะที่มีแต่เศษเนื้อ (บีบี้ชอบเนื้อวัวย่างมากที่สุดเพราะหมักได้นุ่มมาก ไม่มีกลิ่นคาว และตอนย่างก็ใช้เวลาได้เร็วเพราะบีบี้ย่างแบบ medium) ส่วนวิธีการกินแบบเกาหลี ก็คือนำเนื้อย่างวางบนใบผักกาด จากนั้นใส่ข้าวสวยนิดหน่อย (บีบี้เปลี่ยนเป็นใส่เครื่องเคียงแทน) ใส่กระเทียมฝานและราดน้ำจิ้มแล้วแต่ชอบ ห่อแล้วเอาเข้าปาก อืมมม อร่อยจัง




ส่วนอาหารทะเลก็มีปลาหมึกและหอยเชลล์ (บีบี้แอบเอากุ้งจากซุ้มชาบูมาย่างด้วย) โดยที่ซุ้มจะมีน้ำมันงาสำหรับราดคลุกกับเนื้อสัตว์เพิ่มสำหรับย่างด้วย - บีบี้ตักราดคลุกทุกอย่างเลย ทำให้เนื้อย่างหอมมากๆ




ส่วนอันนี้เป็นเนื้อหมูย่างที่ใส่ข้าวยำเกาหลี (แทนข้าวสวย) ซึ่งรสชาติก็อร่อยไปอีกแบบ





ต่อจากเนื้อย่างก็เป็นรายการของชาบู มีปลาแซลมอนและปลาเนื้อขาวอะไรซักอย่าง กุ้ง เนื้อหมู เนื้อวัว (เนื้อทั้งหมดไม่มีการหมักซอสเลย) และเกี๊ยวเกาหลี (บีบี้เอาหอยเชลล์ที่ซุ้มอาหารย่างมากินเป็นชาบูด้วย) ที่อร่อยที่สุดคือปลาแซลมอน เพราะบีบี้เลือกกินแค่ส่วนท้องปลาและลวกแบบแกว่งน้ำ เลยได้เนื้อปลาที่นุ่มและหอมมันมาก ส่วนเกี๊ยวเกาหลีไม่อร่อยเลย(ไส้เหมือนจะเป็นกิมจิสับรวมกับเนื้ออะไรซักอย่าง ซึ่งมันไม่เข้ากันเลย)





ส่วนเนื้อวัวและเนื้อหมูไม่ค่อยนุ่มเลยทั้งๆ ที่บีบี้ลวกแบบแกว่งน้ำ (ยังงัยบีบี้ก็ขอเลือกเนื้อวัวย่างซึ่งอร่อยกว่าอีก)




จากนั้นก็ขอลองอาหารที่ทำเสร็จแล้ว โดยเริ่มจากซุปกิมจิที่รสชาติเหมือนแกงส้มผักกาดขาวของบ้านเรา (แต่มีใส่หมูสามชั้นด้วย)




ซี่โครงหมูอบ อันนี้อร่อยมาก แต่กินไปแค่ชิ้นเดียวเองเพราะตอนไปตักขนมต๊อก คุณบริกรก็เก็บจานคาวพร้อมตะเกียบของบีบี้ไปซะแล้ว




เต้าหู้แซนวิช เหมือนเต้าหู้อ่อนชุบแป้งทอดแล้วราดซอสเต้าเจี้ยว




ซาบะย่าง ซึ่งเค็มมาก




ปลาราดซอส




หอยนางรมทอดไข่ คล้ายๆ หอยนางรมทอดแต่กินโดยไม่มีน้ำจิ้ม




กุ้งเปรียวหวาน




เทมปุระรวมเป็นเทมปุระกุ้ม มันและผัก




สลัดกุ้ง อันนี้ถูกจัดมาเป็นชุดๆ อยู่แล้ว เพียงแค่บีบี้โรยถั่วคั่วแล้วราดน้ำจิ้มพริกเกาหลีเท่านั้นเอง




ปลาคั่วถั่ว อร่อยดี รสชาติเค็มๆ หวานๆ




ผัดวุ้นเส้นเกาหลี (วุ้นเส้นจะมีขนาดใหญ่กว่าวุ้นเส้นไทย)




เจ้าหญิงนพเก้า (ห่อให้แล้วแต่ไม่ได้แกะดูก็เลยไม่รู้ว่าใส่อะไรบ้าง) รสชาติธรรมดามาก




สลัดไก่ย่าง




ก๋วยเตี๋ยวเย็นเกาหลี (แต่บีบี้ไม่ได้ใส่น้ำแข็งเพราะไม่ได้อยากกินแบบเย็นๆ และจะได้เห็นเครื่องตอนถ่ายรูปด้วย) เส้นเหมือนจะเป็นบะหม่ขาวแต่เป็นเส้นกลมและเล็กกว่า




ยำเนื้อดิบแบบเกาหลี เพิ่งจะกินเนื้อดิบก็คราวนี้เอง เนื้อนิ่มากๆ และไม่มีกลิ่นเหม็นเลย




ขนมต๊อก งาแก้วและถั่วแก้ว ขนมต๊อกอร่อยดี (อร่อยกว่าตอนที่ไปกินที่เกาหลีอีก - สงสัยดัดแปลงจนถูกปากคนไทย) แป้งข้างนอกเหนียวและไส้ข้างในเป็นถั่วบด รสชาติหวานนิดหน่อยและแอบอมเปรี๊ยวนิดๆ





เค้กแบบต่างๆ ซึ่งน่ากินและอร่อยทุกอย่างเลย โดยเฉพาะบราวนี่และทาร์ตลูกพีชซึ่งบีบี้กินไปตั้งอย่างละ 2 ชิ้น




ไอศครีมช็อคโกแลตและไอศครีมกะทิซึ่งไอศครีมกะทิหอมมัน อร่อยมาก (ของคุณพี่สาวเอาถั่วที่ใช้โรยสลัดกุ้งมาโรยด้วย บีบี้เลยแย่งกินมาได้ 2 คำ)




ส่วนน้ำแข็งใสซึ่งบีบี้เลือกใส่น้ำอบเชยเย็นแทนน้ำเชื่อม ทำให้รสไม่หวานเกินไปและมีกลิ่นหอมอบเชยด้วย




และน้ำพุทราเย็นถ้วยนี้ที่มีกลิ่นหอมมากๆ และมีรสหวานอ่อน บีบี้เลยกินพร้อมกับน้ำแข็งใสอีก 1 ถ้วย




ด้วยโปรโมชั่นของบัตรเครดิต Citibank (โปรโมชั่นมา 2 จ่าย 1 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 เท่านั้น) ทำให้เกิดค่าเสียหายทั้งหมด 1,990.20 บาท เฉลี่ยค่าเสียหายต่อคน คนละ 497.55 บาทจ้า (คุณบริกรไม่ได้ให้ใบเสร็จมาก็เลยไม่มีรูปให้ดู)


อาหารที่พลาด
1. ซุปสาหร่าย - อันนี้บีบี้ตั้งใจจะกินพร้อมกับซี่โครงหมูอบหลังจากกินขนมต๊อก แต่คุณบริกรดันเก็บอาวุธของบีบี้ไปเสียแล้ว
2. ยำสาหร่ายเกาหลี - เหตุผลเดียวกับซุปสาหร่าย
3. ซี่โครงเนื้ออบซอส - เนื่องจากบีบี้เห็นว่ามันเหมือนจะเหนียว ก็เลยไม่ได้ตักมากิน
4. เนื้อวัวอบซอส - คุณน้องสาวบอกว่าเนื้อเหนียวมาก บีบี้เลยไม่ตักมากินเช่นกัน
5. ผลไม้ - ด้วยเหตุผลเดิมไม่ขอกล่าวถึงอีก

รู้ไว้นะว่า ...
1. ในบรรดาอาหารย่าง เนื้อวัวหมักอร่อยที่สุดรองมาก็เป็นเนื้อไก่หมักซึ่งแล่ได้บางทำให้สุกได้เร็ว
2. และในบรรดาอาหารชาบู เนื้อปลาแซลมอนส่วนท้องอร่อยที่สุด รองมาก็เป็นเนื้อกุ้งซึ่งกรอบอร่อยดี
3. เนื่องจากจำกัดเวลาที่ 1 ชั่วโมง 30 นาที ทำให้รู้สึกว่าต้องรีบกิน (แต่ก็ทำให้บีบี้กินได้น้อยเพราะมัวแต่ถ่ายรูป)
4. สั่งน้ำเปล่าเพียงขวดเดียวก็พอ เพราะถ้าหิวน้ำ ให้ไปกินน้ำพุทราเย็นดีกว่า (ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มและอร่อยกว่าน้ำเปล่าด้วย)
5. ตอนกินเนื้อย่างแบบเกาหลี ลองเปลี่ยนจากกระเทียมฝานเป็นกระเทียมดองในเครื่องเคียงก็อร่อยเหมือนกัน
6. ใครที่คาดหวังจะกินข้าวยำเกาหลีแบบกรอบๆ ก็คงจะลืมไปเลย (คุณน้องสาวและคุณพี่สาวชอบแบบนี้) เพราะข้าวยำเกาหลีที่นี่เหมือนจะไม่ได้ใช้หม้อดินอบ เลยรู้สึกว่าไม่มีข้าวกรอบๆ
7. ที่นี่ถือว่ามีอาหารทะเลเยอะมากเพราะรายการอาหารที่บีบี้ไปกินที่ร้านอาหารเกาหลีไม่ค่อยมีรายการที่เป็นอาหารทะเลซักเท่าไร
8. ผิดหวังที่ไม่มีไก่ตุ๋นโสมกับพิซซ่าเกาหลีให้กินเลย
9. บีบี้ไม่ได้ใช้หม้อชาบูแต่ทำชาบูด้วยเตาย่าง (จะมีใส่น้ำซุปอยู่โดยรอบเตา) ซึ่งน้ำซุปจะมีรสชาติอร่อยกว่าเพราะน้ำหมักเนื้อจากการย่างไหลลงมาปนกับน้ำซุปด้วย



Smiley บีบี้ Smiley




Create Date : 23 สิงหาคม 2552
Last Update : 10 กันยายน 2552 1:55:39 น. 1 comments
Counter : 1423 Pageviews.

 
ไปทานมาเมื่อวันเสาร์เหมือนกันเลยค่ะ
เพิ่งรู้ว่า ทานได้ 1.30 ชั่วโมง
ต้องไปทานอีกรอบค่ะ เพราะมีบัตรเหลืออีก 2 ใบ
ถ่ายรูปได้หลากหลาย จัดวางภาพสวยจังเลยค่ะ

เสียดายไม่มีกั้งกระดานค่ะ


โดย: CoffeeBake วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:5:38:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bee4ever
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]









บีบี้รู้สึกว่าบีบี้ชอบทำอาหารเอามากๆ หลังจากที่บีบี้ทดลองอบขนมหลายๆ อย่าง หลังจากทำเสร็จก็จะมีขนมหลายแบบหลายรสชาติทั้งแบบที่แทบจะกินไม่ได้จนถึงกระทั่งแบบที่อร่อยจนหมดหลังจากอบเสร็จ แต่ขนมทุกอย่างก็ต้องผ่านการชิมจากบีบี้ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ น้ำหนักตัวและสัดส่วนของบีบี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป ทำให้บีบี้ต้องกลับไปเล่นโยคะร้อนอีกครั้ง ซึ่งภายใน 3 สัปดาห์นี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก บีบี้กำลังรอลุ้นว่าโยคะร้อนคราวนี้จะทำให้สิวขึ้นเขรอะอีกหรือเปล่า

Smiley บีบี้ Smiley



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add bee4ever's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.