มื้อแรกของวันยามหิวจัด ที่ Bug & Bee

สถานที่เกิดเหตุ: Bug & Bee
ที่ตั้ง: ชั้น 3 มาบุญครองเซ็นเตอร์ ใกล้ทางเชื่อม BTS สถานีสนามกีฬา
หมายเลขติดต่อ: 02-626-0123
ข้อมูลเพิ่มเติม: //www.bugandbee.com
วันที่เกิดเหตุ: วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เวลา 15:30 น.
ส่วนลดค่าเสียหาย: ราคา 229 บาท ++ ภายในเวลา 90 นาที




ขอแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนว่า Blog นี้ไม่ได้เป็นการ review ร้านอาหาร แต่เป็นเพียงการจดบันทึกข้อมูลเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ (Memory Diary Blog) ของบีบี้ที่มีต่อร้านอาหารที่เคยไปกินมา ข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดจึงเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของบีบี้ที่เกิดขึ้นในวันที่เกิดเหตุเท่านั้น




อารัมภบท
ในวันนี้บีบี้พาคุณหม่ามี้มาตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เลยถือโอกาสที่คุณหม่ามี้ไม่ได้กินข้าวเช้ามา (และบีบี้ก็กินมาไม่มากเพราะต้องรีบไปแต่เช้า) ก็เลยจัด All you can eat ที่บีบี้อยากไปกินให้ 1 มื้อ




บรรยากาศในร้านดูอบอุ่น (cozy) และคนน้อย ทำให้น่าที่จะได้นั่งนานๆ พอเดินเข้าไปบีบี้ก็แจ้งกับพนักงานว่าขอเป็นบุฟเฟต์ 2 ที่ ว่าแล้วก็เข้าไปที่นั่งโซฟาด้านในสุด ระหว่างรอคุณบริกร บีบี้ก็จัดการถ่ายรูปคุณหม่ามี้กับฉากด้านหลัง Bug & Bee ซะ




ว่าแล้วคุณบริกรก็นำเมนูมาให้พร้อมรอสั่งเครื่องดื่ม ระหว่าที่สั่งน้ำดื่ม บีบี้ก็ทำการเลือกรายการอาหารเอง เพราะไม่โลภมาก บีบี้เลยสั่งอาหารทุกรายการในเมนูมาชิม (ไม่โลภมากเพราะอาหารแต่ละจานมีขนาดเล็ก เหมาะกับบุฟเฟต์จริงๆ)




เดิมทีเดียวบีบี้ตั้งใจจะสั่ง ชาแอ๊ปเปิ้ลเย็น ให้คุณหม่ามี้เพราะคิดว่ามันไม่น่าจะหวานมาก แต่ท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นของบีบี้




ส่วน น้ำเสาวรสเย็น แก้วนี้ บีบี้ตั้งใจสั่งมาดื่มเอง แต่ด้วยความที่คุณหม่ามี้ชอบความเปรี้ยวและหวานของมัน (ส่วนบีบี้ว่ามันหวานไปหน่อย) แก้วนี้ก็เลยตกเป็นของคุณหม่ามี้ในที่สุด




และไม่น่าเชื่อว่าอาหารจะมาได้เร็ว (อาจจะเป็นเพราะในร้านไม่ค่อยมีคน) จานแรกคือ แฮมแอนด์ชีส ที่บีบี้อยากกินก็มาถึง รสชาติก็อร่อยสมกับที่หวังไว้ รสอ่อนๆ บวกกับกลิ่นหอมๆ ของชีส ทำให้อดใจไม่ไหว บีบี้เลยสั่งเพิ่มอีก 2




ยังไม่ทันจะถ่ายรูปจานแรกเสร็จ จานนี้ซึ่งก็คือ ปอเปี๊ยะเครปไก่ ก็ลงมาวางอยู่บนโต๊ะซะแล้ว จานนี้ก็อร่อยอีกเช่นกัน (หรือเป็นเพราะว่าบีบี้กำลังหิวหรือเปล่า) อร่อยตรงไส้ไก่ด้านในที่รสชาติเค็มและหวานกำลังพอดี บีบี้กับคุณหม่ามี้เลยเบิ้ลอีก 1 จาน (แบ่งกันกิน)




นอกจากจะถ่ายรูปไม่ทันแล้ว คุณบริกรก็พูดชื่ออาหารเร็วจนบีบี้ฟังไม่ทันว่าไอ้จานนี้มันชื่ออะไร ต้องขอตัวช่วยหยิบเมนูแล้วอ่านชื่อพร้อมวิเคราะห์ลักษณะของอาหารเลยทำให้รู้ว่ามันคือ เครปเคซาเดียสอดใส้พริกย่างเสิร์ฟพร้อมซัลซ่า ซึ่งพริกที่อยู่ด้านในทำให้รสชาติของเครปไม่เหมือนแป้งเครปเปล่าๆ รสชาติไม่เผ็ดเหมือนชื่อ แต่ซอสซัลซ่าเค็มและมันมาก (ในรูปยังเห็นน้ำมันไหลเยิ้มเลย) บีบี้และคุณหม่ามี้เลยกินเครปกับซอสซัลซ่าเพียงนิดหน่อย จานนี้ก็ขออีก 1 แต่ซอสซัลซ่าของจานหลังไม่มีใครกินเลย




และเป็นอาหารอีกจานที่บีบี้คาดหวังไว้สูง นั่นคือ ฉู่ฉี่ปลาดอรี่ แล้วก็เป็นดังที่คาดหวัง เนื้อปลาทอดแต่ยังคงความนุ่มอยู่บวกกับน้ำราดฉู่ฉี่ที่รสกลมกล่อมดี แต่!! ทำไมจัดให้มาแค่ชิ้นเดียวเองอะ ไม่สมดุลกับข้าวที่ให้มา ทำให้บีบี้ต้องแบ่งปลากับคุณหม่ามี้กันคนละครึ่งชิ้น แต่ด้วยความอยากบีบี้ก็เลยสั่งเพิ่มอีก 2




หลังจากนี้อาหารก็ทิ้งช่วงไปซักพัก ข้าวนึ่งซี่โครงหมูผัดเต้าซี่ ก็ถูกเสิร์ฟเป็นจานต่อมา ซี่โครงหมูผัดเต้าซี่อร่อยมากเมื่อกินพร้อมกับข้าว (แบบว่าแอบเค็ม แต่ข้าวก็เยอะอีกแล้ว) จานนี้เลยถูกเพิ่มอีก 1 ในภายหลัง




จานต่อมาก็คือ ลาซานญ่าผักโขมในซอสอิตาเลี่ยนโทเมโท สมควรกินขณะที่ยังร้อนๆ เพราะจะได้เห็นความยืด ... ของชีสข้างในแล้วก็จะหอมกลิ่นชีสด้วย แต่ซอสอิตาเลี่ยนโทเมโทที่ราดด้านบนออกจะเปรี้ยวนำไปหน่อย (เพราะซอสมะเขือเทศที่เราใช้ราดตอนกินผักโขมอบชีสจะออกเปรี้ยวและหวาน) และด้วยความติดใจในชีสที่ยืดยาว บีบี้เลยขออีก 1




พอหันไปมองอีกด้าน เส้นเครปซอสมะเขือเทศสไตล์ซานฟานซิสโกและสมุนไพรอิตาเลี่ยน เสิร์ฟพร้อมคาลามารี่ ก็ถูกวางลงบนโต๊ะ (ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนี่) บีบี้ชอบตรงที่ปลาหมึกชิ้นใหญ่ (ชิ้นเดียว) ด้านบน ที่เนื้อไม่เหนียว แต่ซอสมะเขือเทศสไตล์นี้ก็เปรี้ยวเหมือนซอสสไตล์ที่แล้วเลย (แต่มีกลิ่นหอมของสมุนไพรที่ใส่ปนอยู่ในซอส แต่แยกกลิ่นและรสไม่ออกว่าใส่อะไรบ้าง) เพราะบีบี้อยากกินปลาหมึกอีก ก็เลยจัดมาให้อีก 1 จาก




และจานข้างๆ ที่เสิร์ฟพร้อมกันคือ เส้นเครปผักโขมและเบคอน จานนี้ก็อร่อยอีกแล้ว ที่อร่อยก็ผักโขมนั่นแหละ จานนี้ถ้าไม่กินเส้นเครปก็จะเหมือนผักโขมอบชีสที่ไม่ใส่ซอสมะเขือเทศ ส่วนเส้นเครปที่กินคู่กันก็ช่วยให้อาหารจานนี้มีรสชาติไม่เค็มมาก ก็เลยขอเพิ่มอีก 1




และแล้ว สลัดผักเสิร์ฟพร้อมเฮาส์ แรนซ์เดรสซิ่ง ที่รอคอยก็ได้ถูกเสิร์ฟเสียที (เนื่องจากกินแป้งเครปจนเลี่ยน เลยอยากจะกินอาหารที่เป็นผักบ้าง) ตอนที่บริกรมาเสิร์ฟและพูดชื่อน้ำสลัด บีบี้ก็ฟังไม่ทันอีกแล้ว น้ำสลัดชื่ออะไรไม่รู้แต่รสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ ทำให้ตัดความเลี่ยนไปได้ (พอสั่งน้ำสลัดอีกแบบหนึ่งแล้วถึงรู้ชื่อของมัน)




ถ้าจะอร่อยแบบเครื่องเยอะ ก็ต้องยกให้กับจานนี้ ข้าวผัดฮ่องกง ซึ่งปริมาณกุ้งที่ใส่ 3 ตัว - เยอะมากเมื่อเทียบกับปริมาณข้าว - และเสิร์ฟขณะที่ยังร้อนแบบยังมีเห็นไอร้อนลอยขึ้นมา ทำให้กลิ่นเครื่องปรุงลอยขึ้นมาด้วย




นั่งกินอาหารไปเกินครึ่งรายการในเมนู ซุปประจำวันถึงเพิ่งจะถูกเสิร์ฟ วันนี้เป็นซุปผัก รสชาติหวานอ่อนๆ ของกะหล่ำปลีทำให้กินได้คล่องคอมาก ถือว่าซุปเป็นพระเอกของงานที่ช่วยกู้หน้าอาหารที่เค็มได้ดี ซึ่งคุณหม่ามี้ก็สั่งซุปไปตั้ง 4 ถ้วยแหนะ




ด้วยความผิดพลาดที่บีบี้สั่งอาหารมาเยอะจนถ่ายรูปเก็บไม่ทันทำให้ ส้มตำผลไม้รวม เป็นอาหารที่ถูกลืมถ่ายรูป (มาเห็นเอาตอนนั่งเขียน blog นี่แหละ) รสชาติเค็มนำและไม่มีรสเผ็ดเลย ความหวานได้จากผลไม้ทั้งนั้น โดยรวมก็อร่อยดีแต่เค็มไปหน่อย เมื่อเทียบกับอาหารจานนี้ที่จืดไปเลย ช้าวนึ่งไก่เห็ดหอม (ซึ่งเหมือนเดิม - ข้าวเยอะอีกแล้ว แต่ไก่มีแค่ชิ้นเดียว) เครื่องทุกอย่างจืดทั้งหมด แต่กินคู่กับส้มตำผลไม้รวมไม่ได้เพราะมันไม่เข้ากันเลย




เมื่อเทียบกับอาหารที่เป็นผลไม้ แกงเขียวหวานผลไม้รวม จานนี้อร่อยกว่า ด้วยความหวานของผลไม้กับความเค็มมันและเผ็ดนิดหน่อยของน้ำแกงเขียวหวาน บีบี้ชอบมาก (กว่า) แต่ก็ไม่ขอเพิ่มเพราะไม่ได้อยากจะกินข้าวอีก (ยังมีข้าวเหลือจากฉู่ฉี่ปลาดอรี่อีกตั้ง 2 จาน)




ตอนนี้บีบี้ สาละวนถ่ายรูปอาหารอยู่ คุณหม่ามี้ก็จัดการชิมอาหารจานนี้ ผัดขี้เมาเส้นเครปหมูบาบิคิว ซึ่งไม่ถูกปากคุณหม่ามี้เอาซะเลย (ไม่ได้ถามสาเหตุว่าทำไม่ถึงไม่ชอบ) แต่บีบี้ชอบตรงที่ใส่เครื่องขี้เมาได้ถึงใจทั้งใบกะเพราะ กระชายและพริกไทยอ่อนโดยแทบจะไม่มีรสเผ็ดเลย (แต่เค็มเล็กน้อย) ก็เลยสั่งกินเอง 1 จาน แต่เมื่อตอนกลับไปอ่านเมนูเห็นด้านท้ายเขียนว่า "หมูบาบิคิว" ก็เลยกลับไปควานหาดูว่า "มันอยู่ที่ไหน" ทำให้คิดว่ามันอาจจะเป็น "หมูบาบิคิวสับ" ก็ได้




ส่วนอาหารที่คุณหม่ามี้ขอ request อีก 1 จาน ก็คือ ผัดไทยเส้นเครปแซลม่อนนัตเกต ซึ่งโดยรวมก็อร่อยดี แต่เค็ม (อีกแล้ว) จานนี้มีข้อสงสัยอยู่สองเรื่องคือ 1. ทำไมคุณหม่ามี้ถึงสั่งอีก 1 จาน (ทั้งๆ ที่จานที่แล้วอร่อยกว่า) และ 2. (เหมือนกับจานที่แล้ว) คือไอ้ "แซลม่อนนัตเกต" มันอยู่ตรงไหนของจานเนี้ยะ แบบว่าหาไม่เจอ




และจานนี้ สุกี้แห้งผักสดเส้นเซียงไฮ้ ก็ทำให้บีบี้แปลกใจว่ามันอยู่ในเมนูด้วยหรือ (เพราะที่อ่านใน review มาไม่เคยเจออาหารจานนี้มาก่อน) แต่ไหนๆ ก็มาอยู่ที่โต๊ะแล้ว จะไม่กินก็ไม่สมควร รสชาติก็สุกี้แห้ง (เพราะมันคือสุกี้แห้ง) แต่หอมกลิ่นเต้าเจี้ยว (และนั่นหมายความว่าเค็มด้วย)




ด้วยความอยากรู้อยากชิม ว่าน้ำสลัดอีกแบบหนึ่งมีรสชาติเป็นแบบไหน (จริงๆ ได้สั่งไป 2 รอบพร้อมกับแบบแรก แต่ก็ไม่ยักมาถูกเสิร์ฟซักที) จึงได้สั่งตรงกับคุณบริกร แต่คุณบริกรชี้แจงว่า น้ำสลัดของ สลัดผักเสิร์ฟพร้อมควอทโท เบอร์รี่ เวเนเกรทต์ มีรสเปรี้ยวกว่าแบบแรกและไม่ใช่น้ำสลัดข้น คนเลยไม่ค่อยชอบกัน แต่ด้วยความที่บีบี้อยากชิมก็เลยขอมา 1 ถ้วย และก็จริงด้วย คือมันเปรี้ยวโดด คิดว่าเนื่องจากเบอร์รี่ในน้ำสลัดบวกกับน้ำส้มสายชู แต่บีบี้ก็กินคู่กับน้ำสลัดแบบแรกจนหมด




เช่นเดียวกันกับจานนี้ที่สั่งไปหลายรอบกว่าจะถูกเสิร์ฟ ปีกไก่ทอด ซึ่งมีเนื้อน้อยมาก เนื้อแทบจะติดกระดูก กินแล้วเหมือนไม่ได้ปริมาณไก่ (แต่คิดอีกแง่หนึ่งคือจะได้ไม่กินเนื้อสัตว์เยอะเกินไป - หรือเปล่า) ก็เลยขอบาย เป็นอาหารคาวจานสุดท้าย




ก่อนที่จะเริ่มสั่งของหวาน บีบี้ เลยขอเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็น น้ำชามะนาวเย็น ส่วนคุณหม่ามี้ก็ขอเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแทน เพื่อพร้อมกับของหวานจานถัดไป




ของหวานจานแรกก็ทำเอาผิดหวัง เค็กคาปูชิโน่ชีฟอน ที่มีเพียงอย่างเดียววันนี้ และเนื้อแป้งออกจะกระด้างไปหน่อย วันนี้เลยขอถอนตัวจากเค้กเพียงแค่นี้




ผิดกับของหวานจานนี้ที่มี เจลโล่ พาราดิโซ ที่เป็นเจลลี่ที่มีรสชาติอ่อนๆ ไม่หวานหรือเปรี้ยวเกินไป เป็นที่ถูกใจคุณหม่ามี้ ก็เลยสั่งให้อีก 1 ถ้วย ส่วนบีบี้ ก็ปิดท้ายด้วย ครีมมี่ คาราเมล ที่คล้ายคัสตาร์ดมากกว่า ซึ่งเนื้อคัสตาร์ดเหนียวๆ หยุ่นๆ กินคู่กับน้ำกาแฟที่คัสตาร์ดแช่อยู่ก็อร่อยมากจนบีบี้ขอเพิ่มอีก 1 ถ้วย




จริงๆ แล้วบีบี้อยากจะกินสลัดผีกอีกจาน แต่ด้วยเวลาที่ใกล้จะครบ 90 นาที บีบี้เลยตัดสินใจคิดเงินเลย โดยค่าเสียหายทั้งหมด 491 บาท เฉลี่ยค่าเสียหายต่อคน คนละ 245.5 บาท โดยไม่มีโปรโมชั่นใดๆ นั่งนับจานอาหาร ที่กินไปทั้งหมด 31 จาน (ไม่รวมซุป) ถือว่ากินเยอะหรือเปล่านี่




อาหารที่พลาด
จริงๆ แล้ววันนี้กินอาหารครบทุกอย่างที่มีอยู่ในเมนู แต่บีบี้คิดว่าบีบี้ควรจะได้กินเค้กมากกว่านี้ เช่น เค้กชาเขียวชีฟอน หรือ เค้กช็อกโกแลตชีฟอน แต่วันนี้กลับมีแต่เค้กคาปูชิโน่ชีฟอนอย่างเดียว (แล้วยังไม่อร่อยอีก) รู้สึกผิดหวังอย่างแรง


รู้ไว้นะว่า ...
1. อาหารที่นี่มีลักษณะเหมือนอาหารแบบฟิวชั่น (fusion food) ที่ส่วนใหญ่แล้วอาหารจะทำมาจากเส้นเครป ดังนั้นถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งถ้าอยากจะมากินอาหารแปลกๆ
2. อาหารบางอย่างมีการเปลี่ยนแปลงจากเมนูเดิมเช่น ฉู่ฉี่ปลาดอรี่ที่เปลี่ยนจากเส้นเครปเป็นข้าวนึ่ง หรืออาหารบางอย่างก็ถูกเพิ่มจากเมนูเดิม เช่น สุกี้แห้งผักสดเส้นเซียงไฮ้
3. เนื่องจากอาหารที่นี่เสิร์ฟโดยที่เราไม่ได้ตักเอง ดังนั้นสัดส่วนของอาหารกับข้าวหรือเส้นเครปที่ถูกเสิร์ฟอาจจะไม่เหมาะสอหรือพอดีกับที่เราอยากจะกิน
4. อาหารส่วนใหญ่เป็นแป้ง ไขมัน และมีเนื้อสัตว์เพียงเล็กน้อย ประกอบกับมีอาหารบางจานที่มีข้าวกว่ากับข้าวทำให้เหลือข้าวพอสมควร (แต่คุณหม่ามี้และบีบี้กินข้าวที่เหลือกับอาหารบางจานที่มีรสเค็ม ข้าวที่เหลือก็เลยหมด และทุกคนก็อิ่มข้าวกันถ้วนหน้า) ดังนั้นคนที่กินบุฟเฟต์แบบเน้นเนื้อสัตว์อาจจะต้องผิดหวัง
5. ถ้าสั่งอาหารที่มากๆ จะรอนานหน่อย แต่มาที่ก็มาหลายจานจนอาจจะไม่มีที่พอวางและบางอาหารบางจานที่สั่งอาจถูกลืมไปได้
6. สำหรับคนที่ชอบกินรสเผ็ดอาจจะผิดหวังเนื่องจากไม่มีอาหารจานไหนที่มีรสเผ็ดเลย



Smiley บีบี้ Smiley




Create Date : 15 สิงหาคม 2552
Last Update : 14 กันยายน 2552 23:07:10 น. 1 comments
Counter : 834 Pageviews.

 
น่าทานดีค่ะ เราไม่เคยทานของคาวที่ใช้เครปมาทำเลย


โดย: อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:16:20:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bee4ever
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]









บีบี้รู้สึกว่าบีบี้ชอบทำอาหารเอามากๆ หลังจากที่บีบี้ทดลองอบขนมหลายๆ อย่าง หลังจากทำเสร็จก็จะมีขนมหลายแบบหลายรสชาติทั้งแบบที่แทบจะกินไม่ได้จนถึงกระทั่งแบบที่อร่อยจนหมดหลังจากอบเสร็จ แต่ขนมทุกอย่างก็ต้องผ่านการชิมจากบีบี้ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ น้ำหนักตัวและสัดส่วนของบีบี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป ทำให้บีบี้ต้องกลับไปเล่นโยคะร้อนอีกครั้ง ซึ่งภายใน 3 สัปดาห์นี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก บีบี้กำลังรอลุ้นว่าโยคะร้อนคราวนี้จะทำให้สิวขึ้นเขรอะอีกหรือเปล่า

Smiley บีบี้ Smiley



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add bee4ever's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.